การคุกคามในรูปแบบ Love Bomb สุดฉาวของคนดังHollywood

61 8
จากรณีอันอื้อฉาวที่หญิงสาวหลายรายเปิดเผยประสบการณ์ที่ถูกชายผู้มีชื่อเสียงในวงการล่วงละเมิดทั้งร่างกายและจิตใจพร้อมกับหลักฐานบ่งชี้ตัว abuser    เพียงช่วงเวลาไม่นานก็มีชายผู้โด่งดังถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมแบบ Lovebomb  ฟังแค่ชื่อก็แฝงไปด้วยความอันตรายที่อาจจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวง   แต่เหตุใด คำที่สื่อไปถึงการคุกคาม-ล่วละเมิดจึงนำไปผูดติดกับคำว่ารักได้ล่ะ ?

เราของชวนคุณผู้อ่านให้มาทำความรู้จักกับพฤติกรรม Love Bomb และสำรวจว่าคุณกำลังตกเป็นเหยื่อความรุนแรงรูปแบบนี้อยู่หรือไม่


ตามมาเลยค่ะ


Love Bomb คืออะไร ?


Love Bomb เป็นรูปแบบการสร้างความสัมพันธ์ที่ในระยะแรกจะทำให้อีกฝ่ายซาบซึ้งตรึงตรากับความทุ่มเทเกินร้อย ทั้งเอาอกเอาใจและแสดงความรักที่ดูไม่มีขีดจำกัดจนกระทั่งอีกฝ่ายตอบตกลงเป็นคู่รักด้วยความเต็มใจ แต่ความรักแสนหวานนี้กลับมีแรงจูงใจที่บิดเบี้ยวอยู่เบื้องหลัง คุณอาจจะรู้สึกว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก แผ่เมื่อผ่านระยะโพรโมชั่นไปแล้ว ความรู้สึกชื่นชมบูชาคนรักที่เฝ้าทุ่มเทให้ก็จะเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเค้าผู้นั้นเริ่มเผยพฤติกรรมจอมบงการ บังคับฝืนจิตใจจนคุณไม่สามารถเป็นตัวเองได้ และใช้คำว่ารักเป็นมาผูกมัดตัวคุณไว้จนยากจะถอนตัว

พฤติกรรมแบบ Love Bomb อาจจะไม่มีเรื่องของการทำร้ายร่างกายแต่เหยื่อจะได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง ด้วยความรู้สึกที่ขัดแย้งระหว่างความรักและความหวาดกลัว จากหลากหลายกรณี ผู้ที่มีพฤติกรรมนี้จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้และตามคุกคามเหยื่อจนอาจจะก่อเกิดอันตรายต่อชีวิต!

ความตื่นเต้นใน fantasy นิยายประโลมโลกนางเอกสามารถตกหลุมรักพระเอกที่พยายามควบคุมชีวิตของเธอทุกลมหายใจมันห่างไกลกับความเป็นจริง เพราะถ้าคุณหลุดเข้าไปติดกับ Love Bombแล้ว มันอาจจะสร้างแผลใจหนักหน่วงไปอีกเนิ่นนาน หรือร้ายแรงไปยิ่งกว่านั้นคือชีวิตและความปลอดภัยของเหยื่อนั่นเอง


The Notebook อาจจะเป็นหนังรักในใจแฟนๆจำนวนมากมาย  แต่เคยมีการตั้งคำถามถึงพฤติกรรมชวนหวาดหวั่นของพระเอกอย่าง Noah   เพราะหลังจากที่ถูกปฏิเสธไปอย่างชัดเจน เขากลับบีบบังคับให้   Allie  ให้ออกเดทด้วย มิเช่นนั้นจะกระโดดลงไปจากชิงช้าสวรรค์    มันอาจจะดูเป็นการประกาศรักที่หนักแน่นจนหลายคนรู้สึกประทับใจ    แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณในชีวิตจริงล่ะ ?   หากมีคนที่คุณไม่พร้อมจะคบหามาบีบบังคับด้วยคำขู่ที่ดูคุกคามและเป็น emotional abuse  จะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นยินดีหรือหวาดหวั่นกันแน่นะ..  


ในขณะที่คนจำนวนหนึ่งยังรู้สึกนิยมชมชอบกับไอเดียที่ถูก "ไล่ตาม"   แต่การข้ามขอบเขตสิทธิในการตัดสินใจของอีกฝ่ายโดยไม่เลือกวิธีนั้นเป็นเรื่องโรแมนติคจริงหรือ ?



สัญญาณอันตรายที่กำลังบอกว่าคุณเป็นเหยื่อ Love Bomb


  •  การแสดงความรักที่เร่าร้อนแม้ว่าจะเพียงทำความรู้จักกันได้ไม่นาน   การบรรยายความรู้สึกหวานซึ้งเข้าขั้น "เยอะ"  

  • ทำให้คุณรู้สึกราวกับเป็นเจ้าหญิงด้วยคำชื่นชมมากมาย โดยมีทีเด็ดคือ คำพูดที่ทำให้คุณเชื่อว่า เค้าไม่เคยรู้สึกเช่นนี้กับใครมาก่อน

  • การปรนเปรอด้วยขอกำนัลมากมายที่ดูเหมือนจะซื้อใจอีกฝ่าย   แต่อาจจะคาดหวังบางสิ่งจากผู้รับ 

  • เลื่อนระดับความสัมพันธ์แบบสายฟ้าแลบจนทำให้คุณเชื่อว่านี่คือรักแท้    พบกันในระยะเวลาที่นับวันได้ก็อาจจะพูดถึงความุม่งมั่นที่จะสานความสัมพันธ์จริงจังขั้นแต่งงาน รวมถึงชักชวนให้มาใช้ชีวิตอยู่บ้านเดียวกัน

  • แสดงบทบาทของผู้นำในความสัมพันธ์และคอยกำกับอยู่เสมอว่าต้องการจะได้ยินสิ่งใดจากคุณ ไม่สามารถยอมรับคำปฏิเสธได้ง่ายๆ และมีวิธีชักจูงให้คุณทำตามความต้องการเสมอ  แม้ว่าคุณจะไม่เต็มใจก็ตาม

  • ค่อยๆก้าวเข้ามาควบคุมคุณราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ  และไม่ต้องการให้คุณสนใจอย่างอื่นนอกจากตัวเค้า   คุณเริ่มเหินห่างจากสังคมเพื่อนฝูง รู้ตัวอีกทีก็แทบจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ถ้าไม่เช่นนั้นจะคอยจิกด้วยข้อความโทรศัพท์c]t missed call นับไม่ถ้วน



Armie Hammer ยังถูกกระหน่ำแฉไม่หยุด  ล่าสุดเจอมรสุมข่าวลือว่าเป็นฆาตกรปลิดชีวิตเหยื่อหญิงสาว



"ฉันเพิ่งจะรู้ความหมายของคำว่า Lovebomb  และมันคือสิ่งที่ทำกระทำต่อฉันไม่มีผิดเพี้ยน" Courtney Vucekovich อดีตคนรักของพระเอกชื่อฉาวโฉ่ได้บรรยายถึงพฤติกรรมคุกคามที่ทำให้เธอตกอยู่ในฝันร้ายแม้จะถอนตัวออกมาจากความสัมพันธ์ toxic ได้

 แต่เธอไม่ใช่แฟนเก่าของ Armie Hammer เพียงผู้เดียวที่ออกมาเปิดเผยประสบการณ์สุด dark          ไม่นานมานี้ยังมีหญิงสาวอีกคนที่เปิดโปงถึงพฤติกรรมสุดสะพรึงของเขาพร้อมกับหลักฐานที่ทำให้ชาวเน็ทตกตะลึง

Paige Lorenze นางแบบสาวสวยวัย 22ได้เปิดเผยกับสื่อว่า เธอหลงเสน่ห์พระเอกหนุ่มแห่ง Call Me By Your Name อย่างเต็มเปา เขาทั้งโปรยคำหวานและเอาอกเอาใจและใช้คารมกล่อมให้เธอก้าวเข้าสู่ความสัมพันธ์ทางเพศแบบ BDSM และน่าเศร้าที่เธออยากจะทำให้เขาพึงพอใจมากจนก้าวเข้าสู่ความอันตรายถึงขั้นที่....

ปล่อยให้เขาสลักชื่อย่อด้วยมีดใกล้บริเวณของสงวนของเธอ  และยังเลียกินเลือดจากบาดแผลนั้นด้วย!!!

บาดแผลนั้นทิ้งรอยแผลเป็นไว้จนเธอรู้สึกอับอายที่ยินยอมทำตามความต้องการของเขาเพื่อตีตราความเป็นเจ้าของในรูปแบบของเจ้านายและทาสสาว

" ฉันตกหลุมรัก และเขาได้ทำให้ฉันรู้สึกว่า ฉันไม่มีทางจะได้เจอกับผู้ชายอื่นที่ดีกว่าเขาอีกแล้ว   ฉันเชื่อใจเขาเพราะคิดว่าเขามีประสบการณ์และวัยวุฒิมากกว่า และยังคิดว่าเขากำลังปกป้องดูแลฉันอยู่  ทั้งๆที่ความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย    ฉันถูกเขาทำร้าย  เขากำหนดบทบาทนี้ให้กับฉัน  โปรยคำชมให้ฉันอย่างที่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน  แต่เขาต้องการจะเป็นฝ่ายควบคุมตอนที่มีsex กัน และฉันปล่อยให้เขาทำแบบนั้น"




  •  เขาขอให้เธอเรียกเขาด้วยคำว่า "sir" หรือ " daddy"  ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน และโน้มน้าวใจให้เธอมีsex แบบ BDSM  โดยรับรองความปลอดภัย ไม่ผิดกฎหมาย

  • เธอเคยโอนอ่อนตามเขา เพราะคิดว่า พฤติกรรมแปลกๆหลายอย่างจะช่วยสร้างความเร้าใจให้กับความสัมพันธ์    แต่ก็ยิ่งต้องฝืนใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ

  • เธอเผยหลักฐานข้อความ  chat ที่เต็มไปด้วยคำชมเพื่อกล่อมให้เธอทำตามความต้องการ  และยืนยันว่า เขาสามารถฝึกฝนให้เธอเป็นทาสsexที่แสนยอดเยี่ยมได้

  • เธอเคยได้ยินจากเขาว่า  ได้ซุกซ่อนหุ่นคนเพื่อฝึกใช้เชือกมัดผู้หญิงซ่อนไว้ที่ห้องใต้ดินในบ้านที่เคยอาศัยกับภรรยา

  • ตรงกับคำบอกเล่าของแฟนเก่าอีกคนว่า  Armie เคยแนะให้เธอหาคลีนิคที่ผ่าตัดซี่โครงออก แล้วนำมาให้เขากัดกินเป็นอาหาร

  • เขาจงใจทำให้ร่างกายเธอมีรอยฟกช้ำ และรู้สึกภูมิใจที่ได้ทิ้งร่องรอบแห่งความเป็นเจ้าของไว้

  • ที่ต่ำตมจนกว่าที่เธอจะรับได้ ก็เมื่อมาพบภายหลังว่า เขาได้ส่งภาพโป๊เปลือยของเธอในขณะที่ถูกมัดไปให้เพื่อนดู   Armie ยังเล่าให้คู่สนทนาฟังว่า  เธอไม่ชอบที่ถูกกระทำเช่นนี้ โดยไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด

  • เธอคิดว่าเขาเป็นอันตรายต่อผู้หญิงคนอื่นๆ  และหวังว่าเขาจะหาการเยียวยารักษาจิต


นอกจากชื่อเสียงของ Armie ถูกทำลายยับเยิน  เรื่องราวกลับแย่ลงไปเรื่อยๆ หลังจากที่เขาถูกปลดจากหนังและถูก agency และประชาสัมพันธ์ตัดความสัมพันธ์   ในโลกออนไลน์ได้มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า  อีกไม่นานมานี้ สื่อจะรวมหลักฐานแฉพฤติกรรมสุดสยองของพระเอกดังคนนี้ และเขาอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหญิงสาวสุดโหดเหี้ยมใน California   คำกล่าวหานี้รุนแรงมากจนหลายคนตามเกาะไม่ปล่อย   แต่ล่าสุด ตำรวจก็ได้ยืนยันแล้วว่า Armie  ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ และไม่มีแผนการที่สอบสวนเขาแต่อย่างใด








Marilyn Manson ถูกกล่าวหาว่า Love Bomb หญิงสาวอายุน้อยแล้วดึงพวกเธอเข้าสู่ด้านวิตถาร

เมื่อหลายปีก่อน Evan Rachel Woods นางเอกดาวรุ่งที่มีวัยเพียงยี่สิบต้นๆได้สร้างความฮือฮาด้วยการคบหากับMarilyn Manson อย่างออกหน้าออกตา เขาเพิ่งจะแยกทางกับ Dita Von Teese และกลายเป็นเป้าหมายการซุบซิบนินทา เพราะสื่อหลายเจ้ารายงานตรงกันว่า Evan เริ่มต้นความสัมพันธ์กับดาวร็อคเจ้าปัญหาตั้งแต่ที่เธอยังเป็นสาววัยทีน และลือให้แซ่ดว่า สถานะของเธอก็คือบ้านเล็กที่ทำให้ Marilynและ Dita หย่าร้างกัน

ดูเหมือนว่าพวกเค้าจะคบหากันอย่างจริงจังถึงขั้นหมั้นหมาย แต่ก็ยุติความสัมพันธ์กันในเวลาต่อมา    ดูเหมือนว่า Evan จะ move on ไปได้อย่างเด็ดขาด  สร้างความสงสัยถึงสาเหตุของการเลิกรา    และสังคมยิ่งจับตามอง เมื่อเธอเริ่มบทบาทของนักเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านความรุนแรง  และเปิดเผยเรื่องสุดช็อคว่า  เธอเคยถูกข่มขืนและล่วงละเมิดทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เลือกจะไม่เปิดเผยชื่อผู้กระทำ   แต่ก็เคยบอกใบ้ไว้ว่า ผู้กระทำเป็นชายผิวขาวทรงอิทธิพลที่เธอเคยคบหามาก่อน   และหลายคนก็ค่อนข้างปักใจเชื่อว่า  บุคคลผู้นั้นย่อมเป็น Marilyn Manson ที่มีชื่อเสียงย่ำแย่เรื่องผู้หญิงนั่นเอง

ในที่สุด เธอก็ได้เปิดเผยชื่อของ abuser คนดังกล่าว เป็นไปตามที่หลายคนได้คาดไว้ Evan ได้อธิบายสั้นๆว่า เธอถูกล่อลวงให้สู่วังวนของการล่วงละเมิดตั้งแต่เป็นสาววัยทีน และถูกกระทำรุนแรงติดต่อกันหลายปี ที่ผ่านมา เธอถูกล้างสมองและปั่นหัวให้สมยอม แต่ตอนนี้เธอก้าวผ่านความหวาดกลัวที่จะถูกโต้ตอบและแบล็กเมลมาได้แล้ว และจะเปิดโปงความอันตรายของ Brian Warner ( ชื่อจริงของ Marilyn) รวมถึงคนในวงการที่มีพฤติกรรมรู้เห็นเป็นใจให้เขาทำร้ายผู้หญิง

การตัดสินใจเปิดโปงครั้งนี้เป็นการเตรียมวางแผนอย่างรัดกุมทีเดียว มีการติดต่อผู้หญิงหลายคนที่เคยมีความสัมพันธ์กับนักร้องร็อคชื่อฉาวโฉ่ให้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์ที่ถูกล่วงละเมิดพร้อมกัน ณ ตอนนี้ มีผู้หญิงอย่างน้อยสิบคนที่ออกมาเล่าเรื่องราวความรุนแรงจากน้ำมือชายผู้นี้

ที่สำคัญ   คำพูดของตัว Marilyn จากในอดีตก็ยิ่งมัดตัวเขาจนยากจะหลุดจากข้อกล่าวหาเรื่องล่วงละเมิด
  • ผู้กล่าวหาแทบทุกคนมีอายุรุ่นราวคราวลูก ซึ่งบ่งบอกถึง pattern ในการครอบงำผู้หญิงที่อ่อนด้อยประสบการณ์  พวกเธอต้องพบกับประสบการณ์ความรุนแรงที่คล้ายคลึงกัน 

  • ช่างภาพคนหนึ่งให้ความเห็นว่า เขามีทักษะในการชักจูงใจให้ผู้หญิงรู้สึกว่าเป็นคนพิเศษ  เขาบอกว่าเธอเป็นผู้ช่วยชีวิตของเขา แล้วค่อยๆครอบงำจิตใจ ดึงเธอให้ออกห่างจากเพื่อนฝูงและครอบครัว  แล้วก็เผยด้านที่ป่าเถื่อนรุนแรงจนต้องหวาดหวั่นถึงความปลอดภัยในชีวิต

  • หญิงสาวอีกคนได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่เขาแสร้งทำเป็นแฟนหนุ่มที่สมบูรณ์แบบจนเธอให้ใจเต็มที่  แล้วก็ต้องมาเจอกับ "การลงโทษ" เช่นการกักขังให้เธออยู่ในห้องตามลำพัง  สั่งไม่ให้เธอไปพบกับเพื่อนๆ หากไม่ยินยอมทำตามก็ขู่ว่าจะตามไปจัดการกับพวกเค้า

  •  นางแบบรายหนึ่งแชร์ประสบการณ์ว่า เคยชื่นชมนับถือ Marilyn ในฐานะศิลปิน เมื่อเริ่มต้นคบกัน เขาช่างมีเสน่ห์และทำตัวแสนดีแต่กลับแปลงร่างเป็นปีศาจร้ายเต็มตัว  เขาใช้อำนาจบงการเธอทุกการเคลื่อนไหว เธอจะเปิดปากพูดได้เมื่อเขาอนุญาต และต้องแต่งหน้าแต่งตัวในแบบที่เขาต้องการเท่านั้น

  • ศิลปินสาวคนหนึ่งได้ยินคำบอกรักจาก Marilyn หลังจากพบกันได้เพียงสองสัปดาห์  เขาเชื้อเชิญให้เธอติดตามไปร่วมทัวร์  แต่มีความสุขกับรักหวานชื่นได้ไม่นานนัก เธอเคยถูกมัดและข่มขืนหลายครั้ง

  • Marilyn เคยอวดอ้างถึงประสบการณ์ sex แบบ BDSM กับผู้หญิงด้วยอุปกรณ์ที่รัดคอเธอแน่นมากจนเธอขาดอากาศหายใจหวิดเสียชีวิต

  • .ในปี 2008  เขาให้สัมภาษณ์ว่า ได้ลงมือกรีดหน้าและร่างกายถึง 158 แผลตามจำนวนครั้งที่เขาได้โทรหา Evanเพื่อจะให้เธอได้สำเหนียกว่า เธอสร้างความเจ็บปวดให้เขามากแค่ไหน
นี่เป็นเพียงข้อกล่าวหาจำนวนหนึ่งเท่านั้น    และนี่ยืนยันได้ชัดเจนว่าLove Bomb อันตรายมากแค่ไหน   ยังมีเหยื่อจำนวนมากยังหลงปลอบใจตัวเองว่า  มันเป็นเพียงการแสดงออกที่เร่าร้อนรุนแรงกว่าคนทั่วไปและตัดสินใจอดทนยอมรับด้วยความรัก   แต่เรื่องราวอาจจะลงเอยด้วยเรื่องน่ากลัวเกินจินตนาการก็เป็นได้


Marilyn ปฏิเสธข้อกล่าวหา และอ้างว่า  คำสัมภาษณ์ที่บ่งบอกถึงความรุนแรงเป็นเพียงการ "สร้างตัวตน" เพื่อให้เข้ากับผลงานดนตรีและศิลปะ มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ  แต่คำกล่าวหาจากผู้หญิงนับสิบคนทำให้ทั้งค่ายดนตรีและผู้จัดการที่รวมงานกันมานานก็ตัดขาดกับ rocker หนุ่มใหญ่  และปฏิกิริยาของคนส่วนมากคือเชื่อถือฝ่ายหญิงมากกว่า   ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากข่าวเสียหายและการแสดงทัศนคติต่อความรุนแรงผ่านผลงานดนตรีและการให้สัมภาษณ์ของ Marilyn นั่นเอง

เรื่องนี้ยังส่งผลกระทบไปยัง Johnny Depp ที่ยังต้องต่อสู้คดีกับอดีตภรรยาที่กล่าวหาว่าเขาลงมือทำร้ายเธออย่างหนัก   ชาวเน็ทหลายคนแสดงความมั่นใจว่า abuser มักจะดึงดูดพวกเดียวกัน  และเหมารวมว่า  ความสนิทสนมหลายสิบปีของชายคนดังทั้งสองก็น่าจะบ่งบอกว่า พวกเค้าเป็นคนประเภทเดียวกัน!



FKA TWIGS เผยประสบการณ์ lovebomb ที่แสนเจ็บปวดจากน้ำมือ Shia LaBeouf


นักร้องสาวได้รับกำลังใจจากผู้คนจำนวนมากเมื่อเธอตัดสินใจฟ้องร้องอดีตแฟนหนุ่มที่เคยล่วงละเมิดร่างกายและจิตใจและเผยรายละเอียดชวนขนลุก

FKA Twigs ยืนยันว่า เธอหลงรัก Shia และให้ความเชื่อมั่นในตัวเขาเต็มที่ แต่ในเวลาต่อมาก็พบว่า เขาเป็นฝันร้ายที่ตามรังควานจนร่างกายจิตใจเธอต้องบอบช้ำ

เธอบรรยายพฤติกรรมของ Shia LaBeouf ไว้ดังนี้

  • บีบคอเธอต่อหน้าต่อตาคนที่ปั๊มน้ำมัน  และบีบแขนเธอจนช้ำ  แต่เธอไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวว่ามันจะทำลายอาชีพนักแสดงของเขา และกลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อถือคำพูด

  • จงใจแพร่เชื้อโรคติดต่อทางเพศด้วยการใช้ makeup ปิดบังอาการที่ปรากฏทางผิวหนัง

  • ขู่ว่าจะขับรถชน หากเธอไม่พูดว่ารักเขา เมื่อเธอร้องขอจนลงจากรถมาได้ ก็ถูกเหวี่ยงไปกระแทกกับตัวรถและลากเธอกลับเข้าไป

  • ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือเธอฝังใจกับความเจ็บปวดจนมีอาการ PTSD  
Twigs เล่าว่า  ใน honeymoon period   เธอได้รับการปฏิบัติที่แสนดีจนทำให้มั่นใจว่า ความสัมพันธ์ครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างยอดเยี่ยม   แต่เมื่อช่วงเวลานั้นสิ้นสุดลง  เขาได้เปลี่ยนท่าทางที่น่าลุ่มหลงมาควบคุมเธอเต็มรูปแบบ  เธอไม่สามารถพูดคุยกับพนักงานเสิร์ฟหรือชายอื่นตามมารยาทได้เพราะเขาจะกล่าวหาว่าเธอกำลังนอกใจ  เธอถูกบีบให้รู้สึกผิดด้วยคำพูดที่ว่า  หากเธอรักเขาอย่างแท้จริง เธอก็จะไม่มองตาผู้ชายคนอื่น  ทั้งๆที่เธออาจจะกำลังสั่งพาสต้าเท่านั้น   ความหมกมุ่นหนักไปถึงขั้นนับจำนวนครั้งที่เธอจูบเขา   Shiaนำวิธีการจูบของเธอไปเปรียบเทียบกับแฟนเก่าและเอาแต่ชวนทะเลาะว่า เธอจูบเขาไม่มากเท่าเธอคนนั้น  ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ดีพอถึงขนาดที่เธออยากจะโทรไปถามแฟนเก่าของเขาว่าเธอย่ำแย่ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ

พฤติกรรม Love Bombหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เพียงแค่เธอนอนจ้องเพดานบ้านก็ถูกระแวงว่ากำลังคิดวางแผนทอดทิ้งเขาไป เขามักจะปลุกเธอในช่วงเช้ามืดเพื่อจะหาเรื่องชวนทะเลาะว่าเธอกำลังนอกใจเขาหรือไม่อยากจะอยู่ด้วยกัน แม้จะเลิกรากันไปแล้ว แต่ยังคงกดดันฝังใจหนักจนกลายเป็นอาการ panic attack ทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความหวาดหวั่น

.


ในขณะที่คนดัง  Hollywood ที่ถูกกล่าวหาเรื่องความรุนแรงจะโต้ตอบด้วยคำปฏิเสธและ discredit อีกฝ่าย  แต่ Shia กลับเลือกจะใช้วิธีโยนความผิดไปให้กับเหล้ายา และยอมรับว่า "ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆกับการกระทำของตัวเอง"   ที่ได้ล่วงละเมิดคนใกล้ตัวรอบข้างตลอดระยะเวลาหลายปี และรู้สึกเสียใจทีทำร้ายคนเหล่านั้น  (เขาไม่ได้ยอมรับว่า ข้อกล่าวหาของ Twigsทั้งหมดและยอมรับว่ามีเพียงบางเรื่องที่เกิดขึ้นจริง) 

การยอมรับพฤติกรรม abusive สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับผู้คน  ถึงขั้นที่มีคนออกมาชมเชยว่า  เขามีความเป็น "ลูกผู้ชาย" มากพอจะยอมรับความผิด      แต่ก็ถูกแย้งกลับว่า   แม้จะไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหา  แต่เจ้าตัวกลับออกมาแสดงความเสียใจหลังจากถูกเปิดโปง  มิใช่ความพยายามในการแก้ไขตนเองจากใจจริง  และความเสียหายที่เขาได้ทิ้งไว้กับอดีตคนรัก  ไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศและความสะเทือนใจอย่างรุนแรง   เรื่องที่ซีเรียสถึงเพียงนี้ คำขอโทษสั้นๆไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไรได้

มีรายงานว่า Shia ถูก agency ยกเลิกสัญญาและเข้าสู่โพรแกรมการบำบัดทั้งอาการติดสิ่งเสพติดและโรคติดต่อทางเพศ ส่วนเรื่องของการต่อสู้คดีฟ้องร้องนั้น จะต้องติดตามกันต่อไปว่า Twigs จะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ บางคนมองว่า อาจจะมีการตกลงเรื่องค่าเสียหายนอกศาล แต่เธอได้แสดงเจตจำนงไว้ว่า เธอไม่ได้เลือกออกมาต่อสู้เพราะมีความปรารถนาเรื่องเงิน แต่ต้องการช่วยเหลือเหยื่อความรุนแรงคนอื่นไม่ให้ทนทุกข์ยอมรับกับพฤติกรรมนี้อีกต่อไป ทนายของเธอระบุว่า ที่จริงแล้ว เธอพยายามประนีประนอมกันอย่างเป็นส่วนตัวมาก่อน และมีการทำข้อตกลงว่า Shia จะต้องรับการบำบัดทางจิตเพื่อแก้ไขพฤติกรรม แต่เขากลับไม่ทำตาม จึงต้องเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณชน และตามที่หลายคนคาดไว้ Shia ยังเคยล่วงละเมิดผู้หญิงคนอื่นๆที่เคยมีความสัมพันธ์กันมาแล้ว หาก Twigs ไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ จะต้องมีเหยื่อรายอื่นตามมาอย่างแน่นอน

ล่าสุด Shiaได้สู้คดีด้วยการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของTwigs ทนายของเขาอ้างว่า เธอไม่ได้เกิดอาการบาดเจ็บหรือเกิดความเสียหายใดๆ และต้องการให้เธอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทางกฎหมายในฝั่งของเขาอีกด้วย






ชาวเน็ทคาใจ  ถูกแฉขนาดนี้  ยังมีสาวสวยที่แสดงความหลงไหลได้ปลื้ม abuser?


หลังจากที่สื่อบันเทิงได้เผยแพร่ภาพฉากรักร้อนฉ่าระหว่างพระเอกผู้ฉาวโฉ่กับนางเอกรุ่นน้อง  Margaret Qualley   (ลูกสาวAndie MacDowell)     ก็ทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยคำถาม   เขาคือชายที่ดึงให้หญิงสาวเจ้าไปสู่วังวนของความสัมพันธ์ toxic  ทำร้ายร่างกายเธอ  บีบบังคับจิตใจเธอ ติดเหล้ายาและยังเป็นโรคติดต่อทางเพศ   แต่แฟนสาวคนใหม่กลับดูไม่ยี่หระกับเรื่องพวกนี้!

บางคนวิเคราะห์ นี่คือจุดแข็งของคนที่เชี่ยวชาญเรื่อง Love Bomb ไม่ว่าจะมีสัญญาณอันตราย (red flag) ชัดเจนเพียงใด เขาก็สามารถใช้เสน่ห์ดึงดูดเป้าหมายใหม่ให้เข้ามาได้ไม่หยุด ที่จริงแล้ว Twigs เองก็เคยรู้มาก่อนว่า เขามีชื่อเสียงที่ย่ำแย่เรื่องพฤติกรรมรุนแรง แต่เธอก็มองข้ามเรื่องเหล่านั้นไปจนได้มาพบกับฝันร้ายยากจะลืมเลือน

*อัพเดทเรื่องราวเพิ่ม หลังจาก Margaret เลิกกับ Shia แล้ว  เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อในคำพูดของ FKA TWIGS ค่ะ


เชื่อกันว่า การถ่ายทอดแฟนตาซีผ่านนิยายและละครที่หญิงสาวสามารถเปลี่ยนแปลงชายได้ด้วยความดีของเธอและลงเอยด้วยความรักแบบ happy ending ถือเป็นการปลูกฝังให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเราสามารถเปลี่ยนด้าน abusive ของอีกฝ่ายได้ และนั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้มีเหยื่อหลายรายที่เลือกจะอยู่ในความสัมพันธ์toxic ต่อไป ทั้งๆที่ถูกทำร้ายจนเจ็บปวด แต่ก็ยังมีความหวังว่าคนรักจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอ


เมื่อถูกตั้งคำถามว่า ทำไมไม่เอาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นั้น Twigs ได้บรรยายความรู้สึกที่คุณอาจจะเคยได้รับฟังมาจากเหยื่อความรุนแรงรายอื่นๆมาแล้ว

"ฉันเกิดความรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกตัวออกมา ฉันรู้สึกถูกควบคุมอย่างหนักและสับสน ต้อยต่ำไร้ค่า ฉันหวาดกลัวเกินไปที่จะหนีออกมา และรู้ดีว่ามันยากเย็นแค่ไหนที่จะต้องเยียวยาจิตใจให้กลับมารู้สึกปกติเหมือนเดิม "




ความรักถูกนิยามออกมาหลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับเรา ความรักที่ดีงามย่อมมีรากฐานมาจากความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน มันเป็นคำอธิบายวิธีที่จะพาตัวเองออกมาจาก Love Bomb ชัดเจนที่สุด คนที่รักและให้ความสำคัญกับคุณอย่างแม้จริง ย่อมไม่ล่วงละเมิดและไม่บีบบังคับให้คุณต้องฝืนทนทุกข์ ความสุขที่แท้จริงย่อมเกิดจากความเข้าใจว่า คนเรามีความแตกต่างกันและจำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อปรับเข้าหากันโดยไม่ทำร้ายอีกฝ่าย

ไม่ว่าคุณจะเคยผ่านประสบการณ์ Love Bomb หรือไม่ เราเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้ตระหนักในคุณค่าของตัวเอง อย่าปล่อยให้ใครใช้ความรักเป็นข้ออ้างเข้ามาควบคุมชีวิตที่มีค่าของคุณ


The End 


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE