วัย 2x ปี เริ่มต้นลองใช้ SK-II Facial Treatment Essence ดีไหม?
turtle.yolq 80 17 GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^สวัสดีค่ะ ชาวจีบันนิสต้าทุกคนนน เชื่อว่า ถ้าพูดถึงสกินแคร์จาก SK-II เช่น น้ำตบพิเทร่า™ หรือ ‘มิราเคิล วอเตอร์’ ฯลฯ คนจะชอบนึกถึงว่า คนช่วงวัย 30-40 ปีขึ้นไปแน่เลย (แอบสารภาพว่า เราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เคยอยากลองใช้มากกก แต่ไม่มั่นใจว่าจะเหมาะกับผิวคนอายุ 20 กว่าๆ แบบเราไหม เลยไม่ได้หามาลองซักที) จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนที่แล้วมีโอกาสได้รับ SK-II Facial Treatment Essence จากทางแบรนด์มาให้เราได้ทดลองใช้ วันนี้เราเลยขอมารีวิวให้ทุกคนได้ดูกันค่ะว่า น้ำตบ SK-II ดีไหม? คุ้มที่จะลงทุนรึเปล่า?
ทำความรู้จักกับ SK-II และ PITERA™
แบรนด์ SK-II เป็นหนึ่งใน High Brand สัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลกจากส่วนประกอบที่ชื่อ PITERA™ เอกสิทธิ์เดียวเฉพาะ SK-II จะบอกว่า ประวัติของส่วนประกอบตัวนี้ไม่ธรรมดาเลย คือ นักวิทยาศาสตร์ไปดูคนงานนวดข้าวเพื่อหมักบ่มสาเก แม้หน้าตาของคนงานคนนั้นจะเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลา แต่ว่ามือที่คอยนวดบ่มข้าวเป็นประจำกลับเนียนนุ่ม ดูอ่อนเยาว์เหมือนผิวเด็ก เลยเริ่มคิดและวิจัยจริงจังจนค้นพบ เจ้าตัวพิเทร่า™ ส่วนประกอบทางชีวธรรมชาติล้ำค่าที่อุดมไปด้วยอนุภาคอาหารผิวกว่า 50 ชนิดนี่เอง!
SK-II Facial Treatment Essence
(ราคา SK-II ขนาด 230ml = 7,400.-)
น้ำตบพิเทร่า™ นางเอกประจำแบรนด์ ที่ถ้าพูดถึง SK-II ทุกคนจะต้องนึกถึงน้ำตบตัวนี้แน่นอน ผ่านการการันตีด้วยยอดขายอันดับหนึ่ง และรางวัลมากมาย ทางแบรนด์เคลมว่า ใส่เจ้าตัว PITERA™ มาแน่นๆ มากกว่า 90% ให้สารอาหารผิวครบถ้วนจากวิตามิน กรดอะมิโน และแร่ธาตุต่างๆ เน้นเรื่องฟื้นผิวให้ทำงานมีประสิทธิภาพเหมือนวัยหนุ่มสาว + ปรับผิวกระจ่างใส เรียบเนียน กระชับ + ฟื้นฟูและเสริมความแข็งแรงจากปัจจัยภายนอก
.
ขอเล่าเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ เรื่องฟื้นผิวให้ทำงานมีประสิทธิภาพ คนช่วง 10 กว่า – 20 กว่า ปี อาจจะยังไม่ค่อยเห็นภาพเท่าไหร่ เพราะอวัยวะและพวกเซลล์ต่างๆ ยังคงทำงานได้ดีอยู่ แต่พออายุมากขึ้นเริ่มตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป เซลล์ผิวจะเริ่มทำงานน้อยลงทำให้พลังงานในเซลล์น้อยลง เช่น การสร้างสารอุ้มน้ำลดลงทำให้ผิวกักเก็บน้ำได้น้อยลง เซลล์ไฟโบรบลาสต์ที่สร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวก็สร้างคอลลาเจนน้อยลง ทำให้เกิดปัญหาผิวอย่างริ้วรอยและอื่นๆ ตามมา ฯลฯ หากมีปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น ยูวี มลภาวะ ความเครียด ฯลฯ ปัญหาก็จะหนักหรือมาไวมากกว่าปกติไปอีก ซึ่งเราสามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่งด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยภายนอก+เริ่มต้นดูแลผิวให้ดีตั้งแต่ช่วง 20 ปีขึ้นไปค่ะ
ส่วนประกอบ :
ตัวนี้ใส่ส่วนประกอบมาไม่หลากหลาย มีสารแอคทีฟหลักคือ Galactomyces Ferment Filtrate หรือ พิเทร่า™ และตัวอุ้มความชุ่มชื้นคือ BG+PG เราโอเคมากกว่าที่ เขาใส่ พิเทร่า™ มาเข้มข้นในระดับที่มีงานวิจัย(ของแบรนด์)รองรับ คือ มากกว่า 90% ดีกว่าใส่มาหลายตัวแล้วไม่เข้มข้นพอ รวมๆ คือให้สารอาหารผิวที่หลากหลาย ช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ + ฟื้นผิวจากความหมองคล้ำ แห้งกร้าน ริ้วรอย + ปกป้องไม่ให้เกิดปัญหาผิวจากปัจจัยภายนอก
.
ในส่วนของแบรนด์อื่นที่พยายามสื่อสารว่าเป็น Dupe ของเจ้าตัวนี้ เราจะบอกว่า ลองนึกภาพว่า ข้าวยังมีหลายสายพันธุ์ มีหลายเกรดให้คนเลือกทาน ส่วนประกอบที่ถูกนำมาทำเป็น PITERA™ ก็เช่นกัน ในส่วนของโครงสร้างอาจมีความคล้ายกันบ้าง แต่ยีสต์ที่ได้จากการหมัก คุณสมบัติ และผลลัพธ์ย่อมต่างกัน เพราะอย่างที่บอกว่า PITERA™ เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ มีแค่ใน SK-II เท่านั้น มีกันเสียจากพาราเบน แต่ไม่มีสารอันตรายต่อผิว ส่วนตัวใช้แล้วไม่แพ้หรือระคายเคืองใดๆ ทั้งสิ้น ปล. ผิวแพ้ง่ายควรเช็คว่า ตัวเองแพ้ตัว พิเทร่า™ ไหม? แค่นั้นค่ะ
วิธีใช้ SK-II Facial Treatment Essence
หลังจากใช้โทนเนอร์เช็ดที่ผิวเพื่อเช็คเรื่องความสะอาด+ปลอบปละโลมผิวเบาๆ แล้ว ส่วนตัวเราทำตามคลิปวิดีโอด้านบนเลย เขาแนะนำวิธีใช้มา 2 แบบ คือ
1) เทน้ำตบลงฝ่ามือประมาณ 3 หยด หรือเหรียญ 5 บาท ประกบฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าหากัน แล้วกดฝ่ามือที่มีน้ำตบพิเทร่า™ ไปที่ผิวหน้าด้วยลำคอ แบบ Pat Pat (ประมาณว่า แปะๆ ลงกับผิวเบาๆ ไม่ต้องตบเด้อ)
2) เทใส่สำลีประมาณวงเหรียญ 5 บาท แปะซับผิวเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้าและลำคอ
.