การผลัดเซลล์ผิวนั้นสำคัญไฉน?

52 13
ทาครีมแพงทำไมไม่เห็นผล? ทำไมหน้ายังหมองคล้ำ ผิวหยาบ? เพื่อนๆเคยเป็นกันไหมครับ ถ้ามีปัญหานี้ลองมาดูเรื่องการผลัดเซลล์ผิวกัน

เวฟขอมาเขียนบทความให้ความรู้เพื่อนๆเกี่ยวกับความสำคัญของการผลัดเซลล์ผิวครับ การผลัดเซลล์ผิวที่จะพูดถึง ไม่ใช่การลอกหนังหน้า ถลกออกมานะครับ หากแต่เป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนผิวชั้นนอกออกครับ ทั้งนี้ก็เพื่อลดการเกิดชั้นผิวที่หนา แห้ง หยาบ รวมทั้งสิวด้วยครับ การผลัดเซลล์ผิว เพื่อเผยผิวใหม่โดยกลไลทางธรรมชาติจะใช้เวลาประมาณ 28 วัน แต่พออายุมากขึ้น การผลัดเซลล์ผิวก็จะใช้เวลานานขึ้น ด้วยเหตุนี้การผลัดเซลล์ผิวจึงมีบทบาทที่สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ต่างๆครับ

การผลัดเซลล์ผิว แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ Physical Exfoliation (แบบกายภาพ) และ Chemical Exfoliation (แบบเคมี)

1)การผลัดเซลล์ผิวแบบกายภาพ คือ การใช้มือเราในการควบคุม ไม่ว่าจะผลัดเซลล์ผิวผ่านการสครับผิวด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของเม็ดขัดผิวจากธรรมชาติหรือเคมี การใช้แปรง เครื่องมือไฟฟ้าสำหรับการทำความสะอาดผิวแบบมีหัวแปรง ฟองน้ำ รวมทั้งการกรอผิวหน้าโดยแพทย์ผิวหนัง ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวด้วยวิธีนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนชั้นผิวหนังส่วนบนเท่านั้น โดยที่เราสามารถควบคุมแรงในการขัด สครับผิวได้ตามที่ต้องการ แต่หากขัดถูแรงเกินไป หน้าจะระคายเคืองได้ครับ ดังนั้นต้องเบามือ ทั้งนี้ หน้าที่หลักๆของการผลัดเซลล์ผิวแบบกายภาพ คือ การทำความสะอาดผิวชั้นบน ลดปัญหาการอุดตันของผิว

2)การผลัดเซลล์ผิวแบบเคมี คือ การใช้สารเคมีทาลงบนผิวเพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิว โดยสารผลัดเซลล์ผิวที่ใช้หลักๆ แบ่งเป็น AHA ซึ่งจะนิยมใช้ Glycolic Acid และ Lactic Acid และ BHA ซึ่งมาจาก Salicylic Acid สาร 2 กลุ่มนี้พบมากในกลุ่มโทนเนอร์และครีมบำรุงผิว เวฟว่าเพื่อนๆคงรู้จักกันดี และทราบดีว่ามันช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิว เพื่อผิวที่กระจ่างใส ลดรอยดำได้ อีกทั้งยังลดการอุดตันของรูขุมขน อันเป็นสาเหตุหลักของสิวอุดตันอีกด้วย สิ่งที่ทำให้การผลัดเซลล์ผิวแบบเคมีเป็นที่นิยม ก็เพราะสารเคมีนั้นสามารถลงลึกเข้าสู่ชั้นผิวได้ดีกว่าแบบกายภาพ ช่วยทำความสะอาดรู้ขุมขนและลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้าได้ จึงทำให้ความสามารถในการทำงานของการผลัดเซลล์ผิวแบบเคมีมีมากกว่าครับ นอกจจากจะผลัดเซลล์ผิวได้ดีแล้ว ยังช่วยลดการเกิดสิว รูขุมขนกระชับขึ้น ถือได้ว่ามีประโยชน์ที่ค่อนข้างครอบคลุมได้ดีครับ

แล้วเราควรเลือกใช้แบบไหน อย่างไรให้ถูกกับผิวของเรา?
1)ผิวผสม-ผิวมัน : เลือกใช้ AHA หรือ BHA สำหรับการผลัดเซลล์ผิว โดยใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และเลือกสครับผิวสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ให้เลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมเม็ดสครับละเอียด
2)ผิวผสม - ผิวแห้ง : ให้เลือกใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ AHA สำหรับการเช็ดหน้าหลังการล้างหน้าทุกวัน และสามารถสครับผิวได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
3)ผิวมันเป็นสิว : เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหรือโทนเนอร์ที่มีสาร Salicylic Acid หรือ BHA จะเหมาะกับผิวมัน - มีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย เนื่องจาก Salicylic Acid นอกจากจะใช้ผลัดเซลล์ผิวแล้ว ยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ลดปริมาณการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ส่งผลให้ปัญหาสิวลดลง การใช้ BHA สำหรับคนผิวมันสามารถใช้ได้ทุกวันครับ หากระคายเคืองก็ให้ใช้วันเว้นวันได้ครับ
4)ผิวแห้ง - ผิวระคายเคืองง่าย : Latic Acid จะเป็นสารเคมีที่ใช้ในการผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยนที่สุด จึงเหมาะกับผิวแพ้ง่ายและแห้งมาก ดังนั้นผิวประเภทนี้จำเป็นที่จะต้องมองดูส่วนผสมตัวนี้ดีๆครับ Latic Acid ขึ้นชื่อว่าเป็นสารผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยนที่สุดในกลุ่ม AHA ครับ

จะเห็นได้ว่าการผลัดเซลล์ผิวทั้ง 2 แบบ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การใช้ให้พอดี ใช้ตามคำแนะนำ ไม่ใช้มากจนเกินไป อย่าคิดว่าใช้มากๆ ใช้บ่อยๆ ผิวจะยิ่งกระจ่างใส ขัดถูแรงๆผิวจะได้เรียบเนียน เพราะสิ่งเหล่านี้ที่คุณคิด มันจะเป็นการทำร้ายผิวตัวเองมากกว่าการรักษา เวฟขอให้เพื่อนๆใช้กันอย่างมีสติครับ โดยเฉพาะกับสารเคมีเพื่อการผลัดเซลล์ผิว ณ ปัจจุบันก็มีหลากหลาย เวลาเลือกใช้จึงควรใช้ให้เหมาะกับประเภทผิว อย่าใช้ซ้ำซ้อน เวฟเจอหลายๆคนที่ใช้ซ้ำซ้อนมาก เช่น มี AHA 3 ขวดในชื่อต่างแบรนด์ ใช้แล้วก็มาประจานว่าไม่ดี ใช้แล้วทำไมหน้าแหกไม่ได้ผล เวฟขอสะกิดแล้วบอก “เลิกทำนิสัยซื้อตามเพื่อนจนหลับหูหลับตาใช้ครับ” ขอให้เลือกใช้สักตัว ให้เวลาผิวปรับตัว และให้เวลาผลิตภัณฑ์แสดงผลลัพธ์ด้วยนะครับ ไม่มีครีมไหนสวยได้ในคืนเดียว อยากสวยนานๆต้องใจเย็นและหมั่นดูแลครับ

เพิ่มเติม คือ
1)อย่าลืมใช้ครีมกันแดด SPF 50+ PA+++ เป็น broad-spectrum ได้จะดีมากครับ
2)อย่าลืมดูว่าสกินแคร์ตัวไหนไม่ควรใช้เวลามีการผลัดเซลล์ผิว เช่น Ratinol (อนุพันธุ์วิตามินเอ), สารกลุ่มไวท์เทนนิ่ง
3)อ่านคำแนะนำในการใช้บนบรรจุภัณฑ์โดยละเอียด เช่น แนะนำให้ทา AHA เข้มขึ้นก่อนล้างหน้า 10 นาที ก็คือแค่ 10 นาทีไม่ต้องทิ้งไว้เป็นชั่วโมง เดี่ยวหน้าจะไหม้จากกรดเอาได้ครับ
4)อย่าลืมบำรุงผิวให้ความชุ่มชื่น โดยเน้นครีมบำรุงที่มีสารปลอบประโลมผิวอยู่เสมอ สารปลอบประโลมผิว ได้แก่ Hyaluronic Acid, Ceramide, Peptide เป็นต้น

เวฟหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ
ขอบคุณครับ ??


Wave1992

Wave1992

สวัสดีครับ ชื่อ เวฟ ครับ เวฟชอบสกินแคร์ มีความสุขกับการดูแลตัวเอง เวฟเชื่อมาตลอดว่า เราทุกคนมีความสวยหล่อในแบบของเรา สามารถดูแลและพัฒนาความงามกันได้ แค่เราใส่ใจ เข้าใจการดูแล การมีใบหน้าและผิวพรรณที่สุขภาพดีจึงไม่ไกลเกินเอื้อมครับ การดูแลผิวคือจริตที่ทุกคนพึงมี ปัญญาจะเกิดเมื่อเราหมั่นศึกษา ความงามจะมาเมื่อเรารักสกินแคร์ ????

FULL PROFILE