อัพเดตปี2021: Night Skincare Routine สาววัย30+
Nurse_Janutsaya
64
23
WITH <strong>FYNE</strong> / เนื้อหานี้มีแบรนด์ที่ร่วมงานอยู่
สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน
จเนิส คนดี คนเดิมกลับมาแล้ว...
วันนี้มาพร้อมกับกระทู้ดีๆที่ตั้งใจนำมาฝากเพื่อนๆได้อ่านกันนะคะ ซึ่งถ้าใครเห็นชื่อกระทู้ก็พอจะทราบอยู่แล้วนะคะ ว่าเนิสตั้งใจทำ Night Routine สำหรับสาววัย30+ โดยสกินแคร์ทั้งหมดเป็นตัวที่เนิสใช้แล้วชอบในช่วงนี้มากๆ สำหรับสภาพผิวของเนิสตอนนี้ก็จะเป็นลักษณะผิวขาดน้ำ บวกกับแพ้ง่ายนะคะ ปัญหาริ้วรอยก็มีบ้างแต่ว่ายังพอรับได้ เอาเป็นว่าเราไปดูพร้อมๆกันเลยดีกว่า...ลุยยยย
STEP1: Make up Remover
ขอเริ่มต้นด้วย Step 1 กับการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้ากันก่อน เนิสใช้ GARNIIER SKINACTIVE Micellar Rose Water Cleanse & Glow สูตรนี้เหมาะกับสภาพผิวที่หมองคล้ำ และผิวบอบบาง สามารถเช็ดได้ทั้งผิวหน้า ตา และก็ปากเลยนะคะ แต่ถ้าใครที่มีปัดมาสคาร่าอาจจะไม่ค่อยออกนะคะ ถ้าเน้นแต่งหน้าไม่หนัก ตัวนี้เอาอยู่ค่ะ หลังเช็คจะให้ความรู้สึกที่สบายผิว ผิวหน้าจะดูโกลๆชุ่มชื้นมากๆ
STEP 2: Cleanser
ขั้นตอนต่อไปก็คือการล้างทำความสะอาดผิวหน้านั่นเองค่ะ ช่วงนี้เนิสใช้ Innisfree Apple Seed Cleansing Foam แบบว่าช่วงนี้อินกับการกลับมาใช้ Cleansing Foam มาก ๆ ตัวนี้จะเป็นโฟมล้างหน้า ที่เหมาะสำหรับผิวแห้ง ฟองโฟมนุ่มมากๆ หลังล้างหน้าผิวจะดูสว่างใสขึ้น ส่วนตัวเนิสเป็นคนที่มีผิวผสม ก็ใช้ได้นะคะ ทำความสะอาดผิวได้ดีเลยที่เดียว
STEP3: Toner
หลังจากล้างหน้าแล้วมาต่อกันกับขั้นตอนต่อไปคือการใช้ Toner นั่นเอง!! เนิสใช้ CLINIQUE Clarifying Lotion 2 ตัวนี้จะเหมาะกับผู้ที่ผิวมันบริเวณทีโซนและผิวผสม จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ให้หลุดตัวออกอย่างอ่อนโยน ตัวนี้ไม่มีน้ำหอมนะคะ แต่กลิ่นจะค่อนข้างแสบจมูกนิดนึง ส่วนตัวชอบนะ รู้สึกว่ามันสะอาดผิวดีหลังการเช็คทำความสะอาด
STEP4: Essence
มาถึงขั้นตอนที่4กันแล้วในขั้นตอนการลง Essence นั่นเอง เนิสใช้ Domohorn Wrinkle Vital White Essence ตัวนี้จะเน้นในเรื่องความกระจ่างใส ซึ่งEssence ตัวนี้จะเข้าบำรุงถึงแก่นของผิว พร้อมทั้งดึงพลังที่มีอยู่ในผิวให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงช่วยให้สีผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นอีกด้วย
STEP5: Serum
มาถึงขั้นตอนที่5กันแล้ว ในการลง Serum นั่นเอง!! สำหรับ Serum เนิสเลือกใช้ FYNE BHA Clarifying Serum ตัวนี้เป็นตัวเด่นตัวดันของแบรนด์ FYNE เลยค่ะทุกคน ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของ”ไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน แอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ พาราเบน และมิเนรัลออย” และที่สำคัญนะเพื่อนๆ คือเค้ามีส่วนผสมจาก BHA ถึง 2% เลยที่จะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระจากสารสกัดธรรมชาติด้วยนะ ใครที่มีผิวแพ้ง่ายแบบเนิสห่างห่วงเลย คุณสมบัติหลักๆจะช่วยในเรื่อง...
- ช่วยแก้ปัญหาและป้องกัน สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวเสี้ยว สิวยีสต์
- ช่วยป้องกันผิวแก่ก่อนวัย
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
- ช่วยให้รูขุมขนแลกระชับ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจล และอีลาสติน
STEP6: Eye Cream
หลังจากที่เราทำการลง Serum แล้วมาต่อกันกับขั้นตอนที่6 ในการลง Eye Cream เนิสใช้ BIODERMA Sensibio Eye ตัวนี้ช่วยในเรื่อง ช่วยลดอาการบวมและริ้วรอยรอบดวงตาให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวรอบดวงตาให้ดูสดใสขึ้น เนื้อมันเบามากๆ สามารถทาได้ทั้งเช้า-เย็นเลย สูตรนี้เหมาะกับสภาพผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง
STEP7: Cream
มาถึงขั้นตอนที่7แล้ว ขั้นตอนนี้คือการลงครีมนั่นเอง เนิสใช้ KIEHL’S Ultra Facial Cream ตัวนี้จะเป็นมอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง แต่ผิวผสมแบบเนิสก็ใช้ได้นะ เนื้อมันค่อนข้างบางเบาเลยทีเดียว คุณสมบัติหลักๆจะช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้น การเติมเต็มความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวเนียน นุ่ม แลดูสุขภาพดีขึ้นเด้อ
STEP8: Sleeping Mask
สำหรับขั้นตอนที่8จะเป็นขั้นตอนที่ไม่จำเป็นต้องใช้บำรุงทุกวันก็ได้ นั้นคือตัว Sleeping Mask นั่นเอง เนิสใช้ ORIGINS Drink Up Intensive Overnight Mask to Quench Skin’s Thirst ตัวนี้เป็นมาส์กเข้มข้นที่จะช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างยาวนานตลอดทั้งคืน
STEP9: Lip
และแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วกับการบำรุงริมฝีปาก เนิสใช้ Innisfree Canola Honey Lip Balm Intensive Moisture ตัวนี้ช่วยบำรุงริมฝีปากที่บอบบางของเรา ด้วยความชุ่มชื้นและสารอาหารเข้มข้นจากสารสกัดน้ำผึ้งดอกคาโนล่า และน้ำมันสกัดเมล็ดดอกคาโนล่านั่นเอง
เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อนๆ กับกระทู้ที่เนิสนำฝากในวันนี้ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังมองหาสกินแคร์กันอยู่นะคะ ซึ่งทุกตัวที่เลือกมาเป็นตัวที่เนิสคัดมาแล้วว่าราคาไม่แรง แต่เป็นตัวที่คุ้มค่า คุ้มราคามากๆเลยค่ะ
อย่าลืมว่า”ชอบกดหัวใจ ใช่กดติดตาม”
สำหรับวันนี้เนิสขอตัวลาไปก่อนนะคะ...บ๊ายยยย ><”