เทคนิคการแต่งหน้า
Kingrawee Sintunakin
45
5
เทคนิคการแต่งหน้า
การแต่งหน้าเป็นสิ่งที่ทำให้สาวๆ หลายคนเปลี่ยนเป็นอีกคนเพราะใช้เทคนิคการแต่งหน้าเพื่อปกปิดข้อบกพร่องและเสริมในส่วนที่ขาดไป 10 เทคนิคการแต่งหน้าที่เรานำมาบอกต่อกันในวันนี้ ขอบอกทำแล้วสวยขึ้นอีกเป็นกองจ้า
ก่อนจะแต่งหน้า เราควรจะบำรุงผิวให้พร้อม เพราะต้องออกไปเจอกับมลภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน แสงแดด หรือหน้ามัน ทำให้เกิดสิ่งสกปรกอุดตันได้ง่าย ยิ่งมีเครื่องสำอางอยู่บนหน้ายิ่งแล้วใหญ่ ขณะเดียวกันถ้าหน้าแห้ง ขาดความชุ่มชื้นก็จะแต่งหน้ายากด้วย
2.การปรับสภาพผิว
ขั้นตอนนี้คือการเตรียมผิวก่อนการแต่งหน้า เพราะผิวหน้าสดของเราอาจจะมีปัญหาผิวอยู่บ้าง เช่น ผิวไม่เรียบเนียน รอยด่างดำ รอยแผลเป็น ผิวหมองคล้ำ หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งสามารถปกปิดให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ และดูกระจ่างใสขึ้นโดยลงเมคอัพเบสเพื่อปรับสภาพผิว ที่แนะนำคือไพรเมอร์และเบส ซึ่งไพรเมอร์ใช้ลงเป็นตัวแรก จะช่วยปกปิดจุดด่างดำต่างๆ และช่วยเติมความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเรียบเนียน แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ส่วนเบสจะช่วยปกปิดและปรับสีผิวให้กระจ่างใสตามลักษณะเฉดผิวของเรา
ขั้นตอนที่ 3 การลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์
หลังจากปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนและปรับเฉดผิวให้กระจ่างใสขึ้นแล้ว การลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์เป็นการปกปิดอีกขั้นก่อนแต่งหน้า ซึ่งสามารถปกปิดได้มากกว่าเบสและไพรเมอร์ โดยเฉพาะคอนซีลเลอร์สำหรับปกปิดเฉพาะจุดสามารถปกปิดรอยสิว รอยดำและรอยแดงได้อย่างเนียนสนิท
ขั้นตอนที่ 4 การทาแป้ง
การทาแป้งจะช่วยให้รองพื้นเซ็ตตัว ติดทนนานมากขึ้น และยังช่วยควบคุมความมัน ทำให้รองพื้นไม่ไหลเยิ้มระหว่างวัน ซึ่งแป้งมีหลายประเภท ทั้งแป้งผสมรองพื้น แป้งอัดแข็ง และแป้งฝุ่น แตกต่างกันดังนี้ แป้งผสมรองพื้น เป็นแป้งที่มีเนื้อรองพื้นผสมจึงไม่จำเป็นต้องทารองพื้นก็ได้ แป้งฝุ่น ทาแล้วมีความเป็นธรรมชาติมาก ช่วยควบคุมความมัน และทำให้รองพื้นเซ็ตตัวจึงติดทนนาน แป้งอัดแข็ง เกาะติดมากกว่าแป้งฝุ่นธรรมดา มีความหนามากกว่าแป้งฝุ่น
ขั้นตอนที่ 5 การเขียนคิ้ว
แต่งหน้าทั้งทีจะขาดคิ้วไปไม่ได้ เพราะไม่อย่างนั้นหน้าจะดูโล้นทันที ที่เขียนคิ้วมีหลายประเภท ทั้งแบบดินสอเขียนคิ้ว ที่เขียนคิ้วแบบฝุ่น ปากกาเขียนคิ้ว เจลเขียนคิ้ว และมาสคาร่าเขียนคิ้ว ซึ่งสำหรับมือใหม่จะเหมาะกับดินสอเขียนคิ้วที่สุด เพราะใช้งานง่าย สามารถวาดโครงคิ้วแล้วเขียนคิ้วได้ตามต้องการ
ขั้นตอนที่ 6 การแต่งตา
ดวงตาเป็นส่วนที่มีอะไรให้แต่งได้เยอะมาก เรียกว่าถ้าสาวๆ ชอบแต่งหน้าก็แต่งกันสนุกกันเลยทีเดียว ทั้งอายแชโดว์ อายไลน์เนอร์ และมาสคาร่า ถ้าแต่งได้เหมาะกับตนเองก็จะทำให้ดวงตามีอะไรมากขึ้น จะแต่งให้โฉบเฉี่ยวหรือดูอ่อนหวานก็ได้ ส่วนสาวๆ ที่ตาเล็ก ตาชั้นเดียว การแต่งตาก็ทำให้ตาดูโตและมีมิติมากขึ้นด้วย
ขั้นตอนที่ 7 การแต่งแก้ม
การแต่งแก้มจะทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น และยังทำให้ใบหน้าไม่ซีดจาง ดูมีเลือดฝาดอีกด้วย โดยเครื่องสำอางในการแต่งแก้ม คือ บลัชออน สำหรับแต้มสีสันให้แก้ม นอกจากนี้ก็ยังมีไฮไลท์สำหรับทำให้บางจุดของใบหน้าโดดเด่นขึ้น และบรอนเซอร์ สำหรับการลดความโดดเด่นในบางจุดของใบหน้า ซึ่งการใช้ไฮไลท์และบรอนเซอร์ต้องใช้ควบคู่กัน และใช้วิธีการเบลนด์เพื่อให้สีของไฮไลท์และบรอนเซอร์เนียนไปกับสีผิว ไม่เป็นปื้น
ขั้นตอนที่ 8 การทาปาก
“ปากไม่แดง ไม่มีแรงเดิน” ดูเป็นคำพูดติดปากของสาวๆ ที่รักการทาปาก เพราะจะทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น สวย โฉบเฉี่ยวมากขึ้น และยังช่วยขับผิวหน้าให้ดูสว่าง หรือนอกจากสีแดงแล้วก็มีสีอื่นๆ ให้เลือกอีกมาก เช่น สีชมพู สีพีช ที่ทาแล้วดูอ่อนหวานเป็นธรรมชาติมากขึ้น