ชวนกันมาทำความรู้จักกับนางเอกสาวสวยที่ทำให้แฟนๆประทับใจจาก Emily In Paris   ขอบอกเลยว่า  เส้นทางสู่ดวงดาวของเธอไม่ธรรมดาเลยล่ะ

คุณอาจจะประหลาดใจว่า  สาวสวยคิ้มเข้มที่ดูงามผ่องราวกับกุหลาบแรกแย้มคนนี้ได้คร่ำหวอดในวงการแสดงมายาวนานเกินทศวรรษ      เธออาจจะสร้างผลงานที่ประทับใจแฟนๆมาแล้วหลายเรื่อง     แต่ในวัย 31 ปี บทนางเอกนำแห่งซีรีส์ดัง Emily In Paris  อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอก้าวขึ้นสู่ทำเนียบนางเอกชั้นนำไม่ต่างจากที่ Amy Adams เคยสร้างความสำเร็จไว้ใน Enchanted

ทายาทศิลปิน Rock ระดับตำนานกับภาพลักษณ์ "เด็กเส้น"

เริ่มต้นเดิมที  ชื่อของ Lily   มักจะถูกพ่วงด้วยคำว่า   "ลูกสาวแห่งตำนาน Rock "  เสมอ   พ่อของเธอคือ Phli Collins   มือกลองแห่งวง  Genesis  ผู้มีความโดดเด่นทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง และเป็นเจ้าของสถิติยอดขาย 150 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก     เขาถูกยกย่องว่ามีความเก่งกาจในระดับอัจฉริยะ    เขามีทายาทถึงห้าคน  และคนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดหนีไม่พ้น Lily ลูกสาวกับภรรยาคนที่สองที่มีใบหน้าสวยน่ารักราวกับตุ๊กตา

ชีวิตลูกสาว superstar  อาจจะดูสมบูรณ์พูนสุขไปทุกอย่าง   แต่ Lily ไม่ได้เป็นเช่นนั้น    เธอรู้สึกโศกเศร้าน้อยใจผู้เป็นพ่อที่แทบไม่มีเวลาให้   และยิ่งเหินห่างเมื่อพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่เมื่อเธออายุได้  7 ขวบ   

การหย่าร้างของพ่อแม่ที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง

หลังจากที่พ่อแม่เลิกกัน  แม้ว่าจะเกิดและเติบโตในอังกฤษเป็นเวลา 7 ปี   เธอต้องเดินทางไปอาศัยกับแม่ชาวอเมริกันที่ LA  ( นั่นเป็นเหตุผลที่เธอจำเป็นต้องพึ่ง dialect coach เมื่อต้องรับบทที่ต้องพูดสำเนียงอังกฤษ)

เมื่อ Lily ได้เข้าสู่วัยรุ่น เธอก็ดูไม่ต่างจากเด็กสาวในชนชั้น elite คนอื่น เธอได้รับการศึกษาในสถาบันชั้นนำก่อนที่จะดรอปออกมาทุ่มเทให้กับงานในวงการบันเทิง เธอดูเป็นสาวน้อยสุดไบรท์ที่ฝากฝีมือการเขียนในแม็กกาซีนวัยรุ่นหลายฉบับ และมีเส้นทางที่โปรยเข้าสู่วงการด้วยกลีบกุหลาบ

 แต่ปัญหาครอบครัวและการเข้าสู่วัยรุ่นโดยไม่มีพ่ออยู่เคียงข้างในยามที่เธอต้องการได้กลายเป็นแผลใจมาจนถึงทุกวันนี้

"เพราะว่าพ่อของชั้นเดินทางไกลอยู่บ่อยๆ ชั้นจึงระมัดระวังในการพูดจามากๆค่ะ ชั้นกลัวหากพ่อจะคิดว่าชั้นโกรธหรือไม่รักพ่อแล้ว แต่ความจริงก็คือ ชั้นโกรธค่ะ ชั้นคิดถึงพ่อและอยากให้เค้าอยู่ด้วยกัน"

" ตอนนี้ชั้นค้นพบว่า ความรู้สึกไม่มั่นคงลึกลงไปในจิตใจเกิดขึ้นจากหลายความฝังใจเรื่องพ่อ ต้องใช้เวลามากกว่าสิบปีในการฟื้นฟูแก้ไขไปได้บางเรื่อง ตอนนี้ก็ยังเหลือเรื่องอื่นที่กำลังแก้ไขด้วย และในที่สุดชั้นก็มีความกล้าพอจะเปิดใจกับพ่อค่ะ"

Lily เปิดเผยว่า เธอให้อภัยพ่อและไม่ค้างคาใจแล้ว อย่างไรก็ตาม ชีวิตครอบครัวที่ขัดแย้งแตกแยกส่งผลให้เธอเจ็บป่วยทางจิตใจในช่วงวัยรุ่น

เธอบรรยายภาพที่ร่วมงานพรมแดงของTeen Vogue Young Hollywood party ตอนที่อายุ 16 ปีว่า


" หากมองจากภายนอก นี่คือเด็กสาวที่ดูมีความสุขและมั่นใจในตัวเอง และตัวตนด้านในนั้น ชั้นกำลังดิ้นรนกับความไม่มั่นใจและตั้งแง่กับตัวเอง นับตั้งแต่อายุเท่านี้จนก้าวเข้าสู่วัยยี่สิบ การเปิดปากเล่าเรื่องปัญหาในใจมันช่างยากลำบาก ทั้งปัญหาครอบครัว ความสัมพันธ์ โรคปฏิเสธอาหาร และความไม่แน่นอนทั้งหลาย"

เด็กสาวที่ถูกมองว่ามีทุกอย่างที่ต้องการแต่กลับทุกข์ทรมานด้วยโรคปฏิเสธอาหาร

ด้วยประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่เธอรับบทนำใน To The Bone เธอได้บอกเล่าแง่มุมของผู้ป่วย anorexia and bulimia มาทางศิลปะการแสดง และหวังว่าผู้คนจะเข้าใจโรคนี้มากขึ้น

Lily เปิดเผยว่า ปรารถนาที่จะมีรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบเสมอมา แม้ว่าภายในจะมีแง่มุมที่ไม่สวยงามอยู่บ้าง แต่ก็พยายามทำให้ตัวเองดูเป๊ะเสมอ แต่ในหัวก็จะแอบกังวลว่าคนอื่นๆจะล่วงรู้ว่าแท้จริงแล้ว เธอมีข้อเสียและต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์

ปัจจุบัน เธอก้าวข้ามความความหมกมุ่นในเรื่องความผอมบางมาได้ และต้องตกตะลึงเมื่อมีคนเข้ามาชื่นชมว่าเธอดูสวยเริ่ดมากแค่ไหนในช่วงที่เธอลดน้ำหนักจนผอมบางเพื่อรับบทใน To The Bone


" นี่คือต้นเหตุของปัญหาโรคปฏิเสธอาหารค่ะ" Lily อธิบาย

อภิสิทธิ์ลูกคนดังทำให้เธอมีวันนี้จริงหรือ ?

"คำสาปลูกคนดัง"    คือสิ่งหนึ่งที่ Lily ต้องพบเจอ         บรรดานักแสดงที่มีพ่อแม่ผู้มีชื่อเสียงระดับ top อาจจะถูกมองว่าเป็นพวกอภิสิทธิ์ชนที่ไม่ต้องพยายามใดๆก็มีงานมาป้อนให้ไม่ขาด   แต่แท้จริงแล้ว  พวกเค้าต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองเพื่อลบอคติเรื่องเด็กเส้นเพื่อให้ผู้คนหันมาใส่ใจพิจารณาผลงานจากคุณภาพ มิใช่นามสกุลอันโด่งดัง

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า เธอเคยพยายามคว้าบทใน Gossip Girl  มาก่อน แต่ต้องรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งที่พลาดไป  ( ทั้งๆที่เธอดูเฉิดฉายในภาพของนางเอก rom-com ใน Emily In Paris ) เอเจนท์ของเธอเคย รู้สึกไม่แน่ใจในตัวเธอซะด้วยซ้ำ เพราะคิดว่า นอกจากมีพ่อเป็นคนดังแล้ว เธอไม่ได้มีความโดดเด่นมากนัก   หลังจากอยู่ในวงการมาสักระยะและเล่นหนังมาแปดเรื่อง เธอก็ได้พบว่า ก็ยังมีคนที่เข้าหาและชื่นชมความเก่งกาจของพ่อเธอ   และยิ่งเป็นสิ่งผลักดันให้เธอพยายามทำให้แฟนๆยอมรับความสามารถ โดยมองที่ตัวตนของเธอ  ไม่ใช่พ่อที่เป็น superstar

การก้าวออกจากเงาความโด่งดังของพ่อ

แม้Lilyจะอายุขึ้นเลข 3 แล้ว image ของเจ้าหญิงผู้น่ารักซุกซนจาก Mirror Mirror ก็กลายเป็นภาพที่แฟนๆ นึกถึงอยู่เสมอ ถึงขนาดว่า ในการถกเถียงเรื่อง casting หนัง Beauty And The Beast ก็มีหลายความเห็นที่เชื่อว่าเธอน่าจะรับบทเป็น Belle มากกว่า Emma Watson

Mirror Mirror ไม่ได้สร้างรายได้แบบถล่มทลาย  จะเรียกว่าหืดขึ้นคอก็ไม่เกินไปนัก    แต่ก็ทำให้ชื่อของ Lily  เป็นที่จดจำได้  แม้หนัง The Mortal Instruments: City of Bones จะล้มเหลวไปไม่เป็นท่า  แต่กลุ่มแฟนๆของเธอเริ่มขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังจาก Love Rosie   ที่เธอต้องทิ้งสำเนียงอเมริกันมารับบทสาวอังกฤษที่หลงรักเพื่อนสนิทตัวเอง  บทอาจจะ cliché มาก แต่ถูกใจคนนิยมหนังหวาน  เธอก็เริ่มก้าวห่างจากภาพของ  "ดาราเด็กเส้น  (nepotism  actress)" ไปมากเรื่อยๆ

ก้าวสู่เส้นทางนางเอก A List ด้วยบทนำหนังรางวัล

Lily อาจจะไม่เคยมีผลงานหนังที่ทำเงินได้ถล่มทลาย และอาจจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนางเอกที่ใช้ความดังของพ่อแม่ปูทางเข้าวงการ แต่หลังจากที่เอได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ปี 2017 จากหนัง Rules Don't Apply ทำให้ทิศทางในอาชีพนักแสดงของเธอเปลี่ยนไป จากเดิมที่มีชื่อเสียงในฐานะนางเอกพอสมควร แต่กระแสยังไม่ได้เปรี้ยงปร้าง บทเริ่ดๆจากหนังคุณภาพก็เริ่มเข้าหาเธอ แต่ Lily ดูไม่ได้ลำพองใจแต่อย่างใด เธอให้สัมภาษณ์ในงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำอย่างถ่อมตัวว่า อย่างน้อยตอนนี้ Meryl Streep ก็จำชื่อของเธอได้แล้ว!

จากนางเอกหนัง flop  ก้าวมาพิสูจน์ความสามารถด้วยบทสุดโหดหิน

บท Fantine แห่ง Les Misérables me  ทำให้ Anne Hathwaway  คว้ารางวัล Oscar    เมื่อ BBC  วางแผนสร้างสร้างมินิซีรีส์จากบทประพันธ์อมตะเรื่องนี้   แน่นอนว่าบท Fantine ย่อมเป็นที่ใฝ่ฝันของนางเอกที่ปรารถนาจะเปล่งประกายความสามารถทางการแสดง   ตัว Lily เองยังรู้สึกช็อคที่ได้รับการหยิบยื่นโอกาสให้ทดสอบหน้ากล้อง  และเธอก็ทำได้สำเร็จ    ซีรีส์ Les Misérables  เรียกเรตติ้งเกินห้าล้านทุกตอนที่ออนแอร์ในอังกฤษ   ตัวเลขอาจจะไม่ถึงขั้นถล่มทลายเมื่อเปรียบเทียบถึงมาตรฐานของ ประเทศนี้ ก็อยู่ในระดับที่สวยงามเลยทีเดียว    สิ่งสำคัญคือ  นักวิจารณ์หลายคนได้ชื่นชมฝีมือการแสดงของ Lily   เธอนำเสนอภาพของความรันทดของ Fantineที่แตกต่างจากหนังโรงและทำให้คนดูจำนวนมากต้องหลั่งน้ำตา ทั้งๆที่รู้เรื่องราวทั้งหมดมาก่อนแล้วก็ตาม

.ในอดีต เธออาจจะถูกมองเป็นนางเอกนอกสายตาที่ดังแบบยังไม่สุด  แต่ได้พัฒนาฝีมือการแสดงจนสามารถประชันกับนักแสดงชั้นนำด้วยบทบาทอันหลากหลาย

 นางเอกสาวที่เคยกำหัวใจหนุ่ม Hot

Lily ตกเป็นข่าวพัวพันกับหนุ่มหล่อคนดังอย่าง Zac Efron และ Nick Jonas  แต่ก็ไม่ได้ยืนยันสถานะ  จะมีเพียงแต่ Jamie  Campbell Bower  นักแสดง/ศิลปินหนุ่มอังกฤษที่แฟนๆส่งกำลังใจเชียร์เพราะเคมีเข้ากันสุดๆ

แม้จะไม่พูดถึงชีวิตส่วนตัวมากนัก แต่ทั้งสองดูรักใครกันเป็นอย่างดี เมื่อประกาศว่าแยกทางกันก็ทำให้กองเชียร์อกหักตามไปเป็นแถว แต่ก็จุดประกายความยินดีขึ้นมาอีกครั้งพวกเค้าเมื่อกลับมาคืนดีกัน และดูสวีทยิ่งกว่าเดิมซะอีก



แต่ในที่สุด ความสัมพันธ์ของ Lily และ Jamie ก็ไปไม่รอด 

สถานะปัจจุบัน  :  ว่าที่เจ้าสาว

หลังจากที่เลิกรากับ Jamie ไปอย่างเด็ดขาดแล้ว Lily ได้พบกับผู้ชายคนใหม่ที่ทำให้วาดอนาคตในการสร้างครอบครัวด้วยกัน

อาจจะพูดได้ว่า Charlie McDowell เป็นผู้กำกับที่เนื้อหอมในหมู่นักแสดงสาว  เพราะรายชื่อแฟนเก่าส่วนหนึ่งของเขา คือ Emilia Clarke  Rooney Mara  และ  Kristin Chenoweth     เขามีอายุมากกว่า Lily  6 ปี และเข้ากันได้ดีมาก ถึงขนาดสารภาพว่า เพียงเจอกันครั้งแรกก็รู้ตัวเลยว่าอยากแต่งงานกับคนๆนี้   และเมื่อคบกันราวๆ  1 ปี  เขาก็ขอเธอแต่งงานสมใจ

ภาพลักษณ์ Audrey Hepburn เวอร์ชั่นอเมริกัน

เมื่อใดก็ตามที่ Lily ลุกขึ้นมาแต่งตัวสวยคลาสสิคเหมือนกับดาราในยุคทองHollywood   เธอก็มักถูกเปรียบเทียบกับ Audrey Hepburn  นางเอกที่ทั้งสวยน่ารักและงามสง่าประทับใจผู้คนไม่ลืมเลือน    ด้วยเค้าโครงหน้าสวยหวานและคิ้วเข้มคมตามธรรมชาติของ Lily  ถึงจะไม่ได้ดูคล้ายคลึงไปหมด  แต่มันไม่ทำให้เราประหลาดใจ เมื่อเธอถูกเรียกว่า เหมือน Audrey ในเวอร์ชั่นอเมริกัน 

ใช่แล้วล่ะ Audrey คือหนึ่งในนางเอกที่ Lily ชื่นชม   แต่เราไม่คิดว่าเธอพยายามนำเสนอตัวเองวในภาพของ Audrey ยุคโมเดิร์นแต่อย่างใด

นั่นเป็นเพราะว่า  เธอไม่ได้ cosplay เป็น Audrey บ่อยครั้ง จะมีแต่งานถ่ายแบบและการแต่งสไตล์ย้อนยุคเป็นบางครั้ง

เจ้าหญิงแห่งพรมแดง

ที่จริงแล้ว  Lily ได่สร้างเสียงฮือฮาในลุคบนพรมแดงที่ดูเหมือนเจ้าหญิงมาแล้วหลายครั้ง

Vamp - Glam

Lily ดูแตกต่างจากสาวๆ LA ผู้โด่งดังอีกหลายคนที่เธอปล่อยให้ผิวดูขาวเผือดตามธรรมชาติ ไม่ได้กระหน่ำทำผิวแทนหรือโบกบรอนเซอร์    

Lily ดูโดดเด่นกลางพรมแดงด้วยปากและตาสีเข้มตัดกับผิวขาวซีด และเป็นสไตล์ประจำตัวเธอไปแล้ว

สาวอเมริกัน ที่บางครั้งก็อังกริ๊ด - อังกฤษ

แม้จะย้ายมาตั้งรกรากที่ LA จนเป็นอเมริกันเต็มตัว แต่เธอก็รู้สึกผูกพันกับประเทศฝั่งอังกฤษ Lily ชอบดื่มชาและวันหยุดที่เต็มไปด้วยหิมะที่ชนบทอังกฤษ เธอเชี่ยวชาญการใช้ slang แบบอังกฤษ

Street Style

street style ของ Lily แตกต่างจาก Emily   อย่างสิ้นเชิง  เธอหลงไหลการใส่ flat และเสื้อผ้าที่ดูเรียบง่ายอย่างกางเกงเดนิมขาลอยระดับตาตุ่ม (ใส่บ่อยสุดๆ) แจ็คเกต เสื้อยืด ไม่ได้โฟกัสให้ดูโดดเด่นสะดุดตา

ขอเดาว่า เธอไม่ใช่คนดังที่ต้องจ้างสไตลิสท์มาดูแลเรื่อง street style  แต่พอใจกับเสื้อผ้าที่ใส่สบายและคล่องตัวมากกว่าการประกาศตัวเป็นสร้างเทรนด์

ชุดออกอีเวนท์เปรี้ยว+หรู  และชุดลำลองในวันสบายๆ

เมื่อรู้จักLily มากขึ้นแล้ว คุณอาจจะคิดตรงกันกับเราว่า ออร่านางเอก A List ของเธอจะยิ่งเจิดจ้าขึ้นมาอีกเรื่อยๆ พิสูจน์ด้วยการติดตามชมผลงานชิ้นต่อไปของเธอสิคะ





The  End