รีวิว Moisturizer ฉบับสาวผิวแห้งเป็นสิวง่าย (◕‿◕✿)

72 24
สวัสดีค่าทุกคน ห่างหายไปนาน >O< เนื่องจากช่วงก่อนยุ่งมาก
ทั้งเรียนทั้งสอบ //(ㄒoㄒ)//

ช่วงนี้เริ่มว่างแล้ว เลยจะมารีวิว Moisturizer ซะหน่อย (っ>ω<)っ

จะเยอะนิดนึงเพราะเป็นตัวที่เราใช้ในช่วง 1 ปีถึงปีครึ่ง ที่ผ่านมา

เริ่มใช้ตั้งแต่ตอนที่เป็นสิวหนักๆ จนถึงปัจจุบันที่หน้าดีขึ้นมากแล้ว (สิวเริ่มขึ้นน้อยลง)

จะมีตัวไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่า >O<





เริ่มที่ตัวแรกเป็น Physiogel Soothing Care A.I. Cream


ตัวนี้คนที่เป็นสิวผิวแพ้ง่ายน่าจะเคยใช้กัน
เราเริ่มใช้ จากการที่หมอผิวหนังแนะนำให้ใช้ ตอนช่วงที่เป็นสิวหนักๆค่ะ
ส่วนประกอบที่น่าสนใจของตัวนี้ 
  • Olea Europaea Fruit Oil ซึ่งก็คือน้ำมันจากผลมะกอก ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว และมีคุณสมบัติเป็นสาร antioxidant เนื่องจาก อุดมไปด้วย vitamin E
  • Glycerin ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ใส่มาในอันดับต้นๆ เป็นส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดี ปลอดภัย เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย ก่อให้เกิดการระคายเคืองและการอุดตันที่ต่ำ อีกทั้ง Glycerin ยังช่วยเสริม Skin barrier ให้กับผิวอีกด้วย
  •  Betaine (บีเทน) สารสกัดจากต้นบีท (sugar beet) ช่วยในเรื่องของลดการระคายเคือง และเป็น Humectant ดูดน้ำลงสู่ผิว เพิ่มความชุ่มชื้น 
ความเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • ช่วงที่รักษาสิว ทายาเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น benzac ก่อนล้างหน้า ยาแต้มสิว ทา Differin ยาลดรอย เยอะแยะเลย รู้สึกเลยว่าหน้าจะขาดสมดุลมาก ผิวแห้งบ้างมันบ้าง มาหมด ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นได้ดี ผิวที่ลอกจากยาแต้มสิวหายเป็นปลิดทิ้ง แต่ส่วนอื่นที่ไม่ลอกก็แอบมันบ้างเหมือนกันค่ะ 
  • ช่วยลดอาการแดงจากสิวได้ดี อันนี้สังเกตได้ชัดเลย 
  • รู้สึกว่าใช้แล้วปลอดภัย เพราะปราศจากส่วนผสมที่จะก่อให้เกิดการระคายเคือง  Alcohol-free , Fragrance & essential oil-free
แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้วเพราะว่ารู้สึกว่าเหนอะหนะหน้ามากเกินไปค่ะ 

ต่อมาเป็นตัว Biotherm Aqua glow Super Concentrate


ตัวนี้สนใจเนื่องจาก ชอบน้ำตบแพลงตอนอยู่แล้วเลยอยากลอง รีบไปซื้อตั้งแต่เปิดตัวแรกๆเลยค่ะ 5555
ส่วนประกอบที่น่าสนใจของตัวนี้คือ
  • Life Plankton ซึ่งก็คือ Bacteria แกรมลบ ที่มีชื่อว่า Vitreoscilla filiformis   เจ้าแบคทีเรียตัวนี้อาศัยอยู่ในน้ำพุร้อนตามธรรมชาติ ซึ่ง Biotherm นำมาจากน้ำพุร้อน บนเทือกเขา Pyrenees ในประเทศฝรั่งเศส ถูกนำมาเพาะเลี้ยงและหมักจนได้เป็น Life Plankton ซึ่งเป็นวัตถุดิบชูโรงของแบรนด์ Biotherm นั่นเอง                                                                                            แล้วเจ้าตัว Life Plankton นี่มันดียังไง ? สรรพคุณคือ ช่วยลดอาการระคายเคืองและการอักเสบของผิว 
  • Glycerin และ Ceramide ให้ความชุ่มชื้นกับผิวและเสริมสร้าง Skin barrier 
  • Adenosine มีหน้าที่เป็น Cell - signalling คือ ช่วยให้เซลล์ต่างๆสื่อสารกัน เพื่อซ่อมแซมผิวและต้านการอักเสบ 
  • Ascorbyl glucoside เป็น Form ของ vitamin C ที่เสถียร ทำหน้าที่เป็น Antioxidant , เสริมสร้าง Collagen , ช่วยให้หน้ากระจ่างใส
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • ในแง่ของส่วนผสมเราคิดว่าดูคุ้มค่าและน่าใช้ดี คือมีทั้ง Life Plankton, Ceramide และ Vitamin C 
  • รู้สึกว่ากลิ่นน้ำหอมแรงไปนิดนึงค่ะ 
  • ให้ความชุ่มชื้นได้ดีในตอนเช้า ไม่ทำให้หน้ามัน ซึมค่อนข้างเร็ว 
  • หากนำมาใช้เป็น Moisturizer ในตอนกลางคืนน่าจะชุ่มชื้นไม่พอค่ะ
  • ขวดแบบปั๊ม ใช้ง่ายดีค่ะ 
  • มีตัวล็อกพกพาสะดวกค่ะ 

ต่อมาเป็นตัว Sebogard Elle


ตัวนี้เรารู้จักจากเพจมาดามเกรียนค่ะ ว่าช่วยเรื่องสิวสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายเพราะ
บรรจุ Retinol ลงใน capsule  ทำให้เกิดการระคายเคืองต่ำ
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ นอกจาก Retinol ที่ช่วยเรื่องสิวแล้ว
ยังมี
  • Bisabolol ช่วยลดการอักเสบ ลดรอยแดง
  • Copper tripeptide - 1 ช่วยสมานแผล
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • ลดรอยแดงจากสิวได้ดี 
  • สิวอุดตันขึ้นน้อยลงจริง 
  • ไม่แสบหน้าเลยค่ะ 
แต่ที่ไม่ได้ใช่ต่อเพราะแอบรู้สึกว่าเกลี่ยยาก และเราหน้าแห้งด้วย เลยทาแล้วไม่ค่อยสบายหน้าเท่าไรค่ะ และหลอดนึงเราใช้ได้แปปเดียวหมดค่ะ เลยแอบรู้สึกว่าเปลืองนิดนึง เพราะราคาก็ค่อนข้างแพงอยู่ 

ต่อมาเป็น Moisturizer ของ Fresh ที่เราชื่นชอบมากๆ

มีทั้งตัว Day และ Night Cream เลย

ไปดูกันนน >< 

เริ่มที่ Day Moisturizer ก่อนเลย


มี 2 สูตร คือ
  • สูตรเก่าที่ชื่อว่า Lotus Youth Preserve Moisturizer with 7 super complex   
  • สูตรใหม่ Lotus Youth Preserve Moisturizer with multi action super lotus
ส่วนประกอบที่น่าสนใจของตัวนี้คือ
  • Nelumbo Nucifera Extract  สารสกัดจากดอกบัวทั้งต้น (Super lotus) มีคุณสมบัติเป็นสาร Antioxidant ช่วยรับมือกับปัญหาผิวรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นมอบความชุ่มชื้น ผิวกระจ่างใส 
  • Cucumber Fruit Extract สารสกัดจากแตงกวาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว 
  • Star fruit leaf extract สารสกัดจากใบมะเฟือง ช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียน 
  • Adenosine ช่วยในการสื่อสารระหว่างเซลล์ เพื่อซ่อมแซมผิวและผิวแข็งแรงมากขึ้นค่ะ
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้สูตรใหม่นะคะ 
  • เป็น Moisturizer ที่เรารักมาก ให้ความชุ่มชื้นดีมาก รู้สึกผิวหน้าที่นุ่มและผิวดูละเอียดมากขึ้น 
  • กลิ่นหอมอ่อนๆ สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและกลางคืนค่ะ ตอนเช้าหน้าไม่มัน และกลางคืนล็อคความชุ่มชื้นอยู่ค่ะ

ต่อมาคือ Lotus Youth Preserve Dream Night Cream


ตัวนี้ใครชอบกลิ่นพีชต้องหลงรักมากๆ เพราะหอมพีชแบบ หอมละมุนนน เปิดกระปุกมานี่กลิ่นพีชตีขึ้นมากเลย หอมจริงหอมจัง ทาก่อนนอนหลับฝันดีมากค่ะ 5555
ส่วนประกอบที่น่าสนใจของตัวนี้คือ
  • มี Nelumbo Nucifera Extract และ Cucumber Fruit Extract เหมือนกับ Day moisturizer สูตรใหม่ 
  • Diglycerin มีโมเลกุลที่ใหญ่กว่า Glycerin ทำให้ค่อยๆซึมลงสู่ชั้นผิว และให้ความชุ่มชื้นได้นานกว่า 
  • Peach Leaf Extract สารสกัดจากใบพีช ช่วยให้ความชุ่มชื้นและกลิ่นหอมผ่อนคลาย 
  • Anthemis Nobilis Flower Oil เป็น Essential oil ที่ได้จากดอก Chamomile ช่วยต้านการอักเสบ
ความเห็นส่วนตัวหลังใช้
? ให้ความชุ่มชื้นได้ดี สามารถทา Overnight mask เนื้อครีมต่อได้ ไม่ทำให้หนักหน้าเกินไปค่ะ
? กลิ่นหอมพีชมากๆ ผ่อนคลายสุดๆ
? รู้สึกผิวดูละเอียดมากขึ้น และนุ่มขึ้นค่ะ

ต่อมาเป็นตัว Real Barrier Extream Cream


เริ่มจากที่เราเคยใช้ตัว Mist ของแบรนด์นี้ และรู้สึกว่าผิวดูแข็งแรงขึ้นและสนใจเทคโนโลยี MLE ที่ช่วยเสริมสร้าง Skin barrier เลยจัดตัวครีมมาลอง
ส่วนผสมที่น่าสนใจ จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นั่นก็คือ ....
เทคโนโลยี MLE นั่นเอง !! คือ Multi-Lamellar Emulsion 
โดยการใช้ส่วนผสมของ
Myristoyl/Palmitoyl Oxostearamide/Arachamide MEA ซึ่งเป็น Pseudoceramide หรือเซราไมด์สังเคราะห์ที่เลียนแบบคล้ายกับที่มีอยู่ในผิว
ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว (Skin barrier)
ความเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • เนื้อหนักเกินไปค่ะ เอามาใช้บนหน้าแล้วสิวอุดตันเริ่มขึ้น เลยไม่กล้าใช้ต่อ ปัจจุบันเลยเอาน้องมาทาที่คอแทน แอบเสียดาย T^T 
  • กลิ่นหอมดีค่ะ หอมแบบอ่อนๆของสมุนไพร
ต่อมาเป็นตัว 

Clinique iD Dramatically Different Moisturizing Lotion 

พร้อม Booster สีเขียว


ตัวนี้เราวอแวมานานมาก จนสุดท้าย ซื้อมาลองซะเลย จะได้จบๆ คือตอนแรกเอามาใช้ก็แอบเฟล ไม่ได้รู้สึกถึงความว้าว แค่ชื่นชอบในตัวแพกเกจว่าสวยดี ดูคลีนๆ
ประจวบเหมาะกับช่วงที่ Moisturizer แบบครีมดันหมด เลยต้องใช้ตัวนี้แก้ขัดไปก่อน สุดท้ายกลายเป็นว่าติดงอมแงมจ้า ซึมเร็ว ให้ความชุ่มชื้นได้ดีแม้เป็นเจล เมื่อใช้ต่อเนื่องรู้สึกรูขุมขนเล็กลงด้วยง่ะ >O< มงต้องลงล้าววว!!
ส่วนประกอบที่น่าสนใจ
  • White Tea Leaf Extract  สารสกัดจากใบชาขาว ช่วยเรื่อง Antioxidant ปกป้องผิวจากรังสี UV และมลภาวะต่างๆ อีกทั้งยังช่วยเรื่องปลอบประโลมผิว
  • Laminaria Saccharina Extract  สารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล ในสารสกัดจะมี Alginate ซึ่งก็คือน้ำตาล ทำหน้าที่ดูดน้ำเข้าตัว ช่วยให้ความชุ่มชื้นและทำหน้าที่เป็นฟิล์มปกป้องผิว และมีน้ำตาลอีกตัวชื่อ Laminarin ช่วยลดการผลิตน้ำมันในผิว ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ว้าวมากๆๆ
  • Phytosphingosine เป็น ไขมันชนิดหนึ่งที่เจอในชั้นบนของผิวหนัง ช่วยเรื่องต้านจุลชีพซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ 
  • Lactobacillus ferment (เหมือนกับสารสกัดชูโรงใน ANR เลยค่ะ) เป็นสารที่เกิดจากการหมัก Lactobacillus มีคุณสมบัติช่วยซ่อมแซมผิวถึง DNA จากมลภาวะ
  • Cucumber Fruit Extract สารสกัดจากแตงกวาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว 
  • Sodium Hyaluronate ทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้นโดยการดึงน้ำเข้าสู่ผิว 
  • Caffeine ทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและรังสี UV 
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก แม้จะเป็นเพียงเนื้อเจล 
  • ทาแล้วสบายหน้ามาก มีความเย็นๆ เนื้อซึมเร็ว 
  • ใช้ตอนกลางคืนเดี่ยวๆอาจให้ความชุ่มชื้นไม่พอ เราชอบทาตัวนี้ก่อน จากนั้นตามด้วย Overnight mask ต่างๆค่ะ 
  • ใช้งานง่าย และพกพาสะดวกค่ะ 
  • เมื่อใช้ในระยะยาว รู้สึกว่าหน้าแข็งแรงขึ้น สิวขึ้นน้อยลง และรูขุมขนดูเล็กลงนิดนึงค่ะ 
  • ข้อติ มีนิดนึงตรงเวลาปั๊มต้องปั๊มแรงเพราะถ้าเบาไป Booster จะไม่ออกค่ะ 

ต่อมาเป็นตัว USANA Celavive Replenishing Night Gel


ตัวนี้เนื้อเป็นเจลที่ทาแล้วสบายผิวมาก เพราะเมื่อทาลงผิวแล้วจะแตกตัวเป็นน้ำ แถมส่วนผสมเจ๋งๆเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นพวก Peptide ต่างๆ และสารสกัดจากถั่วเหลืองค่ะ 
ส่วนผสมที่น่าสนใจของตัวนี้ คือ

  • Watermelon Fruit Extract สารสกัดจากแตงโมนั่นเอง อุดมไปด้วย วิตามินหลายตัวบำรุงผิว คือ A B C และ E อีกทั้งยังมี Amino acid และที่สำคัญคือมี Lycopene ซึ่งทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV 
  • Soybean Extract สารสกัดจากถั่วเหลือง อุดมไปด้วย Phenolic acids และ flavonoids ทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ และ ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม และกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย 
  • Palmitoyl Tripeptide - 38 ช่วยกระตุ้นการสร้าง collagen I, III, IV, fibronectin, hyaluronic acid and laminin 5 มีผลช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
  • Palmitoyl Tripeptide - 5 ช่วยปกป้องและเสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว อีกทั้งยังทำให้รูขุมขนเล็กลง
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • เป็นเนื้อเจลที่ทาแล้วสบายหน้ามาก เพราะแตกตัวเป็นน้ำเมื่อทาลงบนผิว 
  • ชื่อเป็น Night gel แต่ใช้ช่วงเช้าได้ไม่หนักหน้าเลย เพราะซึมลงผิวเร็วมาก 
  • ชอบส่วนผสมที่ใส่มาหลายอย่าง ที่สำคัญคือมี Peptide และสารสกัดจากถั่วเหลือง ด้วย
ต่อมาเป็นตัวที่วอแวหนักมากเหมือนกัน
จนสุดท้ายได้ลองซะที นั่นก็คือ ....

La mer The Moisturizing Soft Cream 

ส่วนผสมที่น่าสนใจคือ
  • Miracle broth เป็นสาร Active ตัวสำคัญที่อยู่ในทุกผลิตภัณฑ์ของ La mer 
แล้ว Miracle broth คืออะไรล่ะ ?
Miracle Broth คือ สารสกัดจากสาหร่าย Sea kelp ซึ่งเก็บด้วยมือ ปีละ 2 ครั้ง จากท้องทะเลที่เกาะแวนคูเวอร์ ก่อนจะนำลงเรือและล่องผ่านทะเลน้ำแข็งไปยัง ห้องปฏิบัติการและนำมันมาผสานกับส่วนผสมอื่น ๆ ผ่านกระบวนการหมักบ่มที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของลาแมร์ ใช้เวลานานถึง 3-4 เดือน โดยใช้คลื่นแสงและ
เสียงเสริมพลังให้สาหร่ายซีเคลป์ วิตามิน แร่ธาตุนานาชนิด และสารสกัดต่างๆ ผสานเข้าด้วยกัน
  • Salicornia Herbacea Extract สารสกัดจากต้น Glasswort ช่วยกักเก็บน้ำในเซลล์ของผิวหนังชั้นนอกสุด 
  • Soybean Extract สารสกัดจากถั่วเหลือง อุดมไปด้วย Phenolic acids และ flavonoids ทำหน้าที่เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ และ ช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่ม และกระจ่างใสอีกด้วย
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า รู้สึกว่าหน้าดูเนียนและละเอียดขึ้น ผิวดูผ่องและกระจ่างใสขึ้น เพราะใช้ La Mer ต้องศรัทธาใน Miracle broth >< 
  • แต่ที่เห็นได้ชัดคือการควบคุมสมดุลน้ำและน้ำมันบนผิวคือ ผิวมีความชุ่มชื้นเท่ากันทั่วใบหน้าหลังตื่นนอนตอนเช้า บางทีเราตื่นมาอาจจะแบบหน้ามันช่วงทีโซน ผิวข้างแก้มแห้ง แต่ตัว Lamer คือตื่นมาหน้าไม่มันไม่แห้ง บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ 
  • ส่วนของเนื้อครีมรุ่น Crème de la Mer อาจจะต้องวอร์มครีมหน่อย แต่ไม่ยุ่งยาก เราชอบนำมาใช้ช่วงใต้ตาหรือร่องแก้มที่แห้งๆ ส่วน Soft cream ทาซ้ำอีกชั้นนึง ตื่นเช้าขึ้นมาหน้าดูอิ่มและฟูมากค่ะ
  • เรื่องของกลิ่น คือหอมจริง หอมแบบผู้ดีมาก
ตัวนี้เป็น น้องใหม่ที่เพิ่งได้เข้ามาในกรุ

La Canopee Perfect skin light lotion


  ตัวนี้ได้จากการเล่นกิจกรรมใน Jeban แล้วได้เป็นของรางวัลค่ะ 
ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะชอบ เพราะว่าก็มีตัวอื่นๆในกรุอยู่แล้ว ตอนนี้ลองใช้จริงจังได้ประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ แล้ว โดยใช้ในตอนเช้าก่อนลงกันแดด กลายเป็นว่าชอบเลย เนื้อจะมีความเบา ไม่หนัก ซึมเร็ว และรู้สึกว่าระหว่างวันช่วยควบคุมความมันได้ด้วยค่ะ เพราะบางทีใส่ mask แล้วเหงื่อออก เหงื่อก็ไม่ได้ออกมากเท่าเดิม กลายเป็นว่าชอบเลย เดี๋ยวต้องทำใช้สักพัก จะมาทำ Full review เต็มๆอีกทีค่ะ
ส่วนผสมที่น่าสนใจ

Tea Tree และ Bergamot มีคุณสมบัติ Antibacterial - antifungal ช่วยลดโอกาสการเกิดสิว และช่วยควบคุมความมัน

Pink Clay หรือโคลนสีชมพู อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ประจุลบ จึงมีคุณสมบัติในการดูดซับความมันที่ผิว

Clary sage มีคุณสมบัติในการช่วยผ่อนคลายผิว ต่อต้านริ้วรอย


อีกทั้งยังปราศจากสิ่งที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว
  • Silicone
  • Petroleum oil
  • Paraben
  • สีสังเคราะห์
  • สารเคมี

ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • ควบคุมความมันบนใบหน้าระหว่างวันได้ดี 
  • ให้ความชุ่มชื้นได้ดีในตอนเช้า ตอนกลางคืนคนหน้าแห้งไม่พอค่ะ
  • กลิ่นสมุนไพรแอบแรงไปนิด แต่พอทาลงผิวกลิ่นก็จางลงค่ะ
  • ตัวแพกเกจใช้ง่าย ฝาล็อกแน่นหนา พกพาสะดวกเลยค่ะ

ตัวนี้คือ Indie Lee Daily Skin Nutrition 


ตัวนี้เราได้มาจาก Sephora ค่ะ
เราสนใจแบรนด์นี้เพราะ จากการไปอ่านประวัติมาพบว่าเป็นแบรนด์ของประเทศอังกฤษ ที่เจ้าของรอดการผ่าตัดสมองแล้วทำแบรนด์ออกมาเพื่ออยากเปลี่ยนวงการความงาม ซึ่งแบรนด์นี้ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก และผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ ราคาค่อนข้างสูงเลยค่ะ เราเลือกแบบซองมาลองซะหน่อย 
ส่วนผสมที่น่าสนใจ
  • Avocado oil อุดมไปด้วย Vitamin E เป็นสาร Antioxidant ปกป้องผิวจากมลภาวะ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และบำรุงผิว
  • Rosehip Seed Oil อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก จึงมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านความร่วงโรยของผิว พร้อมช่วยบำรุงให้ชุ่มชื้น
  • Rosemary Leaf Extract อุดมไปด้วยสาร Antioxidant และ ต้านแบคทีเรีย
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้ 
  • ยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไร เพราะเนื้อผลิตภัณฑ์ค่อนข้างหนืด และเกลี่ยค่อนข้างยากค่ะ
  • กลิ่นมีความสมุนไพรและหอมมากๆค่ะ 
  • เรื่องให้ความชุ่มชื้น คิดว่าเอาอยู่เลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าทาแล้วมีความมันเคลือบบนใบหน้าเลย 

ตัวนี้คือ Drunk Elephant Protini™ Polypeptide Cream 


ได้จากการเลือก Tester ใน Sephora อีกแล้ว

วอแวตัวนี้นานมากเลยไม่ได้ลองซะที อ่านรีวิวบางคนก็บอกดี บางคนก็แพ้ เอาจริงก็ไม่กล้าลอง แต่มาถึงขนาดนี้แล้วใจมันไม่นิ่ง (。>д<)  ลองก็ได้ สุดท้ายเจอใน Sephora พอดี รีบกดเลือกเลยค่ะ 55555 
ส่วนผสมที่น่าสนใจ
  • Sh-Oligopeptide-1  Epidermal Growth Factor or EGF ช่วยในแง่ของการซ่อมแซมเซลล์ผิว 
  • Sh-Polypeptide-1 และ 11 เป็น Fibroblast Growth Factor ที่ไปกระตุ้น Fibroblast ให้สร้าง Collagen 
  • Palmitoyl Tetrapeptide -7 ลดการสร้าง Interleukin-6 ที่จะเป็นตัวกระตุ้นกลไกการอักเสบของร่างกาย ดังนั้นจึงช่วยต้านการอักเสบ 
  • Palmitoyl Tripeptide -1 เป็น 3 Amino acid ขนาดเล็กต่อกัน จะไปจับกับกรดไขมันในผิวหนัง ทำให้ซึมลงสู่ชั้นผิวได้มากขึ้น 
และเหล่า Amino acid หลายตัว ช่วยเรื่องให้ความชุ่มชื้น ผิวเรียบเนียนและยืดหยุ่นมากขึ้น
  • Alanine
  • Arginine
  • Glycine
  • Histidine
  • Isoleucine
  • Phenylalanine
  • Proline
  • Serine
  • Threonine
  • Valine
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • ชอบตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ของเค้ามาก คือมีความครีมกึ่งเจล 
  • กลิ่นมีความหอมอ่อนๆ ในตอนกลางคืนทารอบเดียวอาจให้ความชุ่มชื้นไม่พอ น่าจะทาทับสัก 2 รอบคะ  แต่ในตอนเช้าคือทารอบเดียว แล้วกันแดดต่อเลย สบายค่ะ หน้าไม่มัน
  • เอาเป็นว่าชอบมากๆ อาจจะไปสอยขนาดจริงมาใช้ค่ะ จากการอ่านส่วนผสม มีทั้ง Peptide และ Amino acid หลายชนิด เป็นอะไรที่ว้าวมากๆ 

ต่อมาจะเป็นตัวที่ใช้หมดแล้ว ∩︿∩ 

Clinique moisture surge


ส่วนประกอบที่สำคัญ
  • Saccharide Isomerate  สารกลุ่มน้ำตาลเชิงซ้อน ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
  • Camellia Sinensis (Green Tea) Leaf Extract    สารสกัดจากใบชา ช่วยเรื่อง Antioxidant ปกป้องผิวจากรังสี UV และมลภาวะต่างๆ อีกทั้งยังช่วยเรื่องปลอบประโลมผิว
  • Lady's Thistle Extract และ Birch Bark Extract เป็นสาร Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้
  • ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี ตอนเช้าทาก่อนลงกันแดด ดีเลยค่ะ ซึมเร็ว สบายหน้า
  • แต่ใช้ตอนกลางคืนสำหรับเราตัวเดียวเอาไม่อยู่ค่ะ อาจต้องทา Overnight mask เพิ่ม 

Sulwhasoo Timetreasure Invigorating Cream


ส่วนผสมที่น่าสนใจ
  • Penax Ginseng Root Extract สารสกัดจากโสม ช่วยเรื่องกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด ให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง และยังเป็นสาร Antioxidant 
ความคิดเห็นส่วนตัวหลังใช้ 
  • ตัวนี้เนื้อครีมค่อนข้างหนัก เหมาะกับคนที่ผิวแห้งมาก ทาทับสัก 2 รอบ นี่เป็น Overnight mask ได้เลยอ่ะ ∩▽∩ 
  • กลิ่นหอมของโสม สไตล์ Sulwhasoo
  • เราใช้แล้วไม่ได้ว้าวมาก แต่แม่เราชอบมาก บอกว่าเอาผิวแห้งอยู่และหน้าดูเฟิร์มขึ้นด้วย ><

สุดท้ายนี้ หวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกๆคนในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์นะคะ


Chutikarn Wanchaitanawong

Chutikarn Wanchaitanawong

สวัสดีค่าทุกคน >O<
เราชื่อ แอมมี่ ค่ะ
อายุ 23 ปี เป็นนักศึกษา อยู่ภาคเหนือ
เป็นคนผิวแห้ง เป็นสิวง่าย
อยากแนะนำ Skincare ที่ตัวเองใช้แล้วดีค่า~
เพิ่งหัดเล่น Jeban ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้า ^^

FULL PROFILE