สวัสดีค่ะทุกคน

ช่วงนี้มาบ่อยหน่อยนะคะ เพราะเดือนที่แล้วหญิงโชคดีได้เป็นหนึ่งใน top50 เป็นครั้งแรกในชีวิตเลย เย้ๆ 

ในเดือนนี้ซึ่งยังมีเวลาว่างจากพิษ COVID-19 หญิงจึงอยากได้ลำดับที่ดีขึ้น ใครเบื่อก็บอกกันได้นะคะ แต่สัญญาว่าทุกครั้งที่มาหญิงจะพยายามมาพร้อมสาระ เทคนิคดีๆที่ทำได้ง่ายและทำได้จริงในชีวิตประจำวัน

หลายคนจะนึกถึงประโยชน์ด้านความชุ่มชื้น
เมื่อหลายวันก่อน มีกระทู้หนึ่งในเว็บจีบันสอบถามว่า...
"เจลว่านหาง ช่วยลดรอยสิวได้ด้วยเหรอ?
ทำไมไปร้านยาแล้วเภสัชกรแนะนำให้ใช้"

เจลว่านหางจระเข้ซึ่งมีสารสำคัญคือ ว่านหางจระเข้ หรือ Aloe Barbadensis ไม่ได้มีประโยชน์ต่อการให้ความชุ่มชื้นเท่านั้นค่ะ ในรูปแบบของเจลทาผิวยังคงมีประโยชน์อื่นอีกหลายอย่าง สำหรับในวันนี้หญิงขอสรุปสั้น ๆ 3ข้อ พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อเจลว่านหางจระเข้ในตอนท้ายนะคะ

1. ประโยชน์เรื่องความชุ่มชื้นของว่านหางจระเข้ เป็นประโยชน์พื้นฐาน โดยคนที่จะได้ประโยชน์มาก คือ คนผิวมันที่ขาดน้ำ คนผิวมันที่ขาดน้ำคือคนที่ปกติจะมีความมันบนใบหน้า แต่หลังการล้างหน้ากลับมีผิวแห้ง ขาดน้ำ จริง ๆ คนที่มีสภาพผิวแบบอื่นก็ใช้เจลว่านหางจระเข้ได้ค่ะ แต่ไม่เด่นเท่าคนผิวมันที่ขาดน้ำ เพราะคนที่ผิวแห้งจริงจังน่ะค่ะ ควรจะใช้พวกที่เน้นเรื่องความชุ่มชื้นมากกว่า เช่น ออยล์ ครีม เป็นต้น
   
   ในส่วนของเทคนิคการเลือกซื้อ หลายคนเข้าใจว่า เจลว่านหางจระเข้นั้น ต้องซื้อที่มี % สูง ๆ มันจะดีกว่าเจลว่านหางที่มี % ต่ำ แต่จริง ๆ  แค่มีว่านหางใน % ที่เหมาะสมก็ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้แล้วค่ะ วิธีที่ดีกว่า คือ เลือกเจลว่านหางที่มีสารสำคัญอื่นที่เหมาะกับผิวเรา เช่น ถ้าเป็นคนผิวแห้ง ควรเลือกสูตรที่มี น้ำมัน อยู่ในสูตร เช่น Shea butter oil, Avocado oil, Almond oil เป็นต้น แต่ปริมาณของน้ำมันทั้งหมดไม่ควรจะเกิน 10% ส่วนคนที่มีปัญหาเรื่องสิว ควรเลือกสูตรที่มี Tea tree oil อยู่ในสูตร แต่ไม่ควรเลือกสูตรที่มี Tea tree oil มากกว่า 1% เพราะนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์เพิ่มแล้ว ยังอาจระคายเคืองได้ โดยเฉพาะคนที่เป็นสิวมาก หรือผิวบอบบางมากอยู่แล้ว และที่สำคัญ ทั้ง Aloe barbadensis หรือ เจลว่านหางจระเข้ และ Tea tree oil ไม่ได้ช่วยเรื่องรักษาสิวมากขนาดนั้นค่ะ ที่พอจะช่วยได้คือ...
   
   
2. ช่วยลดรอยดำจากสิว เพราะในว่านหางจระเข้ มีสารสำคัญหนึ่งคือ Aloesin ซึ่งมีความสามารถในการลดเม็ดสีเมลานินที่มากเกินไป คือ HyperPigmentation
   
   
3. ไม่เหมาะที่จะใช้ในเคส Burn หนักๆ หรือ ไฟไหม้น้ำร้อนลวกแรง ๆ แต่ช่วยบรรเทาการ Burn จากแสงแดด หรือ Burn ในเลเวลน้อย ๆ ได้ ถ้าจะใช้บรรเทาอาการระคายเคืองในกรณีผิวไหม้จากแสงแดด สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้ได้เลย แต่หากเป็นเคสอื่นเช่น น้ำร้อนลวกเบา ๆ ควรจะปฐมพยาบาลด้วยวิธีอื่นก่อน เช่น ให้จุดที่สัมผัสความร้อนผ่านน้ำเย็น เป็นต้น แล้วจึงค่อยตามมาด้วยการทาว่านหางจระเข้