เติมน้ำให้ผิวกับ Clarins Bi-Phase Serum
Wave1992 58 14
สีแต่ละสีมีความหมายในตัวของมัน แต่ละความหมายขึ้นอยู่กับสิ่งที่ใช้จำกัดความ สมัยที่อยู่มหาลัย เวฟชอบเรียนเรื่องภาษาสัญญะกับสื่อ จำได้ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งจะได้เรียนเรื่องของโฆษณาผลิตภัณฑ์สกินแคร์ เรียนเกี่ยวกับสีผลิตภัณฑ์ที่มีอิทธิพลต่อจิตวิทยาผู้บริโภค เคยสงสัยกันไหมว่า “ทำไมบรรจุภัณฑ์หรือแม้แต่สีเนื้อสารของมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื่นมักมีสีฟ้า เขียว หรือ ขาว?” คำตอบง่ายๆคือ มนุษย์อย่างเราคุ้นเคยกับสีของน้ำ น้ำสะอาดจะใส มีสีเขียวฟ้าอ่อนๆตามภาพทางธรรมชาติที่เราพบเห็น ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันที่ทางการตลาดของบริษัทสกินแคร์ใช้ เพื่อให้ผู้บริโภคอย่างเราเชื่อว่า มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ซื้อใช้ จะให้ความชุ่มชื่นประดุจการเติมน้ำให้กับผิว
วันนี้เวฟจะมาพูดถึงสกินแคร์เติมน้ำให้กับผิว Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum พูดถึงเซรั่มตัวนี้ก็ต้องนึกถึงการเติมเต็มความชุ่มชื่น ในไลน์นี้ Clarins ได้พัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าสูตรเดิม เน้นไปที่การแก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดสมดุล และความชุ่มชื่น ทุกครั้งที่ใช้ จะได้ฟิวลิ่งแบบเติมน้ำให้ผิวหน้า
ทางแบรนด์เคลมด้วยว่า เซรั่มตัวนี้เหมาะกับผิวที่กระหายน้ำ ต้องการการปลอบประโลม ลดรอยแดง และความอิดโรยของผิว
จุดเด่นของ Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum คือ ส่วนผสมของ Leaf of Life (Kalanchoe Pinnata Leaf) หรือ Miracle Leaf ซึ่งมีแหล่งกำเนิดในแถบเกาะมาร์ดากัสการ์ คนไทยจะรู้จักพืชนี้ในนามของ “คว่ำตายหงายเป็น” โดยทางแบรด์ได้วิจัยและค้นพบว่า พืชชนิดนี้มีสารสำคัญต่อการเติมเต็มความชุ่มชื่นที่เหมาะสมกับผิวหนังมนุษย์
เซรั่มตัวนี้เป็น Bi-Phase Serum หมายถึง มีการใช้สารสองประเภทที่แยกชั้นกัน กล่าวคือ การแบ่งชั้นของน้ำและน้ำมัน เมื่อมองด้วยตาเปล่าผ่านขวดบรรจุ เราจะเห็นส่วนที่เป็นน้ำมันสีฟ้าลอยอยู่ชั้นบนโดยเป็นสารสกัดจาก Silybum Marianum Seed Oil ที่มีสัดส่วนของ Linolenic Acid (Omega 3) ในปริมาณสูง ซึ่งสามารถต้านการอักเสบของผิวได้ อีกทั้งยังมีสารประกอบสำคัญอื่นๆที่เวฟจะวิเคระห์ให้โดยละเอียดกันนะครับ
ก่อนที่จะไปรีวิวขออนุญาตแจ้งสภาพผิวหน้าของเวฟก่อนครับ เวฟผิวมัน มีสิวอุดตัน มีจุดด่างดำ และหลุมสิวครับ ซึ่ง Clarins Hydra-Essentiel Bi-Phase Serum เวฟใช้มามากกว่า 3 เดือน โดยใช้อย่างต่อเนื่อง การรีวิวนี้ไม่ใช่การโฆษณา หากแต่เป็นการแบ่งปันข้อมูลผ่านประสบการณ์ทางการค้นคว้าและการใช้จริงครับ
วิเคราะห์ให้ถึงเครื่อง
สี : เป็นน้ำสีฟ้า มาจากการแต่งสี Ci 61565/Green 6, Ci 42090/Blue 1, Ci 60730/Ext, Violet 2
กลิ่น : มีการใช้น้ำหอม (Fragrance) กลิ่นหอมอ่อนๆ ผ่อนคลาย เวฟชอบกลิ่นนี้มากๆครับ
เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นน้ำกับน้ำมันที่แบ่งชั้นชัดเจน เนื้อบางเบา ซึมง่าย ให้ความเย็นสบายแก่ผิวทันทีหลังการทา ไม่ทำให้ผิวหน้ามันเพิ่มครับ
บรรจุภัณฑ์ : เป็นขวดแก้วมีหัวปั๊มมาในโทนของสีฟ้าสดใส แค่เห็นขวดก็สดชื่นแล้ว
สภาพผิว : เหมาะกับทุกสภาพผิว
วิธีการใช้ : ก่อนทาเซรั่ม ให้เขย่าขวดเพื่อให้น้ำมันและน้ำผสมกันดี หลังปั๊มเซรั่มออกมาแล้ว ให้ทำการวอร์มที่ฝ่ามือก่อนลูบไล้ทั่วใบหน้าและลำคอ (ใช้ได้ทั้งเวลาเช้า-เย็น)
สารประกอบดาวเด่น :
เซรั่มขวดนี้เคลมว่าไม่มี Paraben หรือ สารกันเสีย อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของผิว noncomedogenic
สารให้ความชุ่มชื่น ได้แก่ Glycerin, Kalanchoe Pinnata Leaf Extract (คว่ำตายหงายเป็น), Tocopherol (Vitamin E), Xylitol, Xylitylglucoside, Anhydroxylitol, Glucose, Pentylene Glycol
สารให้ความกระจ่างใส ได้แก่ Ascorbic Acid (Vitamin C), Callicarpa Japonica Fruit Extract, Citric Acid (มีความเป็นกรดอ่อนๆ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว)
สารปลอบประโลมผิว ได้แก่ Kalanchoe Pinnata Leaf Extract (คว่ำตายหงายเป็น), Ribes Nigrum (Black Currant) Bud Extract
สารช่วยป้องกันความหย่อนคล้อยของผิว ได้แก่ Atractyloides Lancea Root Extract, Silybum Marianum Seed Oil, Tocopherol (Vitamin E)
สารกันเสียทางเลือก (ก่อการระคายเคืองน้อย) ได้แก่ Potassium Sorbate
สารป้องการ UV ได้แก่ Butyl Methoxydibenzoylmethane
ดาวร้าย : มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างมาก
ความพึงพอใจ : หลังจากที่ใช้มาได้สักระยะ เวฟค่อนข้างพึงพอใจกับเซรั่มขวดนี้ ถือว่าเป็นความประทับใจครั้งที่สองที่เวฟมีต่อแบรนด์ Clarins หลังจากที่รัก Double Serum เข้าอย่างจัง ตัวนี้เวฟได้นำเข้ามาเป็นตัวเสริม เสมือนเรามีแม่ทัพแล้ว ก็ต้องมีลูกสมุนที่ดี ซึ่ง Bi-Phase Serum ก็ทำหน้าที่ในการเติมเต็มความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ดีเยี่ยม การใช้กลุ่ม Anti-Aging จะไม่เป็นผลเลย หากเราไม่ได้เติมความชุ่มชื่นให้กับผิว เนื่องจากเซลล์ผิวต้องการน้ำเพื่อการสร้างสารหล่อเลี้ยงและคอลาเจนเช่นกัน ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจจะไม่หวือหวา ไม่ได้โดดเด่น แต่ก็เป็นเสมือนตัวกระตุ้น Barrier หรือ เกราะป้องกันของผิวได้ดีครับ ใครมองหาตัวเติมน้ำ ก็ลองเสริมตัวนี้เข้าไปใน Skincare Routine กันดูนะครับ
สุดท้ายนี้เวฟขอขอบพระคุณที่ติดตามรีวิวกันนะครับ ?
วันนี้เวฟจะมาพูดถึงสกินแคร์เติมน้ำให้กับผิว Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum พูดถึงเซรั่มตัวนี้ก็ต้องนึกถึงการเติมเต็มความชุ่มชื่น ในไลน์นี้ Clarins ได้พัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าสูตรเดิม เน้นไปที่การแก้ปัญหาผิวแห้งกร้าน ขาดสมดุล และความชุ่มชื่น ทุกครั้งที่ใช้ จะได้ฟิวลิ่งแบบเติมน้ำให้ผิวหน้า
ทางแบรนด์เคลมด้วยว่า เซรั่มตัวนี้เหมาะกับผิวที่กระหายน้ำ ต้องการการปลอบประโลม ลดรอยแดง และความอิดโรยของผิว
จุดเด่นของ Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum คือ ส่วนผสมของ Leaf of Life (Kalanchoe Pinnata Leaf) หรือ Miracle Leaf ซึ่งมีแหล่งกำเนิดในแถบเกาะมาร์ดากัสการ์ คนไทยจะรู้จักพืชนี้ในนามของ “คว่ำตายหงายเป็น” โดยทางแบรด์ได้วิจัยและค้นพบว่า พืชชนิดนี้มีสารสำคัญต่อการเติมเต็มความชุ่มชื่นที่เหมาะสมกับผิวหนังมนุษย์
เซรั่มตัวนี้เป็น Bi-Phase Serum หมายถึง มีการใช้สารสองประเภทที่แยกชั้นกัน กล่าวคือ การแบ่งชั้นของน้ำและน้ำมัน เมื่อมองด้วยตาเปล่าผ่านขวดบรรจุ เราจะเห็นส่วนที่เป็นน้ำมันสีฟ้าลอยอยู่ชั้นบนโดยเป็นสารสกัดจาก Silybum Marianum Seed Oil ที่มีสัดส่วนของ Linolenic Acid (Omega 3) ในปริมาณสูง ซึ่งสามารถต้านการอักเสบของผิวได้ อีกทั้งยังมีสารประกอบสำคัญอื่นๆที่เวฟจะวิเคระห์ให้โดยละเอียดกันนะครับ
ก่อนที่จะไปรีวิวขออนุญาตแจ้งสภาพผิวหน้าของเวฟก่อนครับ เวฟผิวมัน มีสิวอุดตัน มีจุดด่างดำ และหลุมสิวครับ ซึ่ง Clarins Hydra-Essentiel Bi-Phase Serum เวฟใช้มามากกว่า 3 เดือน โดยใช้อย่างต่อเนื่อง การรีวิวนี้ไม่ใช่การโฆษณา หากแต่เป็นการแบ่งปันข้อมูลผ่านประสบการณ์ทางการค้นคว้าและการใช้จริงครับ
วิเคราะห์ให้ถึงเครื่อง
สี : เป็นน้ำสีฟ้า มาจากการแต่งสี Ci 61565/Green 6, Ci 42090/Blue 1, Ci 60730/Ext, Violet 2
กลิ่น : มีการใช้น้ำหอม (Fragrance) กลิ่นหอมอ่อนๆ ผ่อนคลาย เวฟชอบกลิ่นนี้มากๆครับ
เนื้อผลิตภัณฑ์ : เป็นน้ำกับน้ำมันที่แบ่งชั้นชัดเจน เนื้อบางเบา ซึมง่าย ให้ความเย็นสบายแก่ผิวทันทีหลังการทา ไม่ทำให้ผิวหน้ามันเพิ่มครับ
บรรจุภัณฑ์ : เป็นขวดแก้วมีหัวปั๊มมาในโทนของสีฟ้าสดใส แค่เห็นขวดก็สดชื่นแล้ว
สภาพผิว : เหมาะกับทุกสภาพผิว
วิธีการใช้ : ก่อนทาเซรั่ม ให้เขย่าขวดเพื่อให้น้ำมันและน้ำผสมกันดี หลังปั๊มเซรั่มออกมาแล้ว ให้ทำการวอร์มที่ฝ่ามือก่อนลูบไล้ทั่วใบหน้าและลำคอ (ใช้ได้ทั้งเวลาเช้า-เย็น)
สารประกอบดาวเด่น :
เซรั่มขวดนี้เคลมว่าไม่มี Paraben หรือ สารกันเสีย อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของผิว noncomedogenic
สารให้ความชุ่มชื่น ได้แก่ Glycerin, Kalanchoe Pinnata Leaf Extract (คว่ำตายหงายเป็น), Tocopherol (Vitamin E), Xylitol, Xylitylglucoside, Anhydroxylitol, Glucose, Pentylene Glycol
สารให้ความกระจ่างใส ได้แก่ Ascorbic Acid (Vitamin C), Callicarpa Japonica Fruit Extract, Citric Acid (มีความเป็นกรดอ่อนๆ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว)
สารปลอบประโลมผิว ได้แก่ Kalanchoe Pinnata Leaf Extract (คว่ำตายหงายเป็น), Ribes Nigrum (Black Currant) Bud Extract
สารช่วยป้องกันความหย่อนคล้อยของผิว ได้แก่ Atractyloides Lancea Root Extract, Silybum Marianum Seed Oil, Tocopherol (Vitamin E)
สารกันเสียทางเลือก (ก่อการระคายเคืองน้อย) ได้แก่ Potassium Sorbate
สารป้องการ UV ได้แก่ Butyl Methoxydibenzoylmethane
ดาวร้าย : มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างมาก
ความพึงพอใจ : หลังจากที่ใช้มาได้สักระยะ เวฟค่อนข้างพึงพอใจกับเซรั่มขวดนี้ ถือว่าเป็นความประทับใจครั้งที่สองที่เวฟมีต่อแบรนด์ Clarins หลังจากที่รัก Double Serum เข้าอย่างจัง ตัวนี้เวฟได้นำเข้ามาเป็นตัวเสริม เสมือนเรามีแม่ทัพแล้ว ก็ต้องมีลูกสมุนที่ดี ซึ่ง Bi-Phase Serum ก็ทำหน้าที่ในการเติมเต็มความชุ่มชื่นให้กับผิวได้ดีเยี่ยม การใช้กลุ่ม Anti-Aging จะไม่เป็นผลเลย หากเราไม่ได้เติมความชุ่มชื่นให้กับผิว เนื่องจากเซลล์ผิวต้องการน้ำเพื่อการสร้างสารหล่อเลี้ยงและคอลาเจนเช่นกัน ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจจะไม่หวือหวา ไม่ได้โดดเด่น แต่ก็เป็นเสมือนตัวกระตุ้น Barrier หรือ เกราะป้องกันของผิวได้ดีครับ ใครมองหาตัวเติมน้ำ ก็ลองเสริมตัวนี้เข้าไปใน Skincare Routine กันดูนะครับ
สุดท้ายนี้เวฟขอขอบพระคุณที่ติดตามรีวิวกันนะครับ ?