ใส่หน้ากากอนามัยทุกวันจนสิวขึ้น ใช้อะไรดี?

         สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ ใครใส่ Mask ทุกวัน จนสิวขึ้นเต็มไปหมด มากองรวมกันตรงนี้ค่ะ เศร้าใจสุดๆ T T เพราะโมก็คือ 1 ในนั้นค่ะ ปกติโมเป็นสิวอยู่แล้ว แต่ก็ไม่หนักหน่วงเท่าช่วงนี้  พอต้องมาใส่ Mask ทุกวัน ทั้งวัน ร้อน หน้ามันอากาศไม่ถ่ายเท เหงื่อหมักหนม สิวยิ่งบุกหนักกว่าเดิมไปอีก ก็เลยต้องเริ่มกลับมาใช้สกินแคร์เพื่อรักษาสิวแบบจริงจังอีกครั้ง จนตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ เลยอยากเอามาแชร์ต่อให้ทุกคนได้รู้กัน จะมีตัวไหนบ้างไปดูกันเลย

ให้ดูก่อนค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น T T

สภาพผิวของโม : ผิวมัน เป็นสิว รูขุมขนกว้าง

เริ่มที่ขั้นตอนของการเช็ดทำความสะอาดหน้าเลยค่ะ คลีนซิ่งที่โมใช้มีตัวเดียวเลยในช่วงนี้ คือ

BIODERMA สูตรสีแดง Sensibio H2O

เนื่องจากโมยังต้องแต่งหน้าทุกวัน การเช็ดเครื่องสำอางก็เลยยังเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ นะคะ ตัวนี้จริงๆ ก็น่าเป็นตัวโปรดและเป็นเหมือนคลีนซิ่งสามัญประจำบ้านที่ใครๆ ก็ต้องมี อ่อนโยนมาก แต่ก็ยังเช็ดทำความสะอาดได้หมดจด ไม่แสบผิว ไม่แสบตา เอาเมคอัพกันน้ำออกได้ดี ไม่มีอะไรจะติ นอกจากราคาที่แอบสูงไปนิด แต่ซื้อขวดใหญ่แบบนี้คุ้มมาก 850 ml. ราคาพันนิดๆ ค่ะ

สำหรับการล้างหน้า โมมี 2 ตัวที่ใช้สลับกันไปมา

ในวันที่สิวบุกหนักมากจริงๆ หรือรู้สึกว่าอยากฆ่าเชื้อสิวจริงๆ โมใช้ของ  

AVENE รุ่น CLEANANCE CLEANSING GEL​​​​

ตัวนี้คนเป็นสิวต้องเลิฟมากๆ ช่วยเรื่องสิวได้ดีเลยค่ะ แต่ว่ามีแอลกอฮอล์นะคะ โมก็เลยไม่ค่อยใช้ติดต่อกันนานๆ หาตัวอื่นมาสลับบ้าง จะใช้ตัวนี้ช่วงที่สิวบุกหนักจริงๆ เท่านั้น เนื้อเป็นแบบเจล ฟองไม่เยอะมาก ล้างแล้วหน้าไม่ตึงค่ะ หน้ายังนุ่มๆอยู่ค่ะ

ส่วนวันไหนกดสิวมา หรือวันที่ต้องการความอ่อนโยนโมใช้ของ 

Curel ตัว Foaming Wash ค่ะ

เป็นแบรนด์ที่เน้นมาสำหรับคนผิวบอบบางแพ้ง่ายง่าย โมเลยเอาไว้ใช้ในวันที่หน้าเราอ่อนแอมาก คันยุบยิบ หรือกดสิวมาก็เหมาะมากๆ ปกติโมไม่ใช้พวกโฟมล้างหน้าที่เป็นฟองโฟมหนาๆ นุ่มๆ แบบนี้เลย เพราะล้างแล้วหน้าตึง คันหน้ามาก แต่ตัวนี้แปลกมาก ล้างแล้วหน้านิ่ม ชุ่มชื้นสุดๆ แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องสิวเลยนะคะ เน้นแค่ความอ่อนโยนเป็นหลักค่ะ

สำหรับโทนเนอร์ใช้เป็นของ AVENE เหมือนกันค่ะ รุ่น Cleanance MAT

ตัวนี้ก็ปราบสิวได้ดีมากๆ แต่ก็เช่นกันค่ะ มีแอลกอฮอล์นะคะ  ใช้ในระยะยาวน่าจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เหมาะกับช่วงสิวบุกหนักๆแค่นั้น แต่ก็ไม่แสบผิวนะคะ วันที่กดสิวมาก็ยังใช้ได้อยู่ ช่วยให้แผลสิวแห้งเร็วขึ้นด้วย

ถึงชื่อสูตรจะบอกว่าเป็นไวท์เทนนิ่ง แต่ตัวนี้ช่วยเรื่องสิวได้ดีเฉยเลยค่ะ น่าจะเป็นเพราะมีส่วนผสมบางตัวที่ดีกับผิวเป็นสิวอย่างพวก Niacinamide ที่ช่วยต้านการอักเสบและลดเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้ดี แล้วก็ช่วยปรับสมดุลการสร้างน้ำมันในผิวด้วย หลังๆมานี้ถ้าตัวไหนมีส่วนผสมนี้อยู่ โมจะรับพิจารณาเป็นพิเศษเลยค่ะ

มาถึงเซรั่มกันบ้างค่ะ ช่วงนี้เหลือแค่ 3 ตัวที่ยังใช้อยู่

ตัวนี้ไม่ได้ช่วยเรื่องสิวโดยตรง แต่ช่วยให้ผิวลดการอุดตัน เพราะเขาเป็น พวก AHA และ BHA ส่วนตัวใช้แค่กลางคืนเท่านั้นค่ะ และไม่ได้ใช้ทุกคืนด้วย โมแอบร็สึกว่ามันเข้มข้นมาก พอใช้ติดต่อกันแล้วผิวลอก แต่พอใช้แบบเว้นๆดีกว่า ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าๆได้ดีเลย ทำให้ลดการอุดตันของผิวไป แต่ถ้าใครจะใช้ตัวเดียวเพื่อรักษาสิวอาจไม่ตอบโจทย์ขนาดนั้นนะคะ

ตัวนี้ขอพูดถึงเยอะหน่อย เพราะตัวนี้ใจอ่อนซื้อตามรีวิวมาค่ะ คือปกติโมจะไม่ค่อยซื้อของตามรีวิวเท่าไหร่ เป็นแนวแบบศึกษาเองแล้วซื้อเองมากกว่า ก็ขอพูดถึงสัมผัสแรกตอนได้ใช้ก่อน โมว่ากลิ่นแปลกๆ ให้อารมณ์เหมือนเหล้า หรือไวน์อะไรแบบนั้น แต่ใช้ไปใช้มา ชอบเฉย กลายเป็นก่อนใช้ต้องเอามาดม 5555 คิดว่าน่าจะเป็นกลิ่นจากพวกสาหร่ายต่างๆ เพราะเขามีส่วนผสมหลักที่เป็นสาหร่ายทะเลต่างๆแล้วอีกอย่างที่สังเกตเห็นได้ชัดมากๆ คือเขามีเม็ดสีเหลืองๆ ผสมอยู่ในเนื้อเซรั่มเต็มไปหมด ซึ่งจากรีวิวที่ดูๆ มา ตัวนี้เป็นเม็ดวิตามิน E ที่เขาใส่เข้ามาด้วย ซึ่งสูตรสีเขียวที่โมใช้เป็นวิตามิน B9 ค่ะ สำหรับตัวนี้โมว่าดีเลย ไม่ผิดหวังที่ซื้อตาม สำหรับเรื่องสิวอุดตันนะ แต่เรื่องรูขุมขน โมยังไม่คอนเฟิร์มนะคะ แต่ผิวหน้าก็ดูเนียนๆ ขึ้นอยู่ เพราะโมใช้มาหลายแบรนด์ รู้สึกว่ารูขุมขนเป็นอะไรที่ยากมากถ้าจะหวังผลจากเซรั่ม ก็เลยอยากแนะนำสำหรับใช้รักษาสิวมากกว่า สิวอุดตันลดลงแบบเห็นชัดมากๆ สำหรับตัวนี้ แบบจับหน้าแล้วผิวไม่หยาบกร้าน ไม่มีก้อนๆ ปุ่มสิว ช่วยดันสิวอุดตันออกมา เป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ เลย แล้วอีกอย่างที่โมคิดว่าคงใช้ต่อไปได้ยาวๆ เพราะเขาไม่มีพวกสารที่อันตรายกับผิว อย่างพาราเบน น้ำหอม แอลกอฮอล์ แล้วก็ไม่มีน้ำมันค่ะ 

ตัวนี้เป็น Retinoid 3% ค่ะ อย่าเพิ่งตกใจว่าใช้ 3% เลยหรอ จริงๆมันเหมือนคำที่ทำให้ดูน่าใช้เท่านั้นเองค่ะ เขาเอาเรตินอล 2 รูปแบบมาผสมกัน คือ Pure Retinoid 0.5% และ Retinoid in capsule system อีก 2.5% ค่ะ แต่ก็ไม่ต้องไปสนใจมาก มันคือเซรั่มวิตามินเอนั่นแหละ ซึ่งตัวนี้ใช้ได้แค่ตอนกลางคืนเท่านั้นนะคะ ห้ามใช้กลางวันเลย ใช้แล้วต้องทากันแดดให้ดีเลยด้วย ตัวนี้สำหรับโมใช้เพื่อช่วยลดรอยค่ะ เพราะแกะสิวเก่งมาก แชมป์แกะสิวเลยก็ว่าได้ 555

ตัวนี้โมเคยทำรีวิวรีวิวแยกไว้ในจีบันแล้วด้วยนะคะ เป็นมาส์กแบบทาแล้วนอน ไม่ต้องล้างออก ช่วยเรื่องสิวได้ดี โดยเฉพาะสิวที่อุดตันอยู่ใต้ผิว ตัวนี้จะช่วยให้หัวสิวสุกขึ้นมา และสะกิดออกได้ง่ายขึ้น เป็นสารสกัดจากใบบัวบก neems และที่ชอบมากคือมีTree Tea Oil ด้วย

ตัวนี้ไม่ได้ช่วยรักษาสิวโดยตรง แต่ช่วยเรื่องเอาสิ่งสกปรกและความอุดตันต่างๆออกจากรูขุมขน ซึ่งมันดีมาก หลังใช้จะรู้สึกว่าหน้าสะอาดสุดๆและรูขุมขนเล็กลงทันที แต่ๆๆ มันไม่ได้เล็กลงแบบถาวรนะคะ ผ่านไปสัก 2 วันก็กลับมาเป็นปกติ แต่เรื่องควาวมรู้สึกหน้าสะอาดนี่ยกให้เลย

และนี่คือผลลัพธ์ของการใช้สกินแคร์ทั้งหมด ติดต่อกันมา 3 สัปดาห์ค่ะ

ผลลัพธ์ : ตอนนี้สิวทั้งหมดดีขึ้นค่ะ ทั้งอักเสบ และอุดตัน เวลาเอามือลูบไปแทบไม่เหลือความนูนของผิวแล้ว แต่เรื่องรอยสิว เป็นอะไรที่ต้องมาจัดการกันต่ออีกเยอะค่ะ 3สัปดาห์ที่ผ่านมา โมยังไม่ได้รักษาเรื่องรอยแบบจริงจัง คืออยากให้สิวมันดีขึ้นก่อน แล้วค่อยๆรักษาไปตามลำดับ ส่วนเรื่องของการใส่หน้ากากอนามัย โมก็ยังต้องใส่ทุกวันเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากแบบผ้ามาใส่แบบหน้ากากอนามัยสีฟ้าแทน ส่วนตัวคิดว่าระบายอากาศได้ดีกว่า ไม่หนาเท่าผ้า และไม่มีเส้นใยจากผ้าที่อาจทำให้แพ้ได้ แต่ก็ต้องยอมจ่ายราคาที่สูงขึ้น และซักไม่ได้ ใส่ครั้งเดียวทิ้ง แต่หลังจากที่ลองเปลี่ยนหน้ากากบวกกับใช้สกินแคร์ทั้งหมดนี้ สิวก็ดีขึ้นเยอะมากๆ เลยค่ะ

            ยังไงก็หวังว่าการรีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ ได้นะคะ อยากรู้ข้อมูลตัวไหนเพิ่มเติม คอมเม้นสอบถามกันไว้ได้เลย หรือใครมีไอเท็มอะไรเด็ดๆอยากแนะนำ มาป้ายยากันได้เลยค่า สำหรับกระทู้นี้ก็ประมาณนี้ค่ะ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบน้า สวัสดีค่า