สวัสดีค่ะทุกคนนน

อีกไม่กี่วันก็จะหมดปีแล้วน้าาทุกคนนน ปี2020 ที่ผ่านมาก็หนักหนาสาหัสมามากมาย เพราะพิษโควิดที่ทำให้ทุกคนต้องอยู่บ้านยาวๆ WFH กันมาเกือบทั้งปี ก็มีเครียดบ้าง ถึงจะอยู่บ้านเกือบครึ่งปี แต่เราไม่ทิ้งเรื่องความสวย การดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญ เพราะวันนี้จะมารีวิว #เครื่องสำอาง2020 จะประเดิมที่ Skincare ค่ะ ตลอดทั้งปีส้มจะใช้สกินแคร์ค่อนข้างเยอะกว่าเมคอัพอีก เพราะไม่ได้ออกจากบ้านมาเกือบครึ่งปี การบำรุงผิวสำคัญมาก อยากรู้ว่าสกินแคร์ทั้งหมดที่ส้มใช้มาในปีนี้มีอะไรบ้าง เราไปดูพร้อมกันเลยค่าาา 

* หมายเหตุ เราจะรีวิวไอเทมตามภาพโดยจะเรียงลำดับจากซ้ายไปขวาค่ะ

กลุ่มที่ 1 ล้างเครื่องสำอาง 

​1. Garnier Micella Cleansing Water : Pure Active (99 บาท)

คลีนซิ่งไมเซล่าถูกและดี ลูกรักของส้มเลยค่ะ มีข้อดีคือน้องคนนี้สามารถล้างเครื่องสำอางได้อย่างหมดจดง่ายมาก คือเช็ดแค่ 2-3 แผ่นก็ออกหมดแล้ว แม้กระทั่งเครื่องสำอางกันน้ำอย่างอายไลเนอร์และมาสคาร่า เวลาเช็ดแล้วมันจะไม่รู้สึกแสบตาและปาก ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่เป็นสิวด้วยค่ะ ถามว่าซื้อซ้ำอีกมั้ย คำตอบคือ ซื้อวนไปอีกค่ะ เพราะส้มใช้ทั้งสีชมพูและสีฟ้า หมดไปหลายขวดแล้วยังจะซื้ออีกค่ะ แถมราคาเป็นมิตรด้วย  

​2. Watsons Cleansing Water : Gentle Mild (89 บาท)

ขึ้นแท่นเป็นคลีนซิ่งลูกรักไปอีกตัวนึงเรียบร้อยแล้วค่ะ ตรงที่ขวดใหญ่ ใช้นาน ใช้สะดวกเวอร์ ชอบตรงที่เป็นหัวปั๊ม แค่กดลงสำลีเพียงไม่กี่หยด แล้วเช็ด ดูเหมือนจะเช็ดออกยากนะ แต่ความจริงแล้วเช็ดออกง่ายมากเลยจ้าา คือเราเช็ดประมาณซัก 3-4 รอบก็ออกหมดแล้ว หมายถึงในวันที่แต่งค่อนข้างหนักหน่อยน้าา ข้อดีของเขาตรงที่เช็ดแล้วไม่แสบตา ไม่แสบปาก หลังใช้เสร็จแล้วรู้สึกเบาสบายผิว ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง แถมราคาถูกมากๆๆๆ ด้วย 

​3. Etude Monster Micellar Deep Cleansing Water : Mild (399 บาท)

เป็นคลีนซิ่งที่ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง แถมผิวชุ่มชื่นทุกครั้งที่ล้าง แต่ถ้าเป็นเครื่องสำอางกันน้ำรอบดวงตากับลิปทินต์จะเช็ดยากหน่อย ตัวนี้ถ้าเช็ดแล้วมันจะแสบตาแสบปากเลย เพราะมันมีน้ำหอมผสมอยู่บ้างเล็กน้อย ใครกำลังใช้ตัวนี้อยู่เหมือนกัน แนะนำให้มี eyes&lip remover ติดโต๊ะด้วย ขวดนี้เหมาะสำหรับวันที่แต่งหน้าน้อยๆ เบาๆ ทาแค่กันแดดตัวเดียว

กลุ่มที่ 2 ล้างหน้า

​1. Etude Soon Jung 6.5 Whip Cleanser (490 บาท)

วิปโฟมล้างหน้าแบบหัวปั๊ม ไม่ต้องตีฟอง แค่กดแล้วลูบบนใบหน้าที่เปียก แถมล้างออกง่ายด้วยน้าา ฟองโฟมนุ่ม ไม่บาดผิวหน้า หลังล้างเสร็จแล้ว ผิวรู้สึกชุ่มชื่น เรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น ใช้แล้วไม่แพ้ ผิวไม่แห้งตึงด้วยค่ะ​​

2. Plantnery Anti-Acne Solution Facial Cleanser (99 บาท)

ขึ้นแท่นลูกรักตัวใหม่ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ เป็นเจลล้างหน้าสูตรลดสิว ด้วย Tea Tree Oil ส้มใช้แค่หยดเดียวก็รู้สึกทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก รู้สึกสะอาด สดชื่น หน้าไม่มัน ไม่เป็นสิวทุกครั้งที่ล้าง แถมกลิ่นหอมสดชื่นจากทีทรี ขวดใหญ่ใช้ได้นาน แถมราคาเบาๆ ลองแล้วเลิฟมากเลยค่ะ

3. Senka Perfect Whip Foam (149 บาท)​​​

เป็นวิปโฟมสามัญประจำบ้านที่ส้มใช้หมดไปหลายหลอดตั้งแต่ยังไม่เข้ามาขายในไทยเลยค่ะ โฟมเนื้อนุ่มมากๆๆๆ บีบนิดเดียวผสมน้ำแล้วตีด้วยมือก็เกิดวิปโฟมด้วย ใช้แล้วไม่บาดผิว ไม่เอี๊ยด แถมล้างออกง่าย รู้สึกสะอาด สดชื่น ทุกครั้งที่ล้าง ผิวไม่แห้งตึง แถมมีโปรลดราคาบ่อยด้วยน้าา

​4. Garnier Sakura White Pinkish Glow Whip Foam (99 บาท)

ตอนนี้การ์นิเย่มีแบบวิปโฟมแล้วน้าา คือตอนที่เพิ่งออกมาใหม่ไม่นาน จะบอกว่าหาซื้อยากมาก ไปที่ไหนของหมด เพราะขายดีมาก สูตรที่ส้มได้มาคือสูตร Sakura White เพื่อผิวโกลว์ใส อมชมพู โฟมเนื้อนุ่มมาก แถมกลิ่นหอมละมุน ไม่ฉุน ตอนแรกคิดว่าจะใช้แล้วแพ้อีก แต่ความจริงแล้วใช้แล้วไม่แพ้จ้า ผิวดูใสขึ้นทุกครั้งที่ล้าง แถมผิวไม่แห้งตึงด้วยค่ะ ​​

กลุ่มที่ 3 Toner

​1. Etude Soon Jung pH5.5 Relief Toner (620 บาท)

เป็นโทนเนอร์ปรับสภาพผิวสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย Texture ค่อนข้างเข้มข้นเลยทีเดียว ใช้ได้ทั้งโทนเนอร์ น้ำตบ และหยดบนแผ่นมาส์กหน้าได้ ส่วนตัวใช้แล้วชอบเลยนะ ให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดี ผิวแข็งแรง ดูอิ่มฟูขึ้น ใช้แล้วไม่เกิดอาการแพ้ด้วยค่ะ

​2. Kiehl's Calendula Herbal Extract Toner (2,700 บาท)

ตัวนี้ส้มได้จาก Jeban Surprise Box กล่องแรกที่เป็น 1 ใน 20 หรือ 30 แหละที่ได้ลองผลิตภัณฑ์เซ็ตนี้ ส่วนตัวส้มชอบโทนเนอร์รุ่นนี้มาก เป็นโทนเนอร์ที่ส้มใช้ประจำจนขึ้นแท่นเป็นไอเทมลูกรักไปอีกรายแล้วค่ะ คือมันดีตรงที่เช็ดแล้วไม่แพ้ ผิวจะมีความเย็นๆ ชุ่มชื่นๆ แถมกลิ่นของเขาเหมือนน้ำเก๊กฮวยด้วย

​3. Plantnery Anti-Acne Solution First Toner (99 บาท)

ตัวนี้ก็เป็นโทนเนอร์ลูกรักอีกตัวนึง คือส้มจะใช้ในช่วงที่เป็นสิว กลิ่นของโทนเนอร์จะออกสดชื่นๆ แนวๆ Tea Tree Oil เวลาเช็ดมันจะช่วยทำความสะอาดผิวล้ำลึกอีกหนึ่งสเต็ป ผิวจะมีความชุ่มชื่น ไม่ทำให้หน้ามันจนเกิดสิว แต่สามารถใช้เป็นน้ำตบได้เลยน้าาา

​กลุ่มที่ 4 ชีทมาส์ก

​1. Lululun Moisture Balance Mask (195 บาท)

ตัวนี้ไม่ต้องพูดเยอะเลยค่ะว่าส้มใช้แล้วชอบมากๆๆๆ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น อิ่มฟูขึ้นตั้งแต่แผ่นแรกที่ใช้ แถมรูขุมขนกระชับ ดูเล็กลง ใช้แล้วไม่แพ้ เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์  ใครที่มีปัญหาผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื่น รูขุมขนกว้าง แนะนำสูตรนี้เลยจ้าา แถมราคาเบาๆ แผ่นนึงเกือบๆ 30 บาทด้วยนะเธอ แนะนำให้ใช้ติดกัน 7 วัน ผิวจะดูสดใส เปล่งปลั่งขึ้น แถมแต่งหน้าติดทนด้วย เป็นมาส์กสามัญประจำบ้านที่ต้องมี และขายดีตลอดกาลด้วยค่ะ

​2. Etude 0.2 Air Mask (40 บาท)

มาส์กหน้าเกาหลีถูกและดีที่ส้มใช้แล้วชอบอีกแบรนด์นึง ราคาเบามากๆๆๆ แผ่นมาส์กบางสนิทแนบพอดีกับรูปหน้าเรา แต่ให้เอสเซนต์เยอะมากแม่ๆๆๆๆ คือเอาน้ำที่เหลือมาทาตัวได้เลย โดย 3 สูตรที่ส้มได้มาคือสูตรช่วยเรื่องริ้วรอยทั้งหมดเลย แต่ส่วนตัวส้มชอบสูตร Snail ที่สุด เพราะช่วยฟื้นฟูผิวโทรมหมองได้ดี ทำให้ผิวดูเนียนเด้ง สดใสขึ้นตั้งแต่แผ่นแรกที่ใช้ แถมแต่งหน้าติดทนด้วยค่ะ ส่วนสูตรอื่นที่เหลือก็น่าลอง ต้องไปซื้อตุนมาเพิ่มแล้วจ้าาา​​

3. Hada Labo Shirojun Whitening Mask ​(99​ บาท)

แผ่นมาส์กหน้ารุ่นนี้เป็นสูตรไวท์เทนนิ่ง​ แผ่นมาส์กมีความหนาปานกลาง​ ส่วนตัวว่าขนาดมันใหญ่ไปนิดนึง​ ให้เอสเซนต์ค่อนข้างเยอะ​ ซึมไว​ ผลลัพธ์​หลังใช้ผิวจะมีความฉ่ำวาว​ ชุ่มชื่นขึ้น​ ให้สัมผัสที่หนึบๆ​ เหมือนใช้น้ำตบฮาดะลาโบะเลย​ ส่วนเรื่องความกระจ่างใสคงต้องรออีกสักพัก​ เพื่อผลลัพธ์​ที่ดีกว่าแนะนำให้ใช้คู่กับน้ำตบฮาดะสีน้ำเงินค่ะ

​กลุ่มที่ 5 สเปรย์น้ำแร่

Cute Press My Courage is Fiece Softening Mineral Facial Mist (111 บาท)

ซื้อเพราะแพคเกจจิ้งลายเจ้าหญิงดิสนีย์ บวกกับเราเป็นแฟนพันธุ์แท้คิวท์เพรสและ Disney Princess ด้วย ของส้มเลือกเป็นลายมู่หลาน เพราะชอบส่วนผสมที่มีทั้งสารสกัดจากเมลอนและคอลลาเจน ที่ช่วยเรื่องการบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื่น แลดูอ่อนเยาว์ พร้อมกลิ่นหอมเมลอนหวานๆ น่ากิน ส้มชอบมากๆๆๆ ส่วนเวลาฉีดจะออกนิดเดียวๆ แต่ให้ความชุ่มชื่นได้ดี วันไหนที่ทาแป้งพัฟแล้วหน้ารู้สึกแมตต์เกินไป ก็ใช้น้องมู่หลานฉีดให้ผิวมีความฉ่ำโกลว์ขึ้นเล็กน้อย แถมขวดใหญ่ใช้ได้นานด้วย มีข้อควรระวังคือ ไม่แนะนำให้ใช้ร่วมกับเครื่องสำอางที่ไม่กันน้ำ สังเกตว่าเราฉีดเซ็ตแล้วมันจะหลุดเลย

กลุ่มที่ 6 เซรั่ม

​1. Cute Press Super Strength 10% Vitamin C Booster Serum (10 มล./229 บาท)

ขึ้นแท่นเป็นเซรั่มวิตซีลูกรักของส้มไปเรียบร้อย นี่ขนาดซื้อแค่ขวดเล็กมาลองถึง 2 ขวดแถมใช้หมดแล้วเลิฟเลยค่ะ  เนื้อเซรั่มออกเนื้อครีมเข้มข้น ให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดีมาก ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ แถมรอยสิวบนหน้าส้มก็ค่อยๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด สรุปเลยค่ะว่าต้องซื้อซ้ำไปเรื่อยๆ แน่นอน ไม่มีการใช้ครั้งเดียวแล้วเลิก แต่จะจัดขวดใหญ่ขนาดจริงมาให้ได้ เพราะมันช่วยเรื่องรอยสิวได้อย่างรวดเร็วอีกด้วยค่ะ หรือถ้ามีแบบซองขายในเซเว่นก็ยิ่งดีเลยหล่ะค่ะ

​2. Plantnery Acti-Acne Solutions Intense Serum (149 บาท)

ตัวนี้เป็นเซรั่มลดสิว และรอยสิว ให้ผิวดูใส แข็งแรง ไร้สิวกวนใจ เนื้อเซรั่มใส เหลว ส้มจะใช้หยด 2 หยดทาให้ทั่วใบหน้า ผลลัพธ์คือผิวนุ่มชุ่มชื่น แข็งแรง ดูเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น แถมกลิ่นหอมสดชื่นจากทีทรีออยล์ ไม่ทำให้หน้ามันจนเกิดสิวเพิ่มบนใบหน้าอีกแล้วค่ะ

​3. Boots Vitamin C Brightening & Smoothing Intensive Serum (499 บาท)

เซรั่มวิตซีขายดีอันดับ 1 จาก Boots ตัวนี้เคลมว่าช่วยให้ผิวกระจ่างใส พร้อมลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย เนื้อเซรั่มสีขาวขุ่นๆ มีความเข้มข้น ให้ความชุ่มชื่นได้ดี ส่วนตัวใช้แล้วผิวดูกระจ่างใสขึ้น รอยดำจากสิวดูจางลง แต่ขอหักเรื่องกลิ่นน้ำหอมฉุนเกินไป สำหรับส้มจะใช้ในช่วงที่อากาศเย็นๆ เท่านั้น ถ้าใช้ช่วงอากาศร้อนจะเกิดสิวขึ้นบางๆ จะบอกว่าวิตซีตัวนี้เข้มข้นมาก ตอนกลางวันแนะนำให้ใช้กันแดดควบคู่ไปด้วย เพราะมันจะไวต่อแดด และไม่ควรใช้ในวันที่สครับผิวหน้า เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้

​กลุ่มที่ 7 โลชั่นน้ำตบ

​1. Hada Labo Anti Aging Lotion (99 บาท) 

ซื้อเพราะลดราคาพิเศษจากเดิม139 เหลือเพียง99 ในเซเว่นแหละ ตัวนี้เป็นสูตรลดเลือนหรือป้องกันริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว เนื้อโลชั่นใส เข้มข้นปานกลาง แต่ก็ซึมไว ไม่เหนอะหนะ สามารถทาเป็นขั้นตอนแรกของการลงสกินแคร์ได้เลย  ส่วนเรื่องการบำรุงผิว ตอนนี้ส้มอายุ20กลางๆ แล้ว ใครว่าสกินแคร์ Anti Aging ไม่สำคัญ คือควรดูแลตั้งแต่ตอนนี้ได้เลย ผลลัพธ์หลังใช้ผิวรู้สึกนุ่มชุ่มชื่น อิ่มฟู เรียบเนียนขึ้น​ แลดูเปล่งปลั่ง​ กระชับขึ้นจริง แถมขวดเดียวสามารถใช้ได้นานด้วย คุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ 

​2. Hada Labo Premium Lotion (99 บาท)

ซื้อขวดเล็กในเซเว่นเพราะลดราคาเช่นกัน สีนี้ส้มใช้แล้วชอบมากๆๆๆ เนื้อโลชั่นเข้มข้นกว่าสีอื่น แต่จะซึมช้าหน่อยน้าา เพราะให้สารพัดการบำรุงผิวหน้าได้เยอะมากๆๆๆ สีนี้เหมาะกับทาเป็นขั้นตอนเกือบๆ สุดท้ายเลยค่ะ ผลลัพธ์หลังใช้ คือช่วยกู้ผิวโทรมได้ดีจริงๆ ผิวนุ่มชุ่มชื่น ดูเด้ง อิ่มฟู สดใส ไม่โทรมด้วย ส่วนตัวส้มชอบใช้คู่กับเจลฮาดะกระปุกทองคือฟินมากแม่ หน้าฉ่ำโกลว์คูณสองไปเลยค่าา ตอนนี้ใช้หมดแล้วทิ้งขวดแล้ว ฮืออๆๆๆ เสียดายทิ้งขวดไปแล้ว เอาเป็นว่าตัวนี้ขึ้นแท่นลูกรักไปแล้ว จะไม่ซื้อขนาดจริงมาใช้ได้ไงเนี่ยยยย....

​กลุ่มที่ 8 Moisturizer

​1. Senka Deep Moist Gel Cream (339 บาท)

ตัวนี้เป็นเจลบำรุงผิวหน้าเนื้อบางเบา แต่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดี ส่วนตัวส้มใช้แล้วไม่แพ้ ไม่เกิดอาการสิวขึ้นบนใบหน้า เพราะปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสี เนื้อเจลสีขาวขุ่นอมฟ้าค่อนข้างเหลวเลยทีเดียว แต่บางเบา ซึมไว ผลลัพธ์คือ รู้สึกผิวนุ่มเด้ง ดูฉ่ำโกลว์ เก็บล็อกความชุ่มชื่นได้ดีมาก หลังจากที่ใช้ติดกัน 14 วัน ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เรียบเนียน ดูอิ่มฟู แต่ข้อเสียคือ ใช้ติดกันเป็นเดือนๆ หมดเร็วมากๆๆ สรุปโดยรวมคือดีค่ะ

​2. Chifure Whitening Moisture Gel (599 บาท)

มอยส์เจอร์เจลบำรุงผิวหน้าแบรนด์ญี่ปุ่น มีข้อดีคือ เป็นครีม All-in-one รวมทั้งโทนเนอร์, เอสเซนต์, โลชั่น, ครีม, มาส์ก, เมคอัพเบส แต่สูตรนี้เป็นสูตร Whitening ช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใสพร้อมบำรุงรวมสกินแคร์ทุกอย่างในกระปุกเดียวกัน และอีกอย่างคือ หลังล้างหน้าเสร็จปุ๊ป ทาครีมตัวนี้ตัวเดียวจบ เหมาะมากสำหรับคนที่ขี้เกียจลงสกินแคร์หลายขั้นตอน หรือเวลาเร่งรีบก่อนแต่งหน้า ช่วยให้เมคอัพติดทน แถมผิวนุ่มชุ่มชื่น ฉ่ำโกลว์ สามารถทาได้ทั้งเช้าและเย็น แต่มีข้อเสียอย่างนึงคือ มีน้ำหอมผสมอยู่ ไม่เหมาะกับคนที่เป็นสิวหรือผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ทดสอบที่ใต้ท้องแขนก่อนใช้

​3. Hada Labo Perfect Gel (899 บาท)

ตัวนี้ส้มใช้ทาหลังจากลงน้ำตบ Hada Labo เพื่อเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวมากยิ่งขึ้น ยิ่งทาช่วงที่อากาศเย็นๆ ยิ่งให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้ดีมาก ผิวนุ่มชุ่มชื่น ฉ่ำโกลว์ เด้ง ตัวนี้ส้มไว้ทาตอนกลางคืน เน้นฟื้นฟูพร้อมบำรุงผิวโทรมไปในตัว คือสามารถใช้เป็นสลิปปิ้งมาส์กได้เลยน้าา แถมใช้ได้ทุกวันด้วย ใครที่มีสภาพผิวแห้งทุกคนต้องชอบแน่นอน แถมกระปุกใหญ่ใช้ได้นานมากๆๆๆๆ กี่ปีๆ กว่าจะหมดเนี่ย5555

กลุ่มที่ 9 Overnight Mask

กลุ่มนี้จะรวมมาส์กเจลหน้าใส ขายดีอันดับ 1 จาก Cute Press ปีนี้ส้มใช้มาแล้วทั้ง 3 สูตร มีทั้งใช้หมดแล้วและเพิ่งเริ่มใช้อยู่ด้วย ดังนี้ค่ะ

​1. Calming Cica Sleeping Mask (399 บาท)

สีเขียวสำหรับคนที่มีปัญหาผิวเป็นสิว ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ใช้อะไรแล้วเกิดอาการแดง แสบผิวไปหมด มาส์กรุ่นนี้มีส่วนผสมของใบบัวบก ช่วยปลอบประโลมผิวที่แดง แพ้ง่ายให้แข็งแรง และมีทีทรีออยล์ป้องกันสิว ส่วนตัวส้มใช้ตอนที่เป็นสิวแล้วมาทาน้องซิก้า 3 คืนติด สิวหายแถมผิวดูสดใส กระจ่างใสขึ้น ฟื้นฟูผิวโทรมได้ดีมาก แถมกลิ่นหอมสดชื่นทุกครั้งที่ทาด้วยค่ะ ตอนนี้ใช้หมดแล้วซื้อต่อแน่นอนค่ะ

2. 8hr Full Night Overnight Mask (399 บาท)

สีฟ้าสำหรับเติมความชุ่มชื่นให้ผิว เหมาะสำหรับผิวแห้ง ขาดน้ำ ไร้ชีวิตชีวา สีนี้ส้มใช้หมดไปแล้ว 2 กระปุกแล้วค่ะ เป็นมาส์กที่ขายดีที่สุดในกลุ่มมาส์กเจลทั้งหมด ไปช็อปสาขาไหนของก็เหลือน้อยลง เนื้อเจลบางเบา ซึมไว ไม่เลอะหมอน กลิ่นหอมเย็นสดชื่นแนวๆ ทะเลๆ ส่วนตัวส้มต้องใช้เป็นประจำทุกคืนติดกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ผิวนุ่มชุ่มชื่น ฉ่ำเด้ง แลดูสุขภาพดี ไม่โทรม กระปุกนี้ส้มก็ใช้หมดแล้วเช่นกัน ว่าจะซื้อแบบซองในเซเว่นหลายซองมาเติมในกระปุกนี้ แถมประหยัดไม่ต้องซื้อกระปุกใหม่ด้วยน้าาา

​3. 1 Night Brightening Overnight Mask (399 บาท)

สีเหลืองช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส ให้ผิวกระจ่างใส ด้วยวิตามินซีจากเลมอน เนื้อเจลสีขาว กลิ่นหอมเลมอนอ่อนๆ ส่วนตัวเพิ่งใช้ครั้งแรกเอง ยังไม่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสขึ้นเท่า เดี๋ยวส้มขอไปใช้ทุกคืนติดกันแล้วมาแชร์ผลลัพธ์ให้ดูกันอีกทีนะคะ

​กลุ่มที่ 10 ครีมกันแดด

Cute Press UV Expert All Day Bright Tone up Sunscreen SPF50+ PA++ (329 บาท)

ครีมกันแดดโทนอัพเนื้อสีชมพู เป็นอีกหนึ่งลิสต์ที่ส้มใช้แล้วดี ใช้แล้วชอบ เนื้อครีมนุ่มลื่น เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว เป็นครีมกันแดดที่ส้มใช้ประจำจนใช้หมดแล้วถึงขั้นตัดหลอดมาทาส่วนที่เหลือให้หมดก่อนทิ้ง คือมันดีจริงๆ ทำให้ผิวส้มดูใสขึ้นอีกหนึ่งเฉด หน้าไม่มันระหว่างวัน เอามือสัมผัสจะรู้สึกแห้งสบาย ไม่มัน เลิฟมากๆๆ ทาเดี่ยวๆ อยูุ่บ้านก็ไม่ทำให้อุดตันจนผิวเป็นสิว หรือใช้ทาเป็นเบสก่อนแต่งหน้าก็ช่วยเมคอัพติดทน หลอดเดียวครบทั้งกันแดด, บำรุงและโทนอัพเบส สรุปโดยรวมคือดีทุกอย่างหมด แต่ขอหักเรื่องกลิ่นคือส่วนตัวไม่ชอบกลิ่นออกเลี่ยนๆ ถ้าปราศจากน้ำหอมจะยิ่งดีมาก ผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบาย

​กลุ่มที่ 11 ครีมลดรอยแผลเป็น

เพราะปีนี้ส้มมีสิวขึ้นบ่อยมากจนต้องเอามือไปบีบ แกะ จนเป็นรอยสิว จึงต้องมีครีมลดรอยแผลเป็นเข้ามาในลิสต์ด้วย ดังนี้

​1. Burnova Gel Plus (135 บาท)

เป็นเจลว่านหางจระเข้ที่เพื่อนๆ หลายคนได้ป้ายยาแนะนำเราว่าใช้ดีจริง ควรมีติดบ้านไว้ ตัวนี้เป็นสูตร Original เลยจ้าา ทาได้ทุกส่วนของร่างกายทั้งหน้าและตัว เนื้อเจลใสเด้งดึ๋ง กลิ่นหอมสดชื่น ส่วนตัวส้มชอบเอามาโบกทาบนหน้าทั้งเช้าและเย็น ผิวนุ่มชุ่มชื่นขึ้น ใช้แล้วไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง ส่วนเรื่องรอยดำจากสิวก็ค่อยๆ จางลงนิดนึง ต้องใช้เวลาเป็นเดือนเลย จนตอนนี้ใช้หมดจนตัดหลอดแล้วจ้าา 

2. Smooth E Cream (จำราคาไม่ได้แล้วจ้าา55)

ครีมสามัญประจำบ้านที่ส้มใช้มาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว บวกกับส้มมีรอยดำจากสิวด้วย เคยใช้ครั้งแรกแล้วชอบมากๆๆ เลย มันสามารถทาได้ทั้งหน้าเป็นครีมบำรุงหรือสลิปปิ้งมาส์ก เนื้อจะมีความแมตต์ๆ แต่พอทามันจะให้ความชุ่มชื่นกับผิว ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น เรียบเนียน ดูใส แถมกลิ่นหอมทั้งที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบกัน แต่สำหรับเราชอบกลิ่นของเค้าเลยจ้าา ส่วนเรื่องรอยดำจากสิวอาจต้องใช้เวลาสักเดือนนึงค่อยๆ จางลง 

​กลุ่มที่ 12 ลิปมัน

​1. Laneige Lip Glossy Balm : Berry 

ตัวนี้ส้มใช้โบกทาทุกคืนเป็นลิปมันเลยค่ะ ตอนแรกนึกว่าเป็นลิปกลอสไว้ทาตอนแต่งหน้า แต่เป็นลิปกลอสบาล์มมีสีบางๆ คือสามารถทาเป็นลิปบำรุงได้เลยค่ะ ทาก่อนลงลิปสติกเพื่อป้องกันปากแห้ง หรือทาตอนนอนก็เริ่ด ข้อดีคือเวลาทามันจะรู้สึก glossy มีความชุ่มชื่น แถมกลิ่นหอมเบอรี่ๆ ด้วย เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ข้อเสียคือเขาไม่ได้บำรุงชุ่มชื่นนานมากเท่าไร คือทาแค่ 2-3 ชั่วโมงก็กลับมาแห้งเหมือนเดิม ตื่นมาสัมผัสแห้งๆ ด้วย

​2. Vaseline Petroleum Jelly

ถึงจะไม่ใช่ลิปมันแท้ๆ แต่เป็นเจลลี่อเนกประสงค์ที่ทุกบ้านต้องมีติดไว้ แถมราคาไม่แพง หาซื้อง่าย ขวดเดียวสารพัดประโยชน์ ทั้งทาบำรุงผิวจุดแห้งกร้าน เช่น ข้อศอก หัวเข่า หรือเอามาทาริมฝีปากแทนลิปมันก็ช่วยให้ปากนุ่มชุ่มชื่น เป็นต้น แต่ส่วนตัวส้มชอบเอามาทาบนปากแทนลิปมัน เพราะมันให้ความชุ่มชื่นกับปากได้ดีกว่าลิปมันทั่วไป ส้มเอาไว้ทาก่อนนอน ตื่นมาปากชุ่มชื่น ไม่ลอกด้วยค่ะ แต่ข้อเสียคือมันต้องใช้มือควักอาจทำให้เชื้อโรคเข้าไปได้น้าาา​​

เป็นอย่างไรบ้างค่ะทุกคน กับการรีวิว Skincare ทั้งหมดที่ใช้ในปี 2020 มีตัวไหนที่ใช้ดีเหมือนเรา น่าสนใจ และอยากลองบ้าง

สำหรับหมวด Skincare ก็หมดเพียงเท่านี้ กระทู้หน้าส้มจะมารีวิว Make up ทั้งหมดที่ใช้ในปี 2020 ให้ดูกัน เดี๋ยวส้มจะรีบมาเขียนให้ทุกคนดูนะคะ