สวัสดีค่ะทุกคน หลายคนๆคงรู้ว่าเราเป็นมนุษย์ที่ชอบงานผิวสวย แต่เวลาที่เราต้องไปทำงานนั้นจะโชว์ผิวสวยก็คงไม่ได้ เพราะรองพื้นที่ให้งานผิวสวยโดยส่วนมากแล้วจะมีปัญหาว่าไม่คุมมัน ขืนใช้ไปทำงานกลับมาหน้าคงมันมากจนเอาไปทอดไข่ได้ แต่จะให้ใช้รองพื้นแบบเนื้อแมทท์หนาดั่งเอาปูนมาฉาบหน้าเราก็คงไม่ไหวแน่นอน

แต่วันนี้เราจะมาสิ่งที่ตอบโจทย์เรามากๆในการแต่งหน้าไปทำงาน คือ 

KMA Wonder Look Foundation and Loose Powder รองพื้นและแป้งฝุ่นรุ่นใหม่จากแบรนด์ KMA ที่มีขายบนออนไลน์เท่านั้น เนื้อรองพื้นจะให้ฟินิชที่เป็นแมทท์และปกปิดแต่ไม่ดูหนาจนเกินไป ส่วนตัวแป้งฝุ่นก็ช่วยให้รองพื้นติดทนมากขึ้น ช่วยให้ผิวดูเนียนสวยเหมือนใส่ฟิลเตอร์ให้กับผิว

ครั้งแรกกับรองพื้นเนื้อ Fluid ที่ให้ฟินิชแบบแมทท์ในราคาที่เอื้อมถึงได้ เนื้อบางเบาแต่ปกปิดและช่วบเบลอผิวให้ดูเนียนเรียบ พร้อมทั้งล็อคผิวให้ติดทนยาวนานถึง 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอย่าง White Strawberry ที่จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้ง กระจ่างใส มีเฉดสีที่เหมาะกับผิวคนไทยให้เลือก 3 เฉดสี (C1 , C2, C3)

เป็นแบบหลอดบีบ ใช้งานสะดวกมาก

เนื้อรองพื้นค่อนข้างเหลว สามารถเกลี่ยได้ง่าย ไม่หนาแต่ปกปิดได้ดีระดับนึง

แป้งฝุ่นโปร่งแสง เผยผิวกระจ่างใส ช่วยให้ผิวดูเนียนเรียบ คุมมัน ปกปิด หน้าไม่ดรอประหว่างวัน สามารถเติมทับได้โดยไม่ทำให้เป็นคราบ มี 2 เฉดสีที่เหมาะกับทั้ง Pink Undertone (P1) และ Yellow Undertone(Y1)

เป็นแบบตลับที่มีกระจกและมีพัฟให้ พกพาง่าย

เป็นเนื้อแป้งละเอียด

หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ KMA ทั้ง 2 ตัวแล้ว ในรีวิวนี้เราจะมาโชว์วิธีการเลือกเฉดสีให้ดู ซึ่งเราเป็นคนที่หน้าขาวกว่าคอแถมUndertone ก็ไม่เหมือนกันด้วย การเลือกของเราเลยต้องปาดตั้งแต่ช่วงเหนือกรามลงไปที่คอ เพื่อให้แน่ใจว่าสีไม่โดดหรือขาวกว่าคอ 

เราจะมาลองลงให้ทั้วหน้าค่ะ สีที่เข้ากับทั้งผิวหน้าและคอของเราคือ สี C1 หรือสีที่ขาวที่สุด การลงรองพื้นเราเลือกใช้พัฟไข่ของ Real Technique ในการลง

ส่วนแป้งเราเลือกใช้ Y1 เพราะเราชอบให้หน้าดูนวลๆมากกว่าที่จะให้หน้าดูกระจ่างใส เราเลยชอบแป้งโทนเหลืองมากกว่าโทนชมพู อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวเลยค่ะ

ลุคที่ได้หลังจากแต่งเสร็จ ตามที่เราบอกเลยค่ะว่าผลิตภัณฑ์เค้าจะเน้นเรื่องความแมทท์และปกปิด ดังนั้นงานผิวที่ได้จะเป็นงานหน้าแน่นค่ะ

หลังจากที่เราลงเสร็จแล้ว เราจะมาพูดถึงเรื่อง Wear Test หรือความติดทนนะคะ ซึ่งวันที่เราทำเป็นวันที่เราแต่งไปทำงานจริงๆ ครั้งแรกที่เราถ่ายคือ หลังจาก 6 ชม. เราแต่งหน้าไปทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า รูปนี้ถ่ายตอนพักเที่ยง จะเห็นได้ว่าหน้าดูเริ่มมันแต่ก็ยังไม่มาก

และหลังจากนั้นเราถ่ายอีกตอน 23.00 น. หรือหลังจากแต่งหน้ามาแล้ว 17 ชม. ต้องยอมรับเลยว่าหน้าเริ่มมันมากแล้ว แต่ข้อดีคือพอซับมันแล้วหน้าก็ยังดูแน่นอยู่

เหมาะกับวันทำงานมากจริงๆค่ะ หน้าแน่นทั้งวันจนน้องที่ที่ทำงานทักเลย ไม่ว่าจะตัวจริงหรือในรูปหน้าก็ดูเป๊ะได้ ยิ่งในรูปนี่ต้องบอกเลยว่า No Filter Needed จริงๆ ตัวรองพื้นหลังจากที่เราลงเสร็จจะได้ฟินิชที่เป็นแมทท์ประหนึ่งว่าลงแป้งแล้ว ปกปิดได้ดีพอสมควรเลย ที่ปิดไม่ได้ก็เห็นว่าจะเป็นสิวแดงเม็ดใหญ่ และสิ่งที่เราชอบมากๆคือไม่รู้สึกหนาและหนักหน้าเลย

ส่วนแป้งฝุ่นเราลองเอาไปใช้เซตรองพื้นตัวอื่นด้วย ผลที่ได้คือช่วยคุมมันและทำให้รองพื้นติดทนนานมากขึ้น ถ้าใครอยากหน้าดูกระจ่างใสเลือก P1 เลยค่ะ แต่ถ้าใครอยากดูหน้านวลๆหน่อยก็เลือก Y1

ถ้าใครอยากหน้าเป๊ะทั้งวัน โดยเฉพาะพวกน้องๆที่กำลังจะรับปริญญาเนี่ยถือว่าเหมาะมาก ราคาก็น่าคบไม่แรงมากจนเกินไป 

KMA Wonder Look Foundation ราคา 550 บาท    

 ตอนนี้มี Code ส่วนลดรองพื้น “KMAWLFB200”  ลดจาก 550 บาท เหลือ 350 บาท ใช้ได้ถึง 31 พ.ย. 63 นี้เท่านั้นน๊า

KMA Wonder Look Loose Powder ราคาปกติ 390 บาท แต่ตอนนี้มีโปรโมชั่นราคาอยู่ที่ 220 บาท

ตอนนี้สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ https://shop.kma-cosmetics.com/

หรือจะเก็บคูปองกับเก็บโค้ดได้อีกบน LAZADA & SHOPEE