จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อceleb แหกกฎ quarantine

วิกฤติการณ์ไวรัส COVID ระบาดได้คร่าชีวิตนับล้านพลิกทั่วโลกให้สู่สภาวะที่ชวนหดหู่  ผู้คนมากมายต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเพื่อป้องกันโรคนี้ติดต่อแพร่ขยายหนักหนาสาหัสไปยิ่งกว่าเดิม และได้แต่เฝ้ารอคอยว่า  การคิดค้นวัคซีนป้องกันเชื้อโรคจะได้ประสิทธิภาพเพื่อช่วยนำโลกใบเก่าที่พวกเรายังมีความหวังและรอยยิ้มให้กลับมาในเร็ววันนี้

แต่ท่ามกลางสูญเสียที่สร้างความหดหู่ให้กับผู้คนทั่วโลก   ก็มีกลุ่มคนในสังคมที่ใช้ทั้งทรัพย์สินและอภิสิทธิ์บางประการเพื่อหลบเลี่ยงกฎข้อบังคับป้องกันการติดต่อของCOVIDที่ได้บัญญัติขึ้นมาให้ประชาชนปฏิบัติอย่างเคร่งครัด   .ใช่แล้วค่ะ  พวกเค้าคือกลุ่มคนดังที่เคยส่งข้อความขอร้องแฟนๆผ่าน social media ให้กักตัวอยู่บ้าน ไม่ร่วมชุมนุมกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค    พวกเค้าคือส่วนน้อยในสังคมที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำไม่สามารถส่งผลกระทบจนเกิดความเดือดร้อน   และพยายามหาช่องว่างเพื่อแอบเติมความสุขชั่วคราวให้กับตัวเองด้วยการพบปะสังสรรค์   จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเค้าถูกจับได้ว่าแหกกฎ quarantine   จะเหมือนกับคนดังที่บ้านเราหรือไม่  มาติดตามกันค่ะ 

Rita Ora  : ถูกปรับ ถูกประนาม แต่ก็งานในวงการก็ยังดูไปได้สวย

เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว  VOGUE  ได้นำเสนอคอนเทนท์คำแนะนำจาก Rita Oraในหัวข้อการใช้เวลา quarantine ที่บ้านให้เป็นประโยชน์   เธอเล่าถึงความโชคดีที่ตัวเองมีบ้านพักในชนบทที่สวยงามและบรรยายการสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ แม้จะไม่สามารถเดินทางออกไปข้างนอกได้ตามใจชอบเหมือนก่อนที่จะเกิดโรคระบาด


แต่สถานการณ์ COVID ที่อังกฤษกลับย่ำแย่ลงจนเข้าสู่ "คลื่นการระบาดครั้งที่สาม" บางวันผู้ติดเชื้อมีจำนวนพุ่งสูงเกินห้าหมื่นคน และเสียชีวิตนับพัน เมื่อรวบรวมสถิติล่าสุดก็มีการติดเชื้อไปเกินสามล้านคน และสังเวยไปมากกว่าเก้าหมื่นชีวิต! เมื่อเปรียบเทียบจำนวนประชากรที่ไม่ห่างกับประเทศไทยมากนัก ก็จะเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่า อังกฤษได้เข้าสู่สภาวะที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่า การระดมความคิดเพื่อหามาตรการต่างๆมาช่วยควบคุมเพื่อลดความสูญเสีย และต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน เป็นระยะเวลาเนิ่นนานหลายเดือนที่หลายคนไม่สามารถพบหน้าบุคคลอันเป็นที่รัก หรือแม้แต่การเดินทางไปทำงานตามปกติ อังกฤษเปลี่ยนแปลงระเบียบกฎเกณฑ์เพื่อจำกัดจำนวนการพบปะติดต่อของผู้คนมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์ยังอยู่ในขั้นวิกฤติแม้จะผ่านเข้าสู่ปี2021 ก็ทำให้หลายคนรับรู้ตรงกันว่า ควรจะสละความสุขจากการเลี้ยงสังสรรค์ไปก่อน ในเมื่อร้านรวงทั้งหลายต่างก็ต้องปิดชั่วคราวจากข้อยังคับจากรัฐอย่างเคร่งครัด

แต่นักร้องสาวผู้นี้ไม่ได้เพียงแต่เมินเฉยกฎการจำกัดการพบปะผู้คนเป็นกลุ่มเท่านั้น เธอยังใช้อำนาจเงินเพื่อติดสินบนร้านให้แอบทำการเพื่อฉลองวันเกิดให้กับเธอ และยังเคยจงใจประกาศมาก่อนหน้าว่า ไม่ได้จัดงานเลี้ยง ทั้งๆที่ต่อมาเธอเชิญเพื่อนสามสิบชีวิตมาร่วมสนุกในร้านอาหารที่ Notting Hill สวนทางกับการคำพูดที่ว่า เธอวางแผนจะใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่อย่างเงียบๆ เมื่อสื่อถามว่ารับมือกับกฎข้อบังคับในช่วงโรคระบาดเช่นไร เธอก็พูดสวยๆว่า

" ฉันกำลังอดทนเพื่อฝ่าฟันกับเรื่องนี้ไปให้ได้ไม่ต่างจากคนอื่นๆเลยค่ะ"

แม้จะพยายามกลบเกลื่อนแต่ไม่เนียน ตำรวจบุกถึงงานและมีรายงานว่าเธอต้องจ่ายค่าปรับ  แต่นั่นไม่ใช่ทางออกที่ happy ending

ล่าสุด ตำรวจได้เปิดเผยข้อมูลชัดเจนว่า ผู้จัดการร้านอาหารได้รับสารภาพเรื่องที่ได้รับข้อเสนอจาก Ritaด้วยจำนวนเงิน £5,000 เขายอมรับว่าโลภอยากได้เงินจนเปิดร้านจัดเลี้ยงเพื่อคนดังทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นการละเมิดกฎ ตำรวจได้ระบุว่า มีผู้เข้าร่วมงานสี่คนที่ต้องจ่ายค่าปรับ ผู้จัดการร้านถูกไล่ออก แต่ภาพวงจรปิดเพื่อใช้เป็นหลักฐานกลับถูกลบหายไปเฉพาะในค่ำคืนที่Rita จัดงานเลี้ยง แน่นอนว่า เรื่องนี้ไม่ทำให้ตำรวจยินดีนัก พวกเค้าเดินหน้าให้ภาครัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้ยึดใบอนุญาตของร้าน

แม้ Rita Ora จะออกมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขอรับผิดทุกประการ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ยกระดับภาพลักษณ์ของเธอแต่อย่างใด หนำซ้ำ เธอยังฝ่าฝืนกฏกักตัวอีกครั้ง หลังจากได้รับการว่าจ้างให้ไปแสดงดนตรีแบบ private ที่ Egypt แต่เมื่อเดินทางกลับมาก็ไม่ได้กักตัวให้ครบตามกำหนด เป็นอีกครั้งที่เธอถูกถล่มหนักจนต้องออกมาขอโทษและเอ่ยปากแบ่งรายได้จากงานใน Egypt มาบริจาคเพื่อการกุศล

Rita อาจจะถูกโจมตีว่าใช้อภิสิทธิ์คนดังเพื่อหาช่องโหว่เพื่อความสะดวกสบายของตัวเองอย่างไร้ความรับผิดชอบ   แต่ไม่ว่าจะเป็นค่าปรับหรือดราม่าในช่วงที่ผ่านมาก็ดูจะไม่กระทบต่อเส้นทางการทำมาหากินของเธอนัก   Rita ยังได้เป็นหนึ่งในกรรมการรายการ The Mask Singer ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในอังกฤษ   แต่จากการเปิดเผยของตำรวจเมื่อวันก่อน  แฟนๆรายการจำนวนไม่น้อยก็ได้ร่วมเรียกร้องให้ผู้จัดปลดเธอออกจากการทำรายการซีซัน 2 แล้ว    แต่ผลจะเป็นเช่นไร ก็ต้องติดตามต่อไปค่ะ 

Kendall Jenner -จัดงานฉลอง Halloweenและวันเกิดอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงที่สถิติผู้ติดเชื้อพุ่งสูง

นี่ไม่ใช่กรณีแรกที่เซเลบได้ขอร้องให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎและฝ่าปัญหาไปด้วยความอดทนร่วมกัน ดังกรณี Kendall Jenner ที่เชิญเพื่อนฝูงมาร่วมฉลองวันเกิดนับร้อย แต่ก็มีรายงานตามมาว่า ผู้ร่วมงานทุกคนตรวจหาเชื้อไวรัสแบบทราบผลด่วนก่อนที่จะเข้างานแล้ว อย่างไรก็ตาม Kendall ปิดปากนิ่งเงียบไม่โต้ตอบกระแสสังคม โดยที่แม่ของเธอออกมาปกป้องว่า ยังไงก็ต้องใช้ชีวิตกันต่อไป และครอบครัวของพวกเค้าก็ได้แสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ โชคดีที่สามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อได้สัปดาห์ละสองครั้ง (เพราะมีสปอนเซอร์คอยควบคุมดูแล) ส่วนคนอื่นจะวิพากษ์วิจารณ์โจมตีหนักขนาดไหน ก็ไม่สามารถไปควบคุมได้

ชาวเน็ทจำนวนมากแสดงความไม่พอใจจากงานเลี้ยงบนดาดฟ้าที่เต็มไปด้วยคนดังระดับ superstar   เพราะแม้จะมีการยืนยันว่า ทั้งแขกและสต๊าฟที่ร่วมงานมีการตรวจ COVID แบบทราบผลด่วน แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องความคลาดเคลื่อน   รวมไปถึงคนในงาน  รวมถึงเจ้าของวันเกิดอย่าง Kendall ที่ไม่ได้สวมหน้ากาก  (รวมถึงการเป่าเค้ก)  และยังมีกฎห้ามไม่ให้แขกในงานโชว์ภาพ party ที่ social media   ที่ทำให้หลายคนฟันธงว่า   Kendall รู้ดีว่า  การจัดเลี้ยงใหญ่โตเช่นนี้จะสร้างกระแสต่อต้านจึงพยายามปิดบังภาพในงานที่ไม่มีการเว้นระยะห่างหรือใส่ mask ป้องกัน

หลายคนยังวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนว่า แม้จะไม่ได้คาดหวังให้ครอบครัว KarJenner เป็นแบบอย่างในเรื่อง quarantine แต่ท่ามกลางความเศร้าสลดที่ผู้คนต้องทุกข์ทรมานกับความเสียหายจากวิกฤติครั้งนี้ ตัวเลือกของคนดังที่จะเฉลิมฉลองด้วยการรวมตัวกันนับสิบนับร้อยในparty ไม่ได้เข้ากับกาลเทศะ และไม่ต่างจากการเย้ยหยันให้ผู้คนได้เห็นช่องว่างอภิสิทธิ์ชน ในขณะที่ผู้คนทำงานแถวหน้าอย่าแพทย์และพยาบาลเฝ้าร้องขอด้วยสีหน้าท่าทางอันเหน็ดเหนื่อยให้ประชาชนอดทนกักตัว ไม่ออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น


นอกจากนั้น ก็ยังมีการทวงถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจาก สภาสาธารณสุขของ Los Angeles ได้กำหนดไว้ว่า บาร์และร้านอาหารสามารถเปิดพื้นที่ outdoor ได้ หากจัดที่นั่งไว้ไม่เกิดนหกคนต่อโต๊ะและจะแต่ละโต๊ะต้องห่างกันอย่างน้อยหกฟุต ทั้งแขกและผู้บริการไม่ควรจะรวมตัวกันที่บาร์หรือบริเวณอื่น และแนะนำว่า หากมีการรวมตัวกัน จะต้องใส่หน้ากากและกำหนดระยะห่างหกฟุต ซึ่งไม่ได้ตรงกับภาพความเบียดเสียดในงานวันเกิดของ Kendall และไม่มีคำอธิบายใดๆว่าสามารถใช้ COVID test แบบด่วนก่อนเข้างานเพื่อให้ยกเว้นจากกฎของสภาสาธารณสุข และสร้างความโกรธเคืองถึงเรื่องสองมาตรฐาน ส่วนตัวแทน H.Wood Group เจ้าของโรงแรมดังกล่าวก็บ่ายเบี่ยงต่อคำถามเรื่องค่าปรับจากหน่วยงานรัฐด้วยเหตุผลว่า " ไม่ได้ไปร่วมงานดังกล่าว เพราะมันเป็น party ส่วนตัว"

.

แม้จะถูกวิจารณ์หนักหน่วง แต่ก็ไม่น่าแปลกใจนักที่เพื่อนสนิทของ Kendall อย่าง Justin และ Hailey จะจัดงานสังสรรค์กลางดึกโดยเชื้อเชิญเพื่อนฝูงมาพร้อมหน้า ดูเหมือนว่า ไม่ต่างจากเจ้าของบ้านคนอื่นๆในย่านเศรษฐีของ LA ทำให้นายกเทศมนตรีออกมาประกาศว่า จะตัดสาธารณูปโภคจากเจ้าของบ้านที่จัด party โดยไม่ใยดีต่อระเบียบข้อบังคับ



ตำรวจได้พยายามออกตระเวนตักเตือนตามบ้านที่ได้รับรายงานว่าจัดเลี้ยงสังสรรค์ และส่งข้อมูลให้กับนายกเทศมนตรีเพื่อพิจารณาเรื่องตัดน้ำตัดไฟ แต่มันคงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเศรษฐีเหล่านี้ ภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมาอาจจะต้องทำให้ชาวเน็ทต้องฉุกใจคิดถึงคำพูดของคนดังที่แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์โรคระบาดและร้องขอให้ทุกคนอยู่บ้านและออกไปข้างนอกในยามจำเป็น    หรือว่ามันเป็นกฎที่ใช้สำหรับคนที่ไม่ร่ำรวย ไม่มีอภิสิทธิ์เท่านั้น ?

Madonna :   บินลัดฟ้ามาพาร์ตี้ย์วันเกิดเพื่อนด้วยข้ออ้างว่า ร่างกายมี antibody 

 

ในช่วงเดือนแรกๆที่ไวรัสแพี่ระบาดไปยังยุโรปและอเมริกา Madonna  เป็นคนดังที่แสดงจุดยืนชัดเจนว่าให้ความสำคัญกับการกักตัวเป็นอย่างยิ่ง   เธอถึงกับนำเสนอ diary ที่แสดงกิจกรรมต่างๆระหว่างที่พำนักในบ้าน    และหลังจากที่ quarantine ของเธอดำเนินมาได้สองสัปดาห์    ตำนาน popstar ก็ประกาศว่า  ตรวจ COVID มาแล้ว และพบว่า เธอเคยติดเชื้อมาก่อน ตอนนี้จึงมี "antibody" และสามารถออกไปสูดอากาศภายนอกที่เต็มไปด้วยเชื้อ COVID ได้อย่างมั่นใจว่าจะป่วย  ซึ่งองค์การอนามัยโรคได้ออกคำเตือนมาแล้วว่า   มันไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเมื่อการเจ็บป่วยจากโรค COVID หายดีแล้วจะไม่กลับมาป่วยอีกครั้ง

Madonna แสดงความโล่งใจและเชื่อว่านี่คือข่าวดีที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้    สัปดาห์ต่อมา เธอได้ตัดสินใจบินจากอังกฤษไปร่วม party วันเกิดเพื่อนสนิท Steven Klein ใน  New York  และตามคาด ชาวเน็ทได้ถามหาความรับผิดชอบในการรักษาระยะห่าง เพราะภาพที่ปรากฏใน livestream ไม่มีผู้ร่วมงานคนใดที่ใส่หน้ากาก และสัมผัสใกล้ชิดสนิทสนมเต็มที่

Madonna อาจจะให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดไว้หลายอย่าง ( บางอันก็เป็นทฤษฎีสมคบคิดจน Instagram ลบ post ออกด้วยเหตุผลว่าเป็นการแพร่ข้อมูลผิดๆ) แต่เธอไม่ได้พูดถึงเรื่องการฝืนกฎการรักษาระยะห่างแต่อย่างใด

  ชาวเน็ทบางคนวิจารณ์Madonna ว่า   นอกจากจะไม่ปฏิบัติตามกฎเพื่อป้องกันโรคติดต่อ  ก็แสดงถึงความไม่รับผิดชอบต่อสุขภาพของลูกๆของเธอที่ยังเด็กอยู่ เพราะมีความเป็นไปได้ว่า  เธอและผู้ติดตามอาจจะนำเชื้อกลับมายังอังกฤษแล้วติดต่อไปยังเด็กๆก็เป็นได้    เป็นคนสนิทของเธอที่ออกโรงชี้แจงแทนว่า   นี่เป็นงานเลี้ยงเล็กๆที่จัดแบบ online party    ส่วน Madonna นั้นพาทีมมาร่วมงานอีกเพียงห้าคน พวกเค้าต่างกักตัวร่วมกันมาก่อนหน้านี้นับเดือน  เธอย่อมไม่มีทางเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อให้กับลูกๆอย่างแน่นอน

Miranda Kerr :  ได้รับข้อยกเว้นไม่ต้องกักตัวที่โรงแรมแต่ทำผิดระเบียบจนถูกตำรวจตักเตือน

ขั้นตอนการกักตัว 14 วันหลังจากเดินทางสู่ต่างประเทศนั้นไม่ได้ฟังน่าอภิรมย์ใจแม้แต่น้อย แต่แทบทุกคนที่จำเป็นต้องเดินทางก็ต้องยอมรับมาตรการนี้เพื่อป้องกันไม่ให้การสถานการณ์ติดต่อของโรคย่ำแย่ลงไปอีก เพราะไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า การระบาดไปสู่ต่างประเทศและต่างทวีป ย่อมเกิดจากการแพร่เชื้อหลังจากการเดินทางข้ามประเทศ มาตรการการกักตัวและตรวจหาเชื้อให้แน่ใจได้ว่าจะไม่เป็นพาหะกระจายโรคจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นโดยที่ไม่ควรมีผู้ใดได้รับข้อยกเว้น


แต่หลังจากที่นางแบบสาวงามบินข้ามฟัาจาก USA มายังบ้านเกิดที่ Australia   เธอก็ต้องพบกับการติดตามตรวจสอบถึงสถานะการกักตัวจาฝ่ายหน่วยงานสาธารณสุขที่เข้มไม่แพ้กับคนทั่วไป

Miranda Kerr ได้ร้องขอเพื่อรับข้อยกเว้นในการกักตัวที่โรงแรมเหมือนกับผู้เดินทางข้ามประเทศคนอื่นๆ  เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เธอกักตัวที่บ้านและติดตามตรวจสอบในภาพหลังว่าเธอได้พำนักอยู่บ้านสุดหรูอย่างเคร่งครัดหรือไม่  และเมื่อพบว่า Miranda ไม่ได้อยู่ที่บ้าน  เจ้าหน้าที่จึงติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปตรวจสอบถึงที่บ้าน    แต่เรื่องราวซับซ้อนไปกว่านั้นเล็กน้อย  เพราะการออกจากกักตัวของเธอมาจากความมั่นใจว่า ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง เพราะเป็นการออกจากบ้านด้วยความจำเป็นบางประการ  แต่เธอไม่ได้แจ้งเรื่องการออกจากบ้านต่อผู้เกี่ยวข้องล่วงหน้า  ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดจากฝั่งนางแบบชื่อดัง

เพราะอะไร Miranda จึงออกจากบ้านก่อนกำหนด quarantine ? มีรายงานว่า เธอได้เดินทางไปเยี่ยมญาติในสถานพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง

และนั่นยิ่งสร้างข้อกังขาให้กับชาวเน็ท เพราะกลุ่มผู้ป่วยในสถานพยาบาลรวมถึงสต๊าฟ ต่างก็เป็นผู้มีมีภาวะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากโรค COVID จนทรุดหนัก เป็นสาเหตุที่ผู้สูงอายุจำนวนมากติดเชื้อแล้วเสียชีวิตในบ้านพักคนชรา และทำให้ผู้คนมากมายต้องทนทุกข์ใจที่ไม่สามารถพบหน้าญาติผู้ใหญ่เพราะอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อชีวิตของพวกเค้าได้ แม้เธอจะรู้สึกถึงความจำเป็นในการเยี่ยมญาติที่กำลังเจ็บป่วย แต่ก็ยังสร้างเสียงวิจารณ์อยู่ดี

ตำรวจให้ข้อมูลว่า  เพราะเธอไม่ได้แจ้งเรื่องการเดินทางออกจากบ้าน จึงได้รับคำตักเตือน  ส่วนตัวแทนของ Miranda ก็ตอบคำถามสื่อที่ติดต่อเพื่อไถ่ถามความเห้นแต่อย่างใด

Cardi B  - Offset  :  จัด party ไปแล้วสี่ครั้ง

Cardi เคยแสดงความร้อนอกร้อนใจกับความน่ากลัวของไวรัส COVID ในช่วงที่มันเริ่มระบาดในอเมริกาช่วงแรกๆ แต่เมื่อสถานการณ์ยืดเยื้อออกมาเรื่อยๆ ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงขึ้นจนได้รับความเดือดร้อนไปถ้วนหน้า นอกจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ทำงานเป็นปราการแถวหน้า ศิลปินในวงการเทิงก็เป็นอีกกลุ่มสามารถตรวจเชื้อ COVID เป็นประจำทุกสัปดาห์ และนั่นอาจจะเพิ่มความมั่นใจให้กับ rapper สาวขึ้นมาอีกโข

เธอจัด party วันเกิด วัน Halloween , Thanksgiving และเดือนที่ผ่านมาก็เป็น party วันเกิดสนุกสุดเหวี่ยงของ Offset และผู้ร่วมงานเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ใส่ mask ป้องกัน  พวกเค้าเบียดชิดกันอย่างสนุกสนาน ถึงขนาดว่ามีภาพแขกในงานกำลังไออยู่ติดกับ Cardi ด้วยซ้ำ

ทุกครั้งที่มีข่าวการจัดparty ของคู่นี้  ก็จะดึงความสนใจจากชาวเน็ทเข้ามาจิกกัดถึงความไม่เหมาะสมและการเพิ่มความเสี่ยงต่อการระบาดของCOVID  แต่ในครั้งที่ Cardi จัดงาน Thanksgiving  เธอได้ออกมาแสดงความเสียใจหลังจากถูกโจมตีหนักหน่วง เพราะได้รวบรวมญาติมิตรมารวมตัวถึง 37 คน    เธอยืนยันว่าได้ทุ่มเงินจำนวนมากในการตรวจหาเชื้อเพื่อให้มั่นใจแน่นอนว่า  สมาชิกครอบครัวทุกคนไม่ได้ป่วยเป็น COVID

แต่ยังมีคำถามตามมาว่า แม้ตัว Cardiและทีมงานที่ทำงานอยู่รอบข้างจะได้รับการตรวจอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์  ( เธอระบุว่า สัปดาห์ละสี่ครั้ง)    แต่มาตรการป้องกันโรคติดต่อในการเลี้ยงฉลองสไตล์เซเลบนั้น จะการันตีได้ 100% หรือไม่    หากมีใครติดเชื้อจากการร่วมสังสสรค์ในงาน   มีความเป็นไปได้มากเพียงใดที่ประชาชนจะเข้าถึงข้อมูล ?

  จากตัวเลขการติดเชื้อที่สูงลิบลิ่วในอเมริกาที่ติดเชื้อไปมากกว่า 26 ล้านคน เสียชีวิตไปมากกว่า4แสนคน      สถานพยายาลย่อมไม่ได้มีความสามารถรองรับในการรักษาผู้ติดเชื้อทุกคน  และจะได้รับคำแนะนำให้กักตัวที่บ้านโดยแยกตัวจากผู้อื่น    แตกต่างจากประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อยที่สามารถติดตามข้อมูลเพื่อแสดง timeline ของผู้ติดเชื้อ   มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะฟันธงได้ว่า   party คนดังจะปราศจากการติดเชื้ออย่างสิ้นเชิง    

คุณเชื่อมั่นในหลักการที่ว่า party ที่มีผู้ร่วมงานเบียดเสียดกันหลายสิบหรือถึงร้อยคนจะไม่กลายเป็น super spreader หากมีการตรวจเชื้อคัดกรองล่วงหน้า หรือว่ามีความเห็นที่แตกต่างไป มาแชร์กันได้นะคะ



The End