ตระกูล Himalaya เวชสำอางธรรมชาติเพื่อผิวแพ้ง่าย

สวัสดีคะสาวๆจีบัน

 วันนี้เป้กลับมาอีกหนึ่งกระทู้แล้วน่า ไม่ได้กลับมามือเปล่า แต่มาพร้อมกับเวชสําอาง Himalaya Herbal จากประเทศอินเดีย เอาจริงๆไม่ต้องพูดอะไรเยอะทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าแบรนด์นี้เขาดังมาก รีวิวแน่น เพราะเขาเป็นเวชสําอางสายสมุนไพรที่ผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ 100%   คือดีงามมมม

หลายเดือนก่อนสงสารหน้าตัวเองมากอะ55555 ใช้อะไรไปเรื่อยเปื่อย อันไหนใครว่าดีเป้ก็ลอง จนสิวผดขึ้นเต็มหน้า ขึ้นซ้ำที่เดิมก็มี จังหวะนั้นจำได้ว่ามีรุ่นพี่ที่สนิทและเป็นสายสกินแคร์ สายเวชสำอางที่ชอบแชร์แบรนด์อะไรที่ใช้แล้วดี สรุปคำแนะนำของนางคือบอกให้เป้พักหน้าแล้วลองใช้เวชสำงอางที่เป็นธรรมชาติของ Himalaya ดู และพยายามอย่าใช้สารเคมี นี่ก็อึ้งนะ เพราะที่ผ่านมาเป้ก็ใช้พวกครีมที่มีสารมาตลอดอะ อย่างโฟมล้างหน้าก็ชอบพวกฟองเยอะๆ มันรู้สึกสะอาด แต่เปล่าเลยทุกค๊นนนนนน มันคือพาราเบน สารที่ทำให้เกิดฟองซึ่งมันไม่ได้ดีกับผิวเราอ่ะ 

แต่สำหรับ Himalaya Purifying Neem Face Wash ตัวนี้เขาเป็นโฟมล้างหน้าสูตรลดสิว ที่คิดค้นส่วนผสมธรรมชาติของ Neem ซึ่งบอกเลยว่านางเป็นที่สุดของพืชพรรณธรรมชาติในด้านการบำรุงผิวพรรณ มีทั้งวิตามินอี ขมิ้น ใบสะเดา ที่ช่วยเรื่องผิว ช่วยลดแบคทีเรีย ควบคุมและลดโอกาสการเกิดสิว และยังมี Turmeric ที่ช่วยสมานฟื้นฟูผิว ให้ผิวเนียนนุ่ม 

ผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเจลสีเขียวใส ไม่มีฟอง มีกลิ่นหอมธรรมชาติอ่อนๆ อ่อนจริงแม่ ไม่ฉุน ความรู้สึกหลังใช้ หลังจากที่เป้ล้างหน้าเสร็จรู้สึกได้ว่าผิวสดชื่นมากๆและหน้าไม่แห้งตึง แต่ด้วยความที่นางเป็นเจลหลายคนก็คงกังวลว่าอาจทำความสะอาดได้ไม่ล้ำลึก แต่สำหรับเป้ที่เป็นคนแต่งหน้าตลอด บอกเลยว่าเกลี้ยงในระดับหนึ่งเลยค่ะ เพราะหลังจากที่เป้ล้างหน้าเสร็จเป้ก็ใช้โทนเนอร์เช็ดอีกขั้นตอนหนึ่ง แต่ใช้แค่ 2 แผ่นก็ไม่มีคราบอะไรติดออกมาด้วยเลย เริ่ดปะล่า

นอกจากโฟมล้างหน้า ในส่วนของแบรนด์ Himalaya เขายังมีผลิตภัณฑ์อีกหลายๆตัวที่สร้างชื่อ อย่างตัวที่ 2 ที่จะพูดถึงคือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใต้ดวงตา ที่ช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาลงได้ถึง 80 % และลดเลือนริ้วรอย 28 %  ในระยะเวลาแค่ 4 สัปดาห์ รอบดวงตาสว่าง กระจ่างใส ดูเรียบเนียนขึ้น  ตัว Packaging เป็นหลอดบีบ ใช้งานง่ายค่ะทำให้เราคุมปริมาณในการใช้แต่ละครั้งได้ ส่วนเนื้อครีมเป็นสีเนื้ออ่อนๆ ไม่มีกลิ่นน้ำหอม จะเป็นกลิ่นเบสเครื่องสำอาง ชอบตรงที่เกลี่ยง่ายมากกและไม่เหนียวเหนอะหนะเลยค่ะ

จำได้ว่าตลอด1เดือนนี่คือนอนดึก ตาแพนด้ามากกกก ? ใต้ตาคล้ำแบบสุดๆ เป้ทาครีมตัวนี้เป็นประจำอย่างจริงจังด้วยนะ ผลที่ได้คือใต้ตาของเป้ดีขึ้น ไม่โทรม ดูเอาเองงงง ‼️ มีหลักฐาน ?? เป้เลยรู้สึกว่าเจ้าครีมตัวนี้ให้ผลดีเลยอ่ะ ??✨ แล้วยิ่งผิวรอบดวงตาเป็นอะไรที่ Sensitive มากๆ บอบบางมาก จะเอาครีมอาราเร่ไก่กามาทาไม่ได้เด็ดขาด

ความรู้สึกหลังใช้ นอกเหนือจากรอยคล้ำใต้ตาที่จางลงไปเยอะแล้ว เรื่องความชุ่มชื่นเป้ว่าดีเลยอ่ะ สาวๆที่แต่งหน้าเป็นประจำ แต่งตาหนักๆ ไม่มีปัญหาเครื่องสำอางไหลเยิ้มแน่นอนค่ะ

อีกหนึ่งตัวที่ไม่พูดถึงไม่ได้เด็ดขาด ลิปบาล์มตัวดังของตระกูลนี้ ทาแล้วให้ความชุ่มชื่นดีอยู่น่า เนื้อออกเป็นเจล ค่อนข้างเหลว มีความเข้มข้นทีเดียวค่ะ กลิ่นแทบจะไม่ออกเลย ออกก็ออกแบบอ่อนๆ ธรรมชาติสุดๆ 

ตัวนี้ราคาไม่แรงและเห็นผลค่อนข้างดีเลยค่ะทุกคน  มีวิตามินอีช่วยบำรุงริมฝีปาก พร้อม Carrot Seed Oil ที่ช่วยลดความหยาบกร้าน ฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้ง แตก ลอก เป็นขุยได้อย่างดีเลย แล้วยังมีส่วนผสมจากธรรมชาติอีกมาก สูตรอ่อนโยน น่าใช้สุดๆ เท่าที่ผ่านมาแบรนด์อื่นแอบมีใส่น้ำหอม นึกออกไหมทุกคนยิ่งเราโดนสารเคมีมากเท่าไหร่ผิวเรายิ่งบาง ยิ่งมีอาการ มี Effect ต่างๆนานา ลองหันมาใช้สูตรที่เป็นธรรมชาติกันดูเนอะ

ความรู้สึกหลังใช้ ต้องบอกเลยว่าเป้เป็นคนที่ขอบปากค่อนข้างคล้ำ ปากแห้งเป็นขุย ปากลอกตลอด แอบนอยอ่ะ สำหรับตัวนี้บอกเลยว่า ใช้มาพร้อมๆกับ Eye Cream ของเขา ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ เนื้อบาล์มเกลี่ยง่าย ทาแล้วมันชุ่มชื่นมากๆอ่ะ ไม่แห้งหรือลอกแบบเมื่อก่อน ปากคล้ำน้อยลง แต่อาจจะไม่ได้อมชมพูเสมอกันทั่วทั้งปากอะไรขนาดนั้นค่ะ ทุกอย่างก็คือต้องใช้เวลาเนาะ แต่น้องทำได้ดีที่เดียวเลยสำหรับเป้  

ตอนนี้ทางแบรนด์เขาจัดกิจกรรมแจกสินค้ายอดนิยมในเพจ mila(cle) อยู่ด้วยน่า แค่เพื่อนๆติดตามช่องทางต่อไปนี้ IG : milac.le Twitter : @mila_cle_ Facebook : mila.cle  

สามารถซื้อสินค้า Himalaya และใช้โค้ดส่วนลดใน Lazada ร้าน Dfair Health Care หรือลองเข้าไปดูกติกาเพิ่มเติมเองได้ทางหน้าเพจ mila.cle ทุกช่องทางเลย  

แนะนำเลยว่าสายธรรมชาติควรมีแบรนด์นี้ติดบ้านไว้เลยค่ะ สูตรที่ไม่ทำร้ายผิวเรา ผิวบอบบาง แพ้ง่ายก็ยังใช้ได้ จากประสบการณ์ที่ลองผิดลองถูกมาเยอะเป้ให้ Himalaya ผ่านฉลุยเลยยยย

Tack Care น่า