Yay Or Nay ? Kristen Stewart ในบท เจ้าหญิง Diana (Live)
candy 56 9
.
เมื่อใดก็ตามที่มีการประกาศนักแสดงหนังชีวประวัติบุคคลโด่งดังระดับโลก กระแสตอบรับมักจะหนีไม่พ้นความเห็นขัดแย้งจากผู้ชมในโลกออนไลน์ มีทั้งเสียงสนับสนุน และเสียงที่ไม่ปลื้ม โดยเฉพาะนักแสดงที่มีบุคลิกที่แตกต่างจากต้นแบบอย่างสุดขั้ว
เมื่อมีการประกาศ ว่า ผู้กำกับหนัง Spencer ได้วางตัว Kristen Stewart เป็นนางเอกผู้รับหน้าที่ถ่ายทอดภาพชีวิตเจ้าหญิงแห่งWales ในยุค 90s สิ่งที่ตามมาคือกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมั่นใจว่าไม่รุ่งแน่ๆ แต่ก็ยังมีเสียงติงให้ชาวเน็ทลดอคติแล้วรอชมผลงานของเธอก่อนฟันธง
เหตุผลที่ Kristen ได้รับเลือกให้แสดงบทนี้
Pablo Larraín ได้อธิบายเหตุผลที่ได้เลือกนางเอกดังมาร่วม project ไว้ว่า
" Kristen คือหนึ่งในนักแสดงฝีมือเยี่ยมแห่งยุคนี้ การจะสร้างหนังดีๆ สิ่งที่สำคัญก็คือความลึกลับน่าค้นหา Kristen เป็นได้หลายอย่าง เธอสามารถแสดงด้านที่ลึกลับ เปราะบาง และมีความเข้มแข็ง และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ ส่วนผสมที่ลงตัวของสิ่งเหล่านั้นทำให้ผมนึกถึงเธอ"
" วิธีการตอบสนองต่อบทและการเข้าถึงcharacterของเธอสร้างความสุนทรีย์ในการชมเป็นอย่างยิ่ง ผมคิดว่าเธอจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าดึงดูดใจไปพร้อมๆกัน พลังการแสดงของเธอมาจากธรรมชาติล้วนๆเลยครับ"
* Natalie Portman ได้เข้าชิง Oscar จากหนังเรื่องนี้ แม้ก่อนหน้าจะได้รับเสียงวิจารณ์ว่าเป็น casting ที่เหนือความคาดหมาย เพราะเธอดูไม่คล้ายกับ Jacqueline Kennedy นัก แต่พลังการแสดงทำให้ได้รับคำชมมากมาย และเพื่อเข้าถึงความเป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 ให้ดีที่สุด เธอต้องศึกษาสื่อต่างๆอย่างเข้มข้น ชมวีดีโอและเทปสัมภาษณ์ต่างๆซ้ำแล้วซ้ำอีก และบางคนมองว่า Kristen อาจจะมีสิทธิ์ก้าวเข้าชิงรางวัลทรงเกียรติได้เช่นกัน
" Kristen คือหนึ่งในนักแสดงฝีมือเยี่ยมแห่งยุคนี้ การจะสร้างหนังดีๆ สิ่งที่สำคัญก็คือความลึกลับน่าค้นหา Kristen เป็นได้หลายอย่าง เธอสามารถแสดงด้านที่ลึกลับ เปราะบาง และมีความเข้มแข็ง และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ ส่วนผสมที่ลงตัวของสิ่งเหล่านั้นทำให้ผมนึกถึงเธอ"
" วิธีการตอบสนองต่อบทและการเข้าถึงcharacterของเธอสร้างความสุนทรีย์ในการชมเป็นอย่างยิ่ง ผมคิดว่าเธอจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าดึงดูดใจไปพร้อมๆกัน พลังการแสดงของเธอมาจากธรรมชาติล้วนๆเลยครับ"
* Natalie Portman ได้เข้าชิง Oscar จากหนังเรื่องนี้ แม้ก่อนหน้าจะได้รับเสียงวิจารณ์ว่าเป็น casting ที่เหนือความคาดหมาย เพราะเธอดูไม่คล้ายกับ Jacqueline Kennedy นัก แต่พลังการแสดงทำให้ได้รับคำชมมากมาย และเพื่อเข้าถึงความเป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 ให้ดีที่สุด เธอต้องศึกษาสื่อต่างๆอย่างเข้มข้น ชมวีดีโอและเทปสัมภาษณ์ต่างๆซ้ำแล้วซ้ำอีก และบางคนมองว่า Kristen อาจจะมีสิทธิ์ก้าวเข้าชิงรางวัลทรงเกียรติได้เช่นกัน
พวกเราต่างคุ้นเคยกับ Kristen ในภาพของนางเอกที่ดู strong แตกต่างจากภาพสาววัยทีนที่ดังเป็นพลุแตกจากหนังตระกูล Twilight เมื่อหลายปีก่อน เธอมาพร้อมกับ fashion บนพรมแดงทีเหนือความคาดหมาย เธอไม่ได้นำเสนอลุคสาวสวยแซ่บตามความนิยม ผู้คนอาจจะมองว่าเธอเป็นสาวเท่ห้าวหาญ ผู้ไม่แยแสต่อความคาดหวังต่อสังคม
การถูกตีตราว่าด้อยฝีมือการแสดงนับตั้งแต่ Twilight
เราเคยได้ยินเสียงวิจารณ์มาหลายครั้งว่า Kristen คือหนึ่งในนางเอกที่ผู้คนไม่สามารถ move on ไปจากผลงานเรื่องแรกที่สร้างชื่อเสียงให้เธอได้ และมันกลับกลายเป็นโชคร้ายที่ผลงานเรื่องนั้นถูกตีค่าว่าเป็นเพียงหนังยอดแย่ แม้เฟรนไชส์หนัง The Twilight Saga จะสร้างความคลั่งไคล้ในกลุ่มแฟนคลับ และทำรายได้ไปอย่างล้นหลาม แต่มันก็ยังนำ Raspberry Awards ที่ถือเป็นตราบาปของนักแสดงอาชีพมาให้เธอ ( เธอถูกยัดเยียดรางวัลนี้จากบท Bella Swan และ Snow White ในปีเดียวกัน) ไม่ว่าเธอจะคว้าบทที่หลากหลายมาในตลอดหลายปีมานี้ สิ่งที่ติดตาผู้คนคือสาวตาลอยที่ติดนิสัยกัดปากและเสยผมทั้งในจอและนอกจอ แม้ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าจะหักดิบการกัดปากจากการแสดงไปได้แล้ว แต่ก็ยังถูกจิกกัดเรื่องเดิมๆอยู่ดี และนั่นรวมไปถึงข้อกล่าวหาเรื่องการแสดงออกทางสีหน้าแบบ dead eye และการใช้นำเสียงแบบmonotone ที่เคยถูกทำ meme ล้อเลียน และนั่นอาจจะทำให้หลายคนฝังใจว่า เธอคือนางเอกด้อยฝีมือเรื่องการแสดงอย่างสิ้นเชิง
ที่ผ่านมา Kristen วนเวียนอยู่ในวงการหนังอินดี้ สิ่งที่ทำให้เธอแตกต่างจากนางเอกรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง Emma Stone Jennifer Lawrence หรือ Margot Robbie ก็คือ เราจะไม่ได้เห็น Kristen ในหนังที่อยู่ในกลุ่ม Oscar Campaign ( หนังที่ studio หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องเข้าชิงรางวัล Oscar) บ่อยนัก นับตั้งแต่ Twilight เธอก็ไม่รับงานหนังฟอร์มยักษ์อีกเลย แม้แต่ผลงานล่าสุดอย่าง Charlie's Angels ก็ไม่ได้มีต้นทุนสูงลิบเหมือนหนัง action เรื่องอื่นๆ เธอมีพัฒนาการacting ไปอย่างไรบ้าง หลายคนก็อาจจะนึกไม่ออก
ผลงานรูปแบบบ้างที่ทำให้นางเอกสร้างชื่อเสียงในฐานะนางเอกฝีมือฉกาจฉกรรจ์
- ตัวละครที่สร้างจากผลงานประพันธ์ชื่อดัง ( Jennifer Lawrence จาก Silver Linings Playbook Kate Winslet จาก The Reader )
- หนังmusical ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ( Anne Hathaway จาก Les Misérables Emma Stone จาก La La Land)
- บทOscar Campaign ที่โดดเด่นจากแนวคิดทางจิตวิทยา ,ความเจ็บป่วยทางจิตใจ และดราม่าที่บีบคั้นความรู้สึก ( Natalie Portman จาก Black Swan Hilary Swank จาก Million Dollar Baby )
- บทในหนังพีเรียดที่สภาพสังคมแตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ( Alicia A Vikander จาก The Danish Girl)
และขาดไปไม่ได้ก็คือ...
- หนังชีวประวัติคนดังทีจะต้องสวมบทบาทให้แนบเนียนที่สุด ทั้งๆที่นักแสดงอาจจะไม่มีสิ่งใดคล้ายคลึงกับต้นแบบเลย
บทแบบนี้แหละที่ทำให้นักแสดงคว้ารางวัลการแสดงชั้นนำมาแล้วหลายคน แต่เมื่อนึกถึงผลงานหนังอินดี้ของ Kristen แล้ว หลายคนอาจจะนึกภาพพลังการแสดงของเธอยังไม่แจ่มแจ้งนัก
- ตัวละครที่สร้างจากผลงานประพันธ์ชื่อดัง ( Jennifer Lawrence จาก Silver Linings Playbook Kate Winslet จาก The Reader )
- หนังmusical ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ( Anne Hathaway จาก Les Misérables Emma Stone จาก La La Land)
- บทOscar Campaign ที่โดดเด่นจากแนวคิดทางจิตวิทยา ,ความเจ็บป่วยทางจิตใจ และดราม่าที่บีบคั้นความรู้สึก ( Natalie Portman จาก Black Swan Hilary Swank จาก Million Dollar Baby )
- บทในหนังพีเรียดที่สภาพสังคมแตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ( Alicia A Vikander จาก The Danish Girl)
และขาดไปไม่ได้ก็คือ...
- หนังชีวประวัติคนดังทีจะต้องสวมบทบาทให้แนบเนียนที่สุด ทั้งๆที่นักแสดงอาจจะไม่มีสิ่งใดคล้ายคลึงกับต้นแบบเลย
บทแบบนี้แหละที่ทำให้นักแสดงคว้ารางวัลการแสดงชั้นนำมาแล้วหลายคน แต่เมื่อนึกถึงผลงานหนังอินดี้ของ Kristen แล้ว หลายคนอาจจะนึกภาพพลังการแสดงของเธอยังไม่แจ่มแจ้งนัก
เสียงโต้แย้งจากแฟนๆ " พัฒนาการแสดงของเธอก้าวล้ำหน้าจากภาพ Bella Swanไปตั้งนานแล้ว"
ประสบการณ์ในวงการที่ยาวนานนับยี่สิบปีทำให้ Kristen ผ่านบทบาทที่หลากหลาย และเธอเคยคว้าบทที่สร้างจากบุคคลจริงๆมาแล้วค่ะ นั่นคือ บทของ Jean Seberg นางเอกชาวอเมริกันที่ไปสร้างชื่อเสียงในฝรั่งเศส และทิ้งความหรูหราฟู่ฟ่าเพื่อทำหน้าที่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน และถูก FBI คอยติดตามับตาการเข้าร่วมกลุ่มผู้เรียกร้องความเท่าเทียมโโยไม่แบ่งแยกทางสีผิว
หรือจะเป็นบท Joan Jett rocker ที่หนีออกจากบ้านเพื่อเผชิญโชคชะตาในสาว ซึ่งต้นแบบปลาบปลื้มว่า Kristen คือนางเอกที่เป๊ะสุดๆสำหรับบทนี้
นักวิจารณ์บางคนได้ส่งบทความสนับสนุน Kristen ว่า จริงอยู่ที่เธอเคยเป็นส่วนหนึ่งในหนังที่ถูกจัดเข้าอยู่ในกลุ่ม "ยอดแย่" แต่มันก็มีเหตุผลที่เธอสามารถโด่งดังในวงการได้นานโดยไม่เงียบหายไปเหมือนกับอดีตนางเอกขวัญใจวัยทีนคนอื่นๆ
เธอเคยได้รับเสียงชื่นชมจาก Cafe Society หนังฝีมือกำกับของ Woody Allen แม้จะไม่ปรากฏอยู่ในรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลการแสดงในประเทศบ้านเกิด อย่าง Oscar และ Golden Globe แต่เธอกลับเป็นขาประจำของเทศกาลหนังเมือง Cannes ถึงขั้นที่ยกให้เธอเป็นหนึ่งในคณะ jury เลยทีเดียว
รวมไปถึง Clouds of Sils Maria หนังฝรั่งเศสที่ใช้ภาษาอังกฤาดำเนินเรื่องที่ทำให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก César Award นักวิจารณ์หนังดูจะตอบรับฝีมือในการแสดงในเรื่องนี้อย่างอบอุ่นเลยทีเดียว
บทบาทอันซับซ้อนของเจ้าหญิงผู้เป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก
ภาพของเจ้าหญิงDiana ในช่วงต้น 90s ที่ผู้กำกับหนังวางแผนให้ Kristen มาแสดงนั้น ไม่ใช่ The Shy Di หรือผู้ดีที่แสนจะขี้อายอีกต่อไป แม้จะผ่านscandal ถึงขนาดว่าต้องออกมายอมรับเรื่องการนอกใจ แต่ความนิยมในตัวเจ้าหญิงก็ยังพุ่งสูง ยิ่งผู้คนชื่นชมเธอมากเท่าใด ก็ยิ่งกระตุ้นให้สื่อกระหายตามขุดคุ้ยนำเรื่องชีวิตส่วนตัวมาขาย เมื่อต้องผ่านชีวิตที่ตรอมตรมในรั้ววังมาเนิ่นนาน เจ้าหญิงได้ยอมรับถึงจิตใจที่ขาดความเชื่อมั่นจนทำให้มีผลกระทบต่อmental health
อิสระที่ดูเหมือนจะอยู่ใกล้เพียงนิดเดียวก็คือการแยกทางกับสวามีผู้เป็นรัชทายาทแห่งบัลลังก์อังกฤษ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเอื้อมถึงได้สักที แต่เมื่อทำได้สำเร็จ หลายคนได้มองภาพของเจ้าหญิงในฐานะ survivor เธอดูเข้มแข็งและเป็นตัวของตัวมากขึ้น จากที่เคยมีสีหน้าที่หม่นหมองจนแทบปิดไว้ไม่ได้ เธอกลายเป็น The New Di ที่ยิ่งสร้างความปลาบปลื้มให้กับผู้คนมากกว่าที่อยู่ในฐานะว่าที่ราชินีซะอีก!
เจ้าหญิงมี charisma ที่เปล่ง บางคนคิดว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยล้ำเลิศเหมือนนางเอก Hollywood แต่มีเสน่ห์ที่จับใจผู้คน ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มที่ดูอ่อนหวานจริงใจที่ดูแล้วไม่ประดิษฐ์สร้างภาพ รูปร่างสูงเพรียวกว่าผู้ชายบางคนทำให้ยิ่งเฉิดฉายไปด้วยความงามสง่า
ในเรื่อง sense ทาง fashion นั้น เจ้าหญิงคือicon แห่งยุค 90s โดยแท้จริง เธอคือราชนิกูลคนแรกๆที่ใส่ทักซิโด้ไปงานราตรี ฉีกภาพความเป็นเจ้าหญิงที่ต้องก้มหน้าก้มตาทำตามประเพณีราชสำนักโดยไม่มีปากเสียง และกลายเป็น trendsetter ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรักfashion
แต่นอกเหนือจากเรื่องความงดงามภายนอก ความดีงามภายในต่างหากที่ทำให้เจ้าหญิงเป็นที่รักของผู้คนมากมาย เธอคือหนึ่งในผู้ที่เปลี่ยนแปลง taboo ของผู้ติดเชื้อ HIV ภาพของราชนิกูลที่มีชื่อเสียงระดับโลกกอดเด็กวัยไร้เดียงสาที่ได้รับเชื้อ HIV ที่เป็นที่รังเกียจจากสังคมในยุคนั้นได้สร้างความประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้ เธอไม่หวาดหวั่นว่ากรณียกิจสำคัญที่ทำให้ "ข้ามหน้าข้ามตา" สวามีหรือราชวงศ์ แต่ทุ่มเทให้กับงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จนได้รับการขนานนามว่า "เจ้าหญิงแห่งปวงชน"
มีความพยายามสร้างหนังชีวประวัติของเจ้าหญิง Diana มาแล้วหลายครั้ง แต่เชื่อมั้ยคะว่า ไม่มีสักครั้งที่นางเอกจะได้รับเสียงชื่นชมว่าสามารถถ่ายทอดภาพของเจ้าหญิงที่โลกไม่ลืมออกมาได้อย่างน่าประทับใจ
แม้แต่ Naomi Watts เจ้าของ SAG awards และเคยเข้าชิงทั้ง Oscar และ Golden Globe ก็ถูกสับเละจากบทนี้ แมว่าเธอจะได้รับการยอมรับในฝีมือการแสดง แต่กลับได้รับเสียงวิจารณ์ว่า เธอไม่ดูคล้ายคลึงกับเจ้าหญิงแม้แต่น้อย องค์ประกอบอื่นๆของหนังก็ไม่ช่วยส่งให้แต่อย่างใด แม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังยอมรับตรงๆว่าตัดสินใจผิดที่รับเล่นเป็นเจ้าหญิง Diana
แล้วใครกันล่ะ ที่จะเปล่งประกายในบทนี้ได้ ?
เราคิดว่านี่คือสิ่งที่น่าจะจำเป็นต่อการเข้าถึงความเป็นเจ้าหญิง Diana
- ภาพลักษณ์อันงามสง่าของผู้หญิงในวัยสามสิบ เจ้าของรอยยิ้มอ่อนหวานสร้างความอบอุ่นใจให้กับคนรอบข้าง
- ความเข้าใจถึงด้านอันซับซ้อนของเจ้าหญิงที่ต้องแบกรับกับความคาดหวังของทุกคนจนเข้าใกล้จุดที่แตกสลายภายใน แต่เมื่อฝ่าฟันวิกฤติต่างๆในชีวิตมาหลายครั้งก็ได้หล่อหลอมจนแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากสำเนียงเจ้าที่ขึ้นชื่อลือชาว่า master ได้ยากเย็น แม้แต่นักแสดงอังกฤษบางคนก็ยอมรับว่าเป็นงานหิน (หากไม่ได้มีพื้นเพเป็นชนชั้นสูงหรือมีประสบการณ์ theater มามากๆก็ต้องฝึกฝนกับ dialect coach อย่างเต็มที่เช่นกัน) ก็ยังมีท่าทางการแสดงอกที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น วิธีการจ้องมองของเจ้าหญิงก็มีรูปแบบที่เฉพาะตัวค่ะ
หากคุณได้ชมผลงานหนังชีวประวัติที่สร้างชื่อเสียงให้กับนักแสดงที่สวมบทบาทได้อย่างสมจริงมาแล้วหลายครั้งก็น่าจะจับจุดได้ว่า แท้จริงแล้ว รูปร่างหน้าตาภายนอกของนักแสดงไม่สำคัญเท่ากกับความเข้าใจในบทบาทและความสามารถในการถ่ายทอดออกมาให้คนดูอินไปด้วย ตัวอย่างเช่น Natalie Portman ผู้รับบทเป็น Jackie Kennedy และ Michelle WIlliams ทีเล่นเป็น Marilyn Monroe นางเอกสาวทั้งสองคนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ ทั้งๆที่รูปร่างหหน้าตาของพวกเธอดูไม่เหมือนกับคนดังผู้เป็นต้นแบบนัก ทั้งสองต่างใช้เวลาหลายเดือนเพื่อศึกษาสื่อต่างๆ เพื่อที่จะแสดงออกมาให้ใกล้เคียงมากที่สุด รวมไปถึงการทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ไม่ใช่แต่การเปลี่ยนสำเนียง หรือการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า แต่รายละเอียดสำคัญอย่างท่าเดิน ภาษาร่างกาย แม้แต่เรื่องปลีกย่อยต่างๆก็ต้องเก็บมาให้มากที่สุด ขีดเส้นใต้เน้นๆว่า ต้องเก็บความเป็นตัวเองไว้ภายในให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นก็อาจจะถูกเปรียบเทียบได้ว่า เป็นแค่การจับการแต่งตัวให้เหมือนต้นแบบราวกับแฟนซีในวัน Halloween ไม่ใช่ acting ที่มีคุณภาพ
( ส่วนเรื่องรูปลักษณ์นั้น ทีมงาน makeup &costumeเก่งๆ จะช่วยบันดาลให้ดูใกล้เคียงกับต้นแบบเอง)
( ส่วนเรื่องรูปลักษณ์นั้น ทีมงาน makeup &costumeเก่งๆ จะช่วยบันดาลให้ดูใกล้เคียงกับต้นแบบเอง)
Kristen จะแสดงเป็นเจ้าหญิง Diana ได้สมจริงเพียงใด ก็ต้องรอติดตามชมค่ะ ดังที่เราเล่าไปในเบื้องต้น ผู้กำกับรายนี้เคยสร้างชื่อจาก Jackie มาแล้ว และนี่ก็อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนในเส้นทางอาชีพนักแสดงของเธอก็เป็นได้!
แล้วคุณล่ะคะ ว่ายังไง Yay Or Nay สำหรับ Kristen ?
The End