"สวยแบบสาวเกาหลี"  วลียอดฮิตที่เปลี่ยนทิศทางของอุตสาหกรรม beautyที่บ้านเราและอีกหลายประเทศทางเอเชีย  หรือแม้แต่กระทั่งในตะวันตกก็มีการตอบรับ K - Beauty กันอย่างคึกคัก  ไม่ว่าว่าจะเป็นสื่อยักษ์ใหญ์  celebrityและinfluencer ชื่อดัง

ภาพความสวยเป๊ะทุกอณูรูขุมขนของผู้หญิงเกาหลีที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อ  ก่อให้เกิดความฮือฮาต่อวิถีความงามของดินแดนโสม   ดังที่พวกเราต่างเคยได้ยินมาว่า beauty standard ของชนชาตินี้สูงลิบลิ่ว   แต่ก่อนที่พวกเค้าจะสร้างความสำเร็จจน mass ได้ขนาดนี้  ความงามที่ได้รับเสียงชื่นชมในอดีตจะเป็นเช่นไรบ้างนะ   มาติดตามกันค่ะ

ปลายสมัยที่ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครองของญี่ปุ่น

เกาหลีในยุคก่อนที่จะแบ่งเป็นเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้นั้น ต้องเผชิญกับความทุกข์ระทมจากการตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาติเพื่อนบ้านมหาอำนาจ  แต่จากการเปิดประเทศในปลายศตวรรษที่ 19 ทำให้เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนจากการรับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก  ผู้หญิงเริ่มได้รับการศึกษามากขึ้น  ได้มีผู้ก่อตั้งนิตยสาร "ผู้หญิงยุคใหม่" ในปี1920 ที่นำเสนอนักเขียนนักสิทธิสตรี  นา ฮเยซ็อก   หญิงสาวชนชั้นสูงที่กล้าวิพากษ์วิจารณ์คติสังคมที่จัดให้ผู้หญิงมีหน้าที่เพียงแต่ "ภรรยาและแม่ที่ดี" เท่านั้น  


แต่ก็ดูเหมือนว่า จะมีแต่ผู้หญิงที่มาจากพื้นเพอภิสิทธิ์ชนที่มีโอกาสเข้าถึงการศึกษา รวมถึงการเรียกร้องความเท่าเทียมเหมือนกับนา ฮเยซ็อก

ช่วง 1930s   เกาหลีได้พัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ขึ้นมาแล้วค่ะ   และนางเอกที่ได้รับความนิยมในุคนี้ จะต้องมีลุคที่ดูบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา    แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกมองเป็นพลังดึงดูดทางเพศ  เช่นเดียวกับนางเอก คิม โซยอง

ความงามที่ได้รับความในขณะนั้นดูคล้ายคลึงกับเทรนด์จาก Hollywood ไม่น้อยเลย นางเอกหนังชื่อดังอย่าง คิม ซินแจวาดคิ้วโก่งบางราวกับสะพานโค้ง ทาปากสีแดงจัด และใช้น้ำมันผมจนเงางามและหวีปาดไปด้านหลังให้เรียบร้อย  เมื่อเปรียบเทียบกับภาพของสาวตะวันด้านข้าง เธอช่างดูอ่อนเยาว์จนได้ชื่อว่าเป็นสาวหน้าเด็กตลอดกาล  ซึ่งเป็นค่านิยมความงามที่เหนียวแน่นของชาวเกาหลีมาถึงทุกวันนี้นั่นเอง

คิ้วโค้งดูอ่อนช้อยเช่นนี้ตรงกับเทรนด์ของ  Hollywood ในช่วงเวลาใกล้เตียงกัน

Bakgabun คือผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่ขายดีที่สุดในยุคนี้  มันคือแป้งที่ทำให้หน้าขาวทันใจ  แต่วางขายได้ราวๆสองทศวรรษ  ผู้คนก็เริ่มรู้พิษสงของส่วนประกอบของแป้งที่มาจากตะกั่วมีพิษ  ทำให้ยอดขายตกต่ำลง    ส่วนผลิตภัณฑ์เพื่อความงามสัญชาติเกาหลีต่างๆ ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการคิดค้นพัฬนา  เพราะต้องถูกญี่ปุ่นกำกับทุกการเคลื่อนไหว   นั่นหมายความว่าผลิตภัณฑ์จากท้องตลาดก็ต้องมาจากญี่ปุ่นด้วย

 beauty standard ไม่ได้แตกต่างจากประเทศในภูมิภาคเดียวกัน  นั่นคือ ผิวขาวคือที่สุด  ยิ่งขาวเท่าใดได้ก็ยิ่งดูแพงและใสบริสุทธิ์

เริ่มรับวัฒนธรรมตะวันตกในยุค 50s-60s

หลังจากสงครามเกาหลี   เกาหลีใต้ได้รับเอา pop culture ของอเมริกันจนทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง     ผู้คนหันมาแต่งกายอย่างคนตะวันตกเป็นเรื่องปกติ  และยังวิ่งตามเทรนด์เพื่อแสดงความเป็น modern อีกด้วย

เมื่อลองส่องภาพจากยุค 50s ที่สาวๆเกาหลีกางร่มป้องกันแสดงแดดทำร้ายผิว  หากเข้าใจไม่ผิด  เทรนด์หน้าลอยที่สร้างเสียงโจษจันนั้นอาจจะเริ่มต้นมาหลายสิบปีแล้วก็เป็นได้

 

นางเอกสาวที่ถูกยกว่าเป็นหนึ่งในสาวงามที่สุดของเกาหลี  และเธอไม่ได้มีหน้าเรียวเล็กเป็นตัว V

ชเว อึนฮี  ดาราอมตะนิรันดร์กาลที่สร้างความโด่งดังนับตั้งแต่ยุค 50s และก้าวขึ้นมาระดับ superstar ผู้นี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากเหตุการณ์ร้ายแรง เมื่อเธอถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวจากคำสั่งของคิม จองอิล

เธอมีผลงานหนังมากกว่าร้อยเรื่อง   และแม้ว่าจะอยู่ในวงการมานานจนอายุขึ้นหลัก 4 และหลัก 5 ก็ยังได้รับความนิยม   จนต้องมาเจอกับพิษของแนวคิดอนุรักษ์นิยม หลังจากหย่าขาดกับสามีผู้กำกับ ความนิยมก็ดิ่งวูบจนต้องไปพักผ่อนจิตใจที่ฮ่องกง  แต่กลายเป็นการเปิดโอกาสให้สายลับลักพาตัวเธอไปยังเกาหลีเหนือ   (และภายหลังก็ลักพาตัวสามีเก่าเธอไปด้วย)  กว่าจะหลบหนีการควบคุมตัวมาได้ก็ผ่านไปสิบปี

เพราะเป็นสาวงามจาก golden age ของวงการหนังเกาหลี คงไม่มีใครตั้งข้อสงสัยเรื่องใบหน้าที่สวยหวานที่ทำให้เราคิดถึงซน เยจินในยุคปัจจุบันว่าผ่านมีดหมอมาหรือไม่    แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจาก superstar เกาหลีในปัจจุบันเป้นอย่างมาก คือแก้มอันอวบอิ่มนั่นเอง   รูปร่างของเธอเพรียวบางตามค่านิยมความงามของเกาหลี แต่มีพวงแก้มน่าหยิกเป็นที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหาได้ยากในวงการบันเทิงเกาหลีในปัจจุบันเลยทีเดียว

งานตา+คิ้วคมเข้มก็มา

คิม จีมี   นางเอกที่โด่งดังในยุค 60s-70s เธอได้รับฉายาว่า " Elizabeth Taylor"  แห่งเกาหลี  เพราะรูปลักษณ์ความงามที่ดูคมเข้ม (รวมถึงชีวิตส่วนตัว)

ยุค 60s เป็นช่วงบุกเบิกของเครื่องสำอางเกาหลี เพราะไม่ต้องใช้แต่สินค้าญี่ปุ่นอีกต่อไปแล้วค่ะ    มีช่วงหนึ่งที่รัฐบาลห้ามนำเข้าและจำหน่ายสินค้าจากต่างประเทศเพราะต้องการกระตุ้นเศรษกิจด้วยการสร้างเงินจากในประเทศหลังจากต้องพบกับภาวะสงครามจนเกิดภาวะฝืดเคือง    จึงเริ่มมีผู้ก่อตั้งแบรนด์ต่างๆเพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์ต่างๆ  จากเดิมที่สาวๆเคยนิยมการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ ก็เริ่มหันมานิยมอายไลน์เนอร์ มาสคาร่า และดินสอเขียนคิ้วที่ทำให้ดูสวยคมเข้ม

มุน ฮี   นัม จองอิม   ยุน จองฮี   นางเอกหนังที่เปรียบเป็น big 3วงการหนังเกาหลีในยุค 60s-70s   พวกเธอขึ้นชื่อความเป็นคู่แข่งที่ต้องประชันเรื่องความนิยม รางวัลการแสดง รวมถึงความสวยที่กินกันไม่ลง

มาถึงตรงนี้ หลายคนก็น่าเริ่มรู้สึกเหมือนกับเราแล้วว่า วงการหนังได้set มาตรฐานความงามจากดวงตากลมโต และเปลือกตาสองชั้นไว้ค่อนข้างชัดเจน   

ในช่วงสงครามเกาหลี    Dr.David Ralph Millard แพทย์อเมริกันเคยได้สาธิตวิธีการผ่าตัดตาสองชั้นให้ล่ามท้องถิ่นจน และยังรับผ่าตัดให้กับหญิงขายบริการที่ปรารถนาจะดูโดดเด่นดึงดูดลูกค้าทหารอเมริกัน

ในปี 1974 ศาลสูงสุดแห่งเกาหลีใต้ก็ได้รับรองการศัลยกรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแพร่หลายเหมือนกับปัจจุบัน เพราะผู้ที่จะทำศัลยกรรมได้นั้นจะต้องได้รับการวินิจฉัยว่าได้รับผลกระทบทางจิตใจจากรูปร่างหน้าตาของตยเอง ผู้ที่รับการผ่าตัดจะอาจะถูกเรียกว่า "ผู้ป่วย" และพัฒนาศาสตร์ด้านนี้อย่างไม่หยุดยั้ง จนกลายมาเป็นชาติที่มีชื่อเสียงเรื่องการทำศัลยกรรมติดอันดับโลก



.

แต่แม้จะก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่อย่างเต็มตัว  แต่รัฐบาลก็กำหนดระเบียบกฎเกณฑ์ให้ปฏิบัติตามที่อาจจะฟังดูแล้ว "ไม่เสรี" สักเท่าใด   ดังเช่น เทรนด์ miniskirt ของสาวๆในยุค 60s  ซึ่งรัฐบาลมีท่าทีไม่เห็นด้วยต่อfashion เผยเรียวขา ซึ่งขัดต่อภาพของ "สตรีที่ดีงาม" ตามอุดมคติ รัฐบาลได้ประชาสัมพันธ์มาตลอด  ( การเป็นแม่และภรรยาที่ดี)  ในปี 1973จึงมอบหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่คอยตรวจตราไม่ให้ผู้หญิงใส่สั้นกันจนเกินไป  ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยปรากฏในสังคมอเมริกันมาก่อน  

สาวงามยุุค 70s ที่ดูน่ารักราวกับตุ๊กตา

ยุคนี้ การถ่ายภาพสีเป็นเรื่องปกติแล้ว  คุณจะได้เห็นรายละเอียดของ beauty trend กันชัดเจนขึ้น  ที่ไม่สามารถข้ามไปได้คือจอง ยุนฮี  นางเอกที่ตากลมโตน่ารักโดดเด่นราวกับไอดอลยุคปัจจุบัน  แม้สไตล์การแต่งหน้าจะมีรายละเอัียดที่แตกต่าง  แต่คุณจะไบว่า เธอใช้เทคนิคการไล้อายลายเนอร์และเบลนด์ให้ฟุ้งเน้นให้ดวงตายิ่งดูโตเหมือนกับสาวเกาหลีสมัยนี้ไม่ผิดเพี้ยน

เมื่อลองเปรียบเทียบ beauty ยุค 70s และปัจจุบัน

นี่คือนางเอก big3 รุ่นที่สองค่ะ

จอง ยุนฮี, ยู จีอิน และชาง มีฮี
สองคนหลังยังactive ในวงการ มักจะรับคุณแม่หรือประธานอาวุโสที่สวยเฉียบ


 (ถ้าเปรียบเทียบกับ Korean Wave ก็คงเป็น คิม แตฮี  จวน จีฮยอน  ซง ฮเยเคียว)

ทั้งสามคนต่างก็เป็น presenter ให้กับแบรนด์เครื่องสำอางรัวๆ  เทรนด์ที่เห็นเด่นชัดคือริมฝีปากสีสด และเส้นอายไลน์เนอร์ที่คมกริบ

ส่วนสาวนางเอกที่ดูใสมากและให้ความรู้สึกที่แสนไร้เดียงสาจนได้ชื่อว่าเป็น "น้องสาว" แห่งชาติในยุคนี้ คือ  อิม เยจิน  น่าจะเป็นรุ่นแรกของเกาหลีเลยค่ะ  เล่นหนังรักวัยรุ่นจนสร้างปรากฏการณ์กลายเป็นนางเอกสาวใสที่มาแรงที่สุด  เธอมีผิวที่ขาวมาก และดูน่ารักในลุคธรรมชาติ   เวลาผ่านไปหลายสิบปี   ก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นบทอาจุมมม่า บทแม่ หรือไม่ก็บทแม่บ้าน  ถ้าใครได้เห็นภาพปัจจุบันคงร้องอ๋อเชียวล่ะ ไม่คิดมาก่อนว่าเธอจะคว้าตำแหน่งนี้มาก่อน

ก้าวสู่ความ  modern เต็มทตัวในยุค  80s

ความเปลี่ยนแปลงทางสังคม การเมือง และเศรษฐกิจของเกาหลีมีอิทธิพลต่อแนวคิดเรื่องความงาม จากการเปิดรับสื่อบันเทิงจากตะวันตกอย่างเต็มที่ สังคมเริ่มเปิดรับการแสดงออกทางเพศของผู้หญิง นางเอกดังหลายคนหันมาแสดงหนังerotic และถ่ายแบบsexy โดยไม่ถูกรัฐบาลจ้องจับผิด แม้จะมีคนในสังคมคอยพิพากษาว่านี่ไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่เหมาะสมของผู้ที่จะมาเป็นภรรนาและแม่ที่ดี แต่ก็เป็นการเปิดโลกใหม่ที่ผู้หญิงสามารถมีสิทธิ์มีเสียงในร่างกายตัวเองได้มากขึ้น

วอน มี-คยอง, อี โบฮี และอี มีซุก
นางเอกที่อยู่ในกลุ่ม big 3 ของยุคนี้ เคยเล่นหนัง erotic มาหมดเลยค่ะ

สิ่งบันเทิงจากตะวันตกกำลังบูมสุดๆ สาวเกาหลีย่อมไม่พลาดเทรนด์เสื้อผ้าหน้าผมเยอะๆ ตามวิถี 80s อย่างกึม โบรา นางเอกในวัยยี่สิบในลุคจัดเต็ม กับตอนที่หน้าใสกิ๊งที่ทำให้เชื่อได้ว่า ผิวพรรณเรียบเนียนอิ่มน้ำจนดูเงาเหมือนแสงกระทบกระจกนั้น ถือเป็นความงามที่พึงปรารถนาของชาวเกาหลีมานานแล้ว  

ของมันต้องมีคืออายชาโดว์สีเข้มอย่างสีม่วงหรือเทาเข้ม เอาไว้สโม้กกี้ฟุ้งๆ  จับคู่กับทรงผมหยิกด้านบน ยีให้ฟู ภาพ เจ๊แม่ Madonna ลอยมาเลยจ้ะ

ลองมาชม ฮวัง ชินคเย ผู้ที่เคยได้รับการชื่นชมว่ามีใบหน้าที่เป๊ะที่สุดในเกาหลี

ใบหน้าของเธอเล็กมากแบบเอาฝ่ามือปิดมิด  feature ต่างๆก็ตรงกับความนิยมสมัยนี้ ทั้งจมูกโด่งเรียว  ตากวาง คางเรียว  รูปร่างผอมบาง  เห็นได้ชัดว่า นิยามความสวย

ตำแหน่ง "ใบหน้า perfect"นี้จะหมุนเวียนเปลี่ยนมือไปยังคลื่นลูกใหม่ต่อไปเรื่อยๆ   หลังจาก ฮวัง ชินคเย   จะเป็นใคร ?

90s  อุ่นเครื่องก่อนประกาศศักดา Korean Wave

นี่คือช่วงเวลาที่ผู้หญิงแสดงความมั่นใจได้อย่างเสรีมากขึ้น   นางเอกซีรีส์ไม่ได้เอาแต่ฝืนทนถูกกระทำ ยอมเป็นฝ่ายตาม 

คิม ฮีซัน    icon ยุค 90s ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสาวงามที่สุดและนำfashionมากที่สุดของเกาหลี    เธอเคยโชว์ผิวแทน ทาปากสีไวน์ ทำไฮไลท์ผมที่รีดตรง  และสร้างความฮือฮาด้วยความสวยแบบพระเจ้าสร้างมาโดยไม่พึ่งมีดหมอ

ในช่วงนั้น  BB cream ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ด้วยค่านิยมความงามที่โฟกัสที่ผิวขาว  ตัวเลือกเฉดสีที่มีน้อย  ทาลงไปแล้วสว่างกว่าผิวทำให้อาการหน้าลอยเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง  และได้ยินมาว่า  ชาวเกาหลีบางส่วนไม่แคร์นักหากคอจะมีสีเข้มกว่าหน้า

ลุคของสาวเปรี้ยวตัวแม่ในยุค 90s กับเทรนด์ที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน (ภายหลังเธอขาวจั๊วะ ไม่กลับไปมีผิวเฉดน้ำตาลอีก)

ลิปสีส้มอิฐ  อินเป็นที่สุด!

นี่คือยุคบุกเบิกของ K- Pop ในเวลานั้น พวกเราไม่ได้คาดคิดว่า พวกเค้าจะสร้างอุตสาหกรรมบันเทิงที่เป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลก
เหล่าสาวๆสมาชิก girl group ยุค 90s จะมาพร้อมกับ

• เพลงที่มีทำนองติดหู ท่าเต้นพริ้วไหว
• เสื้อผ้าเป็น set ดูล้ำไม่แพ้วงจากตะวันตก
• ทรงผมบังคับ นั่นคือ รีดจนแบน จับช่อเป็นปอยปรกหน้า ส่วนด้านบน บิด ยี หมุนเกลียว
• ดวงตากลมโตและ big eye สีอ่อน
• รูปร่างผอมเพรียว ผิวพรรณสวย  makeup สะดุดตา

จากเดิมที่ผู้คนในแถบเอเชียเคยติดใจกับความแบ๊วของ idol จากญี่ปุ่น     ท่าทางทะมัดทะแมงและเต็มไปด้วยความมั่นใจของ girl group เกาหลีก็ก้าวขึ้นมาครองครองพื้นที่ความนิยม และกลายมาเป็นผู้นำเรื่อง beauty ในภูมิภาคนี้ได้ในที่สุด    

ก่อนหน้านั้น  ไอดอล J-Pop ได้สร้างความนิยมไปก่อนแล้ว  แต่ทางเกาหลีได้งัดไม้เด็ดจากการฝึกฝนไอดอล และเนรมิตลุคที่โดนใจแฟนๆจากหลายประเทศในเอเชีย   ราวๆสองศตวรรษต่อมา   K - Pop ได้คว้าความนิยมจากทวีปอื่น จนสื่อตะวันตกต้องวิเคราะห์กันอย่างจริงจังว่า เหตุไฉน วงดนตรีที่ไม่ได้นำเสนอเนื้อเพลงภาษาอังกฤษล้วนจึงข้ามฟ้ามาประประสบความสำเร็จที่ต่างแดนได้

ไอดอลในวง K- Pop จะนำเสนอ character โดดเด่นแตกต่างกันไปเพื่อช่วยดึงดูดแฟนๆ จะว่าไปแล้วก็ดูคล้ายคลึงกับการตลาดแบบวง Spice Girls ที่โกยความสำเร็จในช่วงเวลาเดียวกัน แต่เพราะเป็นวงจากเอเชีย จึงน่าจะจับทางกลุ่มแฟนๆได้เหนียวแน่นกว่า    นอกจากจะพัฒนาเรื่องดนตรีแล้ว ย่อมต้องให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจ เปิดตัวผลงานใหม่เมื่อใด ก็ต้องโชว์เสื้อผ้าหน้าผมแนวใหม่ให้ตื่นเต้นทุกครั้ง จะหยุดนิ่งไม่พัฒนาไม่ได้เลย

The End