อยู่บ้านว่างๆ เหงาๆ นอกจากช่วงนี้จะผันตัวไปเป็นเชฟ วุ่นวายกับการจัดแจงอาหารต่างๆ นานาแล้ว ก็ช้อปปิ้งหนักมากกกก!! มีของมาส่งทุกวัน วันละกล่องสองกล่อง เลยหาอะไรมาหยุดความฟุ้งซ่าน หยิบของในบ้านมารีวิวซะเลยจ้าา

จริงๆ เราเป็นคนที่ชอบน้ำหอมมากกกกก อะไรที่มีกลิ่นหอม พวก Diffuser ต้องมีติดบ้านตลอด เพราะรู้สึกว่ามันทำให้รู้สึกผ่อนคลายดี  ก็เลยพอจะมีน้ำหอมติดบ้านไว้บ้าง แต่ตอนนี้! ฉีดอยู่บ้านกันไปก่อนจ้ะแม่~ 

แต่ต้องบอกว่าเอ้ออออ เรื่องความรู้ top note / base note อะไรนี่เกือบเท่ากับศูนย์นะจ๊ะ55555 แค่ขอไปยืมเขามาแปะเท่านั้น เน้นรีวิวตามความรู้สึกแต่ละวันที่เราหยิบใช้แล้วกันค่า :)

Marc Jacobs - DAISY DAZE

เริ่มกันที่ตัวแรก ตัวนี้เป็น LIMITED EDITION ของคอลเลคชั่นล่าสุด เป็น EDT ที่เราเพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ (มีคนให้เค้ามาแหละ อิอิ) แต่ด้วยสถานการณ์ช่วงนี้จึงฉีดอยู่บ้าน และออกไปเซเว่นแค่อย่างเดียว แง 

ต้องบอกว่าพ่ายแพ้ให้กับแพ็คเกจมากกกก น้องน่ารักมากขวดจะเป็นสีส้มใสๆ พร้อมกับดอกไม้ 3 ดอกประดับอยู่บนฝาคิ้วท์ๆ ยืนหนึ่งเรื่องแพ็คเกจมาก วางไว้บนโต๊ะเฉยๆ ก็รู้สึกเป็นคนสวยแล้ว อิอิ

Top notes : Mandarin
Middle notes : Mirabelle
Base notes : Creamy Musks

หลังจากได้กลิ่นนี้ ความรู้สึกส่วนตัว เรารู้สึกว่ามันเป็นกลิ่นหอมหวาน สดชื่น สไตล์ฟลอรัลฟรุตตี้ คือมันไม่ได้กลิ่นที่หวานจี๊ดดด แต่เป็นหวานนุ่มๆ ละมุนดูสนุกสนาน ร่าเริง 

ดูเป็นผู้หญิงใส่กระโปรงบานสีส้ม ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว นั่งอ่านหนังสืออยู่กลางสวนดอกไม้ชิลๆ แต่ไม่ได้เป็นผู้หญิงหวานแหววซะทีเดียว ออกจะไปทางผู้หญิงแก่นแก้วเลยด้วยซ้ำ ลุคคุณหนูหนีเที่ยว

ดังนั้นเราว่ามันเข้าได้กับคนหลายสไตล์มากๆ คนที่ชอบกลิ่นหวาน กับแนวกลิ่นสดชื่นน่าจะชอบบ ฉีดได้ทุกวันเลยจ้ากลิ่นนี้ หยิบมาฉีดบ่อยแน่นอนแม่!

Narciso Rodriguez for her 

อีกหนึ่งกลิ่นโปรด แต่ไม่ค่อยได้ฉีดบ่อยสักเท่าไหร่ เป็น EDP ที่กลิ่นหนักๆ แน่นๆ แต่ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ดี 

แพ็คเกจน้อง ขวดหนักมากกก (หรือเพราะมัน 100 มล. ด้วย) สีขวดก็่น่ารักดี แต่ข้อเสียมันแพ็คเกจทึบทำให้ไม่รู้ว่าตอนนี้ฉีดไปเหลือแค่ไหนแล้ว! แล้วชั้นจะเตรียมตัวยังไงดีถ้าเธอหมดแบบไม่ทันได้รู้ตัว!

Top notes : Rose, Peach, Musk

Middle notes : Orange Blossom, Osmanthus

Base notes : Vetiver, Amber, Vanilla

ตอนแรกที่ได้กลิ่นนี้รู้สึกว่ากลิ่นโตมากกก ดูเป็นกลิ่นที่มีอายุ และดูสับสนงงงวย เป็นกลิ่นที่ไม่ชัดเจน 

แต่พอฉีดแล้วทิ้งไว้สักพัก Base notes ของนางทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นกลิ่นที่ทำให้มีเอกลักษณ์ ดูเป็นผู้หญิงที่ลึกลับ น่าค้นหา เป็นผู้หญิงใส่ชุดสูท กับรองเท้าส้นสูงไปทำงาน แต่ถ้าในวันปาร์ตี้จะใส่เดรสสีดำ ปาดลิปแมตต์สีแดงกล่ำๆ เดินออกจากงานก่อนปาร์ตี้จบ! อะไรแบบนี้ 

กลิ่นนี้ส่วนใหญ่จากที่เราเห็นรีวิว คนจะบอกว่ากลิ่นไปทางเซ็กซี่ๆ เย้ายวน อาจจะเพราะมีกลิ่นของมัสก์ด้วย  เราเห็นด้วยว่ากลิ่นมันเซ็กซี่จริง เพราะอย่างที่บอกกลิ่นมันค่อนข้างดูโต ถ้าคนชอบก็คือชอบเลย แต่ถ้าไม่ชอบก็คือกลั้นหายใจเดินหนีเลยจ้า

แต่นี่แหละทำให้ส่วนตัวเราไม่ค่อยได้หยิบมาใช้สักเท่าไหร่ สำหรับในช่วงกลางวัน เพราะรู้สึกว่ากลิ่นจะหนักตึ๊บเกินไป เลยชอบใช้ฉีดตอนกลางคืน แต่ตอนนี้หันมาฉีดเบาๆ (แค่เบาๆ เพราะแพงจ้า) ตอนก่อนนอน มันเป็นกลิ่นที่ส่วนตัวคิดว่า ถ้าคนอื่นฉีดเราคงจะอยากนอนซุก555555  รักมากกก~

Davidoff - Cool Water Woman

กลิ่นนี้หลายคนน่าจะเห็นบ่อยอยู่แล้วคงไม่ต้องพูดอะไรมากก น้องเป็น EDT ที่คนน่าจะใช้เยอะทีเดียว อาจจะเพราะกลิ่นมันใช้ง่าย ฉีดได้บ่อยๆ 

Top notes : Pineapple, Quince, Blackcurrant, Lily, Melon, Lemon, Lotus, Calone

Middle notes : Honey, Hawthorn, Jasmine, Water Lily, Lily-of-the-Valley, Lotus, Rose

Base notes : Blackberry, Violet Root, Sandalwood, Musk, Raspberry, Vanilla, Peach, Vetiver

จากความรู้สึกเรา มันเป็นกลิ่นแนวสดชื่นๆ สะอาด ไม่ฉุน ดูเป็นผู้หญิงใสๆ สบายๆ ดูเป็นกลิ่นออกแนวทะเล ผ่อนคลายตามที่แบรนด์บอก มักจะเป็นกลิ่นที่เราหยิบในทุกวัน แบบไม่ได้มีอะไรไปพิเศษ ฉีดได้ไม่คิดมาก เพราะใช้ได้ทุกวันจริงๆ

 ข้อเสียเราแอบคิดว่ามันไม่ค่อยติดทนสักเท่าไหร่ เพราะจริงๆ แล้วขวดนี้หยิบมาใช้ได้ไม่นานมาก แต่มันลดลงเร็วมากแม่! และข้อเสียอีกข้อในความที่มันเป็นกลิ่นที่ใครๆ ก็ฉีดได้ง่ายๆ ก็อาจจะเป็นกลิ่นที่คนใช้เยอะเกินไปปป ใครอยากกลิ่นที่ยูนีคหน่อย กลิ่นนี้คือหนีไปได้เลยจ้ะแม่

แต่ถ้าใครอยากได้น้ำหอมที่ฉีดได้ทุกวัน แบบง่ายๆ ในวันสบายๆ ก็คงจะแนะนำกลิ่นนี้แหละ แต่ถ้าถามตัวเองว่าหมดแล้วซื้อต่อมั้ย ก็อาจจะคิดนิดนึงนะ เพราะรู้สึกว่ากลิ่นมันไม่ได้มีอะไรพิเศษ

Gucci Flora - Gorgeous Gardenia

ใช้กลิ่นนี้มายาวนานมากกก ตั้งแต่สมัยเรียน สังเกตได้จากที่ใกล้จะหมดขวดแล้วจริงๆ! เป็นน้ำหอมขวดแรกๆ ที่ใช้เลย ส่วนแพ็คเกจเลิฟมาก คือดูมีความหรูหราเป็นแบบหกเหลี่ยม วางบนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วดูแพงสุดอะไรสุด

Top notes : Pear, Red Berries

Middle notes : Gardenia, Frangipani

Base notes : Patchouli

กลิ่นนี้ตอนดมครั้งแรกรู้สึกว่าหวานม๊ากก ดูเป็นผู้หญิ๊งผู้หญิง ซึ่งเราเองจะไม่ชอบอะไรที่ดูเป็นผู้หญิงไป เพราะกลิ่นเขามันจะเป็นสไตล์ฟลอรัลเลย 

แต่พอใช้ไปสักพักกลับชอบมาก (อีกแล้ว) เพราะมันเป็นกลิ่นที่หอมหวานแบบละมุนๆ  นุ่มๆ ดูเป็นผู้หญิงที่โต และฉลาด (เอ้ออ55555)  เป็นผู้ดีมาก ฉีดแล้วเหมือนกับเป็นผู้หญิงที่มีคนขับรถมาเปิดประตูให้อะไรแบบนี้ ส่วนตัวเราคิดว่ามันใช้ได้ทุกวันเลย กลิ่นติดทนดี ถ้าหมดขวดนี้ก็จะซื้ออีกแน่นอน! แนะนำใครชอบสายหวานๆ น่าจะชอบกลิ่นนี้ แต่ฉีดน้อยๆ ไม่งั้นกลายเป็นหวานเลี่ยนแน่จ้ะ

Estee Lauder - Modern Muse

ตัวนี้ใช้มาสักพักแล้ว น่าจะเป็นน้ำหอมตัวดังของเอสเต้เหมือนกัน เขาเป็น EDP อีกตัวที่เราหยิบมาใช้บ่อย แพ็คเกจน่ารักกก เป็นรูปทรงที่เราคิดเองว่าคล้ายๆ โบว์ สามารถหยิบมาฉีดได้เลยไม่ต้องใช้ฝาเปิดปิดนะจ๊ะ

Top Notes : Mandarin, Dewy petals

Middle Notes : Tuberose, Lily, Honeysuckle nectar, Jasmine sambac, Chinese jasmine sambac absolute

Base notes : Patchouli, Madagascan vanilla, Amber wood, Musk

เป็นกลิ่นหอมที่เรารู้สึกว่าเป็นกลิ่นทางการ ดูโต ฉีดแล้วดูเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจ ทันสมัยหน่อยๆ  กลิ่นฟลอรัลชัดเจนนนน ถ้าดูไม่ผิดคือเป็นกลิ่นคล้ายๆ ดอกมะลิ ใช่มั้ยน๊ะ? 

เราคิดว่าเหมาะกับวันที่ใช้ฉีดไปทำงานที่เป็นทางการหน่อยก็เหมาะ  หรือในวันทำงานทั่วไปที่อยากสร้างลุคจริงจังให้ตัวเองตัวนี้ก็เหมาะ เพิ่งเห็นว่า Base notes ตัวนี้มีกลิ่นมัสก์เหมือนกัน ตอนนี้คิดว่าตัวเองน่าจะชอบกลิ่นโทนนี้แล้วแหละ5555

จริงๆ มีน้ำหอมอีก2 กลิ่นที่เราใช้ประจำคือโคลเอ้โบว์ครีม กับ Chanel pink chance ที่เลิฟมากกก แต่น้องหมดไปแล้วยังไม่ได้ฤกษ์สอยมาใหม่ เป็นสองกลิ่นที่ใช้ได้ทุกวัน จนเคยกลายเป็นกลิ่นที่เพื่อนบอกกลิ่นประจำตัวเราไปเลย55555

ของเพื่อนๆ แต่ละคนมีน้ำหอมกลิ่นโปรดอะไรกันบ้างจ๊ะ มาแชร์กันหน่อยยยจ้าา :)