สวัสดีค่ะทุกคนนนน กลับมาอีกแล้วหลังจากที่หายไปก็ไม่ได้นานเท่าไหร่ 

แต่ๆ กลับมารอบนี้เมย์อยากรีวิวเกี่ยวกับไฮยาลูรอนม๊ากมาก

 เพราะเห็นหลายแบรนด์ทำออกมาได้น่ารักกุ๊กกิ๊ก น่าใช้ 

เห็นรีวิวหลายท่านก็บอกว่าดี เมย์เลยอดใจไม่ไหวล๊าววว 

เลยได้ไปหาซื้อมาลองใช้ แล้วก็แวะมาส่งการบ้านด้วยค่ะ   ??

ขอถามก่อน ว่าเพื่อนๆเคยมีประสบการณ์หน้าแห้งกันมั้ยคะ คือ เราเป็นคนที่หน้าแห้งและขาดน้ำค่ะ เพราะขาดการบำรุงมาค่อนข้างนาน เรื่องของเรื่อง คือเราเป็นสิว ทำให้เราไม่กล้าใช้สกินแคร์ที่เติมน้ำให้ผิว กลัวเหนอะหนะ กลัวอุดตันแล้วสิวขึ้นซ้ำอีก 

แต่หลังๆนี้ มีอย่างนึงที่ทำให้เราเปิดใจหันมาใช้ไฮยาลูรอน เพราะไปเจอมาว่าไฮยาลูรอนเนี่ย ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นผิวได้ยาวนาน ช่วยให้ผิวเราชุ่มชื้นมากขึ้น ดูอิ่มเอิบ และผิวเราแข็งแรงนั่นเองค่ะ พอผิวเราแข็งแรง เราก็จะไม่มีปัญหาสิวผด ผิวไม่อุดตัน ไม่มีสิวอักเสบใช่มั้ยล่ะคะ??

วันนี้เลยอยากมาเขียนเล่าค่ะว่า ดียังไง ใช้แล้วผิวอิ่มฟู เหมือนนอนหลับเต็มอิ่มจริงมั้ย ไปดูกันเลยค่า

The Sun Society Hyaluronic Acid

ถ้าใครเคยเห็นรีวิวผ่านทามไลน์ แล้วไปไฮยาลูรอนขวดเล็ก ฝาขวดม่วง ๆ อยากลองใช้ อยากรู้ว่าเค้าคือแบรนด์อะไร ใช้ดีมั้ย มาดูที่นี่อีกรอบค่ะ แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ญี่ปุ่น  ทั้งขวดก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่นที่มีวงขายทั่วไป เค้าว่ากันว่าใช้ดี ราคาน่ารัก 

อย่างเมย์ก็ซื้อมา แต่ขอลองซื้อขวดเล็กก่อน ว่าใช้จริงตามคำล่ำลือมั้ย ขวดเล็กขวดนี้ 10 มิลเท่านั้นค่ะ แต่เค้าบอกว่าด้วยตัวเจลที่เข้มข้นมาก จึงใช้ได้นาน “แค่เพียง 1 หยดผสมผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ประจำ ช่วยลดเลือนริ้วรอย ผิวเนียนกระชับ กระจ่างใส พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิว”

ไฮยาลูโรนิค เอดซิคตัวนี้ เหมาะม๊ากกก สำหรับคนที่ผิวกร้าน ผิวเสีย หรือว่าใช้บำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้นได้ แถมทางแบรนด์ก็บอกว่าหัวเชื้อไฮยาลูรอนขวดนี้ให้ความชุ่มชื้นมากกว่าคอลลาเจลถึง 16 เท่าค่ะ โดยเวลาใช้ก็ง่าย ๆ เพียงหยดไฮยาลูรอนขวดนี้ 1 หยด (ถ้าเยอะกว่านี้เนื้อค่อนข้างเข้มข้น อาจจะเหนอะได้) ผสมลงไปในครีม เซรั่ม ลิป หรืออะไรก็ตามที่เราต้องการได้เลยค่ะ ผสมครีมก็ทำให้แต่งหน้าง่ายขึ้น ใส่รองพื้นก็ทำให้รองพื้นติดทนค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ : ด้วยความที่เราเป็นคนที่มีสิวค่ะ ทำให้เวลาทาลงไปแรกๆ จะแสบหน่อย แต่หลังๆ คือผิวชินมากขึ้น ส่วนเรื่องรอยสิวไม่ได้เห็นผลชัดเจนเท่าไหร่ค่ะ แต่อาจจะช่วยเรื่องความชุ่มชื้นมากกว่า แนะนำว่าใช้ตอนกลางคืนจะรู้สึกสบายผิวมากกว่า เพราะใช้ตอนเช้าแล้วผิวหนึบมากเลยค่ะ อาจจะทำให้มันกว่าปกติ  ใครอยากลองอาจจะลองหาซื้อกันได้นะคะ

เนื้อสัมผัส : เจลใส กึ่งๆอิลมิลชั่น ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันค่ะ

ความชุ่มชื้น : ทาตอนกลางคืนชุ่มชื้นมากกกกกกก แต่เหนอะด้วย ถ้าใครไม่ชอบความเหนอะเท่าไหร่ อาจจะลองผสมกับอะไรที่เบากว่านี้แล้วค่อยทาได้เลยค่ะ

กลิ่น : ไม่มีกลิ่น

การระคายเคือง : ช่วงแรก ๆ ค่ะ 

ราคา 299 บาท

Welpano Loofha Smooth Serum

มาถึงแบรนด์ที่ 2 กันค่ะทุกคนนนน ของเวลพาโน่ เราใช้หลายๆไอเทมของแบรนด์นี้ เพื่อนๆรู้..ทุกคนรู้ เราไม่ยอมตกเป็นทาสของหมีแพนด้าแน่นอน 555555 ?? มีช่วงนึงที่เราหมดหนทางรักษาสิว และนี่เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราได้ใช้ ปัจจุบันทำให้เราได้ลองของแบรนด์นี้เกือบทุกชิ้นเลยค่ะ 

แล้วเรากำลังจะบอกว่า สิ่งที่ทุกคนกำลังหามาบำรุงผิวนั้นน่ะ ลองมองเซรั่มลูฟฟาหลอดนี้เลยค่ะ ครบจบทุกการบำรุงสำหรับผิวแห้ง หรือผิวขาดน้ำเลย

อย่างใครที่มีปัญหาผิวหน้า อย่างเมย์ช่วงที่เป็นทั้งสิว ผิวแห้ง หยาบกร้าน ตอนนั้นคือแต่งหน้าก็ไม่ติดแล้วค่ะ แล้วผิวแพ้ง่ายมาก แต่หลอดนี้ตอบโจทย์สุด ๆ และที่สำคัญเหมาะกับผิวแพ้ง่ายอีกด้วย ซึ่งเซรั่มหลอดนี้ไม่ได้มีดีแค่ไฮยาลูรอนนะคะเราอ่านส่วนผสมที่ฉลาก เพราะเป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมหลายอย่างาก และทำงานด้วยกันได้อย่างลงตัวเลยมี Hyaluronate ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและบำรุงให้ผิวเนียนกระชับ ดูมีน้ำมีนวล เสริมให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ Hydrolyzed Collagen ที่เป็นคอลลาเจนสกัด แต่ไม่มีกลิ่นคาวใดๆ อันนี้ชอบๆ 5555 ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและช่วยรักษาความยืดหยุ่นให้กับผิวนั่นเองค่ะ

หลังจากที่ได้ใช้ : ช่วงแรกๆที่เราใช้เซรั่มหลอดนี้เพราะผิวเราแห้งจากการใช้ยาสิวมากค่ะ(ยาสิวที่ซื้อมาจากร้านยาเภสัชกร) หน้าแห้ง ลอกเป็นขุยเลย เมื่อก่อนใช้แต่ยา ผิวขาดการบำรุง เลยแห้งผาก ริ้วรอยเกือบมาล่ะแต่พอเริ่มใช้ลูฟฟา จบแค่ตัวเดียวตอนนั้นไม่กล้าใช้อย่างอื่นเพิ่ม จะรู้สึกได้ถึงชุ่มชื้นขึ้นทันที เพราะเค้าช่วยเติมน้ำให้ผิว ช่วยลดการระคายเคืองของผิวได้ดีมาก ผิวที่แสบแดงแห้งลอกมา ดีขึ้นตามลำดับเลยค่ะ??

สรุปชอบหลอดนี้ เพราะ นอกจากจะมี hyaluronแล้ว ยังมีส่วนผสมอื่นๆที่ช่วยให้ผิวเด้งๆ ลดริ้วรอย ทารอบดวงตาก็ได้ รวมถึงช่วยเรื่องหลุมสิวด้วย

 

เนื้อสัมผัส : เซรั่มสีขุ่นเล็กน้อย แต่บางเบามาก ไม่เหมือนเนื้อเซรั่มเพราะซึมไวมากค่ะ

ความชุ่มชื้น : ชอบตรงที่ใช้เซรั่มแบรนด์นี้ไม่ต้องไปผสมอะไรอีก จบที่หลอดเดียว นอกจากว่าเราจะอยากได้เพิ่มอีก 555555 ชุ่มชื้น และเพิ่มความกระชับให้ผิวดูดิวอี้มากๆเลยค่ะ

กลิ่น : กลิ่นหอมจากสารสกัดธรรมชาติอ่อนๆ

การระคายเคือง : ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ น้ำมัน สารกันเสีย พาราเบนจ้า

ราคา 1190 บาท /30 ml.

SOS Hyaluron X3 Concentrate Serum

ชื่อแบบยูนีคเบา ๆ ตามฉบับญี่ปุ่นนะคะแบรนด์นี้ เอสึโอเอสึ ไฮยาลูรอน ที่ครองใจสาวญี่ปุ่นในตอนนี้ค่ะ แล้วก็กำลังจะครองใจของสาวๆหนุ่มๆในประเทศไทยด้วย ช่วงนี้แบรนด์นี้มาค่อนข้างแรง จะเห็นได้จากโฆษณาต่าง ๆ เซรั่มเข้มข้น มาพร้อม ไฮยารูรอน 3 ชนิด คือ Hyaluron (เคลือบผิว) / Super Hyaluron (คงความชุ่มชื้นผิว) / Nano Hyaluron (ซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ไวกว่า) ซึ่งทั้งสามชนิดมีโมเลกุลที่ต่างกันทำให้เข้าซึมสู่แต่ชั้นผิวหนังของเราได้ทั่วถึงกว่าให้ผิวเนียนเรียบ ฉ่ำน้ำจากผิวชั้นในเลยค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้ : เอาเป็นว่าใครที่ผิวแห้งกร้านแล้วต้องการความชุ่มชื้นผิวมากกว่านี้ แนะนำตัวนี้เลยค่ะ ใช้หลังโทนเนอร์ได้เลย ใช้คู่กับครีมบำรุงผิวที่เราใช้ประจำก็ได้ค่ะ แต่ถ้าใครสายชอบจบในตัวเดียว เมย์ว่ายังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ ยังรู้สึกว่ามันจบที่เดียวไม่ได้จริง ๆ สุดท้ายก็ต้องไปหาซื้อสกินแคร์ที่ชุดเพิ่มน้ำให้ผิวเพิ่มอีกอยู่ดีค่ะ

เนื้อสัมผัส : ไม่มีสี กลิ่น เกลี่ยง่าย ใช้เวลให้น้องซึมหน่อยนึง

ความชุ่มชื้น : ให้ความชุ่มชื่นผิวได้ดีในระดับนึงค่ะ

การระคายเคือง : ไม่มีน้ำมัน ไม่มีน้ำหอม พาราเบน

ราคา 199 บาท

La Roche Posay Hyalu B5 Serum

อันนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะน้องเป็นอีกหนึ่งขวดที่ใช้ดีมาก เมย์ใช้จนหมดขวดแล้ว รอฤกษ์ซื้อต่อ โดนป้ายยามาจากเพจคุณสายป่านค่ะ อิอิ ก่อนจะซื้อเราก็ดูรีวิวจัดหนักจัดเต็ม ไปพบว่ามันตอบโจทย์ตรงที่ทางแบรนด์เค้าอธิบายว่า ในลาโรชขวดนี้เสริมประสิทธิภาพ 2 อนุภาคไฮยาลูรอนโมเลกุลใหญ่(ซึมเข้าผิวด้านนอก)และเล็ก(ซึมสู่เข้าผิวชั้นใน) เข้าดูแลให้ผิวกลับมาแข็งแรง พร้อมด้วย วิตามิน บี 5 และมาเดคาสโซไซต์ ช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้านให้แลดูอิ่มเอิบมากขึ้น เหมาะสำหรับผิวระคายเคืองง่าย ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เด้งกระชับอิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย

ความรู้สึกหลังใช้ : ด้วยความที่เป็นคนที่ไม่ค่อยได้ใช้สกินแคร์เท่าไหร่ ทำให้ผิวของเมย์ค่อนข้างมีรูขุมขนกว้าง และมันช่วงทีโซน แต่หลังๆคือดีขึ้นมา เพราะว่าหันกลับมาบังคับให้ตัวเองใช้บ้างแล้ว รู้สึกได้เลยว่าผิวได้รับการบำรุงมากขึ้น ผิวดูอิ่มฟูมากขึ้น ไม่รู้สึกว่าอุดตัน หรือระคายเคืองอะไร ไม่แน่ใจว่ามีน้ำหอมมั้ยนะคะ เพราะน้องหอมอ่อนๆ แต่ไม่มีแอลกอฮอล์แน่นอนจ้า

เนื้อสัมผัส : เป็นเซรั่มใสๆ เนื้อออกจะเข้มข้น ดูเหมือนซึมยาก แต่พอซึมเข้าสู่ผิวแล้วก็แห้งดีค่ะ ไม่เหนอะผิว

ความชุ่มชื้น : ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก สำหรับผิวที่แห้งขาดน้ำ หรือขาดการบำรุงมานาน ตื่นมาแล้วผิวอิ่มฟูเชียวค่ะ

การระคายเคือง : ไม่มีแอลกอฮอล์

ราคา : 30ml/ 1500 บาท

SKINPLANTS Hyaluronic Oligo Advanced Serum

มากันที่หัวเชื้อไฮยาเข้มข้น จากแบรนด์ Skinplants กันบ้างนะคะ แบรนด์สุดท้ายของการรีวิววันนี้แล้ว ตัวนี้ก็ขวดเล็ก ๆ น่ารักมากเหมือนกันค่ะ มองไกลๆก็รู้แบรนด์ไหน เพราะโดดเด่นมาก 555555 อย่างสกินแพลนท์ก็ทำเซรั่มไฮยาลูโรนิคเข้มข้นบริสุทธิ์ออกมาเหมือนกัน แถมในตัวหัวเชื้อนี้ผ่านกระบวนการสกัด Biotechnology ร่วมกับเทคโนโลยีพิเศษ Triple Moisturizing effect ที่รวบรวมโมเลกุลไฮยาลูโรนิคถึง 3 ชนิด เพื่อตรงเข้าบำรุงผิวได้ทุกระดับชั้น เพื่อผิวชุ่มชื้นและยาวนาน 72 ชั่วโมงเลยค่ะ

หลังจากที่ลองใช้ : ขวดนี้ช่วยอะไรบ้าง ขวดนี้ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ยืดหยุ่น กระชับเต่งตึง เติมเต็มริ้วรอยร่องลึกให้กลับมาเรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง พร้อมปลอบประโลมผิว และลดการอักเสบ อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว เห็นทางแบรนด์บอกมาว่างี้นะคะ อ่ะมาดูฝั่งเรา หลังจากที่เราใช้เองแล้วรู้สึกได้ว่าผิวของเรากระชับขึ้นนะคะ ช่วงที่เราเป็นสิวฮอร์โมน รู้สึกว่าสิวไม่ค่อยอักเสบ ??

เนื้อสัมผัส : เป็นเซรั่มใสๆ เหลวๆ ไม่ข้นหนืด กำลังดี กลิ่นอ่อนๆ มากๆ

ความชุ่มชื้น : ให้ความชุ่มชื่นผิวได้ดี จบที่ตัวเดียวได้ หรือไปผสมอย่างอื่นก็ดีมากค่ะ

การระคายเคือง : มีแอลกอฮอล์ หากใครแพ้หรือระคายเคืองง่ายต้องลองหน้าร้านก่อนนะคะ

ราคา : 10ml/ 285 บาท

สรุป

จริงๆจากที่เราใช้ ๆ มา แล้วเก็บผลลัพธ์การใช้มาเรื่อย ๆ รวมถึงกับที่ใช้เองอยู่แล้วก็รู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นคนที่ขี้เกียจพอสมควรค่ะ 555555555 รู้สึกว่าการต้องผสมอะไรมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ว่าพอต้องมาผสม ๆ เองแล้วรู้สึกว่ามันยังไม่ได้ ไม่เท่ากับสิ่งสำเร็จที่พร้อมเสิร์ฟ คือทาอันนี้แล้วจบ แบบนั้นมากกว่า อันนี้สำหรับส่วนตัวของเราเองนะคะ

แต่ถ้าใครไม่ต้องการผิวดิ้วอี้ ฉ่ำวาวมาก ต้องการสร้างผิวแข็งแรงจากชั้นผิว แนะนำระหว่างเวลาพาโน่ และสกินแพลนท์นะ อันนี้สำหรับเราถือว่าความเข้มข้นของเนื้อครีมพอสมควร ใช้แล้วไม่ต้องไปทานั่นนี่เยอะ ใช้ไปแค่สัปดาห์เดียวก็รู้สึกได้ว่าผิวดีขึ้นสึก เนียนละเอียด ผิวกระจ่างใสขึ้นนิดหน่อยด้วย เหมือนนอนมาเยอะมาก 5555 แต่เอาจริงๆคือนอนน้อยมาก ลองดูเก็บไว้เป็นส่วนช่วยตัดสินใจในการซื้อแล้วกันนะคะ 

แต่ที่สำคัญเลย ต่อให้เราใช้ราคาดีและแพงแค่ไหน แต่ถ้าเรากินน้ำน้อย 

พักผ่อนน้อยสะสมกันเป็นเวลานาน ๆ ก็จบเกมส์เหมือนกันนะคะ 

สิ่งเหล่านี้ต้องทำควบคู่กันไปนั่นเอง มาพักหลังเมย์ก็พยายามเตือนตัวเองตั้งเวลาดื่มน้ำเรื่อย ๆ เพราะเมื่อก่อนเป็นคนดื่มน้ำน้อย 

ทำโน่นนี่นั่นเพลินลืมดื่มน้ำ?? ใช้สกินแคร์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้อิ่มน้ำ กระจ่างใสไปพร้อมกัน สำหรับวันนี้ไปแล้วค่ะ 

คราวหน้าจะกลับมาเขียนกระทู้อะไรติดตามกันด้วยน้าใช้อะไรดี

แวะมาคอมเมนต์บอกกันหน่อยน้า บ๊ายบายยย

??????