สองลูกรักพลัง X2 เพื่อผิวมันขาดน้ำ ที่สุดของ Clarins รักไม่เคยเปลี่ยนแปลง
Wave1992 65 19
เวฟ...ผิวมันขาดน้ำเป็นยังไง นี่หน้าเพื่อนมันมาก ใช้ครีมบำรุงสูตรคุมมันก็ยังเมือก ผิวดูไม่สดใส สากๆ สรุปหน้าเพื่อนเป็นแบบไหน ใช้อะไรดี?
มีคำถามของวันนี้มาให้คิด... เวฟเองก็เคยมีปัญหาเดียวกันมาก่อน ผิวมันแต่ขาดน้ำ หน้าผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาไม่หยุด ซับด้วยกระดาษซับหน้ามันแบบถี่ๆ ยิ่งซับยิ่งแย่ จนมาทราบว่าตัวเองมีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื่น เป็นเหตุให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวมากกว่าปกติ พอเจอกับมลภาวะฝุ่น แดด ลม และปัจจัยอื่นๆรอบตัว น้ำมันที่เกิดการหมักหมมกลายเป็นสิวอุดตัน เจ็บสุดก็ปลายร่างเป็นสิวอักเสบครับ
ปัจจุบันปัญหาผิวขาดน้ำของเวฟดีขึ้นมาก ผิวหน้าก็มันลดลง ซึ่งเวฟคิดว่ามาจากการที่ความชุ่มชื่นบนผิวหน้ามีความสมดุลมากขึ้น ซึ่งคุณความดีนี้เวฟขอยกให้เซรั่มบำรุงผิวจากแบรนด์ดังอย่าง Clarins แบรนด์นี้เวฟใช้เพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น และซื้อใช้ซ้ำจริงๆแบบขาดไม่ได้ เพราะเวลาไม่ได้ใช้ เวฟรู้สึกว่าหน้ามันไม่มีชีวิตชีวา อารมณ์แบบบัวแล้งน้ำ เหี่ยว ไม่เบ่งบาน
ก่อนหน้านี้เวฟเคยรีวิวกันไปแล้ว ใครพลาดก็มาตามอ่านรีวิวนี้กันครับ ในรอบนี้ขอจัดเพิ่มอีกนิดว่าการใช้เซรั่ม 2 สูตร เป็นเสมือนพลัง X2 ให้กับผิวจริงๆ จะพูดว่าเป็นลูกรักที่เวฟให้ยืนหนึ่งในแบรนด์ Clarins เลยก็ว่าได้ ไม่ได้อวยกันนะ แต่ใช้แล้วดี เลยอยากจะบอกต่อครับ
เซรั่มตัวแรกที่หลายคนต้องรู้จักกันดีอยู่แล้ว Clarins Double Serum (Hydric + Lipidic System) และ อีกตัวที่เวฟอยากให้ได้ลองก็คือ Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum ครับ
Clarins Double Serum เป็นเซรั่มอันดับ 1 ของทางแบรนด์ ให้ผลลัพธ์ในเรื่องการต่อต้านริ้วรอยไปพร้อมกับการเติมเต็มความชุ่มชื่นให้กับผิว โดยเป็นเซรั่มกึ่งน้ำมันผ่านเทคนิคการรวม Hydric (สารเหลวเนื้อน้ำ) เข้ากับ Lipidic (สารเหลวเนื้อน้ำมัน) ซึ่งเวลากดหัวปั้มเซรั่ม เราจะได้เซรั่มมาในรูปของน้ำและน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ เซรั่มกึ่งน้ำมันตัวนี้จึงสามารถทำงานได้ดีกับทุกสภาพผิวตั้งแต่ผิวแห้งไปจนถึงผิวมันครับ
Clarins Double Serum ตัวนี้แม้จะมีส่วนผสมของน้ำมัน แต่ก็มีความบางเบาสบายผิว กลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆก็ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ขณะปรนิบัติผิวได้เป็นอย่างดีครับ
จุดเด่นที่สำคัญคงหนีไม่พ้นส่วนผสม เพราะมีสารอัดแน่นที่ช่วยเรื่องริ้วรอย ความชุ่มชื่น และความกระจ่างใส เวฟขออนุญาติรวมกลุ่มสารโดยแบ่งตามคุณประโยชน์ ดังนี้
กลุ่มสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ Tocopheryl Acetate, Avena Sativa (Oat) Kernel Extract สารสกัดจากโอ๊ต, Persea Gratissima (Avocado) Oil Unsaponifiables สารสกัดน้ำมันอะโวคาโด, Curcuma Longa (Turmeric) Root Extract สารสกัดจากขมิ้น และ Salicornia Herbacea Extract สารสกัดจากสาหร่ายที่มีสาร Antioxidant สูง
กลุ่มสารให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ได้แก่ Glycerin, Pentylene Glycol, Squalane น้ำมันที่ช่วยเรื่องสมดุลความชุ่มชื่นของผิว เสมือนน้ำมันในชั้นผิวหนังมนุษย์, Tocopherol (Vitamin E), Persea Gratissima (avocado) Oil Unsaponifiables น้ำมันสกัดจากอะโวคาโด และ Avena Sativa (oat) Kernel Extract สารสกัดจากโอ๊ต
กลุ่มความกระจ่างใส ได้แก่ Ascorbic Acid (Vitamin C) และ Curcuma Longa (Turmeric) Root Extract สารสกัดจากขมิ้น
จะเห็นได้ว่าส่วนผสมหลักๆของเซรั่มขวดนี้จะเน้นสารสกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก จึงลดโอกาสการระคายเคืองในผิวบอบบางได้ แม้จะเป็นเซรั่มผสมน้ำมันก็ตาม
ทั้งนี้เซรั่มขวดนี้มีน้ำหอมผสมอยู่ด้วย ใครกลัวจะแพ้ เวฟแนะนำให้ไปลองทดสอบเนื้อผลิตภัณฑ์กันก่อนครับ สำหรับเวฟ เวฟใช้เซรั่มตัวนี้ทั้งเช้าและก่อนนอน โดยใช้เป็นขั้นตอนเซรั่ม ก่อนที่จะลงสกินแคร์บำรุงตัวอื่นถัดไปครับ
Double Serum ครองใจเวฟได้ก็เพราะ คุณสมบัติผ่านส่วนผสมที่เวฟเชื่อถือและอีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ในเรื่องของความชุ่มชื่น การปรับสมดุลผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และชะลอริ้วรอยแห่งวัยครับ
แค่เซรั่มตัวแรกก็ว่าดีเด็ดแล้ว แต่พอเวฟได้เพิ่มเซรั่มสูตรเติมน้ำให้ผิวโดยเฉพาะเข้าไป ก็ยิ่งดีกว่าเดิม ผิวอิ่มฟูมากขึ้นครับ เซรั่มที่จะกล่าวถึงคือ Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum ตัวนี้เซรั่มกึ่งน้ำกึ่งน้ำมันครับ โดยมีเนื้อที่เหลวและเบากว่า Double Serum เนื้อเซรั่มสีฟ้าอาจจะน่ากลัวนิดนึงเพราะมีการใส่สีปรุงแต่งขึ้นมา ส่วนเรื่องกลิ่น เวฟขอการันตีว่าหอมมาก หอมจนให้อภัยในเรื่องของการผสมน้ำหอมเข้ามากันเลยทีเดียว
Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum ขวดนี้มีจุดเด่นในเรื่องการเติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิวขาดน้ำโดยเฉพาะ ด้วยความที่เป็นเนื้อเหลวบางเบาจึงเหมาะกับทุกสภาพผิว
นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนผสม Leaf of Life (Kalanchoe Pinnata Leaf) หรือ Miracle Leaf หรือเรียกว่าต้น“คว่ำตายหงายเป็น” ในชื่อไทยครับ โดยทางแบรด์ค้นพบว่า พืชชนิดนี้มีสารสำคัญต่อการเติมเต็มความชุ่มชื่นที่เหมาะสมกับผิวหนังมนุษย์
เมื่อดูที่ส่วนผสมจะพบว่า เซรั่มขวดนี้มีสารให้ความชุ่มชื่นอยู่หลายตัวครับ ได้แก่ Glycerin, Kalanchoe Pinnata Leaf Extract (คว่ำตายหงายเป็น), Tocopherol (Vitamin E), Xylitol, Xylitylglucoside, Anhydroxylitol, Glucose, Pentylene Glycol
นอกจากนี้ก็ยังมีสารบำรุงอื่นๆที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสของผิวหน้า ได้แก่ Ascorbic Acid (Vitamin C), Callicarpa Japonica Fruit Extract สารสกัดผลไม้ตระกูลเบอรี่, Citric Acid (มีความเป็นกรดอ่อนๆ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว)
สำหรับ Clarins Hydra-Essentiel Bi-Phase Serum เวฟใช้ทั้งเช้าและก่อนนอนครับ ทุกครั้งที่ใช้จะได้ความรู้สึกเย็นสบายผิว อีกทั้งความหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เมื่อใช้ไปสักระยะหนึ่ง ความเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้คือความยืดหยุ่นของผิว ผิวกระชับมากขึ้น หน้าไม่ค่อยมีผด ไม่มีความแห้งกร้าน ที่สำคัญที่สุดคือผิวหน้าดูสุขภาพดีครับ
จากประสบการณ์ที่ใช้เซรั่มทั้ง Double Serum และ Hydra-Essential Bi-Phase Serum ซ้ำๆมาหลายขวดแล้ว เวฟคิดว่าสองตัวนี้คือคู่พี่น้องต่างไลน์ที่ส่งเสริมการทำงานเรื่องการฟื้นฟูผิวขาดน้ำได้อย่างดี เมื่อผิวอิ่มน้ำ สุขภาพดี เรื่องริ้วรอยก็ยากที่จะมาเยือนครับ
สุดท้ายนี้ เวฟเชื่อว่าผิวหน้าที่มีความมันสามารถบำรุงให้ดีขึ้นได้เมื่อเราเข้าใจสภาพผิว ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวมันแต่ทำไมดูแห้งๆ โทรมๆ ไม่มีชีวิตชีวา อาจจะลองเซรั่มตัวใดตัวหนึ่งนี้ หรือถ้าต้องการพลัง X2 ก็ลองใช้คู่กันดูนะครับ เซรั่ม 2 ตัวนี้ใช้ร่วมกันได้ หากเป็นกังวลว่าจะมากไป หรือกลัวน้ำมันที่ผสมในเซรั่มทั้งสองจะทำให้ผิวอุดตัน ก็ให้สลับช่วงเวลากันใช้ครับ เวฟใช้หน้าไม่มันเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม ผิวมันลดลง ไม่ต้องใช้กระดาษซับหน้ามันบ่อยๆอีกเลย
รีวิวนี้เป็นรีวิวสรุปสกินแคร์ลูกรักสำหรับผิวมันขาดน้ำ เวฟเขียนเพื่อตอบคำถามเพื่อนสาวที่ถามเข้ามา และเวฟก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่มีปัญหาเดียวกัน หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
- ขอบคุณครับ -
มีคำถามของวันนี้มาให้คิด... เวฟเองก็เคยมีปัญหาเดียวกันมาก่อน ผิวมันแต่ขาดน้ำ หน้าผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาไม่หยุด ซับด้วยกระดาษซับหน้ามันแบบถี่ๆ ยิ่งซับยิ่งแย่ จนมาทราบว่าตัวเองมีปัญหาผิวขาดความชุ่มชื่น เป็นเหตุให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวมากกว่าปกติ พอเจอกับมลภาวะฝุ่น แดด ลม และปัจจัยอื่นๆรอบตัว น้ำมันที่เกิดการหมักหมมกลายเป็นสิวอุดตัน เจ็บสุดก็ปลายร่างเป็นสิวอักเสบครับ
ปัจจุบันปัญหาผิวขาดน้ำของเวฟดีขึ้นมาก ผิวหน้าก็มันลดลง ซึ่งเวฟคิดว่ามาจากการที่ความชุ่มชื่นบนผิวหน้ามีความสมดุลมากขึ้น ซึ่งคุณความดีนี้เวฟขอยกให้เซรั่มบำรุงผิวจากแบรนด์ดังอย่าง Clarins แบรนด์นี้เวฟใช้เพียงแค่ 2 ตัวเท่านั้น และซื้อใช้ซ้ำจริงๆแบบขาดไม่ได้ เพราะเวลาไม่ได้ใช้ เวฟรู้สึกว่าหน้ามันไม่มีชีวิตชีวา อารมณ์แบบบัวแล้งน้ำ เหี่ยว ไม่เบ่งบาน
ก่อนหน้านี้เวฟเคยรีวิวกันไปแล้ว ใครพลาดก็มาตามอ่านรีวิวนี้กันครับ ในรอบนี้ขอจัดเพิ่มอีกนิดว่าการใช้เซรั่ม 2 สูตร เป็นเสมือนพลัง X2 ให้กับผิวจริงๆ จะพูดว่าเป็นลูกรักที่เวฟให้ยืนหนึ่งในแบรนด์ Clarins เลยก็ว่าได้ ไม่ได้อวยกันนะ แต่ใช้แล้วดี เลยอยากจะบอกต่อครับ
เซรั่มตัวแรกที่หลายคนต้องรู้จักกันดีอยู่แล้ว Clarins Double Serum (Hydric + Lipidic System) และ อีกตัวที่เวฟอยากให้ได้ลองก็คือ Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum ครับ
Clarins Double Serum เป็นเซรั่มอันดับ 1 ของทางแบรนด์ ให้ผลลัพธ์ในเรื่องการต่อต้านริ้วรอยไปพร้อมกับการเติมเต็มความชุ่มชื่นให้กับผิว โดยเป็นเซรั่มกึ่งน้ำมันผ่านเทคนิคการรวม Hydric (สารเหลวเนื้อน้ำ) เข้ากับ Lipidic (สารเหลวเนื้อน้ำมัน) ซึ่งเวลากดหัวปั้มเซรั่ม เราจะได้เซรั่มมาในรูปของน้ำและน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ เซรั่มกึ่งน้ำมันตัวนี้จึงสามารถทำงานได้ดีกับทุกสภาพผิวตั้งแต่ผิวแห้งไปจนถึงผิวมันครับ
Clarins Double Serum ตัวนี้แม้จะมีส่วนผสมของน้ำมัน แต่ก็มีความบางเบาสบายผิว กลิ่นหอมดอกไม้อ่อนๆก็ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ขณะปรนิบัติผิวได้เป็นอย่างดีครับ
จุดเด่นที่สำคัญคงหนีไม่พ้นส่วนผสม เพราะมีสารอัดแน่นที่ช่วยเรื่องริ้วรอย ความชุ่มชื่น และความกระจ่างใส เวฟขออนุญาติรวมกลุ่มสารโดยแบ่งตามคุณประโยชน์ ดังนี้
กลุ่มสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ Tocopheryl Acetate, Avena Sativa (Oat) Kernel Extract สารสกัดจากโอ๊ต, Persea Gratissima (Avocado) Oil Unsaponifiables สารสกัดน้ำมันอะโวคาโด, Curcuma Longa (Turmeric) Root Extract สารสกัดจากขมิ้น และ Salicornia Herbacea Extract สารสกัดจากสาหร่ายที่มีสาร Antioxidant สูง
กลุ่มสารให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ได้แก่ Glycerin, Pentylene Glycol, Squalane น้ำมันที่ช่วยเรื่องสมดุลความชุ่มชื่นของผิว เสมือนน้ำมันในชั้นผิวหนังมนุษย์, Tocopherol (Vitamin E), Persea Gratissima (avocado) Oil Unsaponifiables น้ำมันสกัดจากอะโวคาโด และ Avena Sativa (oat) Kernel Extract สารสกัดจากโอ๊ต
กลุ่มความกระจ่างใส ได้แก่ Ascorbic Acid (Vitamin C) และ Curcuma Longa (Turmeric) Root Extract สารสกัดจากขมิ้น
จะเห็นได้ว่าส่วนผสมหลักๆของเซรั่มขวดนี้จะเน้นสารสกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก จึงลดโอกาสการระคายเคืองในผิวบอบบางได้ แม้จะเป็นเซรั่มผสมน้ำมันก็ตาม
ทั้งนี้เซรั่มขวดนี้มีน้ำหอมผสมอยู่ด้วย ใครกลัวจะแพ้ เวฟแนะนำให้ไปลองทดสอบเนื้อผลิตภัณฑ์กันก่อนครับ สำหรับเวฟ เวฟใช้เซรั่มตัวนี้ทั้งเช้าและก่อนนอน โดยใช้เป็นขั้นตอนเซรั่ม ก่อนที่จะลงสกินแคร์บำรุงตัวอื่นถัดไปครับ
Double Serum ครองใจเวฟได้ก็เพราะ คุณสมบัติผ่านส่วนผสมที่เวฟเชื่อถือและอีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ในเรื่องของความชุ่มชื่น การปรับสมดุลผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และชะลอริ้วรอยแห่งวัยครับ
แค่เซรั่มตัวแรกก็ว่าดีเด็ดแล้ว แต่พอเวฟได้เพิ่มเซรั่มสูตรเติมน้ำให้ผิวโดยเฉพาะเข้าไป ก็ยิ่งดีกว่าเดิม ผิวอิ่มฟูมากขึ้นครับ เซรั่มที่จะกล่าวถึงคือ Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum ตัวนี้เซรั่มกึ่งน้ำกึ่งน้ำมันครับ โดยมีเนื้อที่เหลวและเบากว่า Double Serum เนื้อเซรั่มสีฟ้าอาจจะน่ากลัวนิดนึงเพราะมีการใส่สีปรุงแต่งขึ้นมา ส่วนเรื่องกลิ่น เวฟขอการันตีว่าหอมมาก หอมจนให้อภัยในเรื่องของการผสมน้ำหอมเข้ามากันเลยทีเดียว
Clarins Hydra-Essential Bi-Phase Serum ขวดนี้มีจุดเด่นในเรื่องการเติมเต็มความชุ่มชื่นให้ผิวขาดน้ำโดยเฉพาะ ด้วยความที่เป็นเนื้อเหลวบางเบาจึงเหมาะกับทุกสภาพผิว
นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนผสม Leaf of Life (Kalanchoe Pinnata Leaf) หรือ Miracle Leaf หรือเรียกว่าต้น“คว่ำตายหงายเป็น” ในชื่อไทยครับ โดยทางแบรด์ค้นพบว่า พืชชนิดนี้มีสารสำคัญต่อการเติมเต็มความชุ่มชื่นที่เหมาะสมกับผิวหนังมนุษย์
เมื่อดูที่ส่วนผสมจะพบว่า เซรั่มขวดนี้มีสารให้ความชุ่มชื่นอยู่หลายตัวครับ ได้แก่ Glycerin, Kalanchoe Pinnata Leaf Extract (คว่ำตายหงายเป็น), Tocopherol (Vitamin E), Xylitol, Xylitylglucoside, Anhydroxylitol, Glucose, Pentylene Glycol
นอกจากนี้ก็ยังมีสารบำรุงอื่นๆที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสของผิวหน้า ได้แก่ Ascorbic Acid (Vitamin C), Callicarpa Japonica Fruit Extract สารสกัดผลไม้ตระกูลเบอรี่, Citric Acid (มีความเป็นกรดอ่อนๆ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว)
สำหรับ Clarins Hydra-Essentiel Bi-Phase Serum เวฟใช้ทั้งเช้าและก่อนนอนครับ ทุกครั้งที่ใช้จะได้ความรู้สึกเย็นสบายผิว อีกทั้งความหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ เมื่อใช้ไปสักระยะหนึ่ง ความเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้คือความยืดหยุ่นของผิว ผิวกระชับมากขึ้น หน้าไม่ค่อยมีผด ไม่มีความแห้งกร้าน ที่สำคัญที่สุดคือผิวหน้าดูสุขภาพดีครับ
จากประสบการณ์ที่ใช้เซรั่มทั้ง Double Serum และ Hydra-Essential Bi-Phase Serum ซ้ำๆมาหลายขวดแล้ว เวฟคิดว่าสองตัวนี้คือคู่พี่น้องต่างไลน์ที่ส่งเสริมการทำงานเรื่องการฟื้นฟูผิวขาดน้ำได้อย่างดี เมื่อผิวอิ่มน้ำ สุขภาพดี เรื่องริ้วรอยก็ยากที่จะมาเยือนครับ
สุดท้ายนี้ เวฟเชื่อว่าผิวหน้าที่มีความมันสามารถบำรุงให้ดีขึ้นได้เมื่อเราเข้าใจสภาพผิว ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวมันแต่ทำไมดูแห้งๆ โทรมๆ ไม่มีชีวิตชีวา อาจจะลองเซรั่มตัวใดตัวหนึ่งนี้ หรือถ้าต้องการพลัง X2 ก็ลองใช้คู่กันดูนะครับ เซรั่ม 2 ตัวนี้ใช้ร่วมกันได้ หากเป็นกังวลว่าจะมากไป หรือกลัวน้ำมันที่ผสมในเซรั่มทั้งสองจะทำให้ผิวอุดตัน ก็ให้สลับช่วงเวลากันใช้ครับ เวฟใช้หน้าไม่มันเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม ผิวมันลดลง ไม่ต้องใช้กระดาษซับหน้ามันบ่อยๆอีกเลย
รีวิวนี้เป็นรีวิวสรุปสกินแคร์ลูกรักสำหรับผิวมันขาดน้ำ เวฟเขียนเพื่อตอบคำถามเพื่อนสาวที่ถามเข้ามา และเวฟก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่มีปัญหาเดียวกัน หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ
- ขอบคุณครับ -