“Test” นำ้ตบ 3 แบรนด์ ในดวงใจ ตัวไหนรอด????
Kittiya Sureesing 58 20Hello ซาหวัดดีค่าาา สาวๆ ชาว Jeban ที่น่าเลิฟ ทุกๆคน นาจา …
กลับมาพบกับเราอีกแล้วน๊าาาาค๊าาาสาวๆ และสำหรับวันนี้ก็แน่นอนค่ะ เราต้องมีเรื่องราวต่างๆมากมาย บลาๆ เกี่ยวกับความสวยความงามของสาวๆแบบเรา มาเม้ามอยให้สาวๆอ่านกันอีกแน่นอนจ้าาา และสำหรับวันนี้จะเป็นอะไรนั้นไปดูกันเลยจ้า
สาวๆ ค่ะ มีสาวๆคนไหนมี Skin Care มากกว่า 1 ตัวบ้างมั๊ยค่ะ?? เราเชื่อว่ามีค่ะ และเราก็เป็นหนึ่งในสาวๆที่มี Skin Care มากมายก่ายกองเลยค่ะ ไหนจะ ครีม โทนเนอร์ เซรั่ม อายครีม บลาๆ และก็ยังมีอีกหนึ่งตัวที่พลาดไม่ได้และกำลังฮิตมากๆ ในหมู่ Skin Care ตอนนี้ ก็คือ Essence Water หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อ น้ำตบ นั่นเองค่าาา ซึ่งน้องนำ้ตบที่กำลังฮิตมากๆในตอนนี้ เค้าก็มีมากมายหลายหลากซะเหลือเกินใช่มั๊ยค่ะสาวๆ มันก็เลยทำให้เรามีคำถามกับตัวเองว่า “แล้วชั้นควรจะเลือกใช้ตัวไหนดี??” ซึ่งเราว่าหลายๆคนก็คงมีคำถามแบบนี้เหมือนกันใช่มั๊ยค่ะ??
สาวๆ ค่ะ มีสาวๆคนไหนมี Skin Care มากกว่า 1 ตัวบ้างมั๊ยค่ะ?? เราเชื่อว่ามีค่ะ และเราก็เป็นหนึ่งในสาวๆที่มี Skin Care มากมายก่ายกองเลยค่ะ ไหนจะ ครีม โทนเนอร์ เซรั่ม อายครีม บลาๆ และก็ยังมีอีกหนึ่งตัวที่พลาดไม่ได้และกำลังฮิตมากๆ ในหมู่ Skin Care ตอนนี้ ก็คือ Essence Water หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อ น้ำตบ นั่นเองค่าาา ซึ่งน้องนำ้ตบที่กำลังฮิตมากๆในตอนนี้ เค้าก็มีมากมายหลายหลากซะเหลือเกินใช่มั๊ยค่ะสาวๆ มันก็เลยทำให้เรามีคำถามกับตัวเองว่า “แล้วชั้นควรจะเลือกใช้ตัวไหนดี??” ซึ่งเราว่าหลายๆคนก็คงมีคำถามแบบนี้เหมือนกันใช่มั๊ยค่ะ??
ใช่แล้วค่ะ สาวๆ วันนี้เราเลยขออาสาเป็นหนูทดลอง รีวิว น้องนำ้ตบทั้งหมด 3 ตัว ด้วยกัน ซึ่งต้องบอกเลยนะคะว่า น้ำตบที่เราเลือกมารีวิวในวันนี้ สองตัวแรกเราจะเห็นในโฆษณาบ่อยมากๆ และอีกตัวก็คือน้องใหม่ที่เราสนใจอยากลองใช้นั่นเองค่าาา (กระซิบค่ะสาวๆ ก่อนที่จะมาเป็นรีวิวนี้เราได้ทดลองใช้น้องๆทั้ง 3 มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้าาาา ^^)
และสำหรับผลการทดลอง น้องน้ำตบต่างๆของเราจะเป็นยังไง?? และตัวไหนจะร่วง?? ตัวไหนจะรอด??? ก็ตามไปดูกันเลยจ้าาา… (ก่อนอื่นเราต้องขอบอกสภาพผิวหน้าของเรา ณ จุดจุดนี้ ก่อนน๊าาา คือช่วงนี้เรา รู้สึกว่าผิวหน้าของเรานั้นแห้งกร้าน และดูหมองคล้ำ เราเลยจะเลือกน้ำตบ ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของผิวแห้งกร้าน และหมองคล้ำนั่นเองค่ะ อ่อ…อีกเรื่องนึงก็คือการรีวิวน้ำตบของเราในวันนี้เป็นความรู้สึก และผลลัพธ์ที่เรารู้สึกและสัมผัสได้จริงของเราน๊าา ไม่ว่ากันเน๊อะ ^^)
เรามาเริ่มที่ตัวแรกกันก่อนจ้าาา น้องมาจาก แบรนด์ Hada Lobo และน้องมีชื่อว่า Hada Labo Arbuting Whitening Lotion จ้าา
น้องคนนี้เค้ามีสารกัดจาก พืชธรรมชาติ Hyaluronic Arbutin เบต้าอาร์บูติน และวิตามิน C ซึ่งทางแบรนด์เค้าเคลมมาว่าน้องจะช่วยในเรื่องของการปรับสภาพผิว ลบเลือนริ้ว รอย หมองคล้ำ จุดด่างดำ ช่วยทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ จ้า
น้องเป็นน้ำสีขาวขุ่นค่ะ ส่วนในเรื่องกลิ่นของน้องก็ค่อนข้างคล้ายยาฆ่าเชื้อค่ะสาวๆ (ต้องบอกก่อนะคะอันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวน๊าาค๊าา)
มาต่อที่ความรู้สึกหลังจากที่ได้ทดลองใช้กันค่าาา คือเรารู้สึกว่าน้องซึมเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ ผิวชุ่มชื่นขึ้น (แต่เราแอบรู้สึกว่าผิวหน้ามันนิดหน่อย ซึ่งอาจเป็นเพราะปกติเราเป็นคนผิวค่อนข้างมันอยู่แล้ว) ไม่มีอาการแพ้ และไม่รู้สึกแสบผิวหน้าจ้าาา แต่น้องคนนี้เราจะไม่ค่อยโอเรื่องกลิ่นของน้องนิดหน่อยค่าาเพราะเราชอบกลิ่นที่หอมสดชื่นมากกว่าค่ะ เรื่องความกระจ่างใสก็ยังไม่ค่อยเห็นผลดีสักเท่าไหร่น๊าาา คงต้องใช้เวลามากกว่านี้ค่าาา
มาต่อที่ตัวที่สอง น้องมาจาก แบรนด์ L’oreal และน้องมีชื่อว่า L’oreal Revitalift Crystal Micro-Essence จ้าาา
น้องคนนี้เค้าเคลมว่าใช้เทคโนโลยีไมโครไนซ์ และมีส่วนผสมของสารสกัดจากเซนเทลล่า เอเชียติก้า ซึ่งน้องจะช่วยบำรุงผิวหน้าให้สว่างกระจ่างใสดุจคริสตัล (อู้ววหูวววว^^) ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์สดใส และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยอีกด้วยค่าา
มาที่ตัวน้ำตบของน้อง L’oreal Revitalift Crystal Micro-Essence กันบ้างค่ะ น้องเป็นน้ำสีใสปิ้ง เหมือนน้ำเปล่า กลิ่นของน้องหอมมากกกกกก (เราแอบคิดว่ากลิ่นน้องค่อนข้างหอมแรงไปนิดนึง) ซึ่งน่าจะเป็นเพราะเราไม่ค่อยชอบ Skin care ที่มีกลิ่นนำ้หอมด้วยสักเท่าไหร่ค่ะ
และสำหรับความรู้สึกหลังจากที่ได้ทดลองใช้ก็คือ เรารู้สึกว่าน้องซึมเข้าผิวได้ดี อาจมีเหนียวๆนิดหน่อยในช่วงแรก แต่น้องไม่ทิ้งความมัน ถือว่าโอเครใช้ได้เลยค่ะสาวๆ แต่สำหรับสาวๆคนไหนที่แพ้น้ำหอม และแอลกอฮอล์ไม่แนะนำจ้า เพราะน้องมีส่วนผสมของแอลกอฮอลและน้ำหอมค่าา ในส่วนของความกระจ่างใสอันนี้ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ อาจจะต้องใช้นานๆหน่อยถึงจะเห็นผลได้ดีกว่านี้
มาต่อที่ตัวที่สามกันเลยจ้าา น้องมาจาก แบรนด์ Momo puri น้องมีชื่อว่า momo puri Lotion Peach Ceramide Water And Lactobacillus Blend นั่นเอง (น้องคนนี้แหละค่ะที่เราบอกว่าน้องเป็นน้ำตบตัวใหม่ที่น่าลองมากๆ ^^)
ตัวเนี้ยน้องนำเข้าจากระเทศญี่ปุ่นจ้า น้องมีสารสกัดหลักๆเลยจาก Lactobacillus Paste (แลคโตบาซิลลัส) และ Peach Ceramide (สารสกัดจากพีช) นั่นเอง และทางแบรน์ของน้องเค้าเคลมมาว่า น้องช่วยผลัดเซลล์ผิว และเติมความชุ่มชื่นแก่ผิว ช่วยให้ผิว ฉ่ำ เด้งเหมือนผลพีชเลยจ้าา และที่สำคัญน้องยังช่วยปลอบประโลมผิวที่ดูเหนื่อยล้า ให้กลับมาดูสดชื่น อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดีขึ้นอีกด้วยยยค่าา
มาที่ตัวน้ำตบกันของ momo puri Lotion Peach Ceramide Water And Lactobacillus Blend บ้างค่ะสาวๆ สำหรับตัวน้ำตบ น้องมีสีใสๆ เลยค่ะสาวๆ ในเรื่องกลิ่นของน้องจะเป็นกลิ่นพีชอ่อนๆ สดชื่นมากๆ (คือกลิ่นน้องหอมพีชละมุนมากกจ้าาาา)
และสำหรับความรู้สึกหลังจากที่ได้ทดลองใช้น้อง Momo Puri Peach ก็คือออ… แท่น แท๊นนน คือเราจะบอกว่าน้องดีงามมากค่ะสาวๆ ตัวน้ำตบน้องซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมากๆ (ก.ไก่ล้านตัววไปเลยย) ตบปุ๊บซึมเข้าหน้าไปเลยค่ะ น้องบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งความมันบนผิวหน้า และรู้สึกได้เลยค่ะสาวๆว่าผิวหน้านุ่ม ชุ่มชื่น ฉ่ำ เด้ง ผิวดูโกลทันทีหลังจากตบ ไม่ระคายเคืองผิว ไม่เกิดอาการแพ้ (จริงๆเราเป็นคนนึงที่ผิวหน้าแพ้ง่ายมาก) และที่เราชอบมากๆเลยก็คือ กลิ่นของน้องค่ะ พีช มากก ละมุนมากก สดชื่นสุดๆ (คือสาวกพีชพลาดไม่ได้จริงๆค่ะ)
และที่สำคัญหลังจากที่เราได้ใช้น้องต่อมาเรื่อยๆ จนครบ 7 วัน ผลลัพธ์ของน้องเอาใจไปเลยจ้า คือน้องสามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวหมองคล้ำได้จริงๆ รู้สึกได้เลยว่า ผิวหน้าดูไบร์ทขึ้น โกล์ขึ้น ฉ่ำ เด้ง ผิวดูสุขภาพดีมากขึ้นจริงๆ (ยอมน้องเลยค่ะคือผิวผิวดีขึ้นมากๆ เลิฟ^3^)