My skincare routine น้อยแต่ครบ ผิวสุขภาพดีใน 8 ตัว

50 16
WITH <strong>Fyne</strong> / เนื้อหานี้มีแบรนด์ที่ร่วมงานอยู่

สวัสดีสาวๆชาวจีบันทุกคนค่า วันนี้ภาจะมาแชร์ skincare routine ช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคม กันค่ะ ขอเล่าก่อนว่าช่วงเดือนที่ผ่านมาภาเริ่มกลับมาเรียนที่มหาลัย ชีวิตประจำวันคือกลับมาใส่แมสตลอดเวลา เรียน และมีทำแลปทุกวัน ผิวค่อนข้างเหนื่อยเลยแหละ แง เพราะฉะนั้น skincare เซตนี้จึงเน้นการบำรุงแบบจัดเต็มทุกสิ่งอย่างนะคะ55555 ทั้งเรื่องความชุ่มชื้น ป้องกันสิว หน้ากระจ่างใส และหน้าไม่โทรม คัดมาให้แล้วว่า 8 ตัวนี้คือที่สุดในกรุน้องๆ skincare และหยิบใช้บ่อยใช้ซ้ำวนกันไปค่า

ก่อนจะเข้าเรื่องขอชี้แจงนิดนึงว่า ภาไม่ได้ทา 8 ตัวนี้ทั้งหมดในคืนเดียวนะคะ เดี๋ยวหน้าเยิ้มก่อนค่ะซิส55555 คือจะใช้สลับๆกันไป ตอนกลางคืนจะทา skincare 4-5 ตัวประมาณนี้ค่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความขยันของตัวเองด้วยนะคะ55555 พื้นฐานผิวภาเป็นผิวผสมค่อนไปทางผิวมันค่ะ มีรูขุมขนกว้าง สิวอักเสบขึ้นง่าย และมีรอยดำประปรายค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูรีวิวแต่ละตัวกันเลยงับ

Cleansing – Fyne gentle facial cleansing gel

เริ่มกันที่ขั้นแรกการทำความสะอาดผิว เป็นสิ่งสำคัญมากจริงๆนะ คิดว่าทุกคนในนี้น่าจะเข้าใจดีแต่อยากเน้นย้ำอีกรอบค่า5555555 เจลล้างหน้าที่ดีสำหรับภาคือต้องทำความสะอาดผิวได้เกลี้ยง และต้องไม่รู้สึกระคายเคือง ถึงแม้ว่าเจลล้างหน้าจะอยู่บนหน้าเราไม่กี่นาที แต่ภาคิดว่าผิวหน้าเราก็ต้องสัมผัส cleansing ทุกวัน อย่างน้อยๆวันละ 2 ครั้ง เพราะฉะนั้นเจลล้างหน้าสำหรับภายิ่งอ่อนโยนได้ยิ่งดี ซึ่งตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ texture ของเขาจะเป็นเจล กลิ่นจะคลีนๆ ไม่มีน้ำหอม มีฟองในปริมาณที่พอดี หลังล้างหน้าเสร็จผิวยังคงความชุ่มชื้นอยู่ แต่ไม่ถึงกับเป็นฟีลลื่นๆอยู่บนหน้านะ ในตอนเช้าภาจะใช้ 1 ปั๊ม และตอนเย็นถ้าแต่งหน้าหนักๆจะใช้ 2 ปั๊มค่ะ จากการใช้อย่างต่อเนื่องสิ่งที่ชอบคือสิวขึ้นน้อยลงกว่าเมื่อก่อน ทำความสะอาดได้ดี และหน้าไม่แห้งตึงหลังล้างออก ทำให้ลง skincare ตัวถัดไปได้ smooth ขึ้นค่า

ราคา official 100 ml 690 บาท

ราคา official 250 ml 390 บาท

Toner – Kiehl's calendula herbal-extract toner

Step ต่อมาเป็นการบำรุงผิวด้วยโทนเนอร์ ขอบอกว่าภาติดการใช้โทนเนอร์มากกกก ช่วงหลังภาเปลี่ยนวิธีจากการซับหน้าให้แห้งเป็นการใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าตอนที่ผิวยังเปียกอยู่ ส่วนตัวรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นมากกว่าตอนเช็ดโทนเนอร์บนหน้าที่แห้งและชอบฟีลแบบนี้มากกว่าค่ะ เลยใช้วิธีนี้มาตลอด555555 สำหรับโทนเนอร์ kieh’s ภาได้รับเป็น surprise box จากบ้านจีบันค่า กำลังทดลองใช้อยู่เดี๋ยวมีรีวิวเต็มๆออกมาอีกแน่นอนค่ะ texture ของเขาจะเป็นน้ำใสๆเลย ภาว่ากลิ่นเหมือนน้ำหล่อฮังก๊วย55555 หลังเช็ดแล้วตัวนี้จะให้ความชุ่มชื้นได้ดี จากการทดลองใช้ภารู้สึกช่วยลดการอักเสบได้ดีค่ะ สิวผดเม็ดเล็กๆก็ดีขึ้นด้วย ปลื้มจริงๆตัวนี้

ราคา official 250 ml 1,500 บาท

Essence – Origins mega mushroom skin relief soothing treatment lotion

น้ำตบลูกรักอีกหนึ่งตัวเลยค่า ใช้จนจะหมดขวดแล้ววว ตัวนี้เราตำตามรีวิวเลยเพราะได้ยินชื่อเสียงมาเยอะ texture เป็นน้ำๆปกติเลย ไม่มีความหนืด เราชอบใช้ในรูปแบบของน้ำตบนะคะ (เคยลองใช้กับสำลีแบบโทนเนอร์รู้สึกว่าการใช้แบบน้ำตบจะเห็นผลชัดเจนกว่า) ด้วยความที่เนื้อเป็นน้ำเขาจะซึมเข้าผิวได้ไว และยังมีกลิ่นหอมแบบมะกรูดสมุนไพรอ่อนๆด้วย ข้อดีที่เราชอบคือลดการระคายเคืองได้ดี ทั้งเรื่องหน้าแดง หน้าคัน เป็นผด น้องคนนี้ช่วยปลอบปะโลมผิวได้ดีจริงๆ นอกจากนี้ช่วยลดการอักเสบของสิวด้วยค่า แนะนำว่าซื้อกับร้านที่มีความน่าเชื่อถือหน่อยนะคะ เพราะของปลอมมีเยอะมากจริงๆ แง

ราคา official 200 ml 1,800 บาท

Pre serum – Sulwhasoo first care activating serum EX

จบ part สกินแคร์แบบเนื้อน้ำๆไปแล้วนะคะ ทีนี้ก็จะขอเข้าสู่ serum เนื่องจากว่าภาเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางผิวมัน skincare ที่มีส่วนใหญ่ก็เลยจะเป็นในรูปแบบเซรั่มค่ะ ตัวแรกที่ลงเพื่อ prep ผิวเลยคือคุณน้อง sulwhasoo ค่า ขวดนี้เป็นขวดที่ 3 แล้ว ใช้มายาวนานหลายปีจริงๆ ถ้าใครอ่านกระทู้ของภาจะเห็นว่าภาได้รีวิว sulwhasoo first care แบบเต็มๆแล้วนะคะ ซึ่งภาใช้สูตรใหม่ขวดจิ๋วที่ได้จากทางจีบันหมดไปแล้ว เลยกลับมาใช้สูตรเก่าที่ตัวเองตุนไว้ก่อนหน้านี้ค่า555555  texture เนื้อจะเป็นเจลกึ่งน้ำ คือยังมีความคงตัวอยู่ไม่ได้ไหลง่ายขนาดนั้น กลิ่นจะออกแนวสมุนไพร ซึ่งส่วนตัวภาชอบกลิ่นนี้มากๆหอมแบบไม่เยอะไม่น้อยเกินไป สำหรับตัวนี้ทาแปปเดียวสักพักก็ซึมแล้วค่ะ เนื้อดีอยู่นะ ไม่ทิ้งความมันอะไรไว้บนหน้าเลย ผลลัพธ์จากการใช้ต่อเนื่อง ผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้นซึ่งข้อนี้เห็นผลได้ชัดเจนที่สุดแล้ว และรูขุมขนกระชับขึ้นเล็กน้อยค่ะ (พื้นฐานภาเป็นคนที่มีรูขุมขนกว้างอยู่แล้วค่ะ)

ราคา official 60 ml 2,900 บาท

Serum – Iunik propolis vitamin synergy serum

สกินแคร์ฝั่งเกาหลีอีกตัวที่เรารู้สึกว่าไม่ค่อยแมสแต่ผลลัพธ์ดีมากๆเลยค่ะ ตัวนี้จะเป็น serum ที่มีส่วนผสมของ propolis ภาษาไทยคือกาวผึ้ง เป็นสารเหนียวๆที่ได้จากผึ้งงานไปเก็บพวกเปลือกไม้ต่างๆมาอุดรูเพื่อให้รังผึ้งแข็งแรงมากขึ้น ซึ่ง propolis มีคุณสมบัติเป็น antioxidant (เนื่องจากมีส่วนประกอบที่เป็น flavonoid) ทำให้มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ ลดการอักเสบ และยับยั้งการเจริญเติบโตของยีสต์และเชื้อราค่ะ เราไปรู้จักเจ้าตัวนี้จากรีวิวการรักษาสิวที่เกิดจากเชื้อรา ของคุณมุก pearlmadeskin โดยตัวนี้เป็น skincare ที่ fugal acne safe ค่ะ คือไม่มีส่วนผสมที่จะก่อให้เกิดสิวยีสต์เพิ่ม ทำให้คนที่เป็นสิวยีสต์หรือกำลังรักษาสิวสามารถใช้ได้ค่ะ texture เขาของจะเป็นเซรั่มหนืดๆนิดนึง หลังลงบนหน้าจะทิ้งความชุ่มชื้นเอาไว้ ไม่ถึงกับซึมหายไป ผลลัพธ์ที่เห็นจากการใช้ต่อเนื่องอาจไม่ได้เห็นชัดมาก แต่จะเป็นการคงสภาพผิวให้แข็งแรง ลดการเกิดสิวในอนาคต และลดอาการอักเสบจากสิวได้ ตั้งแต่ภาใช้เซรั่มตัวนี้มารู้สึกว่าสิวไม่อักเสบหนักเท่าเมื่อก่อนค่า เป็นเซรั่มที่เชียร์และอยากให้คนรู้จักมากกว่านี้จริงๆค่ะ

ราคา official 50 ml 590 บาท

Serum – Fyne BHA clarifying serum

เซรั่ม BHA 2% (salicylic acid) ถือว่าเป็นความเข้มข้นสูงสุดที่ใช้ใน skincare เลย จะบอกว่า Fyne เป็นแบรนด์ที่ทำผลิตภัณฑ์ออกมาได้น่าใช้ทีเดียว ทั้งเรื่องคอนเซป และ packaging สำหรับ texture ของเขาจะเป็นเจลแน่นๆ ไม่เหลวมาก หลังทาลงบนผิวจะทิ้งความชุ่มชื้นและหนืดเอาไว้นิดๆ เราเลยชอบเอามาใช้ช่วงกลางคืน จุดประสงค์ที่เราใช้ตัวนี้คืออยากรักษาสิว ผลลัพธ์หลังจากใช้อย่างต่อเนื่องช่วง 2 อาทิตย์แรก พบว่ามีสิวดันออกมาค่อนข้างเยอะ เริ่มจากการเป็นสิวอักเสบ ประมาณ 10 เม็ด จากนั้นสิวอักเสบจะมีหัว และเป็นหนองโผล่ออกมา ทำให้กดสิวออกง่ายขึ้น เพราะ BHA มีคุณสมบัติลดการอุดตันของรูขุมขนอยู่แล้ว การเกิด purging จึงเป็นเรื่องปกติเกิดได้กับคนบางส่วนค่ะ เหมือนเป็นการดันสิวอุดตันใต้ผิวขึ้นมา ยอมรับว่าช่วงที่ภาเริ่มใช้นี่แทบรับหน้าตัวเองไม่ได้55555 รู้สึกนอยด์ไปเลยเพราะสิวขึ้นจากใส่แมสแล้วยังจะมาขึ้นเพราะสาร active ingredient อีก555555 ภาเลยศึกษาข้อมูลจริงจังถึงการทำงานของ BHA ซึ่งในเคสภาก็มีความเป็นไปได้ค่ะ ภาเลยอดทนใช้เขาไปเรื่อยๆควบคู่กับสกินแคร์ที่ช่วยในเรื่องการอักเสบด้านบนที่กล่าวๆมา พอเริ่มเข้าอาทิตย์ที่ 4 ผิวหน้าภาเรียบเนียนขึ้น สิวไม่ค่อยปะทุเหมือนช่วงเริ่มใช้ และรู้สึกว่ารอยดำของสิวไม่ใหญ่และหนักเท่ากับการปล่อยให้สิวหายเองตามธรรมชาติ ตรงนี้ประทับใจมาก อีกอย่างที่ประทับใจคือถึงจะมี BHA 2% แต่ภาไม่ได้รู้สึกว่าเกิดการระคายเคืองบนหน้าเลย ตัวนี้ภาแนะนำสำหรับคนที่อยากรักษาสิวเลยค่ะ

ราคา official 30 ml 990 บาท

​Serum - Kiehl’s clearly corrective dark spot solution

เซรั่มอีกตัวที่ใช้ต่อเนื่องมาปีกว่าแล้วค่ะ สาวๆหลายๆคนน่าจะรู้จักกันดีเพราะมีรีวิวเยอะมากกก สำหรับภาขวดนี้ขึ้นขวดที่ 2 แล้วค่า หลักๆตัวนี้จะมีส่วนประกอบ active ingredients คือของอนุพันธ์ Vitamin c (3-O-Ethyl Ascorbic Acid), BHA (Salicylic Acid) และมีสาร antioxidant อื่นๆด้วย ซึ่งช่วยลดรอยดำและปรับให้ผิวกระจ่างใสค่ะ texture จะเป็นเนื้อเซรั่มเหลวๆ ตอนทาเสร็จจะทิ้งความเหนียวนิดๆไว้บนหน้า ภาเลยเอามาใช้ตอนกลางคืนเช่นกันค่ะ การใช้งานของภาคือไม่ได้ใช้ร่วมกับ BHA ของ Fyne นะคะ เพราะเกรงว่ามี BHA เหมือนกัน เลยกลัวว่าจะไปทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกัน ซึ่ง Fyne ภาใช้เพื่อรักษาสิว เมื่อสิวดีขึ้นภาถึงเริ่มใช้ตัวนี้เพื่อรักษารอยค่ะ สลับช่วงกันไป ผลลัพธ์หลังการใช้อย่างต่อเนื่องคือรอยดำจากสิวจางลง แนะนำว่าถ้าขยันใช้ตั้งแต่ยังเป็นรอยใหม่ๆจะดีมากค่ะ เพราะจะเห็นผลไวขึ้น ส่วนรอยเก่าอาจจะต้องใช้เวลาสักพักเลย นอกจากนี้ยังช่วยให้หน้ากระจ่างใสด้วย ถ้าทาตัวนี้ทั้งหน้าก่อนนอนตื่นมาหน้าจะขาว กระจ่างใส ผิวดูตื่นและหน้าไม่หมองค่ะ เป็นเซรั่มลูกรักอีกตัวเลยค่า

ราคา official 50 ml 3,550 บาท

Serum – La roche-posay HYALU B5 serum

ภาขอนิยามว่าเซรั่มผิวเด้ง ผิวฟู จากหน้าโทรมๆดูดีได้แค่คืนเดียวเลย เว่อไหม555555 แต่เริ่ดมากจริงๆ ส่วนผสมหลักของเขาคือ Hyaluron ส่วนผสมยอดฮิตที่เพิ่มความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ซึ่ง hyaluronic acid ในนี้เขาจะใส่ทั้งแบบโมเลกุลขนาดเล็ก (Hydrolyzed Hyaluronic Acid) เป็นส่วนประกอบของ hyaluronic acid ที่ตัดออกมาให้มีขนาดโมเลกุลเล็กลงเพื่อจะได้ซึมเข้าผิวและทำให้ผิวแน่นมากขึ้น อีกอย่างคือโมเลกุลขนาดใหญ่ (Sodium Hyaluronate) ส่วนนี้จะไม่ซึมเข้าผิวแต่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นทำให้ผิวดูฟูขึ้น texture ของเขาจะเป็นเซรั่มเหนียวและหนืดมาก ภาใช้เป็นตัวปิดท้ายของ routine ที่ประทับใจคือพอใช้ไปแค่คืนเดียวเห็นผลเลยค่ะ55555 ตื่นมาหน้าอิ่มน้ำ ฟู และดูชุ่มชื้นมากๆ (แต่จะมีฟีลหน้ามันหลังตื่นนอนนะคะ) ผลลัพธ์จากการใช้ต่อเนื่องคือผิวดูกระชับและแน่นมากขึ้น ผิวดูเต็มมากขึ้น เป็น Hyaluron คุณภาพอีกตัวที่อยากแนะนำค่ะ

ราคา official 30 ml ราคา 1,500 บาท

จบแล้วนะคะสำหรับ skincare routine ทั้งหมดของภาในช่วงนี้ ยาวสุดตั้งแต่เขียนมาและจัดหนักจัดเต็ม5555555 ผิวภาดีขึ้นได้เพราะการขยันบำรุงและเลือก skincare ที่เหมาะกับผิวเลยจริงๆ การรีวิวทั้งหมดเป็นประสบการณ์จากการทดลองใช้และความคิดเห็นส่วนตัวของภาเองนะคะ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในผิวแต่ละคนน้า ถ้าใครเคยใช้ตัวไหนแล้วเป็นยังไงคอมเม้นท์พูดคุยกันข้างล่างได้นะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันค่ะ ทุกไลค์และคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ภาได้มากๆเลย ขอบคุณนะคะ บ๊ายบายยย


Pa Rung.

Pa Rung.

ชื่อภานะคะ
Twitter: @pajidar (pajida ภาพารีวิว)
FB page: @pajidar
IG: pa.pa.review
ฝากติดตามผลงาน review และ how to ด้วยนะคะ ขอบคุณค่า

FULL PROFILE