My Body Oil Collection ลัทธิชโลมออยล์

สวัสดีครับ

 วันนี้ขอพูดเรื่องผิวกายหน่อย 

สารภาพว่าเป็นคนขี้เกียจทาผิวตัวมาก มัวแต่ทาหน้าแต่กันขี้เกียจทาผิวตัว 

ปรากฎว่ารู้สึกผิวมันแห้งกร้านดูไม่น่าสัมผัส 

(ให้ใครสัมผัสเหรอ? พูด 5555)

 บวกกับตัวเองเป็นคนชอบความโกลวของผิวจากการทาออย 

นอกจากจะชุ่มชื้นแล้ว ยังดูเซ๊กซี่เล็กๆ 

กระทู้นี้เลยขอเปิดกรุเบาๆ รีวิวสั้นๆนะครับ

Lhamour Body Oil Revitalizing 

880 บาท 

ขวดนี้เป็นหัวปั้มใช้สะดวก ทำตกก็ไม่แตก 

เคลมว่าช่วยทำให้ผิวแข็งแรง และยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้น 

ขวดนี้ใช้บ่อยสุดเพราะอยู่ด้วยกันมานานสุดตั้งแต่ช่วงLock Down

ที่ชอบมากคือเค้ามีกลิ่นตะไคร้

 มันทำให้นึกถึงเวลาไปเที่ยวแล้ว House Keeping เข้ามาTurn down เตียง 

พร้อมจุดเตาไล่ยุง......

มันทำให้นึกถึงช่วงเวลาพักผ่อนที่หัวหิน 

(ต้องเข้าใจว่าผมซื้อมาตอนช่วงLock Down 

เพราะงั้นเป็นไอเทมสำคัญในการเที่ยวทิพย์ตัวนึง)

 ——————————————————————————

Divana Massage and Body Oil

 (1,250 บาท) 

ขวดนี้ดูหรูหรา วางโชว์ก็สวย เป็นขวดแก้ว

 เพราะฉะนั้นจะต้องระวังหน่อยนะครับ เค้ามีหลายกลิ่น

 ที่ผมใช้คือกลิ่น Mango Mantra กลิ่นจะเป็นแนวผลไม้ที่สดชื่นๆ

 และกลิ่นหอมแรง ทาตัวนี้คือไม่ต้องฉีดน้ำหอมเลย

 มีส่วนผสมของน้ำมันหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อผิว สารพัดปะโยนชน์ 

ทาผิว นวดตัว หรือมาทาปลายผมก็ได้ เนื้อจะหนืดนิดนึง 

แนะนำว่าให้ทาตอนผิวหมาดๆจะดีมาก ถือว่าเป็นการทำ mini spa at home 

————————————————————————

Palmer’s Soothing Oil 

ราคา 465 บาท

 ตัวนี้เป็นออยในขวดสเปร์ย จะว่าใช้สะดวกก็สะดวก จะว่าไม่สะดวกก็ไม่สะดวก 

เพราะบางทีมือมันแล้วลื่นกดไม่ค่อยลง55555

 ตัวนี้มีจุดเด่นในการแก้ผิวแตกลายจากการตั้งครรภ์... 

ผมไม่ได้ตั้งครรภ์นะ 55555

 แต่มีส่วนที่แตกลายจากขนาดตัวที่ยืดหด ซึ่งของแบบนี้มันใช้เวลาเนอะ 

ตอนนี้ยังไม่เห็นผลชัดเจน แต่จะใช้ต่อ ให้ความชุ่มชื้นได้ดี 

บางวันเอามาทาส้นเท้าที่แห้งๆแล้วใส่ถุงเท้านอนด้วยครับ

 กลิ่นโกโก้ ทำให้นึกถึงเวลาอบขนมในครัวแล้วกลิ่นโกโก้ลอยออกมาเลย เป้ะ 

เป็นอีกตัวที่ต้องนวดให้ลงผิว มีความหนืดปานกลาง 

ผมจะทาเฉพาะตอนกลางคืนนะครับขวดนี้ 

————————————————————————

Nutrogena Body Oil 

499 บาท

 ตัวนี้ได้ลองซักที! เนื้อออยเบาที่สุดในบรรดาทุกขวดในกระทู้นี้

 ใครไม่ชอบความหนืด ทาง่าย แนะนำขวดนี้ครับ เวลาเกลี่ยบนผิวก็จะลื่นๆทาง่ายที่สุด

 มีกลิ่นหอมอ่อนๆที่ดมปุ๊บ

 เดจาวู

 มันเหมือนกลิ่นสีเทียนหลายๆสีที่ต้องพกไปเรียนคาบศิลปะในวัยเด็ก...

 (ใครมีสียิ่งเยอะ ยิ่งบ่งบอกฐานะ 555)

 เป็นกลิ่นดอกๆมะลิๆแต่ก็ไม่มะลิจ๋า ซึ่งผมว่ามันคล้ายสีเทียนจริงๆ

 มอบความชุ่มชื้นได้ดี ทาแล้วผิวจะเงาๆ แต่ก็จะเหนียวผิวหน่อยนะครับ 

รู้สึกว่าเค้าจะไม่ค่อยซึมลงไป ถ้าใครชอบให้ผิวดูเงาๆ ตัวนี้ตอบโจทย์ 

—————————————————————— 

Huxley Secret of Sahara Body Oil

1,500 บาท (ซื้อตอน11.11 890 บาท [ชนะ])

ตัวนี้ซื้อมาเพราะหลงไหลในกลิ่นของ Huxley  

 ซึ่งเป็นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เค้า

 ทุกอย่างเป็นกลิ่นนี้เลย ใครชอบกลิ่นดอกไม้สด เหมือนอยู่ในทุ่งดอกไม้ 

แนะนำครับน่าจะติดใจ 

ตัวนี้ก็เป็นขวดแก้วเหมือนกัน ทำให้เวลาใช้อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ 

เหยาะๆเอา ทาตอนผิวหมาดก็ได้ ผิวแห้งก็ได้

 นอกจากกลิ่นที่หอมของเค้าแล้ว ผมรู้สึกว่าเป็นออยที่ซึมเข้าผิวได้ดีที่สุดในกรุตอนนี้

 ใครไม่ชอบความเหนอะหน่ะเท่าไหร่ ขวดนี้ตอบโจทย์ 

แต่ใครชอบผิวเงาๆ ตัวนี้ทาแล้วไม่ค่อยเงาเท่าไหร่ เนื้อออยจะหนืดปานกลาง 

ทาผิวแล้วรู้สึกผ่อนคลาย เป็นการ treat ตัวเองด้วยกลิ่นไปเลยแหละครับตัวนี้ ใครจะซื้อ 

รอตอนลดราคาก็ได้นะครับ เหมือนจะลดบ่อยๆ ผมว่าราคาเต็มแพงไป 

————————————————————— 

และนี่ก็เป็นบอดี้ออยทั้งหมดในกระทู้นี้นะครับ เป็นยังไงบ้างครับ รีวิวสั้นๆแบบนี้บ้าง 

ชอบรึเปล่าเอ่ย ที่มีหลายขวดมันก็เหมือนน้ำหอมครับ 

วันไหนอยากได้ฟีลไหน ก็จะหยิบกลิ่นนั้นมาใช้ 

วันไหนอยากบำรุง ก็จะหยิบ  Palmer’s มาทา

วันไหนอยากผ่อนคลายก็จะหยิบ  Divana, Huxley 

วันไหนอยากเที่ยวทิพย์ ก็จะหยิบ Lhamour

วันไหนอยากผิวโกลว์ๆ ก็จัด Nutrogena

 สังเกตว่าผิวดูเนียนนุ่มขึ้นเวลาลูบไล้ (เราลูบตัวเองนะ 555) 

และ คิดว่า 

เออรู้งี้ไม่น่าขี้เกียจทาเลย และอีกอย่างคือ ซื้อมาเยอะ ใช้หน่อยเถอะ555555555 

หวังว่าจะช่วยให้เพื่อนๆตัดสินใจเลือกน้ำมันทาผิวที่เข้ากับตัวเองได้นะครับ 

แล้วเจอกันกระทู้หน้าครับ 

xoxo

Can you bring high fashion by Uncle Bank