Clinique เปิดตัวไอเท็มเดิมที่คุ้นเคย แต่ปรับสูตรใหม่ให้ปังยิ่งกว่าเดิม เราจึงได้โอกาสดีชวน 20 ชาวจีบันจากกิจกรรมบน Jeban.com และชาวกรุ๊ปรีวิวเครื่องสำอางแพง by Jeban.com 

มารวมตัวทำความรู้จักกับสูตรใหม่ของ Clinique Moisture Surge™ Extended Replenishing Hydrator หรือ เรียกสั้นๆ ว่า Moisture Surge 100H นั่นเองค่าา เรียกได้ว่าเป็นการปรับสูตรที่สะเทือนวงการสายสกินแคร์สุดๆ

บอกเลยว่างานนี้เป็นงานสุด Exclusive ที่ Jeban ร่วมกับ Clinique เพื่อชาวจีบันทุกคนโดยเฉพาะเลยนะคะ วันนี้เรามีภาพบรรยากาศความสนุกมาฝากกันด้วยค่า เปิดความสนุกสนานของงานด้วยพิธีกรคนดีคนเดิมอย่างพี่อาย @Fateye_Slim ที่ได้ให้ชาว Jebanista เริ่มแนะนำตัวกันอย่างเป็นกันเองตามธรรมเนียมของเรา

ก่อนที่จะบอกว่าแบรนด์ Clinique เองเชื่อว่าเป็น 1st Skincare ของใครหลายคน โดยเฉพาะชาวผิวแพ้ง่าย เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นของเค้าผ่านการทดสอบการแพ้ ปราศจากน้ำหอม พาราเบน และพาทาเลต

และในเรื่องของความชุ่มชื้นเอง Moisture Surge ก็เป็นไลน์ที่ยืนหนึ่งเรื่องสกินแคร์เติมความชุ่มชื้นมายาวนาน และถือว่าเค้าเป็นสกินแคร์พื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ผิวของเราดูสุขภาพดี ซึ่งคลีนิกข์ก็เชื่อว่า Great skin can be created ผิวของทุกคนสามารถดีได้ และสร้างได้ด้วยการบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมค่าา  :)

ก่อนที่จะพาทุกคนไปรู้จักกับน้องใหม่ Moisture Surge 100H ทางเราก็ขอชวน 2 จีบันนิสต้าผู้เคยใช้ Moisture Surge สูตรเดิมมาร่วมรีวิว บอกต่อความประทับใจกัน
ซึ่งนั่นก็คือผู้ป้ายยาเก่งแห่งกรุ๊ปรีวิวเครื่องสำอางแพง by Jeban.com ทั้ง 2 ท่าน อย่างคุณบาศ Baaskeng และคุณกร Kennylimited 

ซึ่งคุณบาศเองก็เป็นแฟนของ Moisture Surge อยู่แล้ว และล่าสุดก็ให้คุณตาที่มีปัญหาผิวลอกแห้งได้ลองใช้อีกด้วย ซึ่งคุณตาก็ชื่นชอบเพราะเนื้อเบา และไม่เหนอะหนะผิว < (คลิกดูกระทู้ที่คุณบาศรีวิวได้เลย) 

ส่วนคุณกรได้พูดถึงว่า Clinique เป็นแบรนด์แรกๆ ที่คุณกรใช้เพิ่งเริ่มใช้สกินแคร์เลย และ Moisture Surge เองก็เป็นสกินแคร์ไลน์โปรดที่ใช้เกือบทุกชิ้นในไลน์ และใช้เป็นประจำอีกด้วย <  (คลิกดูกระทู้ที่คุณกรรีวิวได้เลย) 

ก่อนที่ทางคุณพัฒน์ กาญจนากาศ Digital Education Manager จากทาง Clinique มาให้ความรู้ และเล่าถึงจุดเด่นของคุณสมบัติ Moisture Surge 100H ตัวใหม่นี้ที่ทำไมหลายๆ คนจึงไม่ควรพลาด

Moisture Surge 100H ชุ่มชื้นขึ้น ยาวนานขึ้น และบำรุงลึกขึ้น

• ความชุ่มชื้นยาวนานขึ้นด้วยส่วนผสมใหม่ที่ใช้หลักการหมัก นั่นคือ Aloe Vera Bio-Ferment สารเข้มข้นที่ผ่านกระบวนการหมักพิเศษ เน้นให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างเต็มที่จึงช่วยยืดประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นได้ยาวนานยิ่งขึ้นจาก 72 ชั่วโมงเดิม มาให้ความชุ่มชื้นได้ยาวนานขึ้นถึง 100 ชั่วโมง* หรือกว่า 4 วัน
• บูสต์ความชุ่มชื้นทันที 174%* ลงลึกถึงผิวชั้นบนได้ ซึมลึกได้ถึง 10 ชั้นผิว**
• มีเทคโนโลยี Auto-Replenishing เฉพาะของคลีนิกข์ที่มอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้ทันทีหลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์ และช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างต่อเนื่อง 
• เนื้อเจลครีมแบบปรับใหม่ นุ่มขึ้น และเนียนขึ้น ช่วยซัพพอร์ตการแต่งหน้ามากขึ้น คล้ายๆ กับการเป็นไพร์มเมอร์ (สูตรเดิมมีความเป็นน้ำอาจจะทำให้เกิดคราบหลังจากแต่งหน้าได้ง่าย) ทำให้แต่งหน้าได้ติดทน หรือใครที่แต่งหน้าน้อยก็จะช่วยเผยผิวให้ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

*จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการในกลุ่มอาสาสมัคร 19 ราย โดยสถาบัน Estée Lauder Clinical Research Center ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วง 6 ธันวาคม 2563 – 13 ธันวาคม 2563

**จากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ (in-vitro testing) โดยทา Moisture Surge Extended Replenishing Hydrator บนผิวจำลอง (reconstructed skin models) เป็นระยะเวลา 30 นาทีแล้วทำการตรวจวัด พบว่า ความชุ่มชื้นซึมลงระดับผิวชั้นบน หรือ stratum corneum 13 ชั้น ทดสอบโดยสถาบัน Clinique Laboratories ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563

เป็นมากกว่ามอยส์เจอร์ไรเซอร์

• ใช้บำรุงปลายผมในบริเวณที่แห้ง จะช่วยจัดการปลายผมที่ชี้ฟูให้ดูดีขึ้น
• ใช้บำรุงบริเวณที่แห้งกร้าน ไม่ว่าจะเป็นจมูกเล็บ ข้อศอก และบริเวณอื่นๆ สามารถใช้ทาบำรุงให้ความชุ่มชื้นได้แบบ Head to toe
• ใช้หลังแต่งหน้าได้ โดยแต้มในบริเวณที่ต้องการไฮไลท์ เช่น โหนกแก้ม Moisture Surge 100H จะช่วยทำให้บริเวณนั้นๆ ดูเปล่งประกายขึ้น
• ใช้มาสก์หน้าแบบทาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วใช้ทิชชู่ซับออก หรือจะปล่อยให้ซึมลงสู่ผิวเลยก็ได้

วิธีการใช้

• ใช้ Moisture Surge 100H เป็นขั้นตอนสุดท้าย หลังจากทาเซรั่ม ทาอายครีมเสร็จ จะช่วยล็อค และซีนความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ยาวนาน (ถ้าใช้ Clinique iD อยู่ ให้ใช้ Clinique iD เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ขั้นตอนแรกในการบำรุงผิว แล้วใช้ Moisture Surge ทาปิดเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อล็อกความชุ่มชื้นไว้ได้นานขึ้น)

แพ็คเกจใหม่ ถูกใจสายรักโลก

นอกจากจะปรับสูตรใหม่แล้วแพ็คเกจของเค้ายังเปลี่ยนใหม่ด้วย เป็นกระปุกแก้วที่ดูพรีเมียมขึ้นสีชมพูอ่อนละมุน และยังเป็น Sustainable package ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เพียงนำฝาออก ล้างทำความสะอาดกระปุก และทิ้งในถังขยะรีไซเคิล หรือใครจะนำกระปุกที่ใช้แล้วมาประยุกต์ใช้เป็นอย่างอื่นก็ยังได้

วัดระดับความชุ่มชื้นผิวได้ด้วยตัวเอง!

นอกจากนี้ทาง Clinique ยังมีแผ่นทดสอบความชุ่มชื้นให้เราได้ลองใช้กันด้วย โดยจะเป็นแผ่นที่ใช้ทดสอบความชุ่มชื้นทั้งก่อนใช้ หลังใช้ทันที และหลังใช้เมื่อเวลาผ่านไปสักพักแล้ว เพื่อให้ทุกคนได้ลองพิสูจน์ว่า Moisture Surge สูตรใหม่นี้แล้วผิวชุ่มชื้นขึ้นจริงมั้ย สามารถใช้ทดสอบที่บริเวณหลังมือก็ได้ แต่ถ้าเพื่อความชัวร์แนะนำให้ลองเทสต์กันบริเวณผิวหน้าที่เราทา Moisture Surge กันไปเลยจ้าา

นอกจากนี้แผ่นทดสอบความชุ่มชื้นทำขึ้นมาเพื่อบอกว่าผิวของเรานั้น balanced (ชุ่มชื้นเพียงพอ) หรือ dehydrated (ขาดความชุ่มชื้น) โดยด้านหลังของแผ่นทดสอบความชุ่มชื้นจะมีตัวตรวจวัดที่บอกว่าผิวของเรา balanced หรือเปล่า หรือเพียงแค่ dehydrated คือแค่ผิวที่ขาดน้ำเฉยๆ หรือสุดท้ายคือ Very dehydrated คือผิวที่ขาดทั้งน้ำ และน้ำมัน เพื่อบอกว่าเราควรจะเลือกสูตรไหนของ Moisture Surge นั่นเองค่า

เพียงแค่แปะแผ่นไปที่ผิวก่อนลง Moisture Surge ประมาณ 10 วินาทีแล้วขึ้นมาเทียบกับแผ่นทดสอบว่าแผ่นของเรากลายเป็นสีแบบไหน ก็สามารถทดสอบความชุ่มชื้นได้อย่างคร่าวๆ หลังจากนั้นก็สามารถทา Moisture Surge ทิ้งไว้บนผิว รอให้ซึมแล้วจึงใช้แผ่นทดสอบแผ่นใหม่ลงไปแปะซ้ำ แล้วนำมาเทียบแบบเดิมเพื่อเช็คความชุ่มชื้นทันทีหลังจากทาก็ได้ด้วย

หรือใครที่อยากนำกลับบ้านไปเช็คความชุ่มชื้นบนผิวหน้าจริงหลังจากทา Moisture Surge เป็นระยะเวลานานก็สามารถนำได้ด้วยน้าาา

ภายในงานบอกเลยว่าจีบันนิสต้าทุกท่านต่างตื่นเต้นที่ได้ลองแผ่นนี้ เพราะจะเห็นได้ชัดเลยว่าระดับความชุ่มชื้นของผิวเราอยู่ในระดับไหนกัน

คุณจันทร์เจ้า Junjaowkha Chainarong จีบันนิสต้าที่เคยใช้ Moisture Surge สูตรเดิม และไอเท็มอื่นๆ ในไลน์ทั้งอายเจล และสเปรย์เติมความชุ่มชื้น ได้เล่าถึงสัมผัสแรกหลังจากได้ลอง Moisture Surge สูตรใหม่นี้ว่า
"ถ้าเอาแบบสัมผัสแรกคือเนื้อมีความเข้มข้นขึ้น รู้สึกเย็นๆ ที่ผิวคล้ายๆ กัน รู้สึกซึมช้ากว่าสูตรเดิมหน่อย แต่ไม่ได้รู้สึกเหนอะหนะ หลังจากทาแล้วรู้สึกว่าผิวนุ่ม และลื่น ปกติแล้วสูตรเดิมก็ใช้เป็นประจำ ทั้งอายเจล สเปรย์น้ำแร่ และมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ก็ชอบทั้งหมดเลย จากตอนแรกที่ใช้เป็น Moisture Surge แบบขนาด 15ml แล้วเราลองแล้วก็ชอบเลยซื้อใช้จริงมาใช้  แล้วมันก็ได้ตัวอื่นขนาดทดลองมาลองด้วย"

คุณเหมียว muzikiii หนึ่งในตัวแทนของจีบันนิสต้าที่มีสภาพผิวมันขาดน้ำ และเคยใช้ Moisture Surge สูตรเก่ามาก่อน 
"ถ้าเปรียบเทียบกับตัวเก่า ตัวใหม่นี้ดูจะเนื้อหนักมากกว่าแต่ซึมไวเหมือนเดิม ชุ่มชื้นเหมือนเดิม และไม่หนักผิว ในไลน์ Moisture Surge ที่ใช้อยู่ก็จะมีโลชั่น และมาสก์ด้วย ซึ่ง Moisture Surge เป็นสกินแคร์ตัวแรกที่เข้าสู่วงการสกินแคร์ด้วย ใช้มาหลายกระปุกแล้ว เพราะใช้แล้วไม่แพ้ ให้แม่ใช้ ให้น้องใช้ก็ไม่แพ้ "

คุณออฟ OffoOffo หนึ่งในตัวแทนของชาวจีบันนิสต้าสายแต่งหน้าเต็ม ที่ยังไม่เคยลองมอยส์เจอร์ไรเซอร์ของ Moisture Surge มาก่อน แต่เคยใช้โลชั่นในไลน์นี้เท่านั้น
"รู้สึกว่าตัวนี้จะมีความหนึบกว่าตัว Clinique iD (เนื้อเจล บูสเตอร์สีแดง) แต่รู้สึกว่า Moisture Surge ตัวนี้มันก็ไม่เหนอะ เหมือนมันไม่มีน้ำมัน  คิดว่าเดี๋ยวจะลองไป adaptใช้เป็นแบบไพร์มเมอร์ เพราะเราเป็นสายแต่งหน้า"

บอกเลยว่างานนี้ชาวจีบันทุกคนได้ทั้งความรู้ที่อัดแน่นเรื่องงานผิวจากคุณพัฒน์ และได้รู้จักผิวของตัวเองมากขึ้นจากแผ่นทดสอบความชุ่มชื้น รวมถึงได้ลองสัมผัสกับ Moisture Surge สูตรใหม่ พร้อมยังได้ลองกลับบ้านไปใช้กันอีกด้วย งานนี้รอรีวิวจากผู้โชคดีที่เป็นตัวแทนทั้ง 20 คนเลยค่าว่าลองใช้แล้วว่าจะเป็นยังไงบ้าง

+7

แต่สำหรับใครที่พลาดการไปร่วมกิจกรรมดีๆ แบบนี้ แต่อยากลองไม่ไหวแล้วว สามารถไปช้อป Moisture Surge™ Extended Replenishing Hydrator 100H ได้ที่เคาน์เตอร์ Clinique ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสามารถช้อปได้ทาง www.clinique.co.th อีกด้วย ขนาด 50ml ราคา 1,950 บาทเท่านั้น อัดความชุ่มชื้นมาแน่นกระปุกแน่นอนค่าา

จีบันนิสต้าคนไหนได้ลองใช้แล้วก็อย่าลืมกลับไปตั้งกระทู้ หรือแชร์แบ่งปันความดีงาม ความชุ่มชื้นนี้ให้เพื่อนๆ กันด้วยน้าา เรารออ่านอยู่เลยยย

สำหรับใครที่อยากมาร่วมกิจกรรมสุด Exclusive แบบนี้ แค่ล็อคอินในเข้า Jeban.com บ่อยๆ และกรุ๊ปรีวิวเครื่องสำอางแพง by Jeban.com แล้วมาร่วมเล่นกิจกรรมกับทางจีบัน แค่นี้ก็มีโอกาสได้มาร่วมกิจกรรมสนุกๆ แบบนี้แล้วค่า แล้วพบกันใหม่กิจกรรมหน้าน้า บ๊ายบาย อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยน้าาา <3