SK-II รีวิว: เผยหมดเปลือกกับ น้ำตบพิเทร่า™ ในตำนาน!

สวัสดีค่ะทุกคนนนน กลับมาเจอกันอีกครั้งแล้ว 

วันนี้ฤกษ์งามยามดีที่เราจะหยิบน้ำตบในตำนานที่เค้าเรียกกันว่า น้ำตบป้าเจี๊ยบ (คุ้นกันใช่ไหมละคะ) หรือชื่อจริง ๆ ของเค้าก็คือ SK-II Facial Treatment Essence นั่นเอง

เราหยิบมารีวิว หลังจากได้ทดลองใช้มาสักพักแล้วค่ะ

ใครที่ยังสงสัยว่า SK-II ดีไหม SK-II คุ้มไหมกับการที่เราจะซื้อมาใช้

บอกเลยว่าเรามีคำตอบให้ทุกคน ! พร้อมแล้ว ไปดูกันเล้ยยย

น้ำตบพิเทร่า™ SK-II Facial Treatment Essence เราจะคุ้นกันดีว่าน้ำตบของเค้ามาในกล่องสีแดงสะดุดตา ตัวขวดเป็นสีขุ่น ๆ ถูกสกรีนด้วยโลโก้ของแบรนด์ แต่ก่อนที่เราจะไปดูรีวิว เรามาทำความรู้จักกับ พิเทร่า™ (PITERA™) ส่วนประกอบหลัก ๆ ของน้ำตบขวดนี้กันก่อนดีกว่าค่ะ ^^

พิเทร่า™ (PITERA™) คืออะไร?

พิเทร่า™ คือส่วนประกอบชีวภาพทางธรรมชาติที่อุดมไปด้วยอนุภาคอาหารผิวกว่า 50 ชนิด เค้าจะช่วยให้ผิวเราคงความสวยกระจ่างใสค่ะ ทั้งยังช่วยรักษาการทำงานตามธรรมชาติให้กับผิว ให้ผิวคงความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และเปล่งประกาย ช่วยฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิว ป้องกันไม่ให้ผิวภายนอกถูกทำร้ายจากมลภาวะ และสิ่งอื่น ๆ ทำให้ผิวของเรากระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เรียบเนียน ปกป้องผิวจากพวกรอยดำ ความหมองคล้ำนั่นเองค่ะ

และแน่นอนว่า SK-II Facial Treatment Essence ขวดนี้มีส่วนผสมของพิเทร่า™ อยู่เต็มเปี่ยม จนได้ฉายาว่า “มิราเคิล วอเตอร์” เพราะความเหนือของพิเทร่า™ 

ซึ่งเค้าเป็นส่วนผสมเอกสิทธิ์เดียวของแบรนด์ SK-II

และสำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวการค้นพบของพิเทร่า™ 

ก็ขออนุญาตใช้โอกาสนี้มาเล่าให้ฟังกันนะคะ!

การค้นพบพิทเร่าถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในโรงบ่มสาเกญี่ปุ่น จากความสงสัยว่าทำไมพนักงานบ่มสาเกสูงวัยที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า แต่กลับมีมือที่นุ่มและแลดูอ่อนเยาว์ ซึ่งสาเหตุก็มาจากน้ำสาเกในกระบวนการหมักบ่มที่พวกเค้าต้องแช่มือลงเป็นประจำ หลังจากการค้นคว้าวิจัยนานหลายปีกว่าจะค้นพบสูตรมหัศจรรย์ที่เรารู้กันว่าพิเทร่า™ นั่นเองค่ะ

Texture ของตัว PITERA™ Essence ขวดนี้จะเป็นน้ำเหลว ๆ จะมีความหนาแน่นนิด ๆ ไม่ได้เหลวขนาดน้ำเปล่าค่ะ ในเรื่องกลิ่น ส่วนตัวเราว่าเค้าแอบมีกลิ่นแปลก ๆ เล็กน้อย แต่ว่ามันก็ไม่ได้ฉุนขนาดนั้นนะ มันฟีลเหมือนกลิ่นพวกส่วนผสมธรรมชาติค่ะ แต่นั้นก็ทำให้รู้ว่าเค้าไม่ได้แต่งกลิ่น ไม่ได้มีน้ำหอมแน่นอน ใครที่แพ้น้ำหอมตัวนี้ไว้ใจได้เลย แต่เมื่อใช้ไปได้สักพักเราก็ชินกลิ่นไปเอง

มาถึง วิธีใช้ SK-II Facial Treatment Essence กันบ้าง

เราใช้สองแบบ แบบแรกก็คือใช้เป็นเอสเซนต์ตัวแรกในการเตรียมผิวเพื่อบำรุงในขั้นตอนต่อไป โดยการตบเบา ๆ ให้เนื้อเอสเซนต์ซึมเข้าสู่ผิว ใช้ประมาณ 3 หยด/ครั้ง หรือหยดให้เท่ากับเหรียญห้าบาท ความรู้สึกของเราก็คือเหมือนผิวได้รับการปลอบประโลมจริง ๆ และผิวชุ่มชื้นขึ้นทันที ฟีลเหมือนปลุกผิวเลย

ส่วนแบบที่สองก็ใช้เป็นเอสเซนต์ตัวแรกในการเตรียมผิว โดยการเทลงบนสำลี แล้วนำมาแปะ ๆ ให้ทั่วใบหน้า ฟีลเดียวกับการมาส์กหน้าเลยค่ะ วิธีนี้อาจจะเปลืองนิดหน่อย แต่เหมาะมากสำหรับใช้กู้ผิวแบบเร่งด่วน ใครที่ตื่นนอนมาแล้วรู้สึกว่าผิวแห้งกร้าน แต่งหน้าไม่ติด ผิวดูไม่สดใส ใช้วิธีนี้เหมาะมากค่ะ แปะไว้สัก 10-15 นาที แล้วก็ตบ ๆ ซ้ำ ให้เอสเซนต์ซึมลงสู่ผิว ให้ผิวสดชื่น อิ่มน้ำ และแต่งหน้าติดด้วย

น้ำตบ PITERA™ Essence 230 ml ขวดนี้ราคา 7,400 บาท

แต่เค้ามีอีกหลายขนาดที่ราคาถูกลงด้วยน้า เผื่อคนที่อยากทดลองใช้ค่ะ

ส่วนตัวหลังจากที่ทดลองใช้มาได้สักพัก ก็ต้องบอกเลยว่าคุณสมบัติเค้าสมกับราคาจริง ๆ

สิ่งที่เห็นชัดที่สุดของเราคือรูขุมขนกระชับขึ้น ผิวดูสดใส อิ่มน้ำ และชุ่มชื้นขึ้นด้วยค่ะ

ยิ่งถ้าวันไหนเราใช้เค้าแทนมาส์ก วันนั้นคือผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำไปทั้งวันเลย 

ในส่วนเรื่องของผลลัพธ์อื่น ๆ เราอาจจะยังไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้นค่ะ ส่วนตัวว่าควรจะต้องไประยะยาวไปเลยเพื่อให้เห็นผลมากยิ่งขึ้นในเรื่องของริ้วรอยนั่นเองค่ะ ของแบบนี้ต้องใช้เวลาแหละเนอะ ^^ แต่เราเชื่อว่าผลลัพธ์เค้าคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน

จริง ๆ เค้าใช้ได้อีกแบบก็คือเทแบ่งใส่ขวดสเปรย์เล็ก ๆ 

ไว้ใช้ฉีดเติมความชุ่มชื้นให้ผิวระหว่างวันด้วย

ใครที่ยังลังเลอยู่ว่า SK-II ดีไหม คุ้มไหม ถ้าถามเรา ส่วนตัวเราว่าคุ้มค่ะ !

เหมาะแก่การลงทุนมาก แม้ราคาขวดใหญ่จะสูง แต่ 230 ml เนี่ย ใช้กันยาว ๆ เป็นปีไปเลยจ้าาาาา ลงทุนครั้งเดียว แต่ได้ผลลัพธ์สุดปังกลับมา

เราใช้แล้วเข้ากับผิวหน้ามากค่ะ ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจว่าใช้แล้วเข้ากับผิวไหม

แนะนำให้ลองซื้อขวดเล็กมาลองใช้ก่อนน้า เพราะผลลัพธ์ของสกินแคร์ทุกตัว

ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วยเด้อออออ

*ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าเป็นผลลัพธ์ของเราเอง เพราะผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกันน้า

เราใช้ดี เข้ากับผิว แต่ก็อาจจะ (ใช้คำว่าอาจจะ) มีบางคนที่ใช้แล้วเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ

ขอให้รีวิวของเราเป็นแค่หนึ่งในการตัดสินใจซื้อพอน้า ถ้าอยากรู้ผลลัพธ์จริง ๆ

เราแนะนำให้ลองหาตัวเทสเตอร์มาใช้ดู หรือลองซื้อขนาดเล็ก ๆ มาใช้ก่อนก็ได้ค่า เพื่อความสบายใจ

ใครเคยใช้ SK-II หรือใช้อยู่แวะมารีวิวบอกต่อกันที่กระทู้เราได้น้า
ถือว่าเป็นการช่วยให้คนที่สนใจตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ

วันนี้เราขอตัวไปก่อนแล้ว บะบุยยยยย xoxo