สวัสดีค่า วันนี้ทรายก็กลับมากับรีวิวอีกครั้ง

โดยครั้งนี้มากันแบบจุใจ รีวิว 4 ตัวพร้อมกันเลยค่ะ

โดยแบรนด์ที่จะมาพูดถึงวันนี้

ก็คือ Alteya Organics นั้นเองค่ะ

ทรายได้สกินแคร์จากแบรนด์มาใช้ได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว

วันนี้เลยจะมารีวิวให้เพื่อนๆอ่านกันค่ะ

About Alteya Organics ?

เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1999 

โดยหัวใจหลักของแบรนด์คือการผลิตสกินแคร์ที่ใช้ส่วนผสม

จากดอกกุหลาบบัลแกเรีย น้ำกุหลาบ 

และ ลาเวนเดอร์ออยล์จากฟาร์มของเขาเอง 

โดยสูตรที่ใช้ก็เป็นสูตรเก่าแก่ของครอบครัว

ที่ส่งต่อกันมาหลายรุ่น

เริ่มที่ตัวแรกก่อนเลย

Altheya Organics Purifying 

face cleanser rose jasminium 

สำหรับตัวคลีนซิ่งตัวนี้เป็นคลีนซิ่งที่ใช้เช็ดเครื่องสำอาง

หรือจะใช้ล้างหน้าปกติก็ได้ค่ะ 

ขั้นตอนใช้ก็ง่ายๆเลย 

ถ้าแต่งหน้า ให้กดคลีนเซอร์ลงบนมือเปียก 

แล้วนวดบนหน้าที่แห้ง 

จากนั้นเช็ดออกด้วยสำลีเปียกแล้วล้างด้วยน้ำอีกที 

ถ้าไม่ได้แต่งหน้าก็ข้ามขั้นตอนสำลีแล้วล้างด้วยน้ำได้เลยค่ะ

ถ้าแต่งหน้าหนักๆหรือทามาสคาร่ากันน้ำ 

แนะนำให้ล้าง 2 รอบค่ะ 

และแนะนำให้กดคลีนเซอร์เยอะหว่าปกติหน่อย 

เวลาเช็ดออกจะง่ายกว่าค่ะ

ส่วนผสมหลักๆมี Rose jasminium rejuvenating complex 

จาก Jasmine oil ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ 

มี Aloe vera juice ลดการอักเสบ 

และ Hyaluronic acid ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว

ส่วนตัวเป็นมนุษย์ขี้เกียจ 

ไม่ชอบเช็ดสำลีเลยชอบใช้ตัวนี้ล้างหน้าปกติมากกว่า 

แต่ตอนล้างเครื่องสำอางเขาก็ออกดีนะ 

โดยรวมเนื้อไม่หนัก ล้างออกง่าย 

หน้าไม่แห้งตึง มีกลิ่นหอมอ่อนๆของกุหลาบ 

เป็นกลิ่นแบบธรรมชาติมากๆ ไม่ได้รู้สึกรบกวนเวลาใช้

ตัวต่อมาก็ยังอยู่ในหมวดคลีนซิ่งเช่นเคย

Alteya pure facial cleanser & wash สูตร Rejuvenating 

ตัวนี้เป็นเจลล้างหน้าอีกตัวที่ใช้แทบทุกวันเลยตั้งแต่ได้มา 

คือเขาอ่อนโยนมาก ใช้กับเครื่องล้างหน้าก็ดี

ตัวเจลล้างหน้านี้จะมีทั้งหมด 3 สูตรด้วยกัน

? Soothing illuminating กระจ่างใส 

? Rejuvenating ชุ่มชื้น ผิวอ่อนเยาว์

? Balancing hydrating ปรับสมดุลผิว

*มี essential oils*

ตัวเจลล้างหน้าช่วยในเรื่องลดความมันส่วนเกิน 

สิ่งสกปรกจากมลภาวะต่างๆ

สูตรที่ทรายได้มาลองคือ Rejuvenating 

เนื้อเป็นเจลสีเหลืองอ่อนๆ 

มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติของกุหลาบและจัสมิน กลิ่นไม่ฉุนเลย 

เนื้อบางเบา มีฟองนิดหน่อย ล้างออกง่าย หน้าไม่แห้งตึง

หรือจะใช้เป็นตาข่ายตีให้เกิดฟองก่อนล้างก็เวิร์คเหมือนกัน 

แล้วแต่ความชอบ

ส่วนตัวใช้ได้ทั้งเช้า เย็น 

ถ้าวันไหนแต่งหน้าคือทรายจะ double cleansing 

โดยใช้ตัวนี้เป็นตัวล้างรอบที่ 2 ตั้งแต่ได้มากคือใช้บ่อยมากจริง 

กลิ่นแบบรีแล็กซ์มากๆ ฝาเป็นแบบกดเปิดด้วยมือเดียวได้ สะดวกมากๆ ราคาไม่แพงด้วยค่ะ

ต่อกันที่สายน้ำแร่กับ Alteya organics rose water 

เป็นสเปรย์น้ำกุหลาบที่เลอค่ามากๆ

เพราะเขาได้ Certified organic food grade 

คือกินได้ ปลอดภัย 

และเจ้าตัวน้ำกุหลาบคือสกัดมาจากกุหลาบบัลแกเรีย

ที่ทางแบรนด์ปลูกและเก็บเกี่ยวเอง 

และกลั่นด้วยระบบไอน้ำ 

จนได้มาเป็นน้ำกุหลาบแท้บริสุทธ์ 100%

ตัวนี้จะมีกลิ่นอโรม่าของกุหลาบตามธรรมชาติ กลิ่นไม่ฉุนเลย 

ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย 

ลดการอักเสบของผิว ปรับสมดุล 

ตัวนี้อเนกประสงค์มากๆ ฉีดหน้า ฉีดตัว 

จะไว้บำรุงหรือใช้ลดอาการระคายเคือง ผดผื่นคันต่างๆก็ได้

สเปรย์ออกมาเป็นฝอยโอเค 

ไม่ละเอียดมากและไม่ได้กระจายเป็นวงกว้างมากค่ะ

ส่วนตัวทรายชอบใช้แทนโทนเนอร์

โดยฉีดหลังล้างหน้าก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่น

กับใช้ฉีดเพิ่มความชุ่มชื้นระหว่างวัน 

กลิ่นแบบพอดีไม่ฉุน หอมกุหลาบธรรมชาติ

ตัวสุดท้ายขอปิดด้วยตัวบำรุงริมฝีปากค่ะ

Alteya organic lavender lip balm 

เป็นลิปบาล์มจากธรรมชาติ มีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ 

ตัวนี้ทาแล้วรู้สึกผ่อนคลายมากๆ

ตัวนี้ทาแล้วช่วยให้ปากนึ่มขึ้น 

เพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูร่องรอยต่างๆบนริมฝีปาก 

ส่วนตัวชอบทาก่อนนอนเพราะกลิ่นช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี

ถ้าปากแห้งนิดหน่อยทาตัวนี้เอาอยู่ 

ถ้าแห้งมากๆอาจะแนะนำให้ลงตัวนี้

และล็อคความชุ่มชื้นด้วยวาสลีนอีกที 

.

หรือใครที่ออกข้างนอกบ่อยๆต้องใส่แมส 

ไม่อยากให้แมสเปื้อนลิปสติก 

จะทาตัวนี้เป็นบำรุงก็ไม่ต้องกลัวปากแห้ง

และไม่เปื้อนติดแมสด้วยค่ะ

ส่วนตัวที่ชอบสุดคือเจลล้างหน้ากับลิปบาล์มค่ะ

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ 

แล้วเจอกันใหม่คราวหน้าค่า

*Gifted by brand/แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์

สามารถใช้โค้ด ALTEYAACNE50 ลด 50 บาท 

ในการซื้อสินค้าแบรนด์ Alteya ที่ร้าน allaboutyou 

ใช้ได้ถึง 31 ตุลาคม 2563 ทั้งออนไลน์/ออฟไลน์