Susanne Kaufmann แบรนด์ self care สุด niche ที่ใครๆก็หลงไหล่ในความหอมสุดไฮโซ ❤️
eark-ii 43 14 WITH <strong>Skin Lab</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)
หากใครเป็น FC ร้าน niche skincare อย่าง Skin Lab ต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับแบรนด์นกดำ Susanne Kaufmann อย่างแน่นอนค่ะ เพราะ product ของแบรนด์นี้คือเด็ดทุกตัว ขึ้นแท่น bestseller เกือบจะครบทุก category เลย ซึ่งเราว่าคงจะมีคนรีวิว skincare เค้าเยอะแล้ว วันนี้เอิร์กเลยขอมารีวิว body & hair care จากบ้านนี้กันบ้างค้าาา
เริ่มที่ item แรก body oil
Susanne Kaufmann ringelblumennöl body oil 100 ml | ฿1,650
สุดยอด body oil ที่ทั้งกลิ่น เนื้อสัมผัส และประสิทธิภาพต้องยกให้เค้าจริงๆ ดีแบบไม่มีอะไรจะติ ถึงว่าเป็น favorite ของใครหลายคน body oil ตัวนี้เป็น blend ของน้ำมันหลายชนิดอย่าง rosehip oil, rapeseed oil, jojoba oil, olive oil และ marigold extract ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างออกไปไม่ว่าจะในเรื่องของการ #เพิ่มและเก็บกักความชุ่มชื้น #ต้านสารอนุมูลอิสระ พร้อมทั้ง #ฟื้นฟูผิวที่แห้งเสีย สิ่งจุดเด่นของบ้านนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องกลิ่น ถึงแม้จะไม่ใช่กลิ่นที่แตะจมูก แต่กลิ่นของเค้ามีความหอมละมุน ผ่อนคลาย มีความแพง แต่ที่ไม่มีใครเหมือน ส่วนในเรื่องของ texture คือเบาบางที่หนึ่ง ให้ความชุ่มชื้นได้ลึกและยาวนาน บอกได้เต็มปากเลยว่า oil เค้าคุณภาพดีจริงๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ทาแล้วซึมเร็ว ทาตอนกลางวันประเทศไทยยังไหวเลย ซึ่ง oil ตัวนี้ทาได้ทั้งตอนตัวเปียกและตัวแห้ง ส่วนตัวรู้สึกแทบไม่ต่างกัน (oil บางตัวต้องทาตอนตัวเปียกเท่านั้นถึงจะซึมได้เร็ว) ที่ชอบมากๆคือเรื่องคือทาแล้วผิว GLOW ท่ีหนึ่งค่ะ ไม่มีอะไรจะติเลย เพราะทั้งผิวหอม ผิวโกลว์ ไม่เหนียวเหนอะหน่ะ แป้ปๆก็ใช้จนพร่องไปเยอะแล้ว รับรองว่าใครได้ลอง body oil ของ Susanne Kauffmann ก็ต้องติดใจอย่างแน่นอนค่ะ
Susanne Kaufmann ringelblumennöl body oil 100 ml | ฿1,650
สุดยอด body oil ที่ทั้งกลิ่น เนื้อสัมผัส และประสิทธิภาพต้องยกให้เค้าจริงๆ ดีแบบไม่มีอะไรจะติ ถึงว่าเป็น favorite ของใครหลายคน body oil ตัวนี้เป็น blend ของน้ำมันหลายชนิดอย่าง rosehip oil, rapeseed oil, jojoba oil, olive oil และ marigold extract ซึ่งน้ำมันแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างออกไปไม่ว่าจะในเรื่องของการ #เพิ่มและเก็บกักความชุ่มชื้น #ต้านสารอนุมูลอิสระ พร้อมทั้ง #ฟื้นฟูผิวที่แห้งเสีย สิ่งจุดเด่นของบ้านนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องกลิ่น ถึงแม้จะไม่ใช่กลิ่นที่แตะจมูก แต่กลิ่นของเค้ามีความหอมละมุน ผ่อนคลาย มีความแพง แต่ที่ไม่มีใครเหมือน ส่วนในเรื่องของ texture คือเบาบางที่หนึ่ง ให้ความชุ่มชื้นได้ลึกและยาวนาน บอกได้เต็มปากเลยว่า oil เค้าคุณภาพดีจริงๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน ทาแล้วซึมเร็ว ทาตอนกลางวันประเทศไทยยังไหวเลย ซึ่ง oil ตัวนี้ทาได้ทั้งตอนตัวเปียกและตัวแห้ง ส่วนตัวรู้สึกแทบไม่ต่างกัน (oil บางตัวต้องทาตอนตัวเปียกเท่านั้นถึงจะซึมได้เร็ว) ที่ชอบมากๆคือเรื่องคือทาแล้วผิว GLOW ท่ีหนึ่งค่ะ ไม่มีอะไรจะติเลย เพราะทั้งผิวหอม ผิวโกลว์ ไม่เหนียวเหนอะหน่ะ แป้ปๆก็ใช้จนพร่องไปเยอะแล้ว รับรองว่าใครได้ลอง body oil ของ Susanne Kauffmann ก็ต้องติดใจอย่างแน่นอนค่ะ
ต่อกันด้วย hair care Susanne Kaufmann hair care | repair shampoo & conditioner • อีกอย่างที่อยากจะมาแนะนำเกี่ยวกับแบรนด์นี้ก็เป็นเรื่องผมค่ะ อย่างที่เคยบอก Susanne Kaufmann เค้าทำกลิ่นของแต่ละ product ออกมาได้หอมมากกกกก ซึ่งในความหอมนี้ ไม่ใช่ว่าทุก product จะกลิ่นเดียวกันนะคะ ใน line hair card ของเค้าก็มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ ซึ่งพอใช้แล้วกลิ่นหอมติดผมไปจนสระผมรอบถัดไปเลยค่ะ อิอิ
✨SK shampoo & conditioner repair 250 ml | ฿1,850 • แน่นอนว่านอกจากจะหอมแล้ว product ของแบรนด์นี้เค้าเป็น all natural / plant-based ingredient นะคะ ซึ่งสูตรนี้จะเน้นบำรุง และซ่อมแซมผมที่แห้งเสีย ให้กลับมีชีวิตชีวาและนุ่มลื่นขึ้นค่ะ ส่วนประกอบสำคัญก็จะมี hydrolyzed silk protien, hydrolyzed wheat protein และ panthenol. ✨ my thoughts • ความเด่นของ line นี้คือความนุ่มลื่นของผมค่ะ เห็นได้ชัดเลยเมื่อเปรียบเทียบกับ shampoo ยี่ห้ออื่นๆ ผมที่กัดมาอย่างหนักหน่วงของเอิร์กจะสางยากมากตอนสระ ซึ่งบอกเลยว่าสระผมที่คือเหนื่อยค่ะ 555 แต่พอใช้ของ SK คือสางผมได้ง่ายกว่ามากถึงจะใช้แค่แชมพูผมก็ยังสางง่าย ถึงจะเป็น natural product แต่แซมพูตัวนี้มีฟองเหมือนแชมพูทั่วไปเลยค่ะ สระง่าย และกลิ่นหอมมากกกกกก หอมฟุ้งไปทั้งห้องน้ำ ฟินไปถึงคนที่เข้ามาใช้ห้องน้ำต่อ 555 ส่วนตัว conditioner ก็เนื้อเบาบางแต่ให้ความชุ่มชื้นดีมากๆ ส่วนตัวถือว่าประทับในเรื่องการบำรุงและความหอมที่ตราตรึงค่ะ 🤣 แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าใช้ line นี้แล้วจะผมมันเร็วกว่าปกตินิดนึง แนะนำว่าถ้าเป็นคนหนังศรีษะมันให้ใช้ conditioner ที่ปลายผมพอนะคะ แต่รวมๆคือประทับใจมากค่ะ
✨SK shampoo & conditioner repair 250 ml | ฿1,850 • แน่นอนว่านอกจากจะหอมแล้ว product ของแบรนด์นี้เค้าเป็น all natural / plant-based ingredient นะคะ ซึ่งสูตรนี้จะเน้นบำรุง และซ่อมแซมผมที่แห้งเสีย ให้กลับมีชีวิตชีวาและนุ่มลื่นขึ้นค่ะ ส่วนประกอบสำคัญก็จะมี hydrolyzed silk protien, hydrolyzed wheat protein และ panthenol. ✨ my thoughts • ความเด่นของ line นี้คือความนุ่มลื่นของผมค่ะ เห็นได้ชัดเลยเมื่อเปรียบเทียบกับ shampoo ยี่ห้ออื่นๆ ผมที่กัดมาอย่างหนักหน่วงของเอิร์กจะสางยากมากตอนสระ ซึ่งบอกเลยว่าสระผมที่คือเหนื่อยค่ะ 555 แต่พอใช้ของ SK คือสางผมได้ง่ายกว่ามากถึงจะใช้แค่แชมพูผมก็ยังสางง่าย ถึงจะเป็น natural product แต่แซมพูตัวนี้มีฟองเหมือนแชมพูทั่วไปเลยค่ะ สระง่าย และกลิ่นหอมมากกกกกก หอมฟุ้งไปทั้งห้องน้ำ ฟินไปถึงคนที่เข้ามาใช้ห้องน้ำต่อ 555 ส่วนตัว conditioner ก็เนื้อเบาบางแต่ให้ความชุ่มชื้นดีมากๆ ส่วนตัวถือว่าประทับในเรื่องการบำรุงและความหอมที่ตราตรึงค่ะ 🤣 แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าใช้ line นี้แล้วจะผมมันเร็วกว่าปกตินิดนึง แนะนำว่าถ้าเป็นคนหนังศรีษะมันให้ใช้ conditioner ที่ปลายผมพอนะคะ แต่รวมๆคือประทับใจมากค่ะ
หวังว่าทุกคนจะชอบ Susanne Kaufmann เหมือนกันเรานะคะ อยากจะชวนทุกคนมาเข้าแก๊งกัน รับรองเข้าแล้วออกไม่ได้ค่า 555 ใครสนใจก็ไปหาซื้อกันได้ที่ร้าน Skin Lab กันได้เลยนะคะ