Morning Routine แชร์สกินแคร์+เมคอัพที่ใช้

สวัสดีค่ะทุกคน เชื่อว่าช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาเร่งรีบสำหรับทุกคนลำพังจะลุกจากเตียงก็ยากแล้วไหนจะหาชุดใส่อีกและที่ขาดไม่ได้เลยคือการบำรุงและแต่งหน้านั้นเองค่ะ โดยส่วนตัวช่วงเช้าเป็นอะไรที่ต้องเร็วและง่ายที่สุดค่ะ วันนี้เลยอยากเอาสกินแคร์และเมคอัพที่ใช้เป็นประจำในช่วงเช้ามารีวิวให้ทุกคนได้ดูกันค่ะ 

เริ่มกันที่ไอเท็มชิ้นแรก คุณคนนี้เป็นไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะอย่างที่รู้กันว่าโทนเนอร์มีประโยชน์และสำคัญมากๆ ไม่ว่าจะช่วยขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกที่ตกค้างจากการล้างหน้า ช่วยกระชับรูขุมขน และยังช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าด้วย โทนเนอร์ที่เราหยิบมาใช้บ่อยๆในช่วงนี้ก็คือโทนเนอร์ของยี่ห้อ Thayers ค่ะ สาเหตุที่หยิบตัวนี้มาใช้บ่อยๆคือชอบกลิ่นมากกก! ตัวนี้เป็นสูตรกุหลาบ กลิ่นจะหอมกุหลาบอ่อนๆไม่ฉุนมาก ได้กลิ่นแล้วรู้สึกผ่อนคลายสุดๆ สูตรนี้จะเหมาะสำหรับคนผิวแห้งหรือผิวมันแต่ขาดน้ำ ข้อดีของโทนเนอร์ตัวนี้คือให้ความชุ่มชื่นหลังใช้ไม่ทำให้ผิวแห้งใช้ไปนานๆต่อเนื่องจะรู้สึกว่า   รูขุมขนเล็กลงและหน้ายังใสขึ้นด้วยค่ะที่สำคัญไม่มีแอลกอฮอล์จ้า แต่ถ้าใครยังกลัวแพ้เพราะว่ามีกลิ่นกุหลาบลองซื้อสูตร Unscented มาลองใช้ดูก่อนก็ได้ค่ะหรือจะซื้อไซส์เล็กแบบนี้มาใช้ก่อนก็ได้น้า เราซื้อที่วัตสันราคา 290 บาทค่ะ 

ขั้นตอนต่อมาสำหรับเราคือการทาเซรั่มค่ะ ประโยชน์ของเซรั่มก็คือมีความเข้มข้นมากๆที่สำคัญเนื้อบางเบามากเหมาะกับคนผิวมันแบบเราอีกด้วยค่ะ เซรั่มที่เราชอบใช้และซื้อเป็นขวดที่สองแล้วคือเซรั่มชาเขียวของ innisfree ที่โด่งดังมากๆ ข้อดีของเซรั่มตัวนี้คือให้ความชุ่มชื่นกับผิวและยังค่อยๆปรับให้ผิวกระจ่างใสขึ้นค่ะ ตัวเนื้อเซรั่มบางเบา ซึมเข้าผิวเร็ว เหมาะกับการทาช่วงเช้ามากๆ 

ถัดมาเป็นเจลบำรุงผิวหน้าจากญี่ปุ่นค่ะ ทางแบรนด์เคลมไว้ว่ารวมกระปุกเดียวด้วยโลชั่น อิมัลชั่น เซรั่ม ครีม แพ็ค นวด ทำให้ประหยัดเวลาในการดูแลผิว มีส่วนผสมของ วิตามินซี คอลลาเจน ไฮยารูรอน หลักๆจะช่วยเรื่องลดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสและยังช่วยป้องกันการเกิดฝ้ากระด้วยค่ะเลิฟตรงนี้ ตัวเนื้อเจลนุ่มลื่นเกลี่ยง่าย เนื้อค่อนข้างบางเบาไม่หนักผิวเหมาะกับคนผิวมันแบบเรามากๆ หลังจากที่เราใช้ตัวนี้มาสักพักรู้สึกผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นแต่เรื่องกระชับรูขุมขนอันนี้ยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ค่ะ 

สารภาพว่าตอนเด็กๆเราไม่ชอบทาครีมกันแดดละเลยการดูแลผิวมากรู้ตัวอีกทีกระขึ้นเต็มหน้าเลยจ้า ไอเท็มชิ้นนี้เป็นสิ่งที่มาช่วยชีวิตไว้ ใครที่มีปัญหาเรื่องฝ้า กระ เราเชียร์ครีมตัวนี้เลยค่ะราคาไม่แพง หลอดนึงใช้ได้ค่อนข้างนานประมาณ1-2เดือน เวลาทาให้ทาเฉพาะจุดที่เป็น ทาเช้าก่อนนอนวันละสองครั้งจากกระที่สีเข้มๆจะค่อยๆจางลงค่ะ แต่อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยน้า เราแนะนำว่าให้ซื้อตามร้านขายยาจะได้ราคาถูกกว่าค่ะ 

ขั้นตอนต่อมาที่จะขาดไม่ได้อีกเช่นกันคือครีมกันแดดค่ะ สำหรับเราครีมกันแดดเป็นไอเท็มที่สำคัญมากกกก! ต่อให้บำรุงดีแค่ไหนแต่ถ้าไม่ทาครีมกันแดดคือตกม้าตายในตอนสุดท้ายจริงๆ เพราะไม่เพียงแต่ป้องกันแดดตัวนี้ที่เราใช้ทางแบรนด์เคลมไว้ว่าป้องกันฝุ่นละอองด้วยค่ะ เนื้อกันแดดเป็นสิ่งที่ถูกใจคนผิวมันมากเพราะเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมเร็วไม่ต้องรอเซ็ตตัวนานที่สำคัญสามารถทาทับเมคอัพได้ไม่เป็นคราบค่ะ ตัวนี้สามารถทาได้ทั้งหน้าและตัวแต่ทางเราใช้ทาหน้าอย่างเดียวค่ะเพราะเสียดาย 5555 ถ้าจำไม่ผิดราคาประมาณ500กว่าบาทซื้อจากร้านในทวิตเตอร์ค่า

มาถึงขั้นตอนของการลงเมคอัพกันบ้าง เราขอข้ามการลงรองพื้น คอนซีลเลอร์ต่างๆ เพราะช่วงนี้ผิวหน้าไม่ค่อยมีปัญหา พึ่งแค่แป้งผสมรองพื้นดีๆสักตัวอย่างแป้งเจ้านางก็เอาอยู่แล้วจ้า แป้งเจ้านางตัวนี้เป็นแป้งผสมรองพื้น ใครชอบงานผิวแบบธรรมชาติแป้งตัวนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ เพราะตัวเนื้อแป้งทาแล้วไม่ขาวมากจะออกเนียนๆ นวลๆ มากกว่า แถมคุมมันมากกก!! เราเคยทาแล้วไปกินหมูกระทะกลับมาบ้านหน้ายังไม่มันเลยค่ะอันนี้ไม่ได้อวยเกินจริงน้าแค่ใช้แล้วเห็นผลกับตัวเองค่า ข้อดีของแป้งเจ้านางอีกอย่างนึงคือเราแทบไม่ต้องเติมระหว่างวันเลยทาตอนเช้าอยู่ไปถึงเย็นถ้าใครที่ขี้เกียจมานั่งเติมแป้งระหว่างวันแนะนำแป้งตัวนี้เลยค่ะ 

มาที่งานคิ้วกันต่อ เราเป็นชะนีที่ชอบของถูกมากและถ้ายิ่งถูกและดีด้วยคือเลิศ! ร้านไดโซะมีสินค้าให้ลองเล่นเยอะมากๆบางอย่างคุณภาพดีด้วยค่ะอย่างที่เขียนคิ้วรุ่นนี้เราชอบมากๆสวยในราคา60บาท 555 ตัวเนื้อดินสอลื่น เขียนง่าย สีชัดติดทน ส่วนแปรงปัดขนแปรงนิ่มไม่ต้องกลัวบาดคิ้วเลยค่ะ จริงๆเขามีให้เลือกหลายสีน้าใครที่กลัวว่าสีนี้จะเข้มไปหรือไม่เข้ากับสีผมลองไปดูสินค้าจริงได้ค่ะรับรองว่าใช้แล้วจะติดใจที่เขียนคิ้วราคา60บาทแบบเรา 

ดูจากสภาพตลับก็น่าจะรู้นะคะว่าใช้มานานมากกกก บลัชออนของ IN2IT ถือเป็นลูกรักเราตั้งแต่สมัยเรียนเลยเพราะทั้งถูกและดีแถมหาซื้อง่ายด้วยค่ะ ตัวเนื้อบลัชออนเป็นเนื้อประกายมุกเวลากระทบแดดคือสวยมากกก สีจะออกชมพูละมุนๆ เม็ดสีชัดปัดแล้วไม่เป็นก้อน ตลับเขาก็ทำออกมาค่อนข้างดีเลยใช้มานานแล้วยังไม่แตกเลยค่ะบางยี่ห้อที่ราคาถูกๆแบบนี้ตลับแตกเป็นที่เรียบร้อย ข้างในตลับเขาจะมีกระจกเล็กๆมาให้จริงๆเขามีแถมแปรงมาให้ด้วยนะคะแต่เราทำหายไปแล้ว 555 ตัวนี้จำไม่ได้ว่าซื้อมาจากที่ไหนแต่วัตสันน่าจะมีค่ะราคาร้อยกว่าบาทเองนะทุกคน 

มาถึงไอเท็มชิ้นสุดท้ายกันแล้วค่าหนีไม่พ้นลิปนั้นเอง แต่ลิปที่เราเอามารีวิวในกระทู้เป็นลิปแบบจิ้มจุ่ม แท่งเรียวเล็กน่ารักมาก ตัวนี้เป็นของยี่ห้อ  J24 ค่ะ ด้านนึงจะเป็นเนื้อแมทท์แบบครีมเหมาะสำหรับคนที่ปากแห้งมากๆเพราะตัวนี้ทาแล้วปากไม่ลอก ไม่ตกร่องเลยค่ะ ส่วนอีกด้านเป็นแบบเนื้อทินท์พอแห้งแล้วจะกลายเป็นเนื้อแมทท์แต่ไม่ถึงกับแมทท์จนแห้งไปเลยยังมีความฉ่ำอยู่ค่ะ มาดูเรื่องสีกันบ้างสีด้านเนื้อแมทท์แบบครีมจะเป็นสีชมพูอมส้มสีชัดติดทนในระดับนึงเหมาะกับทาไปทำงานมากๆเพราะสีไม่ดูแรงเกินไป ทางด้านทินท์เป็นสีส้มจะทาเต็มปากหรือทาแบบออมเบรเหมือนสาวเกาหลีก็น่ารักเหมือนกันค่ะ เราซื้อมาจากบิวเทรี่ยมราคา139บาทค่า เหมือเนเขาจะมี4-5สีน้า ลองไปเทสต์สีที่หน้าร้านดูกันได้เลยค่า

ครบหมดแล้วสำหรับ Morning Routine ในแบบฉบับของเรา ใครมีเคล็บลับแบบไหนเอามาแชร์ได้นะคะ เราอาจจะมีข้ามขั้นตอนไปบ้างเพราะตอนเช้าเป็นเวลาที่รีบมากกก! อาจลืมบ้างอะไรบ้าง 555 เจอกันใหม่รีวิวหน้าค่ะทุกคน