รีวิว Moisturizer ฉบับสาวผิวแห้งเป็นสิวง่าย (◕‿◕✿)
Chutikarn Wanchaitanawong 72 24
สวัสดีค่าทุกคน ห่างหายไปนาน >O< เนื่องจากช่วงก่อนยุ่งมาก
ทั้งเรียนทั้งสอบ //(ㄒoㄒ)//
ช่วงนี้เริ่มว่างแล้ว เลยจะมารีวิว Moisturizer ซะหน่อย (っ>ω<)っ
จะเยอะนิดนึงเพราะเป็นตัวที่เราใช้ในช่วง 1 ปีถึงปีครึ่ง ที่ผ่านมา
เริ่มใช้ตั้งแต่ตอนที่เป็นสิวหนักๆ จนถึงปัจจุบันที่หน้าดีขึ้นมากแล้ว (สิวเริ่มขึ้นน้อยลง)
จะมีตัวไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่า >O<
ทั้งเรียนทั้งสอบ //(ㄒoㄒ)//
ช่วงนี้เริ่มว่างแล้ว เลยจะมารีวิว Moisturizer ซะหน่อย (っ>ω<)っ
จะเยอะนิดนึงเพราะเป็นตัวที่เราใช้ในช่วง 1 ปีถึงปีครึ่ง ที่ผ่านมา
เริ่มใช้ตั้งแต่ตอนที่เป็นสิวหนักๆ จนถึงปัจจุบันที่หน้าดีขึ้นมากแล้ว (สิวเริ่มขึ้นน้อยลง)
จะมีตัวไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่า >O<
เริ่มที่ตัวแรกเป็น Physiogel Soothing Care A.I. Cream
ตัวนี้คนที่เป็นสิวผิวแพ้ง่ายน่าจะเคยใช้กัน
เราเริ่มใช้ จากการที่หมอผิวหนังแนะนำให้ใช้ ตอนช่วงที่เป็นสิวหนักๆค่ะ
ส่วนประกอบที่น่าสนใจของตัวนี้
- Olea Europaea Fruit Oil ซึ่งก็คือน้ำมันจากผลมะกอก ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว และมีคุณสมบัติเป็นสาร antioxidant เนื่องจาก อุดมไปด้วย vitamin E
- Glycerin ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ใส่มาในอันดับต้นๆ เป็นส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดี ปลอดภัย เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย ก่อให้เกิดการระคายเคืองและการอุดตันที่ต่ำ อีกทั้ง Glycerin ยังช่วยเสริม Skin barrier ให้กับผิวอีกด้วย
- Betaine (บีเทน) สารสกัดจากต้นบีท (sugar beet) ช่วยในเรื่องของลดการระคายเคือง และเป็น Humectant ดูดน้ำลงสู่ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น
ความเห็นส่วนตัวหลังใช้
- ช่วงที่รักษาสิว ทายาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น benzac ก่อนล้างหน้า ยาแต้มสิว ทา Differin ยาลดรอย เยอะแยะเลย รู้สึกเลยว่าหน้าจะขาดสมดุลมาก ผิวแห้งบ้างมันบ้าง มาหมด ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นได้ดี ผิวที่ลอกจากยาแต้มสิวหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ส่วนอื่นที่ไม่ลอกก็แอบมันบ้างเหมือนกันค่ะ
- ช่วยลดอาการแดงจากสิวได้ดี อันนี้สังเกตได้ชัดเลย
- รู้สึกว่าใช้แล้วปลอดภัย เพราะปราศจากส่วนผสมที่จะก่อให้เกิดการระคายเคือง Alcohol-free , Fragrance & essential oil-free
ต่อมาเป็นตัว Biotherm Aqua glow Super Concentrate
ตัวนี้สนใจเนื่องจาก ชอบน้ำตบแพลงตอนอยู่แล้วเลยอยากลอง รีบไปซื้อตั้งแต่เปิดตัวแรกๆเลยค่ะ 5555
ส่วนประกอบที่น่าสนใจของตัวนี้คือ
- Life Plankton ซึ่งก็คือ Bacteria แกรมลบ ที่มีชื่อว่า Vitreoscilla filiformis เจ้าแบคทีเรียตัวนี้อาศัยอยู่ในน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ ซึ่ง Biotherm นำมาจากน้ำพุร้อน บนเทือกเขา Pyrenees ในประเทศฝรั่งเศส ถูกนำมาเพาะเลี้ยงและหมักจนได้เป็น Life Plankton ซึ่งเป็นวัตถุดิบชูโรงของแบรนด์ Biotherm นั่นเอง แล้วเจ้าตัว Life Plankton นี่มันดียังไง ? สรรพคุณคือ ช่วยลดอาการระคายเคืองและการอักเสบของผิว
- Glycerin และ Ceramide ให้ความชุ่มชื้นกับผิวและเสริมสร้าง Skin barrier
- Adenosine มีหน้าที่เป็น Cell - signalling คือ ช่วยให้เซลล์ต่างๆสื่อสารกัน เพื่อซ่อมแซมผิวและต้านการอักเสบ
- Ascorbyl glucoside เป็น Form ของ vitamin C ที่เสถียร ทำหน้าที่เป็น Antioxidant , เสริมสร้าง Collagen , ช่วยให้หน้ากระจ่างใส
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
- ในแง่ของส่วนผสมเราคิดว่าดูคุ้มค่าและน่าใช้ดี คือมีทั้ง Life Plankton, Ceramide และ Vitamin C
- รู้สึกว่ากลิ่นน้ำหอมแรงไปนิดนึงค่ะ
- ให้ความชุ่มชื้นได้ดีในตอนเช้า ไม่ทำให้หน้ามัน ซึมค่อนข้างเร็ว
- หากนำมาใช้เป็น Moisturizer ในตอนกลางคืนน่าจะชุ่มชื้นไม่พอค่ะ
- ขวดแบบปั๊ม ใช้ง่ายดีค่ะ
- มีตัวล็อกพกพาสะดวกค่ะ
ต่อมาเป็นตัว Sebogard Elle
ตัวนี้เรารู้จักจากเพจมาดามเกรียนค่ะ ว่าช่วยเรื่องสิวสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายเพราะ
บรรจุ Retinol ลงใน capsule ทำให้เกิดการระคายเคืองต่ำ
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ นอกจาก Retinol ที่ช่วยเรื่องสิวแล้ว
ยังมี
ยังมี
- Bisabolol ช่วยลดการอักเสบ ลดรอยแดง
- Copper tripeptide - 1 ช่วยสมานแผล
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
- ลดรอยแดงจากสิวได้ดี
- สิวอุดตันขึ้นน้อยลงจริง
- ไม่แสบหน้าเลยค่ะ
ต่อมาเป็น Moisturizer ของ Fresh ที่เราชื่นชอบมากๆ
มีทั้งตัว Day และ Night Cream เลยไปดูกันนน ><
เริ่มที่ Day Moisturizer ก่อนเลย
มี 2 สูตร คือ
- สูตรเก่าที่ชื่อว่า Lotus Youth Preserve Moisturizer with 7 super complex
- สูตรใหม่ Lotus Youth Preserve Moisturizer with multi action super lotus
ส่วนประกอบที่น่าสนใจของตัวนี้คือ
- Nelumbo Nucifera Extract สารสกัดจากดอกบัวทั้งต้น (Super lotus) มีคุณสมบัติเป็นสาร Antioxidant ช่วยรับมือกับปัญหาผิวรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นมอบความชุ่มชื้น ผิวกระจ่างใส
- Cucumber Fruit Extract สารสกัดจากแตงกวาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
- Star fruit leaf extract สารสกัดจากใบมะเฟือง ช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียน
- Adenosine ช่วยในการสื่อสารระหว่างเซลล์ เพื่อซ่อมแซมผิวและผิวแข็งแรงมากขึ้นค่ะ
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้สูตรใหม่นะคะ
- เป็น Moisturizer ที่เรารักมาก ให้ความชุ่มชื้นดีมาก รู้สึกผิวหน้าที่นุ่มและผิวดูละเอียดมากขึ้น
- กลิ่นหอมอ่อนๆ สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและกลางคืนค่ะ ตอนเช้าหน้าไม่มัน และกลางคืนล็อคความชุ่มชื้นอยู่ค่ะ
ต่อมาคือ Lotus Youth Preserve Dream Night Cream
ตัวนี้ใครชอบกลิ่นพีชต้องหลงรักมากๆ เพราะหอมพีชแบบ หอมละมุนนน เปิดกระปุกมานี่กลิ่นพีชตีขึ้นมากเลย หอมจริงหอมจัง ทาก่อนนอนหลับฝันดีมากค่ะ 5555
ส่วนประกอบที่น่าสนใจของตัวนี้คือ
- มี Nelumbo Nucifera Extract และ Cucumber Fruit Extract เหมือนกับ Day moisturizer สูตรใหม่
- Diglycerin มีโมเลกุลที่ใหญ่กว่า Glycerin ทำให้ค่อยๆซึมลงสู่ชั้นผิว และให้ความชุ่มชื้นได้นานกว่า
- Peach Leaf Extract สารสกัดจากใบพีช ช่วยให้ความชุ่มชื้นและกลิ่นหอมผ่อนคลาย
- Anthemis Nobilis Flower Oil เป็น Essential oil ที่ได้จากดอก Chamomile ช่วยต้านการอักเสบ
ความเห็นส่วนตัวหลังใช้
? ให้ความชุ่มชื้นได้ดี สามารถทา Overnight mask เนื้อครีมต่อได้ ไม่ทำให้หนักหน้าเกินไปค่ะ
? กลิ่นหอมพีชมากๆ ผ่อนคลายสุดๆ
? รู้สึกผิวดูละเอียดมากขึ้น และนุ่มขึ้นค่ะ
? ให้ความชุ่มชื้นได้ดี สามารถทา Overnight mask เนื้อครีมต่อได้ ไม่ทำให้หนักหน้าเกินไปค่ะ
? กลิ่นหอมพีชมากๆ ผ่อนคลายสุดๆ
? รู้สึกผิวดูละเอียดมากขึ้น และนุ่มขึ้นค่ะ
ต่อมาเป็นตัว Real Barrier Extream Cream
เริ่มจากที่เราเคยใช้ตัว Mist ของแบรนด์นี้ และรู้สึกว่าผิวดูแข็งแรงขึ้นและสนใจเทคโนโลยี MLE ที่ช่วยเสริมสร้าง Skin barrier เลยจัดตัวครีมมาลอง
ส่วนผสมที่น่าสนใจ จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นั่นก็คือ ....
เทคโนโลยี MLE นั่นเอง !! คือ Multi-Lamellar Emulsion
โดยการใช้ส่วนผสมของ
Myristoyl/Palmitoyl Oxostearamide/Arachamide MEA ซึ่งเป็น Pseudoceramide หรือเซราไมด์สังเคราะห์ที่เลียนแบบคล้ายกับที่มีอยู่ในผิว
ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว (Skin barrier)
เทคโนโลยี MLE นั่นเอง !! คือ Multi-Lamellar Emulsion
โดยการใช้ส่วนผสมของ
Myristoyl/Palmitoyl Oxostearamide/Arachamide MEA ซึ่งเป็น Pseudoceramide หรือเซราไมด์สังเคราะห์ที่เลียนแบบคล้ายกับที่มีอยู่ในผิว
ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว (Skin barrier)
ความเห็นส่วนตัวหลังใช้
- เนื้อหนักเกินไปค่ะ เอามาใช้บนหน้าแล้วสิวอุดตันเริ่มขึ้น เลยไม่กล้าใช้ต่อ ปัจจุบันเลยเอาน้องมาทาที่คอแทน แอบเสียดาย T^T
- กลิ่นหอมดีค่ะ หอมแบบอ่อนๆของสมุนไพร
ต่อมาเป็นตัว
ตัวนี้เราวอแวมานานมาก จนสุดท้าย ซื้อมาลองซะเลย จะได้จบๆ คือตอนแรกเอามาใช้ก็แอบเฟล ไม่ได้รู้สึกถึงความว้าว แค่ชื่นชอบในตัวแพกเกจว่าสวยดี ดูคลีนๆ
ประจวบเหมาะกับช่วงที่ Moisturizer แบบครีมดันหมด เลยต้องใช้ตัวนี้แก้ขัดไปก่อน สุดท้ายกลายเป็นว่าติดงอมแงมจ้า ซึมเร็ว ให้ความชุ่มชื้นได้ดีแม้เป็นเจล เมื่อใช้ต่อเนื่องรู้สึกรูขุมขนเล็กลงด้วยง่ะ >O< มงต้องลงล้าววว!!
Clinique iD Dramatically Different Moisturizing Lotion
พร้อม Booster สีเขียว
ตัวนี้เราวอแวมานานมาก จนสุดท้าย ซื้อมาลองซะเลย จะได้จบๆ คือตอนแรกเอามาใช้ก็แอบเฟล ไม่ได้รู้สึกถึงความว้าว แค่ชื่นชอบในตัวแพกเกจว่าสวยดี ดูคลีนๆ
ประจวบเหมาะกับช่วงที่ Moisturizer แบบครีมดันหมด เลยต้องใช้ตัวนี้แก้ขัดไปก่อน สุดท้ายกลายเป็นว่าติดงอมแงมจ้า ซึมเร็ว ให้ความชุ่มชื้นได้ดีแม้เป็นเจล เมื่อใช้ต่อเนื่องรู้สึกรูขุมขนเล็กลงด้วยง่ะ >O< มงต้องลงล้าววว!!
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ
- White Tea Leaf Extract สารสกัดจากใบชาขาว ช่วยเรื่อง Antioxidant ปกป้องผิวจากรังสี UV และมลภาวะต่างๆ อีกทั้งยังช่วยเรื่องปลอบประโลมผิว
- Laminaria Saccharina Extract สารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล ในสารสกัดจะมี Alginate ซึ่งก็คือน้ำตาล ทำหน้าที่ดูดน้ำเข้าตัว ช่วยให้ความชุ่มชื้นและทำหน้าที่เป็นฟิล์มปกป้องผิว และมีน้ำตาลอีกตัวชื่อ Laminarin ช่วยลดการผลิตน้ำมันในผิว ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ว้าวมากๆๆ
- Phytosphingosine เป็น ไขมันชนิดหนึ่งที่เจอในชั้นบนของผิวหนัง ช่วยเรื่องต้านจุลชีพซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้
- Lactobacillus ferment (เหมือนกับสารสกัดชูโรงใน ANR เลยค่ะ) เป็นสารที่เกิดจากการหมัก Lactobacillus มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมผิวถึง DNA จากมลภาวะ
- Cucumber Fruit Extract สารสกัดจากแตงกวาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
- Sodium Hyaluronate ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นโดยการดึงน้ำเข้าสู่ผิว
- Caffeine ทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและรังสี UV
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
- ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก แม้จะเป็นเพียงเนื้อเจล
- ทาแล้วสบายหน้ามาก มีความเย็นๆ เนื้อซึมเร็ว
- ใช้ตอนกลางคืนเดี่ยวๆอาจให้ความชุ่มชื้นไม่พอ เราชอบทาตัวนี้ก่อน จากนั้นตามด้วย Overnight mask ต่างๆค่ะ
- ใช้งานง่าย และพกพาสะดวกค่ะ
- เมื่อใช้ในระยะยาว รู้สึกว่าหน้าแข็งแรงขึ้น สิวขึ้นน้อยลง และรูขุมขนดูเล็กลงนิดนึงค่ะ
- ข้อติ มีนิดนึงตรงเวลาปั๊มต้องปั๊มแรงเพราะถ้าเบาไป Booster จะไม่ออกค่ะ
ต่อมาเป็นตัว USANA Celavive Replenishing Night Gel
ตัวนี้เนื้อเป็นเจลที่ทาแล้วสบายผิวมาก เพราะเมื่อทาลงผิวแล้วจะแตกตัวเป็นน้ำ แถมส่วนผสมเจ๋งๆเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นพวก Peptide ต่างๆ และสารสกัดจากถั่วเหลืองค่ะ
ส่วนผสมที่น่าสนใจของตัวนี้ คือ
- Watermelon Fruit Extract สารสกัดจากแตงโมนั่นเอง อุดมไปด้วย วิตามินหลายตัวบำรุงผิว คือ A B C และ E อีกทั้งยังมี Amino acid และที่สำคัญคือมี Lycopene ซึ่งทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV
- Soybean Extract สารสกัดจากถั่วเหลือง อุดมไปด้วย Phenolic acids และ flavonoids ทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ และ ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม และกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย
- Palmitoyl Tripeptide - 38 ช่วยกระตุ้นการสร้าง collagen I, III, IV, fibronectin, hyaluronic acid and laminin 5 มีผลช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
- Palmitoyl Tripeptide - 5 ช่วยปกป้องและเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว อีกทั้งยังทำให้รูขุมขนเล็กลง
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
- เป็นเนื้อเจลที่ทาแล้วสบายหน้ามาก เพราะแตกตัวเป็นน้ำเมื่อทาลงบนผิว
- ชื่อเป็น Night gel แต่ใช้ช่วงเช้าได้ไม่หนักหน้าเลย เพราะซึมลงผิวเร็วมาก
- ชอบส่วนผสมที่ใส่มาหลายอย่าง ที่สำคัญคือมี Peptide และสารสกัดจากถั่วเหลือง ด้วย
ต่อมาเป็นตัวที่วอแวหนักมากเหมือนกัน
จนสุดท้ายได้ลองซะที นั่นก็คือ ....
จนสุดท้ายได้ลองซะที นั่นก็คือ ....
La mer The Moisturizing Soft Cream
ส่วนผสมที่น่าสนใจคือ
Miracle Broth คือ สารสกัดจากสาหร่าย Sea kelp ซึ่งเก็บด้วยมือ ปีละ 2 ครั้ง จากท้องทะเลที่เกาะแวนคูเวอร์ ก่อนจะนำลงเรือและล่องผ่านทะเลน้ำแข็งไปยัง ห้องปฏิบัติการและนำมันมาผสานกับส่วนผสมอื่น ๆ ผ่านกระบวนการหมักบ่มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของลาแมร์ ใช้เวลานานถึง 3-4 เดือน โดยใช้คลื่นแสงและ
เสียงเสริมพลังให้สาหร่ายซีเคลป์ วิตามิน แร่ธาตุนานาชนิด และสารสกัดต่างๆ ผสานเข้าด้วยกัน
- Miracle broth เป็นสาร Active ตัวสำคัญที่อยู่ในทุกผลิตภัณฑ์ของ La mer
Miracle Broth คือ สารสกัดจากสาหร่าย Sea kelp ซึ่งเก็บด้วยมือ ปีละ 2 ครั้ง จากท้องทะเลที่เกาะแวนคูเวอร์ ก่อนจะนำลงเรือและล่องผ่านทะเลน้ำแข็งไปยัง ห้องปฏิบัติการและนำมันมาผสานกับส่วนผสมอื่น ๆ ผ่านกระบวนการหมักบ่มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของลาแมร์ ใช้เวลานานถึง 3-4 เดือน โดยใช้คลื่นแสงและ
เสียงเสริมพลังให้สาหร่ายซีเคลป์ วิตามิน แร่ธาตุนานาชนิด และสารสกัดต่างๆ ผสานเข้าด้วยกัน
- Salicornia Herbacea Extract สารสกัดจากต้น Glasswort ช่วยกักเก็บน้ำในเซลล์ของผิวหนังชั้นนอกสุด
- Soybean Extract สารสกัดจากถั่วเหลือง อุดมไปด้วย Phenolic acids และ flavonoids ทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ และ ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม และกระจ่างใสอีกด้วย
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
- ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า รู้สึกว่าหน้าดูเนียนและละเอียดขึ้น ผิวดูผ่องและกระจ่างใสขึ้น เพราะใช้ La Mer ต้องศรัทธาใน Miracle broth ><
- แต่ที่เห็นได้ชัดคือการควบคุมสมดุลน้ำและน้ำมันบนผิวคือ ผิวมีความชุ่มชื้นเท่ากันทั่วใบหน้าหลังตื่นนอนตอนเช้า บางทีเราตื่นมาอาจจะแบบหน้ามันช่วงทีโซน ผิวข้างแก้มแห้ง แต่ตัว Lamer คือตื่นมาหน้าไม่มันไม่แห้ง บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ
- ส่วนของเนื้อครีมรุ่น Crème de la Mer อาจจะต้องวอร์มครีมหน่อย แต่ไม่ยุ่งยาก เราชอบนำมาใช้ช่วงใต้ตาหรือร่องแก้มที่แห้งๆ ส่วน Soft cream ทาซ้ำอีกชั้นนึง ตื่นเช้าขึ้นมาหน้าดูอิ่มและฟูมากค่ะ
- เรื่องของกลิ่น คือหอมจริง หอมแบบผู้ดีมาก
ตัวนี้เป็น น้องใหม่ที่เพิ่งได้เข้ามาในกรุ
ตัวนี้ได้จากการเล่นกิจกรรมใน Jeban แล้วได้เป็นของรางวัลค่ะ
ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะชอบ เพราะว่าก็มีตัวอื่นๆในกรุอยู่แล้ว ตอนนี้ลองใช้จริงจังได้ประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ แล้ว โดยใช้ในตอนเช้าก่อนลงกันแดด กลายเป็นว่าชอบเลย เนื้อจะมีความเบา ไม่หนัก ซึมเร็ว และรู้สึกว่าระหว่างวันช่วยควบคุมความมันได้ด้วยค่ะ เพราะบางทีใส่ mask แล้วเหงื่อออก เหงื่อก็ไม่ได้ออกมากเท่าเดิม กลายเป็นว่าชอบเลย เดี๋ยวต้องทำใช้สักพัก จะมาทำ Full review เต็มๆอีกทีค่ะ
La Canopee Perfect skin light lotion
ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะชอบ เพราะว่าก็มีตัวอื่นๆในกรุอยู่แล้ว ตอนนี้ลองใช้จริงจังได้ประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ แล้ว โดยใช้ในตอนเช้าก่อนลงกันแดด กลายเป็นว่าชอบเลย เนื้อจะมีความเบา ไม่หนัก ซึมเร็ว และรู้สึกว่าระหว่างวันช่วยควบคุมความมันได้ด้วยค่ะ เพราะบางทีใส่ mask แล้วเหงื่อออก เหงื่อก็ไม่ได้ออกมากเท่าเดิม กลายเป็นว่าชอบเลย เดี๋ยวต้องทำใช้สักพัก จะมาทำ Full review เต็มๆอีกทีค่ะ
ส่วนผสมที่น่าสนใจ
Tea Tree และ Bergamot มีคุณสมบัติ Antibacterial - antifungal ช่วยลดโอกาสการเกิดสิว และช่วยควบคุมความมัน
Pink Clay หรือโคลนสีชมพู อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ประจุลบ จึงมีคุณสมบัติในการดูดซับความมันที่ผิว
Clary sage มีคุณสมบัติในการช่วยผ่อนคลายผิว ต่อต้านริ้วรอย
อีกทั้งยังปราศจากสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว
Tea Tree และ Bergamot มีคุณสมบัติ Antibacterial - antifungal ช่วยลดโอกาสการเกิดสิว และช่วยควบคุมความมัน
Pink Clay หรือโคลนสีชมพู อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ประจุลบ จึงมีคุณสมบัติในการดูดซับความมันที่ผิว
Clary sage มีคุณสมบัติในการช่วยผ่อนคลายผิว ต่อต้านริ้วรอย
อีกทั้งยังปราศจากสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว
- Silicone
- Petroleum oil
- Paraben
- สีสังเคราะห์
- สารเคมี
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
- ควบคุมความมันบนใบหน้าระหว่างวันได้ดี
- ให้ความชุ่มชื้นได้ดีในตอนเช้า ตอนกลางคืนคนหน้าแห้งไม่พอค่ะ
- กลิ่นสมุนไพรแอบแรงไปนิด แต่พอทาลงผิวกลิ่นก็จางลงค่ะ
- ตัวแพกเกจใช้ง่าย ฝาล็อกแน่นหนา พกพาสะดวกเลยค่ะ
ตัวนี้คือ Indie Lee Daily Skin Nutrition
ตัวนี้เราได้มาจาก Sephora ค่ะ
เราสนใจแบรนด์นี้เพราะ จากการไปอ่านประวัติมาพบว่าเป็นแบรนด์ของประเทศอังกฤษ ที่เจ้าของรอดการผ่าตัดสมองแล้วทำแบรนด์ออกมาเพื่ออยากเปลี่ยนวงการความงาม ซึ่งแบรนด์นี้ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก และผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ ราคาค่อนข้างสูงเลยค่ะ เราเลือกแบบซองมาลองซะหน่อย
ส่วนผสมที่น่าสนใจ
- Avocado oil อุดมไปด้วย Vitamin E เป็นสาร Antioxidant ปกป้องผิวจากมลภาวะ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และบำรุงผิว
- Rosehip Seed Oil อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก จึงมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านความร่วงโรยของผิว พร้อมช่วยบำรุงให้ชุ่มชื้น
- Rosemary Leaf Extract อุดมไปด้วยสาร Antioxidant และ ต้านแบคทีเรีย
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
- ยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไร เพราะเนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างหนืด และเกลี่ยค่อนข้างยากค่ะ
- กลิ่นมีความสมุนไพรและหอมมากๆค่ะ
- เรื่องให้ความชุ่มชื้น คิดว่าเอาอยู่เลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าทาแล้วมีความมันเคลือบบนใบหน้าเลย
ตัวนี้คือ Drunk Elephant Protini™ Polypeptide Cream
ได้จากการเลือก Tester ใน Sephora อีกแล้ว
วอแวตัวนี้นานมากเลยไม่ได้ลองซะที อ่านรีวิวบางคนก็บอกดี บางคนก็แพ้ เอาจริงก็ไม่กล้าลอง แต่มาถึงขนาดนี้แล้วใจมันไม่นิ่ง (。>д<) ลองก็ได้ สุดท้ายเจอใน Sephora พอดี รีบกดเลือกเลยค่ะ 55555
ส่วนผสมที่น่าสนใจ
- Sh-Oligopeptide-1 Epidermal Growth Factor or EGF ช่วยในแง่ของการซ่อมแซมเซลล์ผิว
- Sh-Polypeptide-1 และ 11 เป็น Fibroblast Growth Factor ที่ไปกระตุ้น Fibroblast ให้สร้าง Collagen
- Palmitoyl Tetrapeptide -7 ลดการสร้าง Interleukin-6 ที่จะเป็นตัวกระตุ้นกลไกการอักเสบของร่างกาย ดังนั้นจึงช่วยต้านการอักเสบ
- Palmitoyl Tripeptide -1 เป็น 3 Amino acid ขนาดเล็กต่อกัน จะไปจับกับกรดไขมันในผิวหนัง ทำให้ซึมลงสู่ชั้นผิวได้มากขึ้น
- Alanine
- Arginine
- Glycine
- Histidine
- Isoleucine
- Phenylalanine
- Proline
- Serine
- Threonine
- Valine
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
- ชอบตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ของเค้ามาก คือมีความครีมกึ่งเจล
- กลิ่นมีความหอมอ่อนๆ ในตอนกลางคืนทารอบเดียวอาจให้ความชุ่มชื้นไม่พอ น่าจะทาทับสัก 2 รอบคะ แต่ในตอนเช้าคือทารอบเดียว แล้วกันแดดต่อเลย สบายค่ะ หน้าไม่มัน
- เอาเป็นว่าชอบมากๆ อาจจะไปสอยขนาดจริงมาใช้ค่ะ จากการอ่านส่วนผสม มีทั้ง Peptide และ Amino acid หลายชนิด เป็นอะไรที่ว้าวมากๆ
ต่อมาจะเป็นตัวที่ใช้หมดแล้ว ∩︿∩
Clinique moisture surge
ส่วนประกอบที่สำคัญ
- Saccharide Isomerate สารกลุ่มน้ำตาลเชิงซ้อน ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
- Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract สารสกัดจากใบชา ช่วยเรื่อง Antioxidant ปกป้องผิวจากรังสี UV และมลภาวะต่างๆ อีกทั้งยังช่วยเรื่องปลอบประโลมผิว
- Lady's Thistle Extract และ Birch Bark Extract เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
- ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี ตอนเช้าทาก่อนลงกันแดด ดีเลยค่ะ ซึมเร็ว สบายหน้า
- แต่ใช้ตอนกลางคืนสำหรับเราตัวเดียวเอาไม่อยู่ค่ะ อาจต้องทา Overnight mask เพิ่ม
Sulwhasoo Timetreasure Invigorating Cream
ส่วนผสมที่น่าสนใจ
- Penax Ginseng Root Extract สารสกัดจากโสม ช่วยเรื่องกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด ให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง และยังเป็นสาร Antioxidant
- ตัวนี้เนื้อครีมค่อนข้างหนัก เหมาะกับคนที่ผิวแห้งมาก ทาทับสัก 2 รอบ นี่เป็น Overnight mask ได้เลยอ่ะ ∩▽∩
- กลิ่นหอมของโสม สไตล์ Sulwhasoo
- เราใช้แล้วไม่ได้ว้าวมาก แต่แม่เราชอบมาก บอกว่าเอาผิวแห้งอยู่และหน้าดูเฟิร์มขึ้นด้วย ><