REVIEW ✿ KIEHL'S Calendula Herbal-Extract Toner Alcohol-Free โทนเนอร์ตัวดังที่ดีต่อใจและอ่อนโยนต่อผิว
KanKan
44
14
GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^
เข้าสู่กลางเดือนเมษา ช่วงเวลาที่อากาศร้อนระอุสุดๆ
อากาศแบบนี้ทีไรผิวหน้าของเราจากที่แห้งๆก็เริ่มมันและเหนียวเหนอะหนะขึ้นมาทุกที
แม้ว่าผิวจะมันขึ้นและไม่แห้งเหมือนช่วงที่ผ่านๆมา แต่จะปล่อยไว้เฉยๆไม่บำรุงเลยก็ดูจะใจร้ายกับผิวเกินไปก็เลยต้องหาสกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพอากาศมาใช้ซักหน่อย วันนี้เลยได้โอกาสมาพูดถึงโทนเนอร์ "KIEHL'S Calendula Herbal-Extract Toner Alcohol-Free" ที่ได้ลองใช้มาเป็นเวลาเดือนกว่าๆค่ะ
✿"KIEHL'S Calendula Herbal-Extract Toner Alcohol-Free"✿
จริงๆแล้วเราได้ยินชื่อเสียงของโทนเนอร์ขวดนี้มานานแล้วว่าเป็น Best Seller ของทางแบรนด์
(ศึกษาเพิ่มเติมมาว่าเป็นผลิตภัณฑ์ลำดับต้นๆของแบรนด์ มีมาตั้งแต่ปี 1960 เลยค่ะ..โทนเนอร์ในตำนานที่แท้ทรู!) แต่เราไม่มีโอกาสได้ลองใช้ซักที เนื่องจากฉลากเขียนว่าเหมาะสำหรับผิวผสมถึงผิวมัน สำหรับเราที่ผิวค่อนข้างแห้งก็เลยไม่แน่ใจว่าจะเหมาะมั้ย? แล้วเขาจะทำให้ผิวของเราแห้งลงไปกว่าเดิมอีกหรือเปล่า? ทางเราก็เลยไม่ได้ลองซักที..แต่ในวันนี้ก็ได้ลองใช้และพิสูจน์แล้ว ผลลัพธ์จะเป็นยังไงต้องติดตามค่าา :-)
✿ACTIVE INGREDIENTS ✿ ส่วนผสมหลักๆมีอะไรบ้างน้า
❀ สารสกัดจากดอกCalendula และ กลีบดอกCalendula ช่วยปลอบประโลมผิวและช่วยต้านการอักเสบสารอนุมูลอิสระ
❀ Allotoin ช่วยปลอบประโลมและให้ความรู้สึกสบายผิว
❀ Burdock root ช่วยปลอบประโลมและลดความมันบนผิวค่ะ
จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์เน้นไปที่เรื่องของการปลอบประโลมผิวค่ะ
นอกจากนี้ก็จะมีสารที่ช่วยดึงความชุ่มชื้นเก็บไว้บนผิว และมี Citric Acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวด้วยค่ะ (แต่น่าจะใส่มาน้อยมากเพราะว่าอยู่อันดับสุดท้ายเลย)
✿ LET'S TRY IT! มาลองใช้กันเถอะ ✿
ก่อนอื่นเราต้องหมุนฝาเกลียวออกเพื่อแกะซีลออกก่อนน้า อย่าเพิ่งตกใจถ้าเปิดแล้วทำไมไม่มีอะไรหยดออกมา ^^
วิธีการใช้ก็ง่ายๆคือหยดโทนเนอร์ลงบนสำลีให้ชุ่มๆแล้วก็เช็ดไปตามผิวก่อนบำรุงด้วยขั้นตอนอื่นๆนั่นเอง สำหรับเราใช้คู่กับสำลี Silcot ช่วยประหยัดโทนเนอร์ได้เยอะเลยค่ะ
เนื้อผลิตภัณฑ์เหลวเป็นน้ำๆ ไม่เหนียวเหนอะ จุดเด่นคือไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (Alcohol-Free) และ ไม่มีน้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหย (Fragrance & Essential Oil-Free) สาวๆที่ผิวที่ระคายเคืองง่ายไม่ต้องกังวลอีกต่อไป โทนเนอร์ที่ไม่ใส่แอลกอฮอล์ และน้ำหอมมีอยู่จริงค่าา ^ _ ^
✿MY THOUGHT & FEELING✿
♥ สิ่งหนึ่งที่เราชอบก็คือ ก ลิ่ น ข อ ง โ ท น เ น อ ร์ ค่ะ .. เรารู้สึกว่ากลิ่นเค้าเหมือนน้ำเก็กฮวย ไม่รู้ว่าใครคิดเหมือนกันบ้างมั้ยนะ ตอนที่ทาก็เลยรู้สึกว่าเหมือนเอาน้ำชาเก็กฮวยมาชโลมผิวเลย สดชื่นสุดๆ
♥ ความรู้สึกที่ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ก็คือความเ ย็ น ส บ า ย ผิ ว เมื่อทาโทนเนอร์ทิ้งไว้ซักพักพอลองแตะๆที่ผิวจะสัมผัสได้เลยว่าผิวเย็นลง ตอบโจทย์เรื่องปลอบประโลมผิวได้ดีเลยค่ะ made my day ที่อากาศร้อนและแดดจัดได้ดีม๊าก นอกจากนี้โทนเนอร์ยังซึมไว ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว เหมาะกับสภาพอากาศแบบนี้จริงๆ
♥ หลังจากที่ได้ใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆ เรารู้สึกว่าผลลัพธ์ที่ได้มันไม่ได้หวือหวาแบบว้าววว...หน้าใส เงาวิ้งอะไรแบบนั้น แต่เป็นการ ป ล อ บ ป ร ะ โ ล ม ผิ ว แ ล ะ บำ รุ ง ผิ ว ใ น ทุ ก ๆ วั น มากกว่า อย่างเช่นวันไหนที่ร้อนๆโดนแดดมาแล้วหน้าหมองๆไหม้ๆ พอได้ใช้ผิวก็ Calm ลง หรือวันไหนที่คุยโทรศัพท์เยอะๆ แล้วสิวเริ่มจะขึ้นที่ข้างแก้มก็รู้สึกว่าเค้าทำให้สิวเราไม่ปะทุ อักสบขึ้นมาแต่ค่อยๆยุบไปเองค่ะ เรียกได้ว่าเป็นโทนเนอร์ที่ใช้ได้เรื่อยๆ ใช้ได้ทุกวันเป็นโทนเนอร์สามัญประจำบ้านนั่นเอง
♥ สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังลังเลว่าเอ๊...แล้วตกลงโทนเนอร์ตัวนี้ผิวแห้งใช้ได้มั้ยนะ? ใช้แล้วจะทำให้ผิวแห้งลงไปมากกว่าเดิมหรือเปล่า? สำหรับเราพอได้ลองใช้แล้วรู้สึกว่าเค้าไม่ได้ทำให้ผิวแห้งไปกว่าเดิม มอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดีแต่จะไม่ได้ทิ้งความฉ่ำไว้บนผิวเหมือนโทนเนอร์ตัวอื่นๆที่เคยใช้มา เหมาะกับสภาพอากาศในช่วงนี้เป็นที่สุด แต่ถ้าอากาศเย็นลงแล้วผิวกลับมาแห้งผากอีกเมื่อไหร่ โทนเนอร์ตัวนี้ก็อาจจะชุ่มชื้นน้อยเกินไปสำหรับเรา ก็จะต้องเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นที่ให้ความชุ่มชื้นมากกว่านี้ค่ะ (ก็ต้องเลือกสกินแคร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าและอากาศในช่วงนั้นด้วยแหละเนอะ) แต่สำหรับผิวมันเราว่าคุณจะเลิฟ เลิฟน้องคนนี้ตลอดปีค่า
สรุปแล้ว เป็นโทนเนอร์ที่ช่วยปลอบประโลมผิว อ่อนโยนต่อผิวระคายเคืองง่าย
พร้อมกลิ่นหอมอ่อนของส่วนผสมธรรมชาติ (ปราศจากน้ำหอมและน้ำมันหอมระเหย) ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ใช้ได้เรื่อยๆใช้ได้ทุกวันเหมือนโทนเนอร์สามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้นั่นเอง
สำหรับวันนี้ก็ขอตัวลาทุกคนไปก่อน
ขอบคุณทุกคนมากนะค้าา แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ :-)