แชร์ประสบการณ์ ตรวจสภาพผิวหน้ากับ IPSA ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่มาลองใช้อีก คุ้ม!
aeoypimpich
20 ส.ค. 63
48
9
เค้าแจกฟรี/ มีคนให้มาแหละ :)
สวัสดีค่า สาวๆ Jebanista เชื่อว่าสาวๆหลายคนรวมทั้งเอ๋ยด้วย ซื้อสกินแคร์หวังผลลัพธ์ให้ผิวดีขึ้น แต่พวกเราคงมีคำถามในใจ “เราเลือกใช้สกินแคร์ได้ตรงกับสภาพผิวหน้าหรือเปล่านะ” แล้ว “ผิวหน้าของเราตอนนี้ ดูด้วยตาเปล่าปกติดี แต่จริงๆแล้วได้คะแนนเท่าไร มีจุดไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษบ้าง” ว่าแล้วก็ไปหาคำตอบกันค่ะ วันก่อนเอ๋ยเห็นโพสต์จาก Facebook IPSA Thailand เค้ามีตรวจสภาพผิวหน้า โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พิเศษเฉพาะช่วงนี้! หลังจากตรวจแล้วจะได้รับผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองให้ได้ลองใช้กันอีก!! ไม่รอช้า เลยรีบนัดคิว แล้วเข้าไปตรวจที่สาขาเซ็นทรัล ชิดลม เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้สาวๆ Jebanista อ่านกันค่า
มาถึงเคาท์เตอร์ IPSA แล้วค่า เลือกสาขาเซ็นทรัล ชิดลม จริงๆเค้ามีให้ตรวจหลายที่ ลองเช็คก่อนได้นะคะ
ก่อนจะเข้าไปตรวจสภาพผิวหน้า ต้องโทรนัดล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันนะคะ เอ๋ยนัดคิวไว้เมื่อวาน ช่วงหลังเลิกงาน เข้าไปปุ๊บก็ได้ตรวจทันที ที่เคาท์เตอร์ IPSA แผนกเครื่องสำอาง ที่เซ็นทรัล ชิดลมค่ะ ขั้นตอนแรกจะพี่ BA จะคลีนผิวหน้าแถวๆหน้าแก้มก่อน แล้วค่อยนำเครื่องตรวจมาสแกนผิวหน้า เพื่อตรวจวัดผลให้แม่นยำที่สุดค่ะ
คลีนผิวก่อนตรวจสภาพผิวหน้าค่ะ เช็ดบริเวณหน้าแก้มเท่านั้น
แต่นแต๊นนน หลังจากตรวจแล้ว หน้าจอก็จะโชว์ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ค่า
ผลตรวจวิเคราะห์สุขภาพผิวที่ IPSA
จากภาพ อันนี้เป็นคะแนนผิวของเราในด้านต่างๆนะคะ สำหรับคะแนนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี จะต้องได้ทุกข้อมากกว่า 50 คะแนนขึ้นไป ของเอ๋ยเรียกได้ว่าสอบตก5555555555 บอกตรงๆว่าแอบใจเสียนิดนึง Moisture level : ความชุ่มชื้นของผิว เกณฑ์ที่สอบผ่านคือ 50ขึ้นไป เอ๋ยได้มา 49 ขาดไปนิดหน่อย แต่ก็สอบตกอยู่ดี TT ตรงนี้พี่ BA แนะนำดีมาก ว่าเรื่องของความชุ่มชื้น นอกจากบำรุงแล้ว การพักผ่อนสำคัญมาก ถ้าอดนอนบ่อยๆ นอนดึกมากๆ จะส่งผลให้สภาพผิวแห้ง ขาดน้ำได้ค่ะResilience : อันนี้คือความยืดหยุ่นของผิว ตรงนี้วัดที่ความแน่น กระชับ แล้วก็มีเรื่องคอลลาเจนใต้ผิวหนังด้วย เอ๋ยได้ 67 คะแนน ผ่านเกณฑ์ 50 แต่จริงๆถือว่าไม่ได้ดีมากเท่าไร เพราะอายุก็ไม่ได้เยอะมาก อันนี้ถ้าอดนอนหรือนอนดึก ก็ส่งผลกระทบ ทำให้รูขุมขนกว้าง ผิวไม่กระชับเช่นกันค่ะ Translucence : ความกระจ่างใส อันนี้สอบตกแบบตกต่ำมากกกกกกกกกกกกก แง๊ TOT ที่ดีควรได้ 50 คะแนนขึ้นไป เอ๋ยได้แค่ 13 เท่านั้นค่ะ เกณฑ์วัดจากจุดดำ ฝ้า กระ รอยสิว ที่ทำให้สีผิวไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอค่ะ Stratum corneum : คือความสามารถในการผลัดเซลล์ผิว เอ๋ยก็ไม่ค่อยดีเหมือนกันค่ะ ได้มา 29 คะแนน ตรงนี้ทำให้เรามีเซลล์ผิวเก่าที่ตายอยู่เยอะ ทำให้บำรุงผิว หรือทาสกินแคร์แล้วไม่ค่อยซึมซาบเข้าผิว เหมือนกองอยู่ที่ผิวชั้นนอก เพราะเรามีของเก่าที่พอกอยู่ คำแนะนำคือให้หาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวด้วยAccumulation level : อันนี้พี่ BA อธิบายว่าเป็น level ของสารพิษ สารตกค้างที่มีอยู่ในผิว อาจจะเกิดจากอาหารที่เรากินเข้าไป เช่น กินเค็ม ขนมขบเคี้ยว ที่มี sodium สูง เลยทำให้ผิวเกิดอาการบวมน้ำได้ค่ะ ตรงนี้เอ๋ยได้ที่ level 3 ถือว่ากลางๆ ไม่ดีแต่ไม่แย่มาก
คะแนน Resilience score ที่บอกความยืดหยุ่น-กระชับของผิว ยิ่งเลขเยอะยิ่งผิวไม่แก่
อันนี้เป็นภาพอธิบายคะแนนเรื่องความยืดหยุ่นของผิว ซึ่งถ้าได้คะแนนน้อยๆ ทำให้ผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย รูขุมขนกว้างค่ะ ส่วนใหญ่คะแนนจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น เพราะร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงด้วย ของเอ๋ยได้ 67 คะแนน ถ้าดูตามอายุ เอ๋ย 25ปี ถือว่าไม่ดีไม่แย่ แต่จริงๆควรจะได้ซัก 70 คะแนนขึ้นไปค่ะ
สรุปผล Skin Care Recipe จากสภาพผิวหน้าของเรา ควรจะใช้อะไรบ้าง
สุดท้ายจะมีสรุป Skin Care Recipe ที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา และมีคำแนะนำการดูแลผิวหน้าด้วยค่ะ อย่างของเอ๋ยเป็นคนที่ผิวผสมแต่ขาดน้ำ แนะนำให้ใช้ตัวที่เพิ่มความชุ่มชื้น เป็น IPSA Me Extra 2 และ The Time Reset Aqua น้ำตบบำรุงหน้า ที่ซึมเข้าผิวได้ง่าย และ Clearup Lotion 2 เช็ดหลังล้างหน้า เพื่อปรับสภาพผิวขาดน้ำให้ชุ่มชื้นและแข็งแรงขึ้นค่ะ แล้วก็มี Serum 0 ตัวใหม่ที่ช่วยลดของเสียในผิว ลดอาการบวมน้ำ ตัวนี้เอ๋ยได้ผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองมาด้วยค่ะ พี่BAแนะนำให้กด 3ปั๊ม ทาทั่วหน้าแล้วนวดตามต่อมน้ำเหลือง จะช่วยให้ผิวที่บวมน้ำ อาการดีขึ้นค่ะ
หลังจากตรวจแล้ว ก็ได้ IPSA Serum 0 ขนาดทดลอง ได้มาลองใช้ด้วยนะคะ
อันนี้เป็นผลิตภัณฑ์ขนาดทดลอง Serum 0 ที่ได้มาค่ะ แล้วก็เอ๋ยซื้อ The Time Reset Aqua มาเรียบร้อยจากออนไลน์ กำลังรอของมาส่ง ถ้าได้มาแล้วจะทดลองใช้ร่วมกันแล้วมารีวิวให้ดูนะคะ
วิธีการใช้ IPSA Serum 0 เพื่อลดอาการบวมน้ำ แบรนด์เค้าเคลมผลลัพธ์จะช่วยให้ผิวไม่บวม หน้าเรียว กระชับขึ้น
ก่อนจะกลับเอ๋ยสอบถามวิธีการใช้ Serum 0 มา ในเพจเค้ามีคลิปวิดีโอแนะนำการใช้อยู่ และพี่ BA ใจดี ให้ตัวคู่มือการใช้เบื้องต้นมาด้วยค่ะ สำหรับประสบการณ์ตรวจสภาพผิวกับ IPSA ครั้งนี้ ค่อนข้างประทับใจค่ะ ได้เห็นความเป็นจริง (ที่เจ็บปวด) ของผิว ทำให้เรารู้ว่าควรจะเลือกสกินแคร์อะไร เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวมากที่สุด หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสาวๆนะคะ สำหรับการตรวจสภาพผิว ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องนัดล่วงหน้าอย่างน้อย 1วัน โดยโทรไปที่สาขาที่จะเข้าไปตรวจได้เลยค่ะ หรือติดตามข้อมูลจากเพจ Facebook IPSA ก่อนได้ค่ะ
วันนี้คุ้มแล้วค่ะ 5555 นอกจากได้ตรวจสภาพผิว ก็ได้เซรั่มมาลองใช้อีก ดีงามมาก
วันนี้เอ๋ยขอลาไปก่อนนะคะ ถ้าใครมีสกินแคร์ตัวไหนที่ช่วยแก้ปัญหาผิวเอ๋ยได้ มาเม้ามอยกันใต้คอมเมนต์ได้น้า รออ่านและตำตามสาวๆ Jebanista นะคะ ^_^