เปรียบเทียบ KLAVUU Cushion 2 สูตร ตัวไหนดีกว่ากัน ต่างกันยังไง
Beauty By Orangina 57 12
วันนี้ส้มก็จะเอาคูชั่น ของแบรนด์ KLAVUU มารีวิวให้ได้ดู 2 รุ่นด้วยกัน ซึ่งก็คือ
KLAVUU Urban Pearlsation High Coverage Tension Cushion SPF50+/PA++++ (ตลับเทา)
KLAVUU High Coverage Marine Collagen Aqua Cushion SPF50+/PA+++ (ตลับน้ำเงิน)
?:: VDO REVIEW ::?
หน้าตาคูชั่นก็จะเหมือนกันเลยค่ะ ก็ไม่ต่างจากคูชั่นทั่วไป
พัฟฟ์ก็จะเหมือนกันทั้งสองรุ่นเลยค่ะ ซึ่งพัฟฟ์ของเค้าโอเคมากเลยค่ะ
ดูดซับเนื้อคูชั่นได้ดีทีเดียว ทำให้การเกลี่ยคูชั่นง่ายขึ้น
เราแตะนิดเดียว คูชั่นก็ติดพัฟฟ์ขึ้นมาในปริมาณที่พอเหมาะเลยค่ะ
ฉะนั้นเวลาใช้ กดเบาๆ นะคะ
พัฟฟ์ก็จะเหมือนกันทั้งสองรุ่นเลยค่ะ ซึ่งพัฟฟ์ของเค้าโอเคมากเลยค่ะ
ดูดซับเนื้อคูชั่นได้ดีทีเดียว ทำให้การเกลี่ยคูชั่นง่ายขึ้น
เราแตะนิดเดียว คูชั่นก็ติดพัฟฟ์ขึ้นมาในปริมาณที่พอเหมาะเลยค่ะ
ฉะนั้นเวลาใช้ กดเบาๆ นะคะ
ทั้ง 2 รุ่นนี้จะเป็นสีเบอร์ 23 เหมือนกันนะคะ
แต่ถ้าดูจากสีแล้ว จะไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว
แต่ถ้าดูจากสีแล้ว จะไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว
ซึ่งพอ swatch สีที่ท้องแขนแล้ว ตลับเทาจะดูสีสว่างกว่าตลับน้ำเงิน
แต่พอผ่านไป 5 นาที ตัวคูชั่นก็มีการ oxidize ทำปฏิกิริยากับอากาศภายนอก
สีก็จะมีดร๊อปลงค่ะ กลายเป็นว่า
แต่ถ้าสังเกตดีดี ตลับเทานั้น จะดูมีความชุ่มชื้น ดูเงาๆ กว่า
ทั้ง 2 สูตรจะเป็นคูชั่นที่มี undertone ชมพูทั้งคู่เลยค่ะ
แต่พอผ่านไป 5 นาที ตัวคูชั่นก็มีการ oxidize ทำปฏิกิริยากับอากาศภายนอก
สีก็จะมีดร๊อปลงค่ะ กลายเป็นว่า
แต่ถ้าสังเกตดีดี ตลับเทานั้น จะดูมีความชุ่มชื้น ดูเงาๆ กว่า
ทั้ง 2 สูตรจะเป็นคูชั่นที่มี undertone ชมพูทั้งคู่เลยค่ะ
เมื่อทดลองทากับผิวหน้า
ในรูปด้านล่างส้มได้ทดลอง KLAVUU High Coverage Marine Collagen Aqua Cushion SPF50+/PA+++ (ตลับน้ำเงิน) ก่อนนะคะ
จากหน้าตลับเนี่ย จะเห็นชัดเลยว่า เค้าระบุว่านี่คือ High Coverage แต่ว่าพอได้ลองกับผิวหน้าจริงๆ แล้ว
ส้มรู้สึกว่ามันค่อนไปทาง Sheer Coverage มากกว่าค่ะ
เพราะว่าหน้าฝั่งนี้ส้มมีปัญหาสิว มีรอยสิวอยู่ พวกรอยดำจากสิวเนี่ย ถือว่าปกปิดได้กลางๆ ค่ะ ยังเห็นรอยจางๆ อยู่
แต่รอยแดงต่างๆ ถือว่า ปกปิดได้ค่อนข้างดีค่ะ ลุคที่ได้จะไปทาง semi-matte หน่อยๆ
แต่ไม่ได้รู้สึกหนักผิวมากนัก แล้วก็ไม่ได้รู้สึกแห้งแม้จะลุคที่ได้จะไม่ได้ฉ่ำวาวนัก
เบอร์ 23 ของรุ่นนี้ ตอนแรกทาออกมา มันจะดูขาวกว่าผิวค่ะ แต่พอผ่านไปสัก 5-10 นาทีก็เริ่มดร๊อปลงกว่าตอนแรกค่ะ
คูชั่นสูตรนี้ ทาแล้วจะรู้สึกเย็นสบายผิว มันช่วย cool down ผิวด้วยนะคะ
มีกลิ่นหอมเย็นๆ อ่อนๆ นึกถึงกลิ่นไอทะเลยามเย็นประมาณนั้นเลยค่ะ
ส้มรู้สึกว่ามันค่อนไปทาง Sheer Coverage มากกว่าค่ะ
เพราะว่าหน้าฝั่งนี้ส้มมีปัญหาสิว มีรอยสิวอยู่ พวกรอยดำจากสิวเนี่ย ถือว่าปกปิดได้กลางๆ ค่ะ ยังเห็นรอยจางๆ อยู่
แต่รอยแดงต่างๆ ถือว่า ปกปิดได้ค่อนข้างดีค่ะ ลุคที่ได้จะไปทาง semi-matte หน่อยๆ
แต่ไม่ได้รู้สึกหนักผิวมากนัก แล้วก็ไม่ได้รู้สึกแห้งแม้จะลุคที่ได้จะไม่ได้ฉ่ำวาวนัก
เบอร์ 23 ของรุ่นนี้ ตอนแรกทาออกมา มันจะดูขาวกว่าผิวค่ะ แต่พอผ่านไปสัก 5-10 นาทีก็เริ่มดร๊อปลงกว่าตอนแรกค่ะ
คูชั่นสูตรนี้ ทาแล้วจะรู้สึกเย็นสบายผิว มันช่วย cool down ผิวด้วยนะคะ
มีกลิ่นหอมเย็นๆ อ่อนๆ นึกถึงกลิ่นไอทะเลยามเย็นประมาณนั้นเลยค่ะ
ส่วนรูปด้านล่างนี้ ส้มได้ทา KLAVUU Urban Pearlsation High Coverage Tension Cushion SPF50+/PA++++ (ตลับเทา) นะคะ
ซึ่งตลับเทานี้ จะออกโทนชมพูหน่อยๆ ก็กลบรอยแดงของผิวได้ดีเหมือนกันเลยค่ะ
มันจะให้ผิวดูชุ่มชื้น ฉ่ำกว่าตัวตลับสีน้ำเงิน (แต่ทำไมถ่ายรูปนี้มาไม่ค่อยเห็น 55)
อำพรางรูขุมขนได้ดี ทำให้ผิวดูสวยขึ้น ผิวดูเนียนละเอียดขึ้นค่ะ
ซึ่งตลับเทานี้ จะออกโทนชมพูหน่อยๆ ก็กลบรอยแดงของผิวได้ดีเหมือนกันเลยค่ะ
มันจะให้ผิวดูชุ่มชื้น ฉ่ำกว่าตัวตลับสีน้ำเงิน (แต่ทำไมถ่ายรูปนี้มาไม่ค่อยเห็น 55)
อำพรางรูขุมขนได้ดี ทำให้ผิวดูสวยขึ้น ผิวดูเนียนละเอียดขึ้นค่ะ
ความรู้สึกหลังใช้
ส้มขอสรุปจากความรู้สึกจริงตามนี้เลยนะคะ เริ่มจากเรื่องของเฉดสีก่อนเลยค่ะบอกตามตรงว่า เบอร์ 23 ของแบรนด์ KLAVUU นี้จะขาวกว่าเบอร์ 23 ของแบรนด์เกาหลีอื่นๆ ที่ใช้
ถ้าเทียบแล้ว เบอร์ 23 ของ KLAVUU จะประมาณสีเบอร์ 21 ของคูชั่นเกาหลีทั่วไปค่ะ
สรุป …… สีเบอร์ 23 ก็ยังขาวกว่าผิวอยู่ดีค่ะ 555555 ต้องทาทีละนิดๆ เอา
และโทนสีก็จะออกชมพูทั้งคู่เลย ไม่ค่อยออกเหลืองเท่าไหร่นัก
ส้มเป็นคนผิวผสม มันทีโซนเล็กน้อย แล้วก็มีรอยสิว
สำหรับส้ม พอได้ลองใช้มาซักพักแล้ว ส้มชอบตลับสีเทามากกว่าสีน้ำเงิน
เพราะ ตลับเทา ให้งานผิวที่ดูสวยกว่า ผิวดูเนียนละเอียดขึ้น อำพรางรูขุมขน
ปกปิดพวกรอยสิว ทั้งรอยแดง รอยดำ แม้แต่เส้นเลือดฝอยได้ดีกว่า
ให้ผิวมีความชุ่มชื้น ผิวดูกระจ่างใสขึ้นผิวจะดูเงาๆ ดูกระจายแสงได้ดี
ผิวจะดูเป็น Dewy Finish ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ฉ่ำน้ำมากนัก
สีของคูชั่นรุ่นนี้ พอเวลาผ่านไป สัก 1 ชั่วโมง มันจะเริ่มดร๊อปลงมาอีก ก็จะดูกลืนกับสีผิวได้ดีกว่าตลับน้ำเงิน
สำหรับตลับน้ำเงินเนี่ย ส้มชอบตรงที่ แม้จะให้ลุคที่ไม่ได้ดูฉ่ำเท่ากับตลับเทา
แต่ยังให้ความชุ่มชื้นผิวได้ดี แล้วเวลาทาจะรู้สึกเย็นสบายผิว เพราะตัวนี้เค้าช่วยลดอุณหภูมิผิวในตัวค่ะ
ทั้ง 2 สูตร ไม่ได้คุมมันนะคะ
หากใครผิวมัน อาจจะต้องใช้การลง Primer + แป้งฝุ่นคุมมัน ควบคู่ด้วยค่ะ
มันจะเหมาะกับคนผิวแห้งมากกว่า ผิวผสมอย่างส้ม ระหว่างวัน ร่องจมูก มุมปากก็จะมัน และหลุดไปบ้างค่ะ
ก็ค่อยเอามาเติมระหว่างวันเอาค่ะ
พอผ่านไป 3 ชั่วโมง (อยู่ในห้องแอร์อย่างเดียว)
ผลปรากฏว่า ตลับเทา ผิวยังคงสวยชุ่มชื้นอยู่ มันแถวร่องจมูกกับคางบ้างค่ะ
ไม่แห้งแตก หรือตกร่อง
ส่วนด้านนี้ที่ทาตลับน้ำเงิน มันก็จะมีหลุดไปบ้าง ทำให้เห็นรอยดำสิวชัดขึ้นกว่าเดิมค่ะ
ส่วนตัวส้มรู้สึกว่า ตัวนี้มันไม่เกาะผิวดีเท่ากับตลับสีเทาเท่าไหร่ค่ะ
แต่ข้อดีคือ มันยังให้ความชุ่มชื้นผิวอยู่ค่ะ
ส่วนตัวส้มรู้สึกว่า ตัวนี้มันไม่เกาะผิวดีเท่ากับตลับสีเทาเท่าไหร่ค่ะ
แต่ข้อดีคือ มันยังให้ความชุ่มชื้นผิวอยู่ค่ะ
หลังจากที่ใช้มาได้ซักพักส้มขอสรุปง่ายๆ ตามนี้นะคะ
ตลับน้ำเงิน จะเหมาะกับ คนที่ผิวไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่นัก ผิวที่ต้องการความชุ่มชื้น
เป็นเหมือน รองพื้น+สกินแคร์ในตัวเดียว ให้ผิวเบาสบาย ลดอุณหภูมิผิวได้ดี
เหมาะกับผิวแห้งหรือผิวผสม
ตลับสีเทา จะเหมาะกับ คนที่ผิวมีจุดบกพร่องต้องการการปกปิดพิเศษ
เช่น คนที่มีรอยสิว รอยดำ รอยแดง จุดด่างดำ แต่ยังให้ความชุ่มชื้นผิวดีอยู่
เหมาะกับผิวแห้งหรือผิวผสม
*ยังไงก็แล้วแต่ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของส้มนะคะ
แนะนำว่าให้ลองด้วยตัวเองอีกทีค่ะ เพราะผลลัพธ์อาจจะแตกต่างกันนะคะ
ราคา
ส้มพรีออเดอร์จากเกาหลีมาอีกทีค่ะ
ตลับเทาประมาณ 900 บาท / ตลับน้ำเงิน ประมาณ 800 บาทค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านรีวิวนี้ด้วยนะคะ