เกาะติด Baeksang Arts Awards 2021
candy 50 13
แพคซัง การประกาศรางวัลที่เปรียบได้ว่าเป็น Oscar แห่งเกาหลีที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันก่อนได้รับการจับตามองจาก scandal ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในวงการบันเทิงกิมจิ
ศิลปินที่ได้เข้าร่วมงานใหญ่ที่จัดขึ้นแบบ social distancing ครั้งนี้จะรู้สึกเช่นใด แล้วกระแสสังคมที่มีต่อผู้คว้ารางวัลจะออกมารูปแบบไหน มาติดตามกันได้เลยค่ะ
ศิลปินที่ได้เข้าร่วมงานใหญ่ที่จัดขึ้นแบบ social distancing ครั้งนี้จะรู้สึกเช่นใด แล้วกระแสสังคมที่มีต่อผู้คว้ารางวัลจะออกมารูปแบบไหน มาติดตามกันได้เลยค่ะ
รายชื่อผู้คว้ารางวัลในสาขาโทรทัศน์
ซีรีส์ยอดเยี่ยม
ซีรีส์ยอดเยี่ยม
- Beyond Evil (JTBC)
- How Do You Play? (MBC)
- Kim Chul-gyu จาก Flower of Evil
- Kim Su-jin จาก Beyond Evil
ต่อมาคือผู้ที่นักแสดงจากรายการโทรทัศน์ที่ได้รางวัลแพคซังค่ะ หลายคนคงจะไม่ประหลาดใจกับรายชื่อผู้ชนะนัก พวกเค้าต่างวาดลวดลายฝีมือการแสดงจากซีรีส์กระแสดี เราจึงยังไม่ได้ยินกระแสดราม่าเรื่อง "ไม่สมรางวัล" ออกมา โดยเฉพาะรางวัลนักแสดงนำและนักแสดงแสดงสมทบทุกคนเรียกว่าเก๋าเกมสุดๆ เวทีนี้มักจะได้รับเสียงชื่นชมเรื่องการตัดสินรางวัลที่ไม่ค้านสายตา จากการตัดสินผลงานของศิลปินบันเทิงโดยไม่แย่งแยกค่ายเหมือนกับการประกาศรางวัลที่สถานียักษ์ใหญ่จัดขึ้นมาเอง สมศักดิ์ศรีกับที่เป็นการประกวดที่มีอายุกว่าครึ่งศตวรรษ
งานในปีนี้ อาจจะไม่ได้มีนักแสดงมาเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เพราะยังมีข้อจำกัดจากการจัดงานในระหว่างสถานการณ์โรคระบาด แต่ผู้ชนะก็ได้ขึ้นมารับรางวัลกันพร้อมหน้าพร้อมตา อาจจะมีขาดหายไปบ้าง เราจะพูดถึงในประเด็นถัดไปค่ะ
ภาพบรรยากาศของการเดินพรมแดงและการรับรางวัลของเหล่าศิลปินบันเทิงในงาน
ผู้ดำเนินรายการของงานในปี2021 คือ ชิน ดง-ยอบ นักแสดงตลกกชื่อดังและแบ ซูจี นางเอกสาวงามแห่ง Start Up พวกเค้าเคยทำงานพิธีกรร่วมกันบนเวทีใหญ่และได้รับเสียงชื่นชมมาแล้วว่าเข้าขากันเป็นอย่างดี จึงได้กลับมาทำหน้าที่เดิมที่แพคซังอีกค่ะ
พูดถึงเรื่อง fashion กันหน่อยแล้วกัน ตามความเห็นของเรา คิดว่านักแสดงหญิงเกาหลีชื่อดังจะเน้นชุดที่ดู safe มากกว่าการลองเสี่ยงด้วยสไตล์ที่โลดโผนหรือดูเยอะ ชุของซูจีเนี่ย มีตาข่ายและลูกไม้เป็นจุดเด่น แต่ด้วยความที่เป็นชุดดำที่ classic จึงอาจจะไม่ได้ดูแย่งซีน แต่เป็นความสวยแบบกลมกล่อมละมุนสายตา ตัวคนใส่เองก็งดงามเฉิดฉายมากอยู่แล้ว ผมเผ้าก็ปล่อยมา เน้นออร่าความงามตามธรรมชาติ
ซูจีเค้าขึ้นชื่อลือชาในหมู่ netizen ในเรื่อง "สวยยันเงา" ซึ่งจากงานนี้ ก็เป็นอีกครั้งที่ได้รับเสียงชมว่าเงายังสวย set มาตรฐานการเดินพรมแดงให้สูงขึ้นไปอีก สวยแต่ร่างเนื้อคงไม่พอแล้ว เงายังต้องเป๊ะไปด้วย
ภาพเงาของแบ ซูจีในevent ที่แล้วมาทำให้แฟนๆคอยจดจ้องว่า เงาของเธอที่พรมแดงงานอื่นจะดูเป๊ะมากแค่ไหน
เมื่อพูดถึงผู้ชนะจากงานนี้ ก็คงต้องเริ่มจาก ยู แจ-ซ็อก เจ้าของรางวัลเกียรติยศแห่งแพคซังในปีนี้ สุนทรพจน์ขอบคุณตอนขึ้นรางวัลนั้ยสมกับที่ได้รับฉายากพิธีกรแห่งชาติ เพราะนอกจากจะร้อยเรียงถ้อยคำเพื่อแสดงความปลาบปลื้มซึ้งใจและให้เครดิตกับทีมงานตามที่เราได้ยินมาตลอด เขายังได้เสนอแง่คิดต่อเรื่องวัฒนธรรมเกาหลีที่อาจจะถูกคนในชาติละเลยไป และเรียกร้องให้ผู้คนกลับมาให้ความสนใจและถนอมรักษาวัฒนธรรมอันสำคัญนี้ แม้พิธีกรดังจะไม่ได้เจาะจงต้นตอปัญหาอย่างชัดเจน แต่การหยิบเอาประเด็นสังคมมาพูดที่เวทีแห่งนี้ก็ทำให้ผู้ชมหลายคนเชื่อว่าถึง เขาได้สื่อความหมายถึงสถานการณ์ความกดดันระหว่างเกาหลี - จีนที่มักจะกล่าวหากันว่าเป็นฝ่ายลอกเลียนและขโมยวัฒนธรรมจนกลายเป็นความขัดแย้งข้ามชาติ และกำลังใช้พื้นที่แห่งนี้ในการปลุกใจชายเกาหลีให้ภูมิใจและเชิดชูวัฒนธรรมของพวกเขานั่นเอง
รอยยิ้มอันสดใสของชิน ฮา - คยอนอาจจะไม่ชวนหลอนเหมือนซีรีส์ Beyond Evil แต่ก็เจิดจ้าไปด้วยออร่าผู้ชนะ
พระเอกค่าตัวแพงระดับ top คิม ซู-ฮย็อนยิ้มแย้มเข้างานเพื่อลุ้นรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
แม้จะไม่ได้รางวัลกลับไป ซึ่งคงพูดได้ว่าไม่พลิกโผ เพราะฝ่ายผู้ชนะนั้นโดดเด่นด้วยบทที่มีมิติหลากหลายท้าทายความสามารถทางการแสดงเป็นที่สุด แต่การรับบทหนุ่มจิตป่วยจาก It's Okay to Not Be Okay ก็ถือเป็นก้าวสำคัญของคิม ซู-ฮย็อน เค้าเคยได้รับรางวับจากเวทีนี้ไปก่อนหน้าแล้วค่ะ ทั้งรางวัลนักแสดงภาพยนตร์หน้าใหม่ยอดเยี่ยม (Secretly, Greatly) นักแสดงนำชายโทรทัศน์ยอดเยี่ยม (Moon Embracing the Sun) และนักแสดงยอดนิยม (My love from the stars) รวมถึงการเข้าชิงในปีนี้ก็น่าจะฟันธงกันได้ว่า พระเอกสุดฮ็อตคนนี้ก็ต้องได้กลับมาลุ้นรางวัลแพคซังอีกแน่ๆ
หนึ่งในดาวเด่นของงาน โอจองเซ ที่คว้าแพคซังในสาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมสองปีติดต่อกัน
เขาได้แสดงความขอบคุณต่อคิม ซู-ฮย็อนและซอ เยจี ซึ่งฝ่ายพระเอกหนุ่มรุ่นน้องก้ได้ซึ้งใจดวงตาวิบวับไปกับความสำเร็จของพี่ชาย(ในซีรีส์) แต่ฝั่งนางเอกนั้น ไม่ได้มาเป็นสักขีพยานในความสำเร็จครั้งนี้ และหลายคนคงคาดเดาได้มาก่อนแล้วว่า เธอจะไม่มาปรากฏตัวในงานแพคซัง
scandal รุนแรงที่ซอ เยจีถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นเบื้องหลังที่ทำให้พระเอกดาวรุ่งพุ่งแรง คิม จอง-ฮยอนแสดงท่าที่อันหยาบคายไม่ให้เกียรติต่อ ซอฮยอน นางเอกเพื่อนร่วมงาน จาพฤติกรรมบงการไม่ให้เขาแสดงความใกล้ชิดกับอีกฝ่ายเพราะความหึงหวง เรื่องนี้ทำให้อนาคตในวงการแสดงของทั้งซอ เยจีและคิม จอง-ฮยอนยังดูมืดมน และอาจจะไม่สามารถการันตีได้ว่า พวกเค้าจะกลับมาสร้างความโด่งดังได้อีกหรือไม่
เรื่องราวของนักแสดงที่เป็นอดีตคนรักกันนั้นยังไม่ได้มีการชี้ชัดว่ามีข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นเช่นไร แม้ฝ่ายฝ่ายจะประกาศขอโทษและยอมรับผิดทั้งหมดไปแล้ว แต่เราก็ได้มีกรณีตัวอย่างให้เห็นหลายครั้งว่า หากมี scandal หนักๆ เกิดขึ้นกับเซเลบสาว โอกาสที่จะกลับมาได้รับความนิยมอีกอาจจะริบหรี่ ในขณะที่ฝ่ายชายสามารถเฝ้ารอเวลาให้ความอื้อฉาวคลี่คลายลงไป แล้วยังได้รับข้อเสนอในการทำงานเพื่อเริ่มต้นใหม่ได้
แต่ก็มี ความเชื่อว่า ซอเยจีอาจจะไม่ได้ถูกตัดโอกาสไปซะหมด เพราะในการประกาศรางวัลแพคซัง เธอสามารถคว้ารางวัลนักแสดงยอดนิยมโดยการวัดผลจาก TikTok ผู้เป็นsponsor ของงานคู่กับคิมซอนโฮที่จุดกระแสความนิยมได้อย่างสุดปังจากStart Up ในเมื่อผลรางวัลนี้มาจากการvote ของแฟนๆที่ซอ เยจีกวาดมาได้มากกว่าเจ็ดแสนเสียง ดูเหมือนว่า scandal ที่ทำให้อาชีพนักแสดงของเธอต้องสะดุดลงไปในช่วงที่รุ่งสุดๆนั้น อาจจะไม่ใช่อุปสรรคอย่างถาวร เพราะยังมีแฟนๆจำนวนมากที่มองข้ามข่าวฉาวและรอการกลับมาของเธออยู่
ช่วงที่กระแสโจมตีร้อนแรง หลายแบรนด์ที่ว่าจ้างซอ เยจีเป็นพรีเซนเตอร์ก็ลบภาพเธอออกรัวๆ และมีความคาดคะเนถึงตัวเลขเงินสูงลิบลิ่วเพื่อชดเชยในการยุติสัญญา รวมไปถึงข่าวเสียหายที่ถูกปล่อยออกมาซ้ำเติม เช่น ข่าวลือเรื่องพฤติกรรรมแย่ๆตอนที่อยู่ที่สเปน ต้องถอนตัวออกจาก project การแสดงในซีรีส์เรื่องใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้เธอตัดสินใจเก็บตัว ไม่เดินสาบโพรโมทหนังเรื่อง Recalled ที่ลงโรงไปเมื่อเดือนที่แล้ว หนังเรื่องนี้สามารถทำเงินขึ้นไปเป็นอันดับ 1 ของ Box office เกาหลีได้ช่วงหนึ่ง จากสถิติของหนังเกาหลีที่ถูกปล่อยออกมาในปีนี้ จะทำราบได้ที่อันดับ 5 ซึ่งเราไม่แน่ใจเรื่องทุนสร้างค่ะ แต่น่าจะมองได้ว่า เงินรายได้ของหนังเรื่องนี้ไม่น้อย หากพูดธุรกิจภาพยนตร์ในช่วง pandemic และซอ เยจีอาจจะไม่ได้ถูก cancel จนไม่สามารถกลับสู่วงการได้อย่างที่ถูกประเมินไว้
คิมซอนโฮ ที่ได้เสียงโหวตนักแสดงชายยอดยิยมเป็นอันดับ 1 ทิ้งห่างซง จุง-กีไปมากกว่าสามแสนคะแนน vote ว้าวมากค่ะ ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรจะฉุดรั้งเค้าไว้ได้แล้ว หลังจากที่เข้าวงการมาตั้งแต่ปี 2017 แม้ว่าจะเดบิวท์ค่อนข้างช้า มาดังเปรี้ยงตอนในวัย30กลางๆ แต่พลังสนับสนุนของซอนโฮฮาดานั้นมีอานุภาพจริงๆ
แน่นอนว่า เขาได้แสดงความซาบซึ้งใจต่อแฟนๆที่ส่งคะแนน vote อย่างท่วมท้นและสัญญาที่จะทุ่มเททำงานผลงานดีๆเพื่อตอบแทนแรงสนับสนุนที่ได้รับ project ต่อไปของเค้าคือการขึ้นแท่นพระเอกประกบนางเอกระดับ top อย่างชิน มิน-อาค่ะ
ชิน ฮเย-ซอน นางเอกที่มาพร้อมกับความโด่งดังชั่วข้ามคืนเหมือนกับคิม ยอน-โฮจากซีรีส์ Mr. Queen ที่จริงแฟนๆของเธอก็เป็นห่วงกันไม่น้อยค่ะ เพราะซีรีส์กวาดเรตติ้งได้สูงปรี๊ด แต่ก็เจอดราม่าย้อนหลัง ทั้งเรื่องความขัดแย้งกับจีน และ scandal ของพระเอก จน Mr. Queenถูกถอดจาก platform อย่าง YouTube และ Naver แต่ถึงขนาดนั้น ชาวเน็ทเกาหลีก็ยังแสดงความไม่พอใจที่ผู้ชมจากต่างประเทศยังคิดตามชมซีรีส์เรื่องนี้ได้อยู่ ส่วนคุณนางเอกก็ต้องพบกับสถานการณ์ที่ไม่ต่างจากการถูกล่าแม่มดเช่นเดียวกันค่ะ ที่จริงในช่วงที่ Mr. Queen ยังออนแอร์อยู่ก็มีดราม่าพอประมาณอยู่แล้ว แต่กระแสความนิยมยังพอเบี่ยงเบนความสนใจจากดราม่าไปได้บ้าง
ในวัย 31 ปี กว่าจะได้ก้าวมาเป็นนางเอกเต็มตัว ชิน ฮเย-ซอนต้องแสดงบทสมทบติดต่อกันหลายเรื่อง และปังสุดๆจากบทชายที่ติดอยู่ในมเหสียุคยุคโชซอน แต่เพราะปีที่ผ่านมาที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นปีแห่งการสกัดดาวรุ่ง นักแสดงหลายคนที่กำลังอยู่ในช่วง hot สุดๆ ต้องถูกพายุข่าวฉาวโจมตีจนหลุดออกจากวงโคจรแห่งความโด่งดัง พฤติกรรมของคนดังบางคนก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกว่าสมควรถูกสังคมลงโทษแล้ว แต่ในกรณีของชิน ฮเย-ซอน นั้น แฟนๆจำนวนไม่น้อยมองว่า นี่เป็นเคราะห์ร้ายที่ทำให้เธอต้องเก็บตัวเงียบ
เมื่อ Joseon Exorcist ถูกโจมตีอย่างรุนแรงจนต้องยุติการออนแอร์ ชิน ฮเย-ซอน ก็ต้องพบกับดราม่าคิดทบต้นทบดอก จากข้อกล่าวหาว่าเธอเลือกแสดงซีรีส์ที่ล้อเลียนดูถูกประวัติศาสตร์เกาหลี แต่จากตัวเลขเรตติ้งที่พุ่งไปอยู่อันดับที่ 5 จากช่อง tvN (ที่สูงกว่าซีรีส์จาก free TV หลายเรื่องที่ออนแอร์ในช่วงกัน) อาจจะทำให่คุณข้องใจว่า ต้องโจมตีผู้ชมชาวเกาหลีจำนวนมากมายที่สนับสนุนซีรีส์เรื่องนี้ด้วยรึเปล่า ? ความเกรี้ยวกราดของชาวเน็ทต่อประเด็นความขัดแย้งที่เปราะบางต่อความรู้สึกชาวเกาหลีทำให้มีเสียงเรียกร้องให้แบรนด์ถอดนางเอกสาวออกจากการเป็นพรีเซนเตอร์
อย่างไรก็ตาม จากการvote นางเอกยอดนิยมที่เธอทำคะแนนมาได้เป็นอันดับ 2 รองจากซอ เยจี ก็อาจจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อก้าวต่อไปของเธอ ได้ยินมาว่าเธอคว้าบทหนัง thriller เรื่องใหม่แล้ว ถ้าให้เราเดา งานซีรีส์อาจจะต้องรอให้กระแสโจมตีเบาบางลงไปอีกหน่อย
(สังเกตนะคะว่า นางเอกที่ได้รับคะแนนvote ที่1และที่ 2 ผ่าน scandalสดๆร้อนๆมาทั้งคู่)
พี่มาเฟียวินเพิ่งโบกมือลาจอไปได้ไม่นาน ก็มาลุ้นรางวัลนำชายยอดเยี่ยมด้วย ทรงผมเดียวกันกับในซีรีส์เป๊ะ
อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องรางวัลแพคซัง แต่กระแสความชื่นชมเรื่องออร่าเปล่งประกายใน Vincenzo โดยเฉพาะผิวพรรณเนียนใสดูฉ่ำน้ำตามอุดมคติคนเกาหลี (glass skin) พอมางานนี้ก็เห็นกันจะๆว่าของเค้าดีจริงๆ
เราเคยท่องเว็บหาข้อมูลนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆ แล้วไปเจอชาวเน็ทคนหนึ่งที่ระบุว่า เคยพบกับซง จุง-กี ตัวจริง และผิวของเขาก็สวยเนียนในเหมือนกับที่ได้เห็นในจอ ซึ่งจะแตกต่างกับนักแสดงบางคนที่เคยพบมาที่ดูออกว่าใช้เทคนิคในการถ่ายทำเพื่อให้ผิวสวยใส เบลอรูขุมขนและริ้วรอยไปได้หมด แต่สำหรับพระเอกหนุ่มคนนี้ ความsmooth และ glow ของผิวเนี่ยเป็นจุดขายของเขาเลยค่ะ เจ้าตัวเคยบอกอย่างถ่อมตัวว่า ต้องขอบคุณช่างแต่งหน้าที่เนรมิตให้ผิวดูดีได้ขนาดนี้ และก็เผยเคล็ดลับว่า ทุกเช้าจะกิน appleและberry และอธิบายว่ามาจากกรรมพันธุ์ด้วยค่ะ ซึ่งผิวสวยโดดเด่นนี้ ทำให้เขามีคว้าdealต่างๆเกี่ยวกับskincare มาตั้งแต่เป็นหนุ่มใสเลยล่ะ
เราเคยท่องเว็บหาข้อมูลนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆ แล้วไปเจอชาวเน็ทคนหนึ่งที่ระบุว่า เคยพบกับซง จุง-กี ตัวจริง และผิวของเขาก็สวยเนียนในเหมือนกับที่ได้เห็นในจอ ซึ่งจะแตกต่างกับนักแสดงบางคนที่เคยพบมาที่ดูออกว่าใช้เทคนิคในการถ่ายทำเพื่อให้ผิวสวยใส เบลอรูขุมขนและริ้วรอยไปได้หมด แต่สำหรับพระเอกหนุ่มคนนี้ ความsmooth และ glow ของผิวเนี่ยเป็นจุดขายของเขาเลยค่ะ เจ้าตัวเคยบอกอย่างถ่อมตัวว่า ต้องขอบคุณช่างแต่งหน้าที่เนรมิตให้ผิวดูดีได้ขนาดนี้ และก็เผยเคล็ดลับว่า ทุกเช้าจะกิน appleและberry และอธิบายว่ามาจากกรรมพันธุ์ด้วยค่ะ ซึ่งผิวสวยโดดเด่นนี้ ทำให้เขามีคว้าdealต่างๆเกี่ยวกับskincare มาตั้งแต่เป็นหนุ่มใสเลยล่ะ
นางเอกของงาน คิม โซยอน ที่วาดลวดลายตัวแม่ฟาดปั๊วะๆใน The Penthouse ปีนี้จะเห็นว่า นักแสดงนำยอดเยี่ยมปีนี้มาจากบทหนักๆ ทั้งคู่ เมื่อได้เห็นรายชื่อผู้เข้าชิวแล้วรู้เลยว่าตัวเก็ง
รูปโฉมที่ดูสาวพริ้งของเธอนั้นก็อาจจะทำให้ประหลาดใจว่า เธอโลดแล่นในวงการมาถึง26 ปีแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าเธอเดบิวท์ตั้งแต่ยังเป็นสาว 14 นั่นเองค่ะ ปัจจุบันที่เข้าสู่หลักสี่ก็เจิดจรัสด้วยบทนำจาก The Penthouse ที่แม้แฟนๆชาวไทยจะโจษจันว่าถูกลเ่นกับความรู้สึกจนปวดตับกันไปเป็นแถว แต่ก็หยุดดูไม่ได้!
แม้จะสร้างชื่อเสียงโด่งดังในฐานะนางเอกสาวมากฝีมือมาตั้งแต่ยุค 90s แต่นี่คือการรับรางวัลแพคซังครั้งแรกของคิม โซยอน ความตื่นเต้นและน้ำเสียงที่สั่นไหวนั้นอาจจะทำให้เธอดูเปราะบางต่างจากบทบาทสุด fierce ในซีรีส์ แต่ก็ทำให้แฟนๆประทับใจต่อชัยชนะครั้งนี้ของเธอ และยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าสมรางวัลจริงๆ
เธอให้สัญญาว่าจะทุ่มเทแสดง The Penthouse ซีซันอย่างเต็มที่ อันนี้เหมือนจะเป็นการการันตีให้ผู้ชมเตรียมใจปวดประสาทกันต่อรึเปล่านะ !
แว้บมาที่ฝั่งหนังกันนิดนึง คงต้องบอกว่า ถ้าเป็นหนังเกาหลี หากไม่ได้ลง Netflix ก็ดูจะหาโอกาสดูไม่บ่อยสักเท่าไร ถ้าเป็นวงการ TV เราไม่ได้เห็นยู อา-อินมาสักพักแล้ว แต่ก็มี Alive หนังซอมบี้ทาง Netflix มาให้หายคิดถึงกันบ้าง แต่หนังที่ทำให้เขาคว้าแพคซังในปีนี้คือ Voice of Silence ในบทชายหนุ่มผู้ที่ไม่ส่งเสียงพูดที่ทำอาชีพเก็บกวาดหลักฐานอาชญากรรม เขาเปิดใจบนเวทีว่า เพราะการเสียชีวิตของนักสร้างหนัง อี ชุน-ยอน จึงทำให้แสดงความตื่นเต้นดีใจจากการคว้ารางวัลได้แบบฝืดๆไปบ้าง แน่นอนว่าจะต้องขอบคุณแฟนๆและเพื่อนร่วมงานที่ได้สนับสนุนในช่สงที่วงการหนังกำลังอยู่ในสภาวะยากลำบาก
project ต่อไปของยู อา-อินคือซีรีส์ Hellbound ที่ Netflix เป็นผู้สร้างเช่นกัน
อี โด-ฮย็อนอาจจะเข้าวงการมาตั้งแต่ปี 2017 แต่ 18 again เป็นผลงานเรื่องแรกที่เขาขึ้นแท่นนักแสดงนำ และคว้ารางวัลแพคซังสขานักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมมาได้เลย พระเอกหนุ่มวัย 26 คนนี้มีเส้นทางที่น่าจับตามองทีเดียวค่ะ ในเร็วๆนี้ ซีรีส์ที่เขาขึ้นแท่นเป็นพระเอกเต็มตัวก็จะลงจอแล้ว
ซง คัง อาจจะไม่ได้เป็นผู้คว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากแพคซังครั้งนี้ แต่ช่วง 3-4 ปีมานี้ก็คว้าบทพระเอกติดต่อกัน และมีเสียงอวยว่า มีความเป็นไปได้ที่เขาจะก้าวสู่เส้นทางของนักแสดงA List ในตอนนี้ เจ้าตัวอายุ 27 แล้ว แต่รูปลักษณ์ดูอ่อนกว่าวัย รับบทเด็กมัธยมสบายๆ
งานนี้อี จู-ยอง ไม่ทำให้เสียชื่อสาวเท่เลย
ความ glass skin อันแวววาวของน้องคิม ฮยอนซูช่างเตะตาเหลือเกิน เห็นกันมาตั้งแต่เป็นดาราเด็กจากหลากหลายผลงาน แทบไม่รู้ตัวน้องก็อายุ 20 แล้ว (หรือนับแบบเกาหลีก็บวกเพิ่มไปอีกหนึ่งปี) การรับบทแบ โรนาจาก The Penthouse อาจจะเป็นก้าสำคัญที่จะส่งให้เธอฉีกภาพจากนักแสดงเด็กหน้าแบ๊วมาเป็นรับบทนำในอีกไม่นานนี้ก็เป็นได้
หลายคนมองว่าอี จุน-กีเป็นคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกับชินฮา - คยอนในการชิงรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม เพราะผลงานของพวกเค้าเป็นแนว thriller สั่่นประสาทและหักมุมอย่างคาดเดาได้ยากเหมทอนกัน พลังการแสดงของทั้งคู่ทำให้ผู้ชมรู้สึกหวาดหวั่นขนลุกเลยทีเดียว แม้ครั้งนี้จะพลาดรางวัลไป แต่เชื่อว่าเขาจะได้มีโอกาสมาเข้าชิงอีกแน่นอน
อี จุง-กี เคยคว้ารางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากแพคซังเมื่อสิบกว่าปีก่อนจากหนัง King and the Clown และรางวัลนักแสดงชายยอดนิยมจากหนัง Fly, Daddy, Fly เข้าชิงรางวัลรวมกันหลายครั้งเลยทีเดียวค่ะ
Krystal มาในลุคสาวทรงเสน่ห์เย้ายวนใจ เป็นนางเอกอีกคนที่ปล่อยผมมาร่วมงาน ( อาจจะไม่นิยมการรวบหรือเกล้ามวยกันนัก) เธอได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในสาขาภาพยนตร์
scandalการกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมโรงเรียน อาจจะทำให้ซีรีส์ River Where the Moon Rises ต้องเปลี่ยนตัวพระเอกอย่างเร่งด่วน แต่ผลงานเรื่องนี้ก็ทำให้คิม โซ-ฮย็อนได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในวัยเพียง 21 ปี ทำให้เธอเป็ยผู้เข้าชิงที่เด็กที่สุดในกลุ่มนี้ค่ะ
ในปีนี้ อี ซึง-กี อาจจะยังไม่ได้เข้าชิงรางวัลการแสดง แต่เจ้าตัวก็คง happy สุดๆ เพราะสอยรางวัลเอนเตอร์เทนเนอร์ชายยอดเยี่ยมจากรายการ Master in the House และ Busted Season 3 กลับบ้าน
ในกลุ่มผู้เข้าชิง เขามีอายุน้อยที่สุด และคู่แข่งก็เป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ระดับตัวพ่อทั้งนั้นค่ะ เจ้าตัวจึงแสดงความยินดีระคนประหลาดใจ ชื่อเสียงความเป็นลูกชายแห่งชาติของอี ซึง-กีนั้นมาจากprofile สุดเริ่ด ทั้งการเรียน ชาติตระกูล กิริยามารยาท และจาดความสามารถที่ทำให้มีชื่อเสียงในวงการไปไม่ได้ค่ะ เขามักจะได้รับเสียงชื่นชมว่าเก่งทั้งร้องเพลง เล่นละครและงานพิธีกรและเปรียบเทียบว่าเป็น Triple Crown รางวัลแพคซังตัวนี้ก็ได้ตอกย้ำเรื่องความสามารถอันโดดเด่นของเขาอย่างชัดเจน
ปีนี้ได้รับรางวัลเอนเตอร์เทนเนอร์ไปแล้ว ปีหน้า อี ซึง-กีอาจจะมีลุ้นเข้าชิงรางวัลการแสดงจาก Mouse ซีรีส์สุดระทึกที่ช็อคนดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ต้องรอกันไปอีกหนึ่งปีถึงจะได้รู้กัน
ต้องรอคอยอีกหนึ่งปีกว่าที่เราจะรู้ว่าศิลปินบันเทิงรายใดที่จะมีโอกาสเข้ามาชิงชัยในการประกาศรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งต่อไป แต่เชื่อได้ว่า ผู้สร้างจะต้องงัดของดีมาประชันอย่างแน่นอน แม้ในระยะนี้วงการหนังอาจจะซบเซาลงไปในสถานการณ์โรคระบาด แต่การแข่งขันจากฝั่ง TV นั้นยังดุเดือด สาแก่ใจผู้ชมผู้นิยมของคุณภาพดีเป็นยิ่งนัก มันทำให้แฟนๆจากประเทศเห็นพ้องต้องกันว่า อุตสาหกรรมบันเทิงของแดนกิมจินั้นพัฒนาไม่หยุดยั้งจริงๆ