Make up NUDE TONE ครั้งแรกนี้ รอดหรือร่วง ? 🤎🤍
Triam Chit 68 26สวัสดีค่ะชาว Jebanista ทุกคน
วันนี้เจกลับมาพร้อมกับการทำ How to make up
ที่เป็น Challenge ของเดือนพฤษภาคมกับโจทย์ที่ว่า
" ท้าสะบัดแปรง! แต่งหน้าลุคถนัดสุดปัง พร้อมแท็กเพื่อน 5 คน !!"
บอกตามตรงเลยว่า เจตั้งใจจะทำ Challenge นี้โดยการแท็กไปยัง 5 คนที่เจอยากให้มาสนุกด้วย แต่กลับกลายเป็นว่า แม่เตย @Kchapen28 ( ตัวแม่มงลงทุกลุคของบ้านจีบัน ) ได้ทำการแท็กเจเป็น 1 ใน 5 คนของแม่มาก่อนนน นน น น !! !!
คือแม่ หนูยังไม่ได้ตั้งตัวเลยจริงๆ แต่ขอขอบคุณแม่เตยที่คิดถึงหนู
และขออนุญาตรับไม้ต่อจากแม่นะคะ
สำหรับลุคนี้เป็นลุคที่เจไม่เคยแต่งมาก่อน และเป็นลุคที่แอบกลัวมาตลอกว่า สาวผิวสีอย่างเจนั้นจะรอดหรือไม่ โดยส่วนตัวแล้วเจชอบลุค Nude Tone มากค่ะทุกคน ไม่ว่าจะทางสาย ฝอ. สายไทย สายเกาหลี คือชอบมากๆ เมื่อรับไม้ต่อจากแม่เตยมาแล้ว ขอลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำหน่อยละกัน
Make up
Nude Tone
ของเจจะเป็นอย่างไรนั้น รอดหรือร่วง ตามไปดูกันเล๊ยยยยยย !!
About This Look!
อย่างที่เจได้บอกไว้ว่าเจชอบ Make up Nude Tone มากๆ วันนี้เจขอทำตามใจชอบของตัวเอง โดยใช้สีเปลือกตาให้ออกมาแนวน้ำตาลไหม้ๆ และกรีดหัวตาให้เฉี่ยว และทาสีปาก Les Chocolate ( งื้อออ จะรอดไหมคะทุกคนนนนนนน )
STEP
: การเตรียมผิวและการใส่คอนเทคเลนส์
ขั้นตอนนี้คือการเตรียมผิวโดยการลง Skin Care บำรุงผิวก่อนแต่งหน้า และการใส่ Contact Lens ของ Lollipop เจจำชื่อรุ่นไม่ได้ แต่เป็นสีเทาไร้ขอบค่ะ
STEP
: Foundation
รองพื้นในวันนี้เจเลือกหยิบลูกรักอีก 1 ตัวของเจมาใช้นั่นก็คือ LANCOME Teint Idole Ultra Wear เพราะอยากให้งานผิววันนี้ดูเนียนกริบ เป็นผู้ดีกันหน่อย โดยเนื้อรองพื้นรุ่นนี้จะค่อนข้างแมตต์ เจจึงใช้ฟองน้ำเกลี่ยรองพื้นแทนการใช้แปรงเพื่อความรวดเร็วและให้เนื้อรองพื้นเนียนเรียบกับผิวมากขึ้น
STEP
: Contour
เช่นเคยสำหรับลูกรัก Contour แบบฝุ่นของ 3D Face Forward Nefertiti Contour Kit ที่ตอนนี้เจหยิบมาใช้บ่อยมาก โดยการคอนทัวร์ของเจนั้น จะเน้นไปที่การเก็บกรอบหน้า งัดดั้ง และเสริมให้ดูมีริมฝีปากล่างยิ่งขึ้นด้วยการลงคอนทัวร์บริเวณใต้ริมฝีปากล่างค่ะ จากนั้นใช้ฟองน้ำเบลนเกลี่ยให้เนื้อคอนทัวร์เนียนเข้ากับเนื้อรองพื้น
STEP
: Concealer
สำหรับขั้นตอนในการลง Concealer เจลงที่บริเวณใต้ตา สันจมูก ปลายจมูก ข้างจมูก กลางหน้าผาก และคาง จากนั้นใช้ฟองน้ำด้านที่ไม่เลอะสีคอนทัวร์เบลนเกลี่ยทุกอย่างให้เนียนเข้าด้วยกัน
STEP
: Powder
เจเลือกใช้แป้ง Translucent ของ KAT VON D ลงบริเวณใต้ตา และบริเวณ T-Zone แป้งตัวนี้เขามีความละเอียดมาก ทำให้เวลาลงแล้วผิวจะดูเรียบเนียนและไม่เปลี่ยนสีของรองพื้นด้วยค่ะ
STEP
: Eyeshadow
ขั้นตอนการแต่งตาสำหรับลุคนี้เป็นการผสมกันระหว่างสีที่อยากให้เปลือกตาดูเป็นน้ำตาลไหม้ๆแต่ไม่ใช้สีน้ำตาล งงไหมคะทุกคน เจก็งง 55 5 55 5
ขั้นตอนของ Eyeshadow
ขั้นตอนที่ 1 เลือกใช้สีส้มอ่อนๆในพาเลท Chocochoke Hold Live เบลนให้ทั่วบริเวณเปลือกตาทั้ง 2 ข้าง เพื่อเป็นสีเบสของเปลือกตา
ขั้นตอนที่ 2 ใช้สี Devilish ในพาเลท Naked Cherry ที่ให้สีม่วงปนน้ำตาล มาคัดเบ้า โดยลงให้สีเข้มและชัดเพื่อให้เปลือกตาดูลึกมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 3 ใช้สีเบอร์ 08 ของ Essence Eyeshadow ที่เป็นสีเขียวเข้มเบลนบริเวณหางตาให้ Wing ขึ้นไปและเบลนลงมายังบริเวณขอบตาล่างด้วย
ขั้นตอนที่ 4 ใช้สี Champagne ในพาเลท Chocochoke Hold Live แตะลงบริเวณกลางเปลือกตามาจนถึงหัวตา และขอบตาล่างในส่วนกลางขอบตามาถึงหัวตา เพื่อให้เปลือกตาดูมีชั้นตาที่ชัดเจนมากขึ้น
( สีในรูปอาจจะดูอ่อนไปนะคะ เพราะว่าไฟที่ส่องสว่างไป แต่หลังจากเสร็จแล้วจะเห็นเป็นสีที่ชัดเจนตามไฟที่ปรับตามไฟห้องปกติค่ะ )
STEP
: Eyeliner
เจใช้ Eyeliner สีดำสนิทมาใช้ในการกรีดตา โดยเริ่มจากกรีดให้ชิดขอบตาด้านบนและทำ Wing ขึ้นบริเวณหางตา จากนั้นที่บริเวณหัวตาเจจะลาก Eyeliner ออกมาตามแนวหัวตา 45 องศาให้เลยออกมา วิธีนี้เพื่อให้ดวงตาดูเฉี่ยวและดูชัดขึ้นค่ะ
STEP
: Eyeshadow
อยากบอกว่าเจลืมคะทุกคน บริเวณขอบตาล่างนั้น เจใช้สีแดงของพาเลท Chocochoke Hold Live ลงเบลนให้กลืนเข้ากับสีที่ลงไว้ก่อนนหน้านี้ เป็นตาลงเพียงนิดเดียวนะคะ
STEP
: Eye Brown + Brown Brush
งานคิ้ว เริ่มโดยเจใช้ Meilinda Brow Styling Gel วาดโครงของคิ้วก่อน วาดตามรูปคิ้วของตัวเองเลยค่ะ จากนั้นถมสีของคิ้วบริเวณหางคิ้วให้ชัดและค่อยๆเบลนสีไล่มาจนถึงบริเวณหัวคิ้ว เมื่อได้ทรงคิ้วเรียบร้อยแล้ว ต่อด้วยการปัดขนคิ้ว เจจะปัดขนคิ้วให้เรียงตามแนวทรงคิ้วก่อนค่ะ จากนั้นก็จะปัดเน้นบริเวณหัวคิ้วให้ตั้งขึ้น
STEP
: Eyelash Curler + Mascara
มาถึงกันที่ขั้นตอนงานขนตากันนะคะ เริ่มที่ดัดขนตาให้โคนขนตาบนยกขึ้น จากนั้นใช้ BQ Cover Mascara ปัดที่โนขนตาบนก่อนเพื่อเป็นการยกโคนขนตาและค่อยๆปัดขึ้นตามแนวเส้นขนตา เสร็จแล้วต้องไม่ลืมปัดขนตาล่างด้วยนะคะ
STEP
: Blush
ปัดแก้มลุคนี้เจใช้สีเบอร์ C5 You are Beautiful ของ 4U2 ที่เป็นสีส้มๆ มาปัดเบาๆที่หน้าแก้ม ( ความตั้งใจของเจ ต้องการแค่เบาๆพอนะคะ แต่ด้วยว่าที่เขาเป็นบลัชเนื้อครีมเลยสีเลยชัดมาก ต้องมาแก้ทีหลังให้ดูเบาลงค่ะ )
STEP
: Highlight
Highlight เจเลือกใช้สี Champagne ในพาเลท Chocochoke Hold Live มาปัดบริเวณสันจมูก ปลายจมูก คาง ดหนกแก้ม กระจับปาก ใต้ท้องคิ้ว และบนหัวคิ้วค่ะ
STEP
: Lipstick
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการแต่ง Nude Tone นั้น คือการเลือกสีของลิปสติกค่ะ ซึ่งการแต่ง Nude Tone ก็ไม่ใช่ว่าจะถ้าลิปเพียงสี Nude พื้นๆเท่านั้นนะคะ ยังสามารถนำสีอื่นๆที่เป็น Nude Tone มาใช้ก็ได้ วันนี้เจหยิบเอาสี Les Chocolate มาใช้ทาเป็นพื้นให้ทั่วริมฝีปาก และเบลนให้เกินขอบปากออกมา ปิดท้ายด้วยการนำสี Highlight มาทาบริเวณกลางริมฝีปากล่างเพื่อให้ดูมีอะไรเพิ่มขึ้น
STEP
: Keep Detail
ขั้นตอนการเก็บรายละเอียดนั้น เป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญมากๆค่ะทุกคน ขึ้นตอนนี้เจทำการลง Contour เพิ่มให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น และเสริมด้วยการติดขนตาปลอมเข้า และเซตทุกอย่างด้วยแป้ง Translucent เพียงเท่านี้ก็จะได้ Make up Nude Tone แล้วค่ะ