เซรั่มกระจ่างใสสำหรับความต้องการผิวที่แตกต่างกัน

กลับมาพบกับรีวิวสกินแคร์กันอีกแล้วนะครับ หลังจากที่รักษาสิวจนหน้าแข็งแรงขึ้น สิวขึ้นน้อยลง เลยได้มีโอกาสได้ลองสกินแคร์ที่ช่วยในเรื่องความกระจ่างใสมากขึ้น ซึ่งกระทู้นี้เราก็จะรีวิวเซรั่มที่ช่วยในเรื่องกระจ่างใสในหลายประเภทความต้องการของผิว จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกันเลยยยย

แบบที่ 1 : กระจ่างใส + antioxidant

Sulwhasoo Bloomstay Vitalizing Serum

เริ่มที่อันนี้ก่อนเลย เป็นเซรั่มที่ช่วยผิวแบบรวมๆ มีส่วนผสมหลักจากพลัม (antioxidant), Niacinamide (กระจ่างใส), เมล็ดจากผลไม้ 5 ชนิด (กระจ่างใส) และสารให้ความชุ่มชื้นต่างๆ เนื้อเซรั่มมีความหนืดๆ คล้ายกับน้ำผึ้ง ทาแล้วทิ้งความหนึบไว้นิดนึง เลยเหมาะกับการวอร์มที่ฝ่ามือแล้วแล้วประคบลงผิวมากกว่าใช้นิ้วทา กลิ่นคือสิ่งที่ชอบที่สุดจากอันนี้ เป็นกลิ่นดอกไม้หอมหวาน ละมุน ฟีลลิ่งดีจริงๆ  

จากการใช้มานานมากพอสมควร จะเห็นผลเรื่องความกระจ่างใสแบบค่อยเป็นค่อยไป พอหยุดใช้ไปซักพักจะเห็นผลชัดเจนเลยว่าผิวไม่กระจ่างใสเหมือนกับตอนที่ใช้ และในเรื่องความชุ่มชื้นก็อยู่ในระดับกลางๆ ใช้อันนี้เดี่ยวๆ อาจจะไม่ได้ชุ่มชื้นมากนัก

แบบที่ 2 : กระจ่างใส + ลดสิว + antioxidant + เหมาะกับผิวแพ้ง่าย

Fyne Potent Vitamin C Antioxidant Brightening Fluid Serum

ต่อมาก็เป็นเซรั่มวิตามินซียอดฮิตกันบ้าง อันนี้ออกใหม่ล่าสุดจาก Fyne เลย แต่เป็นวิตามินซีที่คนผิวแพ้ง่าย เป็นสิวสามารถใช้ได้ มีส่วนผสมหลักจากวิตามินซี 12% ได้แก่ Sodium Ascorbyl Phosphate 8% (วิตามินซีที่เหมาะกับคนเป็นสิว), Ascorby Glucoside 2%, Ethyl Ascorbic Acid 2% นอกจากนี้ยังมีชาเขียว, ใบแปะก๊วย, วิตามินอี, เปปไทด์ และสารให้ความชุ่มชื้นต่างๆ เนื้อเซรั่มออกสีส้มนิดๆ เป็นน้ำค่อนข้างเหลว ซึมค่อนข้างเร็ว ไม่เหนอะ มีกลิ่นเล็กน้อยจากส่วนผสมต่างๆ (ไม่ใส่น้ำหอม)  

จากการใช้มาค่อนข้างนาน หลักๆ ที่เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้คือช่วยให้สิวยุบโดยไม่ต้องใช้เจลแต้มสิวเลย ไม่มีอาการแพ้ แดงขึ้นมาแต่อย่างใด ส่วนเรื่องความกระจ่างใส ลดรอยสิวจะค่อยเป็นค่อยไป เพราะเป็นวิตามินซีในอนุพันธ์ที่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายครับ

แบบที่ 3 : ผลัดเซลล์ผิว + กระจ่างใสใน 1 คืน + ลดริ้วรอย

YSL Pure Shots Night Reboot Serum 

มาถึงเซรั่มที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวกันบ้างนะครับ ออกใหม่เมื่อต้นปีจาก YSL เลย ในสูตรนี้จะเป็นเซรั่มแบบ bi-phase แยกส่วนระหว่างน้ำกับน้ำมัน ซึ่งก่อนใช้ทุกคร้ังต้องเขย่าให้เข้ากันก่อน ในส่วนของน้ำจะมีส่วนผสมหลักของ Glycolic Acid (ผลัดเซลล์ผิว), Moonlight Cactus (ฟื้นฟูผิว) และสารให้ความชุ่มชื้นต่างๆ ส่วนของน้ำมันจะมี Argan Oil และ Meadowfoam Seed Oil ถึงจะเป็นออยล์ แต่เนื้อเซรั่มมีความใส เหลว ไม่เหนอะ ไม่เหนียว สามารถทาครีมต่อได้สบาย  มีกลิ่นหอมเบาๆ ออกแนวหรูๆ จากส่วนผสมน้ำหอม  

เห็นผลค่อนข้างเร็วในเรื่องความกระจ่างใส ความเรียบเนียน ส่วนตัวใช้แล้วไม่แพ้ ค่อนข้างชอบเลย เราที่ผิวค่อนข้างมันก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา

แบบที่ 4 : ผลัดเซลล์ผิว + ลดจุดด่างดำ/รอยสิว

Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter

มาถึงแบบสุดท้ายกันแล้วนะครับ ก็จะเป็นเซรั่มที่ช่วยเรื่องจุดด่างดำ รอยสิวเน้นๆ เลย พึ่งออกใหม่ล่าสุดจาก Clinique เช่นกัน มีส่วนผสมจาก CL-302 Complex (Glucosamine, Ascorbyl Glucoside, Yeast Extract & Salicylic Acid) ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยสิวจางลง และส่วนผสม Interrupter Complex (Gyokuro Extract, Mulberry Root Extract, Rice Bran Extract & Dipotassium Glycyrrhizate) ที่จะช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำในอนาคต ในส่วนของเนื้อเซรั่มจะมีความเป็นเจลๆ ไม่เหลว ไม่ค่อยเหนอะ ไม่ค่อยมีกลิ่นเท่าไหร่

เราจะทาเฉพาะจุดที่มีรอยสิว ไม่ได้ทาทั่วหน้า รอยสิวจากสิวที่พึ่งยุบจะจางค่อนข้างเร็วเลย ไม่กี่วันก็แทบไม่เหลือร่องรอย แต่รอยสิวที่อยู่มานานหลายเดือน ส่วนตัวเรายังไม่เห็นผลเท่าไหร่ครับ

สำหรับรีวิวเซรั่มผิวกระจ่างใสทั้ง 4 ขวดนี้ก็จบไปแล้วนะครับ ใครที่มีปัญหาผิวในด้านไหน ต้องการผลลัพธ์แบบไหน ก็ลองเลือกใช้ดูนะครับ ที่สำคัญคือดูส่วนผสมก่อนว่าจะเข้ากันกับสกินแคร์ที่เรามีอยู่ได้รึป่าว เพราะถ้าส่วนผสมตีกัน จากผลลัพธ์ดี จะกลายเป็นหน้าพังได้ครับ

สำหรับกระทู้นี้ก็จบไปแล้ว แล้วเจอกันใหม่ สวัสดีครับบบบ