3 ตัวการร้ายทำลายความชุ่มชื้นผิว 💥💥

39 8
วันนี้รักจะมาพูดถึงเรื่องตัวการที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นนะคะ
ผิวชุ่มชื้นทำไมถึงสำคัญล่ะ?
เพราะความชุ่มชื้นผิวคือหนึ่งในพื้นฐานสำคัญที่สุดของการมีสุขภาพผิวดีค่ะ
าดอกจันรัวๆ)
.
.
.
?? 3 ตัวการร้ายทำลายความชุ่มชื้น หยุดทำสิ่งเหล่านี้ ถ้าอยากผิวอิ่มน้ำ ???
เพราะผิวเราไม่ใช่กระบองเพชรที่จะยืนหนึ่งในทะเลทรายได้ตลอดปีค่า
ซึ่งประกอบไปด้วย...

1. พฤติกรรมที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ??

?? ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
อย่างที่ทุกคนทราบร่างกายมีองค์ประกอบหลักส่วนใหญ่เป็นน้ำ
เมื่อปริมาณน้ำไม่มากพอ ร่างกายย่อมเลือกที่จะรักษาสมดุล
และรักษาการทำงานของอวัยวะภายใน
ก่อนที่จะมาเติมเต็มความงามภายนอก ทำให้ผิวเราแห้งค่ะ

?? ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำที่มีอุณหภิสูงจนเกินไป
น้ำอุ่นหรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงจะดูดซับความชุ่มชื่น ออกจากผิว
โดยไปชะล้างไขมันต่างๆทีเคลือบอยู่บนชั้นผิว
ทำให้ปราการปกป้องผิวตามธรรมชาติถูกชะล้างออกไป
และแน่นอนว่าทำให้ผิวแห้งในที่สุดค่า

?? ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าบ่อยๆ (มากกว่า 2 ครั้งต่อวัน)
ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าทุกชนิดย่อมมีสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยในการทำความสะอาด
และจับสิ่งสกปรกและไขมันบนผิวหน้าออกไปพร้อมกับน้ำ
ดังนั้นไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์แบบอ่อนโยนแล้วหรือไม่ก็ตาม
แต่หากล้างบ่อยก็เท่ากับการชะล้างเอาไขมันเคลือบผิวออกจากใบหน้าอยู่ดีค่ะ

?? ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆเพื่อการบำรุงผิวเลย
แม้ร่างกายจะมีสมดุลในการปกป้องผิวให้ผิวสุขภาพดี
แต่หากไม่เติมเต็มจากภายนอก หรือปกป้องการสูญเสียน้ำ
ด้วยสภาวะแวดล้อมในปัจจุบัน ย่อมเร่งทำให้เกิดการเสียน้ำจากผิวหนังได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ
ทั้งแดด ทั้งฝน มลภาวะ ฝุ่น เชื้อโรค
พยายามใช้เซรัมบำรุง ทากันแดด พยายามดูแลผิวให้แข็งแรงไว้นะคะ

?? หน้ากาก/การเสียดสี
เป็นรื่องใหม่ล่าสุดของยุค COVID-19 การใส่หน้ากากตลอดทั้งวัน
แม้ว่าตัววัสดุจะมีความอ่อนนุ่ม
แต่ก็ยังคงทำให้เกิดการเสียดสี อับและร้อนได้ค่ะ
ซึ่งทำลายชั้นผิวหนังได้ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น
ทำให้ปราการในการปกป้องชั้นผิวถูกทำลาย
นอกจากความแห้งยังเกิดสิวอีกด้วย

???????????????????

2. เลือกผลิตภัณฑ์ผิด??

?? ใช้ผลิตภัณทำความสะอาดผิวที่ล้างแล้วรู้สึกเอี๊ยดๆบนผิว
เช่น Soap base หรือ สบู่ก้อน (สบู่เหลวสำหรับตัว ก็ไม่ควรเอามาล้างหน้าค่ะ)
เนื่องจากประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่สูงมักมาพร้อมกับ pH ของผลิตภัณฑ์ที่สูง
ทำให้ร่างกายเสียสมดุลเรื่องการควบคุมความชุ่มชื้น และผิวแห้งไปในที่สุดค่ะ

?? ใช้ผลิตภัณทำความสะอาดผิวที่มีสครับ
เพราะเม็ดสครับถือเป็นอีกหนึ่งกระบวนการเสียดสีของผิว แม้ว่าจะเลือกใช้สครับที่อ่อนโยน
แต่หากใช้ทุกวันก็ยังส่งผลเสียในการทำลายชั้นผิวอยูดี ยิ่งถ้าหากเลือกใช้สครับแบบหยาบแล้วหละก็
จะยิ่งทำลายชั้นผิวแล้วทำให้เกิดความแห้งกร้านของผิวมากยิ่งขึ้นเลยล่ะค่าาาา

?? ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ปริมาณสูง (Alcohol Denat.) หรือสูตรเย็นทั้งหลาย
ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์สูงโดยมากมักจะพบในสูตร Skincare ที่เป็น Toner, กันแดด
และสินค้าที่ต้องการความเย็นสดชื่น รู้สึก refresh ผิวทันที
ซึ่งแอลกอฮอล์ เป็นสารที่มีประโยชน์ทางด้านความรู้สึก
แต่ให้ผลเสียกับผิวค่อนข้างมากเพราะทำลายชั้นผิวหนังได้ค่ะ

?????? ใช้ Skin care ที่มีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป เช่น Whitening, ยาทาสิวต่างๆ
กลไกหลักๆของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้โดยมากทางแบรนด์ มักเลือกให้มีการผลัดเซลล์ผิวเป็นหลักเพื่อ
ให้ผู้ใช้พึงพอใจต่อผลการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
แต่นี่ก็คือหนึ่งในตัวการทำลายชั้นผิวแบบที่เราไม่รู้ตัวเช่นกัน

???????????????????

3. สิ่งแวดล้อมไม่เป็นมิตร ??

❄️❄️ การอยู่ในที่อากาศเย็นจัดนาน เช่น ไปต่างประเทศ
หรือใช้เวลาอยู่ในที่อากาศเย็นตลอดวัน เพราะเมื่ออุณหภูมิต่ำ
จะส่งผลให้ความชื้นในอากาศต่ำ ความชื้นจะถูกดึงจากผิวอย่างมาก
ความชุ่มชื้นจะออกจากผิวอย่างรวดเร็ว และผิวก็จะแห้งในที่สุด

✈️✈️ การโดยสารเครื่องบิน หรืออยู่บนที่สูงนานๆ
เพราะอากาศบนเครื่องบินหรือที่สูงจะแตกต่างจากบนพื้นดิน
โดยเฉพาะเรื่องความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ (humidity) จะลดเหลือแค่ 20%
ซึ่งถือว่าต่ำมาก เมื่อเทียบกับเวลาปกติที่ 40-60%
เมื่อผิวเรามีน้ำมากกว่าน้ำในอากาศ ผิวเราจะสูญเสียน้ำออกสู่สิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็วค่ะ

?? การสัมผัสแสงอาทิตย์มากเกินไปหรือนานเกินไป
เพราะรังสีจากแสงแดดสามารถทะลุเข้าไปในชั้นผิวได้ลึก ทำให้น้ำระเหยออกจากผิวได้มากขึ้น
ขโมยความชุ่มชื่นและน้ำมันไปจากผิวหนังได้ และทำให้ผิวเสียหายอย่างรุนแรงค่ะ

ปล. ซึ่งรักได้เขียนสรุปจาก Litterature review งานวิจัยต่างประเทศเรื่อง UV ทะลายผิวอย่างไรไปก่อนหน้านี้นะคะ ลองอ่านดูได้ค่ะ

UV มีผลต่อผิวอย่างไร? ความรุนแรงขนาดไหน? ทำไมเราควรต้องทากันแดด? มาดูกัน (part 1-2)

https://www.jeban.com/topic/313243
https://www.jeban.com/topic/313318


ฝากไว้ให้ทุกคนดูแลผิวให้ชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอนะคะ ???

♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️♥️
ถ้าอยากอ่านบทความเพิ่มเติม หรือ
อยากปรึกษารักเรื่องปัญหาผิว เรื่องครีม หรือเรื่องยา
สามารถคอมเมนท์ถามมาได้เลยค่ะ
รักยินดีให้คำปรึกษาค่า
รักจะใช้ความรู้เภสัช และประสบการณ์ด้านเครื่องสำอางค์นับสิบปีให้คำปรึกษาค่ะ

#LoveYourSkin
#เภสัชกรรักคนเดิมค่ะ


RukCosmeticsPharmacist

RukCosmeticsPharmacist

สวัสดีค่ะทุกคนๆๆ ภญ.อิศรีญา เพชรผ่องใส อายุ 30ปี >////<เรียกง่ายๆว่า "รัก"ได้เลยค่ะ
อาชีพของรัก คือ เภสัชกรเครื่องสำอางค่า ขอเล่าที่มาคร่าวๆตัวรักเองจบเฉพาะทางสาขาเครื่องสำอางมาจากรั้วจุฬาเป็นเด็กเภสัช 6 ปีรุ่นแรก ซึ่งก็มีความรู้เรื่องยาตามปกติ ต่อมารักทำงานเป็น R&D Pharmacist คิดสูตรเวชสำอางและนวัตกรรม ทำ skincare ส่งในประเทศและให้ต่างประเทศหลายๆแบรนด์ เช่น THE BODY SHOP, SOAP&GLORY etc.
จากประสบการณ์ทั้งหมดที่มีทั้งสองด้าน รักเลยอยากมาแชร์ความรู้ประสบการณ์เครื่องสำอาง ปัญหาผิวและยา ให้ทุกคนๆได้รู้แบบที่รักรู้เพื่อให้เกิดความตระหนักและใช้เครื่องสำอางอย่างสมเหตุสมผล นำไปสู่ความเชื่อว่าทุกคนดูดีในแบบที่ตัวเองเป็น และสนับสนุนความเชื่อที่ว่าเครื่องสำอางไม่มีเพศ เป็นสิ่งที่ทั้งชายทั้งหญิงรวมถึงเพศทางเลือกอื่นๆสามารถใช้ได้ และไม่ควรมีใครถูกบูลลี่จากการใช้เครื่องสำอาง
สุดท้ายนี้ รักก็ขอฝากคอนเทนต์ความรู้ที่รักตั้งใจเขียนมากๆจริงๆและฝากทุกๆคนช่วยกันผลักดันความเชื่อดีๆเกี่ยวกับเครื่องสำอาง และการใช้อย่างสมเหตุสมผลให้ออกไปสู่สังคมกว้างๆด้วยน้าา

FULL PROFILE