คนดังสุดHotแห่งยุค90s ตอนนี้ไปอยู่ไหน?

56 10
เหตุใดผู้คนในวัยผู้ใหญ่จำนวนมากจึงโหยหายุค 90s  ?


เคยได้ยินเสียงค่อนแคะจากคนรุ่นหลังว่า อาการคิดถึงอดีตคือพฤติกรรมของผู้ที่ก้าวเข้าสู่ความอาวุโส แต่นั่นไม่เห็นจะเป็นเรื่องเสียหาย เมื่อพวกเราเคยผ่านรอยต่อความเปลี่ยนของวันเวลาที่มีพัฒนาการด้านต่างๆให้ได้ระลึกถึง ในยุคแห่งหนังทีน หนังหวีดที่เต็มไปด้วยซุปตาร์สุด hot แต่พวกเราไม่สามรถเม้ามอยผ่านเพจทาง internet หรือ DM ถึวเพื่อนสาวว่า พระเอกหนังที่เพิ่งไปตีตั๋วไปชมนั้นหล่อล่ำบึ้กเย้ายวนแค่ไหน แต่ต้องเก็บเอาความตื่นเต้นไปกรี๊ดที่โรงเรียนด้วยกัน มันเป็นช่วงเวลาที่มือของพวกเราได้สัมผัสกระดาษนิตยสารและคอยติดตามเรื่องราวที่กองบรรณาธิการแปลมาจากต่างประเทศโดยต้องแลกกับค่าขนม ตะติ่งใครสักคนก็ดูจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามไม่น้อย เพราะไม่สามารถกด google เข้าถึงข้อมูลกันทุกวันนี้ ยุค 90s จึงเป็นช่วงเวลาที่ตราตรึงหัวใจ สามารถหยิบยกความสนุกสนานมาพูดคุยกันได้เสมอ

เรามาติดตามเหล่าคนดังที่สร้างสัสันอันี้อนแรงให้กับยุคนี้กันเลยค่ะ  พวกเค้าไปอยู่ที่ไหนกันบ้างนะ   สงสัยกันแล้วใช่มั้ย ?




Jennifer Love Hewitt

ในยุคที่เรายังไม่รู้จักครอบครัว  Kardashian   และ Kylie  Jenner ก็เพิ่งจะลืมตาดูโลก     สาวงามหน้าหวานที่คนไทยร่ำลือว่าเธอดูคล้ายกับป๊อก ปิยะธิดานักหนาได้สร้างชื่อเสียงกระหึ่มไปหลายประเทศทั่วโลก  บทนางเอกหนังหวีด   I Know What You Did Last Summer   ทำให้ Jennifer ขึ้นแท่นเป็นอิทเกิร์ลสวยแซ่บที่สุดในวงการ ในตอนนั้น    สื่อต่างฮือฮาในสัดส่วนท่อนบนที่อวบอึ๋มสวนทางกับเรือนร่างที่บอบบาง      เธอมักได้เข้าฉากที่เผยทรวดทรงชวนใจเต้น     คนรุ่นหลังอาจจะมองภาพเธอแล้วคิดว่า "ก็ปกตินี่" เพราะเคยชินกับเหล่า influencer ที่อวดเรือนร่างที่เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้ง    แต่ถ้าเป็นยุคนั้น  Jenny   คือสาวผอมที่สื่อร่ำลือกันว่าทำประกันเต้าไว้หลายล้านเหรียญ

ภาพลักษณ์แสน sexyอาจจะสร้างความสำเร็จมาให้เธออย่างล้นหลาม แต่ Jennifer ไม่ได้รู้สึกสบายใจตลอดเวลาที่กระแสความสนใจถาโถมเข้ามาหาเธอ ล่าสุด หลังจากที่ได้ชมสารคดี Framing Britney Spears มันก็เตือนให้เธอนึกถึงสมันที่ยังเป็นสาววัยรุ่นสุดร้อนแรงของวงการ เพระาไม่ต่างจาก Britney ที่ต้องคอยตอบคำถามจาวจ้วงเรื่องการมี sex และร่างกาย นักข่าวมักจะไม่ให้ความสำคัญกับผลงานหนังของเธอ และคำถามแรกๆที่พวกเค้าอยากจะรู้กันคือ....ไม่ต้องเดาก็คงทราบกันใช่มั้ยคะ

อกคู่อึ๋มของเธอนั่นเอง

Jennifer เปิดเผยว่าเธอรู้สึกเบื่อหน่ายที่ต้องคอยเลี่ยงตอบคำถามเรื่องนม แม้ว่าจะเคยถ่ายแบบ sexyและรับบทที่เปิดเผยเรือนร่างมาก่อน แต่เธอก็ยังอายุน้อย และมันยังเป็นยุคที่ยังไม่มีใครออกมาทักท้วงเรื่องการตั้งคำถามที่ไม่คำนึงต่อจิตใจของผู้หญิงเหมือนปัจจุบัน เธอจึงได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อน และถึงทุกวันนี้ก็คิดว่า น่าจะปกป้องตัวเองออกไปบ้าง


คำถามที่ Jennifer ต้องได้ยินในช่วงนั้นก็หนีไม่พ้น "เสริมนมมารึเปล่า" " จริงหรือที่ทำประกันเต้า" และเคยประชดด้วยการใส่เสื้อที่พิมพ์สโลแกนว่า "ไร้ซิลิโคน" เพราะแทนที่จะตั้งคำถามเรื่องผลงานห่อนถามเรื่องอื่น นักข่าวจะพุ่งมาที่ประเด็นสองเต้าของเธอเป็นอันดับแรก!

(  ถ้าเป็นสมัยนี้ถูกด่าเช็ดเลยนะ)
เพราะเป็นสาวผมสีเข้มที่ยิ้มหวานละลายใจจึงได้รับฉายาว่าเป็นสาวข้างบ้านสุด sexy     นิตยสาร Elle ได้บรรบายว่า หนุ่มๆมากมายต่างตืด poster ภาพเธอไว้ที่ผนัง  ส่วนสาวๆก็ชื่นชมอยากจะเป็นเหมือนเธอ   มีออร่าของสาวป็อปที่ใครๆต่างหลงรัก    ทำให้ระยะเวลาที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงยืดมาจนยุค 2000s   เมื่อเข้าสู่ยุค social media ก็มีคลื่นลูกหลังดึงความสนใจไปตามวิถี Hollywood
Jennifer ผละจากวงการหนังเข้าสู่การแสดงละคร TV อย่างเต็มตัว    ผลงานปัจจุบันที่ถ่ายทำมาต่อเนื่องถึงสี่ซีซันคือ 9-1-1 ทางช่อง  FOX       และแม้ว่าจะโดด่งดังจากภาพของ sex symbol  แต่ชีวิตนักแสดงของเธอก็ไม่ต้องพบกับ scandal ร้ายแรงเหมือนกับสาว hot ร่วมวงการคนอื่นๆ    เธอพบรักกับนักแสดงร่วมซีรีส์เรื่องเดียวกัน แต่งงานมีครอบครัว  ชีวิตดูราบรื่นดีค่ะ



Ryan Phillippe

Bad Boy แห่งตำนาน 90s  ที่ทำให้สาวๆได้เรียนรู้ว่า  ถึงผู้ชายตรงหน้านี้จะดูอันตรายแค่ไหน ก็ไม่สามาถจะต้านทานเสน่ห์ของเค้าได้เลย

Ryan เป็นหนึ่งในทีมนักแสดงหนังหวีด I Know What You Did Last Summer     และก็แย่งซีนไปได้พอสมควรค่ะ  หล่อเอาซะขนาดนั้น   แต่ที่ผลงานที่แฟนๆ (ที่เกิดทัน) ยังคิดถึงหนีไม่พ้น บท Sebastian  แห่ง Cruel Intentions     คุณชายสุดเสเพลที่พยายามหลอกกินตับสาวไร้เดียงสาเพื่อเอาชนะพนัน

สำหรับบางคน พล็อทที่ดัดแปลงมาจากนิยายคลาสสิค Les Liaisons dangereuses  นั้นอาจจะเป็นอะไรที่เชยไปแล้ว    หนุ่มสุดหล่อลีลาร้ายกาจที่พนันจะชิงความบริสุทธิ์ของสาวใสซื่อ แต่ดันมาตกหลุมรักเธอเข้าซะเอง  เอ๊ะ  ฟังดูน้ำเน่าไม่ใช่น้อย  แต่ยุคนั้น   ยังไม่ค่อยมีช่องทางที่เด็กวัยรุ่นจะเข้าถึงผลงานที่เต็มไปด้วยความฉาวโฉ่เหมือน Cruel  Intentions   ฉากเร่าร้อนทำให้หลายคนถูกตรึงกับที่นั่งด้วยความประหม่า    ซึ่งถ้าให้พูดจริงๆ  เมื่อเทียบกับฉากติดเรทหนัง-ซีรีส์ดังของยุคนี้ก็อาจจะเรียกว่าจิ๊บๆไปเลยก็ได้    แต่สำหรับพลังแรงดึงดูดของพระเอก ขอบอกว่าต้องให้คะแนนเต็ม    เค้าเป็นเด้กหนุ่มที่มีหน้าตาเหมือนเทพบุตร   ลอนผมหยิกน่าจับม้วนเล่น  ผิวพรรณเนียนใส  ปากแดงแปร๊ดน่าจุ๊บ  แต่กลับมีออร่าของปีศาจมากรัก      หล่อละลายใจจนต้องสุมหัวกรี๊ดกับเพื่อนสาว


เสียดายนิดหน่อยที่ภาพนักแสดงวัยรุ่นของ Ryan อยู่ได้เพียงไม่นาน เพราะเจ้าตัวไม่อยากให้คนติดภาพลักษณ์ heart-throb  จึงไม่รับเล่นหนังทีนแนวนี้อีก    ผลงานหลังจาก Cruel Intentions จะไม่เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น   และยังโลดแล่นในวงการทั้ง TV และภาพยนตร์    แต่ถามว่าสร้างความโด่งดังจน peak หรือไม่  ก็คงต้องตอบว่า ชื่อเสียงในฐานะนักแสดงของ Ryan อยู่ในระดับกลางๆ  แม้จะได้รับบทนำมาหลายครั้ง  แต่ก็ไม่ใช่ผลงานที่ประสบความสำเร็จล้นหลาม   และเคยถูกนำไปเปรียบเทียบกับภรรยาเก่า  Reese Witherspoon ที่พุ่งไปสู่ทำเนียบนักแสดง A List มานานแล้ว  เธอทั้งคว้ารางวัล Oscar   เล่นหนังโกยรายได้สูง  รวมไปถึงบทบาท producer ซีรีส์ดัง   ส่วน Ryan นั้นยังไปได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ peak นั่นเองค่ะ


ถ้าพูดเรื่องที่สร้างความฮือฮา  คงต้องเป็นรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์ของ Ryan    เขาอายุ 46  แล้ว และเปลี่ยนจากหนุ่มหน้าใสมาไว้เคราให้เข้มขึ้น  แต่บางครั้งก็ถูกทักว่าเป็นพี่ชายของลูกสาวที่โตเป็นวัยรุ่นแล้ว    เขาดูแลตัวเองให้ดู fit ไร้ส่วนเกินและมีกล้ามเนื้อน่าขย้ำ  ส่วนผิวพรรณก็ดูเรียบเนียนไร้เหนียงและรอยยับย่น   น่าอิจฉาชะมัด!


ขอพูดถึงลูกๆนิดนึง  ทั้งสองต่างรับส่วนดีของพ่อแม่มาอย่างลงตัวเป็นอย่างยิ่ง  ดูอย่างน้อง Deacon ที่แป๊บเดียวก็เป็นหนุ่ม แค่ผ่านไปข้ามปีก็น่าจะสูงกว่าพ่อแล้ว     พวกเค้าไม่รีบร้อนเค้าวงการค่ะ  น้อง Deacon ในวัย 17 ก็เพิ่งจะปล่อยผลงาน produce ดนตรีไปเมื่อปีก่อน  ส่วนน้อง Ava ก็เรียนมหาวิทยาลัย   ดูไม่ใช่ pattern ทายาทคนดังที่ต้องดำเนินรอยตามพ่อแม่


Denise Richards

ถ้า Jennifer Love Hewitt เป็นสาวข้างบ้านที่ทำให้ทุกคนต้องหลงรัก  Denise Richards ย่อมเป็นโฉมงามแห่งยุคที่เป็นเจ้าของความสวยสะกดสายตา     
Denise เริ่มสร้างชื่อเสียงจากวงการ TV     แน่นอนว่า เธอมักได้รับบทเป็นสาว hot   แต่ก็เป็นเพียงบทสมทบที่ไม่ได้โดดเด่นมากมายนัก    แต่เมื่อคว้าบทนางเอกหนังไซไaแมลงยักษ์ต่างดาว Starship Troopers  ก็กลายมาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่สื่อเริ่มให้ความสนใจอย่างคึกคัก

จนมาถึง Wild Things  หนังพิศวาสฆาตกรรมที่ขายความ sexy และพล็อทหักมุม (ยังสามารถชมได้ที่ Netflix)   ไม่ต่างจาก Cruel Intentions ที่สร้างกระแสความฮือฮาด้วยฉากกอดจูบเร่าร้อนของสองนางเอก   Denish ที่ลงทุนเปลือยอกและแสดงบทยั่วยวนเต็มอัตราก็ดังเปรี้ยงขึ้นมาทันที   ( ในช่วงนั้น หนังดังหลายเรื่องจะมี love scene ของผู้หญิง นคิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ)

ความนิยมที่พุ่งปรี๊ดจากรูปร่างหน้าตาที่สมบูรณ์แบบและแรงดึงดูดมหาศาลทำให้เธอได้รับโอกาสสำคัญ นั่นคือบท  Bond Girl    ซึ่งเป็นเวอร์ชั่น Dr. สาวผู้ปราดเปรื่องผู้ช่วยสายลับ 007  และทำให้เธอปลาบปลื้มที่ได้เผยด้านเฉลียวฉลาดของ Bond Girl  ไม่ได้มีแต่ความสวยแซ่บเหมือนกับคนอื่นๆ  แต่ costume เข้าฉากของเธอนั้นไม่ต้องพึ่งพาเดรสหรูระยับแหวกหน้าเว้าหลัง  ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นก็เอ็กซ์แตกแล้ว!
บท Bond Girl ที่ดูลุยๆ ในแบบฉบับ Denise  สวยชวนตะลึง   เธออาจจะมัดผมยุ่งๆ แต่ก็เป๊ะไปหมดจนคิดว่า เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดิน Victoria's Secret Fashion Show ต่อยังไหว!

เส้นทางสายการแสดงของ Denish ไม่ได้พุ่งแรงนานนัก  เธอเล่นหนังเกรดบีหลายเรื่อง  และไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนกับในยุค 90s   แม้จะเป็นหัวข้อข่าวตามสื่อgossip จากการหย่าร้างกับกับพระเอกผู้ฉาวโฉ่  Charlie Sheen    แต่เธอมีผลงานอยู่ตลอด ไม่ได้ห่างหายจากวงการเลย หนังละครมีครบหมด  และเคยสร้างความฮือฮาด้วยการเข้าร่วมใน  The Real Housewives of Beverly Hills     reality show  ชื่อดัง    ซึ่งก่อนหน้านี้เธอก็เคยมีรายการแนวเดียวกับครอบครัว Kardashian มาแล้ว แต่รายการแม่บ้าน Beverly Hills นั้นขึ้นชื่อเรื่องดราม่าจิกตีกันของเหล่าแม่บ้านไฮโซ    Danish น่าจะเป็นผู้ร่วมรายการเพียงคนเดียวที่เคยโด่งดังมากๆมาก่อน  และแฟนๆก็ถูกใจกันไม่น้อย   เมื่อโบกมือจากรายการนี้แล้ว  Denise วัย 50 ก็ยังมี project งานแสดงอื่นอย่าง   The Bold and the Beautiful ละครน้ำเน่าในตำนานที่ยังมีแฟนๆติดตามเสพความเน่าอย่างเหนียวแน่น!
Sam  ลูกสาวคนโตของ Denise และ Charlie ก็เข้าถึงวัยที่อยากลิ้มลองงานในวงการแล้วค่ะ    หลายคนมองว่าเธอได้รับการถ่ายทอดยีนหน้าตาดีจากพ่อมาเต็มๆ  แต่สีตาของน้องเป็นสีฟ้าเจิดจ้าเหมือนกับแม่เป๊ะเลยค่ะ



Freddie Prinze Jr

เราขอเรียกเขาว่าเจ้าชายแห่งหนังหวานและหนังหวีด  ที่มาจากนามสกุลที่พ้องเสียงกับคำว่า Prince นั่นเอง
หนุ่มตัวสูงที่ดังเปรี้ยงมาพร้อมๆกับ Jennifer Love Hewitt จากผลงาน I Know What You Did Last Summer ทั้งสองภาค  ยังมี She's all that ที่เป็นความทรงจำวัยหวานของใครหลายคน    ไหนมีใครได้นั่งกุมมือกับอดีตรักวัยใสดูตอนดูหนังเรื่องนี้ในโรงมั่ง !?

ทุกยุคจะมี heart- trobe  ที่ทำให้เหล่าวัยรุ่นหัวใจสั่นไหว  ซึ่งในขณะนั้น พวกเรายังไม่ได้รู้จัก K Popและ K Drama ค่ะ  เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้มีสามีทิพย์เป็นกองทัพเหมือนทุกวันนี้    Freddie คือหนึ่งในพระเอกที่เป็นปิ๊งแรก หรือ first crush ของสาวๆ gen  Y    ด้วยดวงตาที่ดูหวานเชื่อมและท่าทางที่ดูอบอุ่นชวนให้เพ้อหา


Freddie ถือว่าเป็นชายหนุ่มที่ภาพลักษณ์ดีคงเส้นคงวา    จากเส้นทางความรักรักกับ Sarah Michelle  Gellar ที่ยาวนานเกินยี่สสิบปี  ตั้งแต่เริ่มปิ๊งกันกองถ่าย I Know What You Did Last Summer      คนดังที่รักกันตั้งแต่วัยรุ่นแล้วพัฒนาความสัมพันธ์จนเป็นครอบครัวที่อบอุ่นยาวนานขนาดนี้ต้องเรียกว่า rare item!
ทั้งคู่ต่างยัง active ในวงการ    ตอนแรกฝ่ายชายก็คิดว่าจะหยุดพักทำงานแสดงสักที แต่ก็มี Punky Brewster ซิทคอมแนวครอบครัวเข้ามา      ส่วนชีวิตครอบครัวก็ดู  happy จนสื่อเคยพูดถึงด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ   เพราะเป็นสามีภรรยาที่รักกันมานานมาก   ถ้าเป็นแนวคู่รัก Hollywood ก็จะต้องมีเสียงซุบซิบเตียงหักหรือนอกใจออกมาบ้างแล้ว  แต่พวกเค้าก็ยังดูหวานกันราวกับเพิ่งเริ่มเดท


Natalie Imbruglia
ในช่วง90s - 2000s  มีนักร้องนักดนตรีจากยุโรปและออสเตรเลียส่งผลงานสุดฮิตมาเขย่าชาร์ทที่อังกฤษและอเมริกาได้หลายคน  ฝั่งเอเชียเองก็อินตามไปด้วย      พอพูดถึงออสซี่  ก็ต้องยกให้ Natalie Imbruglia  สามงามผมซอยสั้นที่สร้างปรากฏการณ์ความสำเร็จไปหลายประเทศทั่วโลก  เพลง Torn ขายไปได้ในระดับ platinumและขึ้นชาร์ทอันดับ 1 ไปหลายประเทศที่ยุโรป (แน่นอนว่าในออสเตรเลีย บ้านเกิดของเธอด้วย)   ฮิตมากซะจนเป็นเพลงที่ถูกเปิดบ่อยที่สุดที่อังกฤษในปี 1998

พักเรื่องความฮิตของ Torn ไปก่อน มาพูดถึงความ hot ของนักร้องกันเลยดีกว่า เธอเป็นคนที่เราคิดเสมอว่า ถ้าเธอสลับมาปล่อยผลงานในยุคนี้ ก็อาจจะสร้างความโด่งดังได้เหมือนเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว นั่นเป็นเพราะว่า เธอมีลุคที่ดูโดดเด่นมากจริงๆ ทั้งดวงตาขนาดใหญ่และเบ้าที่ลึก ขนตาสวยเด้ง ริมฝีปากอิ่มเต็ม ผมสั้นที่บางคนอาจจะเลี่ยงเพราะคิดว่ารอดยาก แต่มันกลายมาเป็นหนึ่งในทรงผมที่ iconic ที่สุดในยุคนั้นเลยทีเดียว

ไม่นานหลังจากที่ Natalie ประสบความสำเร็จจากเพลง Torn   Angelina Jolie ก็ดังเปรี้ยงจาก Girl Interrupted   และกลายเป็นคนดังที่ set มาตรฐานความงามที่ใครๆต่างโหยหา  และสาวสองคนนี้มีเค้าโครงหน้าในรูปแบบที่คล้ายกันเลยค่ะ

Natalie อาจจะมาในลุค boyish เต็มที่  เธอซอยผมสั้นเก๋ไก๋และทำให้ช่างตัดผมต้องขยับกรรไกรรับลูกค้าเป็นมือระวิง    เพราะมันทรงผมที่เข้ากับเธอมากๆ  เน้นใบหน้าที่สวยราวกับนางแบบให้ดูเปล่งประกายขึ้นมาอีก   MV เพลง  Torn นั้นไม่มีอะไรมากมาย เธอแค่ยืนจ้องกล้องสะบัดผมไปมาก็ทำให้รู้สึกว่าอยากดูต่อไปเรื่อยๆ        ทรงผมของเธอดูมีอิทธิพลมากถึงขนาดตอนที่เธอไว้ผมยาวก็ยังมีคนบ่นว่าดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไร   

ภาพของสาวเท่มีแรงดึงดูดไม่แพ้สาวแซ่บเลยค่ะ Natalie เคยคบหากับหนุ่มhigh profile อย่าง David Schwimmer ,Chris Martin , Lenny Kravitz หรือช่วงที่เจ้าชาย Harryแยกทางกับแฟนสาว สื่อก็ปล่อยข่าวลือว่า เธอคือคนรู้ใจคนใหม่ของเจ้าชาย (เธอปฏิเสธในภายหลัง) ดูเป็นสาวที่เนื้อหอมมากๆนั่นเอง



แม้จะถูกมองว่าเป็นนักร้องที่มีเพลงฮิตเพลงเดียว  แต่ Natalie ก็ยืนกรานว่า เธอไม่ได้อยู่ในประเภท One Hit Wonder แต่อย่างใด  ทุกวันนี้เธอยังเดินหน้าสร้างผลงานดนตรี  และเริ่มต้นบทบาทใหม่ในชีวิต นั่นคือการเป็นแม่คนในวัย 45  เธอรับบริจาคสเปิร์มและใช้วิธี IVF เพื่อให้กำเนิดลูกชาย  เป็นวิถีของ single mum by choice นั่นเองค่ะ


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE