[Review] ลองของใหม่ MEDIHEAL Masking Layering Ampoule ใครอยากฟื้นฟูผิวหน้าครบจบใน 1 เดือน ห้ามพลาด!!

สวัสดีค่ะ ชาวจีบันนิสต้าทุกคน ไม่มั่นใจว่า มีใครจำได้ไหมคะที่เราเคยลงรีวิวมาสก์หน้าของ MEDIHEAL ไปซักพักใหญ่ จะบอกว่า ตอนนี้เขาก็มีมาสก์หน้าตัวใหม่ออกมาแล้วววว ใช้สะดวกสบายกว่าชีทมาสก์ทั่วไป + ตอบโจทย์สายรักษ์โลก Concerning เกี่ยวกับการเพิ่มขยะโดยที่ไม่จำเป็นมากๆ นางมาสไตล์แอมพูลมาสก์ในหลอด ใช้ได้นาน แถมมาถึง 3 สูตรด้วยกัน หลังจากที่มาสก์เลิฟเวอร์แบบเราได้ลองใช้แล้วจะเป็นยังไง ประทับใจสูตรไหนเป็นพิเศษบ้างมาดูกันนน

MEDIHEAL Masking Layering Ampoule Shot 

(459.- กำลังมีโปร 224.- / 4ml x 3pcs.) 

มาสก์รูปแบบใหม่จาก MEDIHEAL สไตล์เนื้อมาสก์แอมพูลเข้มข้นเพียวๆ ไม่ต้องพึ่งแผ่นคอตตอนมาวางบนหน้า ส่วนประกอบมีความเข้มข้นสูง (แต่อ่อนโยน) พร้อมฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน ด้วยการมาสก์ 3 เลเยอร์ มีให้เลือกใช้ 3 สูตรด้วยกัน ได้แก่ 

- สีเขียว Exceltoning : ลดปัญหาสิว-รอยดำรอยแดง ปรับผิวให้แข็งแรง และปรับผิวกระจ่างใส

 - สีฟ้า Hydra : ปรับสมดุลความชุ่มชื้น ฟื้นผิวอิ่มฟู สดใส และดูเด้ง 

- สีม่วง Poreminor : ปรับผิวเรียบเนียน กระชับรูขุมขน ควบคุมความมัน พร้อมลดเลือนริ้วรอย 

ทำความรู้จักกับ MEDIHEAL (อีกครั้ง)

สำหรับใครที่ไม่เคยอ่านในกระทู้ที่แล้ว และยังไม่รู้จักกับแบรนด์ MEDIHEAL เราจะขอพามาทำความรู้จักกันอีกครั้ง แบรนด์ MEDIHEAL เป็นแบรนด์สกินแคร์สไตล์เวชสำอางสัญชาติเกาหลีที่ดังเรื่องมาสก์หน้ามากกก ฮิตติดท็อปอันดับ 1 ถึง 3 ปีซ้อน มี BTS สุดรัก และสหายผู้กองสุดหล่อ Hyunbin เป็นพรีเซนเตอร์ พึ่งเข้าไทยมาวางจำหน่ายในวัตสันอย่างเป็นทางการไม่นานมานี้เอง

 

แพคเกจ :

เป็นหลอดพลาสติกฝาหมุนทรงเหมือนเข็มฉีดยา สีตามแต่ละสูตร และด้านในถูกออกแบบให้เป็นระบบ Airtight Cap เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากอากาศภายนอกมาสัมผัส โดยการใช้ท่อ Air pipe เล็กๆ คล้ายหลอดน้ำหมึกในปากกา ให้สามารถหยดเนื้อออกมาได้

เพิ่มเติมอีกนิด แอบสารภาพว่า เราไม่ใช่สายรักโลกษ์จ๋าขนาดนั้น ยังคงเป็นคนธรรมดาที่เสพของที่อยากได้ตามกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ ซึ่งสิ่งที่หามาลองง่าย เปลี่ยนได้บ่อยตามโอกาสที่สุด (เพราะราคาไม่แรง) ก็คือ มาสก์หน้า จนวันนึงที่ได้เห็นมาสก์ในรูปแบบแอมพูล ตอนแรกเราก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมต้องมีประเภทนี้ แง 555 จนเขาส่งเจ้า MEDIHEAL รุ่นนี้มาให้เราลอง (เกือบเดือนนึงเต็ม) ระหว่างนั้นเราก็ลองใช้และก็เจอคนพูดถึงเรื่องชีทมาสก์ทั่วไปไม่ค่อยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเท่าไหร่ ทั้งซองฟอยล์+พลาสติก แผ่นพลาสติกที่คลุมมาสก์ ฯลฯ ทำให้สะกิดใจเล็กๆ เหมือนกันนะ ซึ่งเราก็คิดว่า เจ้าตัวนี้มีรูปแบบแอบคล้ายกับสลีปปิ้งมาสก์เลย เพียงแค่มาในรูปแบบของเหลว + ให้ผลลัพธ์ที่มากกว่าสลีปปิ้งมาสก์

เนื้อสัมผัส :

โดยรวมทั้ง 3 สูตร เนื้อเหลวใส ไม่มีสี คล้ายเนื้อมาสก์ทั่วไป มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คาดว่าจากสารแอคทีฟบางตัวที่เป็นน้ำมันหอมระเหยในตัวแทนน้ำหอม เพราะทุกตัวเขาไม่ใส่น้ำหอม พอลง 3 ชั้นจะให้ความรู้สึกไม่ต่างเหมือนตอนดึงแผ่นมาสก์ออก ประมาณว่า ให้ฟีลลิ่งแอบคล้ายกับการมาสก์ปกติ แค่หน้าตาต่างกัน และไม่เหนียวเหนอะหนะ สบายผิว หลังซึมซักพักสามารถลงสกินแคร์ต่อได้เลย 

วิธีการใช้ :

 หลังจากเปิดฝาแล้วต้องเอียงหลอดประมาณ 60 องศาแล้วเขย่านิดหน่อยให้เนื้อแอมพูลไหลลงบนฝ่ามือแล้วทาให้ทั่วรอซึมซักพัก แล้วค่อยทาเพิ่มอีก 2 เลเยอร์ รวมเป็น 3 เลเยอร์ หลังลงโทนเนอร์ เราทาทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วทาสกินแคร์ตัวอื่นต่อเลย (จริงๆ หนึ่งหลอดใช้ได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ใครที่เขียมใช้แบบเราคือ เราก็ลง 3 เลเยอร์ปกตินะ แต่ 1 หลอดใช้ได้ทั้งสัปดาห์เลย 555 และ 1 กล่องจะสามารถใช้ได้ 3 สัปดาห์ หยุดพักผิว 1 สัปดาห์ ระยะเวลารวม 1 เดือนพอดี)

Exceltoning (สีเขียว)

ลดปัญหาสิว-รอยดำรอยแดง-ความหมองคล้ำ ปรับผิวให้แข็งแรง และกระจ่างใส

.

ส่วนประกอบ (คร่าวๆ) : 

ตัวที่ใส่มาแน่นๆ หลังจาก Water คือ Salvia Officinalis (Sage) Leaf Extract เข้มข้นถึง 74% ช่วยปลอบปละโลมผิวจากการระคายเคือง และอักเสบ + Exceltoning Complex ประกอบด้วย Citric Acid, Tea Tree แบบ Extract, Madecassoside และ Centella Asiatica Extract ช่วยปลอบปละโลมผิวอักเสบ ระคายเคือง และฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำ + Niacinamide ช่วยเรื่องปรับความกระจ่างใสด้วย

นอกจากตัวที่เขาเคลมยังมีตัวช่วยปลอบปละโลมให้ผิวสงบอื่นๆ รวมนับสิบตัวได้เลย เช่น สารสกัดจากชาเขียว, Adenosine, Asiaticoside ฯลฯ แถมยังมีตัวช่วยปรับผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วย เช่น Butylene Glycol, Glycerin, Sodium Hyaluronate พร้อมเสริมเกราะผิวด้วย Ceramide 3 ปราศจาก พาราเบน น้ำหอม น้ำมันแร่ และสี แต่สูตรนี้ยังมีแอลกอฮอล์อยู่เด้อ

.

ความเห็นส่วนตัวหลังใช้ ที่รู้สึกอย่างแรกเลยคือ ปลอบปละโลมผิวแดงจากการระคายเคืองได้ดี และผิวมีความเปล่งปลั่งมากขึ้น หลังใช้ติดต่อกันประมาณหนึ่งสัปดาห์จะเริ่มรู้สึกว่า ผิวค่อยๆ เรียบเนียน ดูสว่างสดใส แต่ไม่ถึงกับสีผิวเปลี่ยนเฉด และโดยรวมสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น ส่วนประกอบถือว่า ดี ตอบโจทย์คนที่ต้องการปลอบปละโลม+ผิวเปล่งปลั่งเลยค่ะ

Poreminor (สีม่วง)

เน้นปรับผิวเรียบเนียน กระชับรูขุมขน ควบคุมความมัน พร้อมลดเลือนริ้วรอย

.

ส่วนประกอบ (คร่าวๆ) : ตัวที่ใส่มาแน่นๆ หลังจาก Water คือ Geranium Maculatum Extract เข้มข้นสูงถึง 70% ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ปรับผิวเรียบเนียนกระชับต้านริ้วรอย + Poreminor Complex ประกอบด้วย Allantoin, Trehalose, Pelargonium Graveolens Flower Oil, Panthenol, Hibiscus Flower Extract ปรับผิวเรียบเนียน พร้อมฟื้นฟูซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลายให้ดูอิ่มฟูรูขุมขนกระชับ รวมถึงลดการอักเสบ ระคายเคือง ฯลฯ ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่า สารกลุ่มนี้ช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกินด้วย นอกนั้นก็จะมีสารที่เป็นเบส ให้ความชุ่มชื้น และบำรุงบางตัวที่คล้ายกับสูตรบน ปราศจาก พาราเบน น้ำหอม น้ำมันแร่ สี และแอลกอฮอล์

.

ผลลัพธ์หลังลองใช้ สารภาพว่าตอนแรกเราจะเชียร์สีเขียวเพราะส่วนผสมเขาดี สูตรตอบโจทย์กับสภาพผิวเรา ใช้จริงก็แอบประทับใจ แต่เราขอยกมงให้ตัวนี้ เพราะหลังจากผ่านสีเขียวหลอดแรกสัปดาห์นึงมาลองใช้สีม่วง ไม่มั่นใจว่าเพราะผลที่ต่อเนื่องกันรึเปล่า แต่เราสัมผัสได้ว่าผิวดีขึ้นมากตั้งแต่ 2-3 คืนแรกๆ เลย (อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า หลอดนึงเราใช้ 7 วัน) ที่เห็นผลชัดที่สุดคือ ผิวเรียบเนียน ผดจากอาการแพ้ดีขึ้นไว รูขุมขนกระชับมากขึ้น โดยรวมคือหน้าเด้งอิ่มฟูขึ้นมากๆ ค่ะ

Hydra (สีฟ้า)

เน้นปรับสมดุลความชุ่มชื้นจาผิวแห้งขาดน้ำ ฟื้นผิวอิ่มฟู เปล่งปลั่ง สดใส และดูเด้ง

.

ส่วนประกอบ (คร่าวๆ) : หลังจาก Water เป็น Citrus Paradisi (Grapefruit) Fruit Extract เข้มข้นสูงถึง 64% ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งพร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน + Hydra Complex ประกอบด้วย Sodium Hyaluronate, Tremella Fuciformis, Jojoba Oil, Ceramide NP ปรับผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นด้วยการฟื้นบำรุงผิวแห้งขาดน้ำ นอกนั้นก็จะมีสารที่เป็นเบส ให้ความชุ่มชื้น และบำรุงบางตัวที่คล้ายกับสูตรบน ปราศจาก พาราเบน น้ำหอม น้ำมันแร่ สี

.

ผลลัพธ์หลังลองใช้ ค่อนข้างตอบโจทย์คนที่ผิวแห้งหรือขาดน้ำต้องการเติมน้ำและปรับสมดุลความชุ่มชื้นให้ผิวแบบเร่งด่วน หลังใช้จะสัมผัสได้เลยว่า ภายในผิวนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น ถึงจะนอนในห้องแอร์แต่ตื่นมาหน้าก็ไม่แห้ง (แต่ถ้าผิวแห้งมากลงแค่มาสก์ไม่น่าจะพอเด้อ ควรลงสกินแคร์ตามปกติ+เนื้อครีมเพิ่มเติมเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้ดียิ่งขึ้น) คิดว่า คนผิวมันที่เป็นชาวผิวขาดน้ำก็สามารถใช้ได้ ซึมค่อนข้างไว ไม่เหนอะหนะผิว ส่วนตัวเป็นชาวผิวผสม ใช้แล้วลงสกินแคร์ต่อได้ ไม่อุดตัน (ขึ้นอยู่กับสกินแคร์หลังจากที่ลงหลังมาสก์ด้วย)

สรุปสิ่งที่ชอบหลังจากได้ลองใช้มาสก์แบบแอมพูล

1. สะดวก ไม่ต้องเสียเวลาดึงมาสก์ออกจากใบหน้า เผลอหลับระหว่างมาสก์ก็นอนไปเลย

2. เราสามารถควบคุมปริมาณเองได้ ถ้าเหลือก็ใช้ในวันถัดไป บางคนใช้ต่อหลอดอาจได้มากกว่า 2-3 ครั้ง เช่นเราใช้ครบได้ 7 วัน 555

3. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แต่ยังคงให้ผลลัพธ์ไม่ต่างจากชีทมาสก์

4. ตอนเราเห็นครั้งแรกเรารู้สึกว่า ราคาไม่เบา เพราะชินกับการใช้แผ่นมาสก์ปกติทั่วไป แต่พอมาคิดดีๆ ว่า ส่วนประกอบใส่มาแน่นกว่าเซรั่มทั่วไป + ใช้ได้หลายครั้ง เทียบได้กับสกินแคร์ที่ใช้กันประมาณหนึ่งเดือนก็รู้สึกว่า ราคาไม่แรงเด้อ (ปล.เรื่องสีในภาพแสงไม่เท่ากันเด้อ)

สรุปสูตรที่เราชอบที่สุด ได้แก่

สีม่วงงง น้อง Poreminor นั่นเองงง รองลงมาก็น้องเขียว Exceltoning อย่างที่บอกแม้ดูแล้วผิวเราน่าจะตรงกับสีเขียวมากกว่า แต่ขอยกมงให้สีม่วง เพราะใช้แล้วเห็นผลเรื่องความเรียบเนียนชัดเจนกว่าสีเขียว คือสีเขียวก็ลดผิวระคายเคือง ผิวแดง-รอยแดงได้โอเคเลยแต่เรื่องความเรียบเนียนอาจจะต้องใช้ระยะเวลาที่มากกว่าน้องม่วงเล็กน้อย แต่ถ้างบพอก็แนะนำใช้ควบคู่กัน (ใช้เขียวครบแล้วต่อด้วยน้องม่วง) เราว่าดีทั้งคู่เลยเด้อ 

ถือเป็นมาสก์รูปแบบที่ค่อนข้างใหม่ในไทยที่น่าสนใจเลย ใครที่อยากลอง แนะนำให้หาอ่านข้อมูลเพิ่มเติม + ควรสอยช่วงที่กำลังมีโปรอยู่ เขาลดเกินครึ่งนึงเลยมั้งฮือ คุ้มมั่กกก ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3