ทำงานที่ที่ "จีบัน" กับฝันที่เป็นจริง ชวนทุกคนไป Work from KRABI ด้วยกันตามมา !!

"การที่เราสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ ดูเหมือนจะเป็นความฝันที่อยากให้เป็นจริงของใครหลายๆ คน"
เราเองก็เป็นคนนึงที่ฝันอยากจะทำงานจากที่ไหนก็ได้ เอาจริงๆ เป็นคนชอบเที่ยว แต่จะเที่ยวอย่างเดียวไม่ได้ เรื่องปากท้องมันก็สำคัญ ความฝันที่อยากเที่ยวไปทุกที่ ก็เลยควบรวมเป็น การทำงานจากที่ไหนก็ได้ หรือ Work From Anywhere แล้วกัน 

ช่วงต้นปี 2021 ที่ผ่านมา เราไปลองทำตามแพชชั่นทำตามฝันมาแล้วจ้า ก่อนที่น้องโควิดรอบใหม่ที่ไม่ใช่ระลอก 3 จะกลับมา เป็นช่วงที่น้ำทะเลกระบี่สวยที่สุด พระอาทิตย์ตกที่อ่าวนางสวยที่สุด Work From KRABI 1 เดือนเป็นยังไงมาติดตามไปพร้อมกัน :)

เราตัดสินใจไปลองใช้ชีวิตแบบใกล้ชิดทะเลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยความที่ตั๋วเครื่องบินถูกมากกก โรงแรมต่างก็จัดโปรห้องพักแบบ Staycation ฟาดฟันกันสุดดดสรุปโรงแรมที่เข้ารอบสุดท้ายตามงบประมาณที่น่ารักน่าชังในกระเป๋าคือ Sea Seeker Krabi Resort โรงแรมที่พักที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากอ่าวนางเดินไปชายหาดได้ทุกวัน

เราเคยมาพักที่นี่แล้วครั้งนึงตอนที่เขาเพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ๆ ประทับใจทั้งสระน้ำ ทั้งห้องพัก และวิวจากห้องพัก ครั้งนี้เลยเลือกพักห้องวิวเดิมคือ Cliff View หรือก็คือวิวหน้าผสนั่นเองจ้า เป็นอะไรที่ชอบมาก นั่งดูนั่งทำงานได้ทั้งวัน

พอเข้าช้วง 2 วีคกึ่งกลางการพักก็อยากจะเห็นทะเลขึ้นมาบ้างเลยเปลี่ยนเป็นห้อง Sea View แต่โรงแรมก็ใจดีด้วยความที่พักนานหรือเปล่าไม่รู้อัพเกรดห้องให้เป็น  Corner Seaview เห็นทะแบบสมใจอยากกระจบรอบห้อง ชอบห้องนี้มาก Sunset vibes คือที่สุดแนะนำเลยจ้าห้องนี้ถ้าใครที่มีแพลนจะไปกระบี่อยู่นะ

เล่าเรื่องที่พักกันไปเสร็จแล้ว มาพูดถึงเรื่องการทำงานกันบ้าง ก็ต้องบอกก่อนเลยว่าเราหรือกีกี้นั้น ก็คือ พนง. จีบัน หรือเว็บจีบันที่ทุกคนกำลังอ่านอยู่นี่แหละ เราเริ่มมีนโยบาย Work from Home กันตั้งแต่โควิดระลอกแรกยาวเรื่อยมาจนถึงตอนนี้

ปกติเวลาทำงานก็คือ 9.30-18.30 น. แต่หลังจากมาเริ่มทำงานที่นี่ก็พบว่าเราต้องปรับเวลาการทำงานนิดนึงก็เพราะกิจกรรมที่อ่าวนางของเราเพิ่มขึ้นมาเยอะชีวิตต้องจัดตารางเวลาใหม่ เริ่มทำงานตั้งแต่ 8.30-17.30 น. ซึ่งที่จีบันเราไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสลับเวลาการทำงานถ้าแบบงานเราไม่ไปกระทบกับงานใคร ถ้าเราทำงานเสร็จตามเวลาทุกอย่างมันก็โอเค๊

เล่ากิจวัตรประจำวันกันบ้างแต่ละวันทำอะไร ถ้าต้องทำงานทุกวันจะไปอยู่โรงแรมทำไม? เรื่องทุกอย่างก็คือหาทำนั่นแหละจ้า ต้องสร้างกิจกรรมให้ตัวเองแล้วคือกิจกรรมที่สร้างที่คิดมาคือเยอะมากแต่ละวันคือยุ่งสุด

ตื่นเช้ามาไปวิ่งก่อนจ้า ถ้าใครยังจำได้ ต้นปีที่ผ่านมาค่าฝุ่น กทม. พุ่งไป 200 แทบทุกวัน เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ช่วยตัดสินใจให้ไปอ่าวนาง ตอนนั้นเปิด AQI ดูที่กระบี่สีเขียว ที่กรุงเทพสีม่วง โอเคบิ๊นนนนนน

จากนั้นก็ไปหาอาหารเช้ากินแบบโลคอลลลลลล คือโรงแรมมีอาหารเช้าให้ทุกวันนะแต่กินแค่ 2-3 วันแรก ที่ยังไม่ได้วิ่งเข้าหาความโลคัลลลลล หลังจากนั้นก็กินสลับๆ กันไปอาหารเช้าโรงแรมกับร้านโลคอล

ที่เราอยู่คืออ่าวนางแล้วคือช่วงนั้นไม่ค่อยมีคนเยอะโรงแรมปิดก็เยอะ เซเว่นเปิดอยู่ร้านนึง ต้องขอบคุณการวิ่งสำรวจตอนเช้าที่ได้พาไปพบเจอกันย่านชุมชนห่างออกไปจากโรงแรมเกือบ 1 กม. ร้านขนมจีนแกงใต้อร่อยมากกกกกก ไก่ทอดอร่อยมากกกก ชายเย็นตอนเช้าคือที่สุดดดดดด
สรุปที่วิ่งไปวิ่งมาจุดหมายปลายทางของทุกวันคือร้านนี้ วิ่งเพื่อกินเข้าไปที่แท้ ;)

ช่วงกลางวันก็ทำงานกินข้าวที่โรงแรมบ้าง หรือไม่ก็เดินไปกินร้านข้าวแกงต่างๆ ที่ห่างออกไปเกือบ 1 กิโลเช่นกัน แต่ด้วยเป็นความชอบเดินด้วยระยะแค่นี้ก็สบายมากกก เสียอย่างเดียวแดดแรงมากกก

แต่อาหารที่โรงแรมก็อร่อยมากเช่นกัน แต่พบว่าไม่ค่อยได้ถ่ายรูปก็ก็ถ่ายไปแบบไม่ตั้งใจ :D

มาถึงไฮไลท์สำคัญตอนเย็น เราตั้งมั่นปณิธานกับตัวเองว่าจะไปชายหาดทุกวัน ไปว่ายน้ำต่างๆ ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกสร้างมู้ดคนเหงาที่แท้ แล้วคือเหงาจริงทั้งอ่าวนางช่วงวีคแรกที่ไปเจอ นทท รวมถึงตัวเราแค่ประมาณ 10 คน เดินนับผู้คนที่ผ่านทุกวันอะนะ :D

สหายแมวหลังโรงแรมที่เป็นทางผ่านไปชายหาด

เราก็ไปเจอร้านลับมู้ดดีมากกกกกกก The Last FisherMan อยู่สุดปลายอ่าวนางร้านนี้มู้ดดีคือที่สุดมาก ต่อมาก็คือกลายเป็นร้านทานดินเนอร์หรือข้าวเย็นแทบทุกวัน เรียกได้ว่าร้านนี้คือเงินที่จ่ายไปแทบจะมากกว่าค่าโรงแรม 5555

แนะนำอาหารทุกอย่างอร่อยมากกก พระอาทิตย์ตกคือดีมากที่สุด เพลงดีไปกับแฟนหรือไปกับเพื่อนคือได้หมดทุกมู้ดดด

+3

ตกกลางคืนก็เดินเตร๋แบบเหงาๆ แต่เราก็ชอบมู้ดนี้อ่ะนะ บางคนอาจไม่ชอบมันแบบเงียบไปหน่อย เดินเลาะฟังเสียงคลื่นไปตามถนนเส้นหลัก พนักงานทุกร้านก็ทักทายทุกวัน บางทีก็นั่งบาร์แล้วคุยกับ พนง ต่างๆ บ้างแก้เหงาปาก :D

กิจวัตรวีคเดย์มันก็ประมาณนี้ ไฮไลท์ที่สำคัญมันคือ "วีคเอน" นะทุกคนนนนน
เสา-อาทิตย์เราก็เหมาเรือหางยาวออกไปเที่ยวไปอาบแดดตามเกาะต่างๆ ก่อนมาบอสถามว่ากีกี้จะไปทำอะไรที่ทะเลตั้งนานนี่ก็บอกไปว่าจะไปอาบแดด บอสก็ถามต่อว่าทำทำไม นี่แบบโอ้ยยยบอสไลฟ์สไตล์ฝรั่งค่าาาา 5555

สรุปอาบแล้วร้อนจริง ดำจริงไม่ได้แดงๆเหมือนฝรั่ง อาบอยู่หลายวัน วีคหลังคือผิวแห้งมากกก จนเพื่อนทักว่าผิวเนียนสวยมากเหมือนรัศมี แข จังหวะนั้น พลันได้สติ เราต้องหยุดวิถีอาบแดดก่อน1

+3

ทะเลกระบี่ช่วงที่ไปสวยมาก นักท่องเที่ยวน้อย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้อีกทีเมื่อไหร่ แต่เราดีใจประทับใจมากที่ได้มากระบี่ช่วงนี้ เรือน้อยมาก เวลาเหมาเรือไปเที่ยวคือมีอยู่ประมาณ 5 ลำแหละ เวลาไปเกาะต่างๆ เป็นช่วงที่น้ำใส  ทรายขาว พระทิตย์ตกดินสีส้มสวยมากกกกกกกกก

+4

ระหว่าง Work From Krabi ก็ไม่ได้ว่าจะเหงากรุบยังมีเพื่อนสาวชาวเที่ยวแวะเวียนผลัดเปลี่ยนมาเยี่ยมทุกวีค ก็นั่นแหละจ้าหุ้นค่าเรือกันออกไปเที่ยว แล้วเดินกระตุ้นเศรษฐกิจกันเล็กน้อยในตอนเย็นแต่ละวัน

หัวหน้าก็แวะเวียนมาเยี่ยมด้วย ช่วงที่หัวหน้าแวะเวียนมาเยี่ยมชีวิตความเป็นอยู่ก็จะดีขึ้นมาประมาณนึง จากเห็นทะเลไกลๆ ก็เปลี่ยนมาเป็น Beach front Villa :DDDD 

อ่ะลืมเล่า ไปถึงกระบี่สามวันแรกน้องโทรศัพท์ Android สุดที่รักหน้าจอแตก1 เหมือนจะกระพริบปริบๆ ขึ้นมาในคืนนึง คืนนั้นจิตใจสั่นไหว ถ้ามือถือเป็นอะไรไปฉันอยู่ไม่ได้แน่ๆ เพราะเงินต่างๆ ก็ต้องทำผ่านมือถือ งานก็ต้องทำผ่านมือถือ สั่งซื้อโทรศัพท์ใหม่จ้า  ทำให้รู้ว่าชีวิตอันแสนเงียบเหงาและค่อยเป็นค่อยไป จะขาดโทรศัพท์ไปไม่ได้

แล้วด้วยความโทรศัพท์ใหม่ ก็ได้พบกับความอัศจรรย์ใจกล้องเลนส์ไวด์ ไอโฟน พี่ลูกเกดก็พี่ลูกเกดเถอะ ขายาวไม่เท่าหนูหรอก ผอมสวยสูงทุกรูป ขอบคุณน้องโทรศัพท์เก่าที่จอแตกไปทำให้พบมิติใหม่แห่งการถ่ายรูป

สรุปของเด็ดของดีกระบี่อ่าวนาง

1. โรงแรม Sea Seeker Resort Krabi คุณภาพดีเกินราคา
2. ร้านอาหาร The Last Fisherman อาหารอร่อยบรรยากาศดีมาก
3. ร้านอาหารแฟมิลี่ อาหารอร่อย
4. ร้านข้าวยำในบ้าน อาหรเช้าแบบโลคอลที่มีให้เลือกเยอะมาก อร่อย
5. ทะเลแหวกหาดนพรัตน์ คนน้อย(มากกกกก) บรรยากาศดี น้ำใส
6. เกาะปอดะ ไปอาบแดดเล่นน้ำต่างๆ ใกล้ๆ ค่าเรือถูก
7. Mother Marche มีไวน์ให้เลือกเยอะมาก ราคาโอเค
   
8. เมืองกระบี่ ร้านเรือนไม้ อาหารอร่อย บรรยากาศดี
9. ร้านกาแฟ  Sprucy Cafe & Bakery ยืนหนึ่งมาก
10. ท่าปอมคลองสองน้ำ น้ำใสสวยมาก

+8

ผ่านไปอย่างรวดเร็วการทำงานจากอ่าวนาง 1 เดือน ทุกวันมันเหมือนได้เติมเต็ม อยู่กับตัวเอง อยู่กับทะเล อยู่กับเสียงคลื่น ใครต้องการพลังกาย พลังใจ บอกเลยว่าให้ไป "อ่าวนาง" 

ถ้าโควิดเบาบางลงและ Work From Anywhere ยังคงทำได้อยู่อยากจะลอง Work From Europe บ้างจังเลยยยย :)