#รับบทสาวตัวหอม รีวิว 10 น้ำหอมกลิ่นโปรด พาร์ท 2 ฉีดอยู่บ้านก็ได้!
Pat Apassara
63
18
หลังจากรีวิวน้ำหอมตัวแรกไปปีกว่าๆ หันมาดูอีกทีมีน้องเข้ามาในกรุเพิ่มขึ้นกว่า 10 ตัว บ้าไปแล้ว!! ยังคงเป็นน้ำหอมเลิฟเวอร์ ทั้งที่ก็ไม่ได้ฉีดออกไปไหนให้ใครดมทั้งน้านนน~ แต่ก็ยังไม่หยุดซื้อ เพราะว่ากลิ่นหอมๆ เนี่ยมันคือความฟิน แค่ฉีดเอง ดมเองอยู่บ้านก็แฮปปี้แล้วว :)
น้ำหอม 10 ตัวนี้ส่วนใหญ่สารภาพเลยว่าฉีดหลักๆ อยู่จริงๆ ไม่กี่ตัวหรอก เพราะรักตัวไหนก็จะรักอยู่อย่างนั้นไม่มีเปลี่ยนใจ (แต่ยังไงก็ต้องมีกลิ่นอีกด้วย!) สังเกตว่ากลิ่นที่ตัวเองชอบส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์ฟลอรัลๆ มัสก์หน่อยๆ แต่ไม่ชอบสไตล์แบบหวานเลี่ยนไปเลย
Miss Dior Blooming Bouquet
นี่คือน้ำหอมที่สุด!! สุดยอด ดีเลิศ เด็ดขาด อันดับหนึ่ง ศักดิ์สิทธิ์ มหัศจรรย์ ที่สุด สุดยอด เยี่ยม ยอดเยี่ยมของแจ้!! 5555555 เอาเป็นว่าเป็นน้ำหอมที่รักม๊ากกก ในปีนี้ฉีด 50ml หมดไปแล้วหนึ่งขวด.. แง้
พูดถึงเรื่องกลิ่นน้องเป็นน้ำหอมกลิ่นสไตล์ฟลอรัลที่ไม่หวานเลี่ยนเลย ให้ลุคลูกคุณ ดูเป็นคุณหนูบอบบางแกะขวดน้ำหมุนเองไม่ได้ ยกของเองไม่ไหว มีคนขับรถมาเปิดประตู้ให้อะไรแบบนั้น อิอิ มันดูเป็นกลิ่นที่แม้ถึงคนจะใช้เยอะแต่เราว่ามันไม่ได้โหลจนเกินไป แต่เรื่องความติดทนของน้อนนั้น เต็มสิบ ให้เลย 5 น้องไม่ค่อยทนเลยยย แต่ทนได้ เพราะรักมาก
Top Notes : Sicilian Mandarin
Middle Notes : Pink Peony, Damask Rose, Apricot และ Peach
Base Notes : White Musk
Sì Passione
น้ำหอมขวดสีแดงแรงฤทธิ์ตัวดังงง แค่เห็นขวดก็รู้ดีกรีความแซ่บ เป็นกลิ่นที่ฉีดที่ไรก็มีคนทัก! แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงทักนะ555555 ส่วนใหญ่เราจะชอบฉีดตอนเย็นๆ กลางคืนไปเลย เพราะรู้สึกว่ามันมีความหนัก กลิ่นแน่นอยู่ ถ้าจะฉีดกลางวันนี่ต้องเบามือมากกลัวทำร้ายคนรอบข้าง แต่เป็นน้ำหอมอีกตัวที่รักมากกก เวลาฉีดแล้วชอบดมตัวเอง
Top Notes : Pear, Black Currant, Pink Pepper และ Grapefruit
Middle Notes : Pineapple, Rose, Heliotrope และ Jasmine
Base Notes : Vanilla, Cedar, Amberwood และ Patchouli
Chloé Love Story
เพิ่งได้น้องคนนี้มาไม่นานก็เลยยังแทบจะไม่ค่อยได้ฉีดเท่าไหร่ ส่วนตัวเราชอบน้องโบว์ครีมอยู่แล้วเลยจะมีความรักโคลเอ้มากเป็นพิเศษ สำหรับตัวนี้น้องมีความเป็นน้ำหอมลูกคุณเบาๆ เพิ่งเห็นว่าเบสโน๊ะเป็น White Musk คล้ายกับตัว Dior Blooming ลูกรักเลยยย ส่วนตัวกลิ่นความรู้สึกแรกที่ดมมันเป็นดอกไม้แบบโตๆ หน่อย ดูนิ่งๆ เชิ่ดๆ ไม่ได้ขี้เล่นแบบดิออร์ มีความโตมากกว่า แต่เป็นกลิ่นสไตล์เบาๆ ที่ฉีดแล้วไม่ทำร้ายใคร
Top Notes : Bergamot
Middle Notes : Orange Blossom, Plum Blossom, Nasturtium, Rose, Lily-of-the-Valley และ Green Note
Base Notes : White Musk
Dolce & Gabbana Ladies Dolce Peony
ซื้อน้องลายดอกไม้ขวดม่วงนี่เพราะความเป็น Peony เลย แต่ไปมาๆ กลับไม่ชอบ Peony นี้ซะงั้น แงงง น้องมีความเป็นกลิ่นดอกไม้ที่สดใสชัดเจน แต่เรารู้สึกว่ามันมีความแหลมโดดของกลิ่นอะไรบางอย่างขึ้นมา จนแอบไม่ถูกจริตสักเท่าไหร่ เลยฉีดน้อยม๊ากๆๆ มันเหมาะกับวันที่แบบสบายๆ ไปเดินสวน เหมือนไปเที่ยวทุ่งดอกไม้ที่ภาคเหนืออะไรแบบนี้ (ไปเหนือก่อนละกันเพราะไปตปทไม่ได้) แต่เอาจริงๆ เป็นกลิ่นที่หอมเลย แต่สำหรับเราอาจจะไม่ได้ชอบอะไรมากมายแค่นั้น แนะนำว่าใครชอบ Peony ต้องลองดมดูก่อน เพราะน้องไม่ได้แย่นะ แค่ไม่ถูกจริตเรางับ
Top Notes : Pear, Cyclamen, Bergamot และ Pink Pepper
Middle Notes : Peony, Freesia และ Bulgarian Rose
Base Notes : Mirabelle, Honey, Ambroxan และ Patchouli
Burberry Her Blossom
ว้าวววว อีกหนึ่งกลิ่นน้ำหอมตัวดังของสาวหวานนน ไม่แพ้รุ่น Her ออริจินอลว่าชมพูอ่อน แต่ตัวออริจินอลจะมีความเป็นฟรุ๊ตตี้มากกว่า ตัวนี้จะมาทางฟลอรัลค่า เป็นอีกตัวที่ชอบเลยน้องมีความไลท์อ่ะ รู้สึกว่าฉีดในวันสบายๆ ไปทำงานในชีวิตประจำวันได้ปกติ แต่พอไลท์มากๆ ข้อเสียเลยก็คือไม่มีความติดทน กลิ่นเหมือนแค่มอไซต์วิ่งผ่านหนึ่งครั้งก็หายแล้วแงงง แต่เป็นน้ำหอมอีกตัวที่ชอบมากกกๆ เพราะมีความผู้ดี ลูกคุณไม่เอะอะ ดูเป็นสาวหวานๆ นิ่งๆ ทายาทอันดับหนึ่งของบริษัทอะไรแบบนี้ เป็นตัวอีกตัวที่เชียร์เลยยย
Top Notes : Mandarin และPink Peppercorn
Middle Notes : Plum Blossom และ Peony
Base Notes : Musk และ Sandalwood
Burberry Black
ตัวนี้ได้ต่อมาจากเพื่อนอีกทีนึง (ซื้อต่อนะคะ มันไม่ให้ฟรี!) เป็นน้ำหอมกลิ่นแนว Amber ที่เราแทบจะไม่มีเลย น้องจะมีความแบบสุขุมนุ่มลึก ดูเซ็กซี่เบาๆ แต่เหมาะกับการฉีดแบบงานกลางคืนไปเลยมากกว่า ฉีดตอนกลางวันคนข้างๆ แอบมีตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะเรารู้สึกว่ามันมีความแน่น และหนักอยู่ในตัวเลย ฉีดแล้วให้ลุคผู้ดีนะ แต่มีความโต อารมณ์ว่าใส่ส้นสูงกับเดรสสีแดงแซ่บๆ อะไรแบบนี้
Top Notes : Sun-drenched Jasmine
Middle Notes : Peach Nectar และ Candied Rose
Base Notes : Amber Patchouli
Dolce&Gabbana Light Blue
น้อนคนนี้มีคนให้มา จริงๆ น้องเป็นน้ำหอมผู้ชาย แต่เราว่ามันมีความ Unisex อยู่แล้ว เป็นอีกสไตล์กลิ่นที่เราไม่ค่อยมีเหมือนกัน น้องเป็นกลิ่นแนวซิตรัสที่มีความสดชื่น อารมณ์แบบทะเลเลย ถ้าผู้ชายฉีดคือให้ลุคสะอาด เนี๊ยบๆ ดูหล่อเลย
Top Notes : Bergamot, Sicilian mandarin orange, Grapefruit zest และ Juniper
Middle Notes : Rosemary, Sichuan pepper และ Rosewood
Base Notes : American muskwood, Frankincense และ Oakmoss
Coach Dream
น้อนคนใหม่ล่าสุดจาก Coach เป็นอีกตัวที่มีคนพูดถึงเยอะเหมือนกัน เป็นสไตล์ฟลอรัลอีกตัวที่เราชอบ เค้ามีความสดใส และมันไม่ได้หวานเลี่ยน ดูเป็นผู้หญิงที่มีความสนุกสนาน และไม่ได้เป็นคนหวานจัดๆ แต่ยังมีความลุยๆ อยู่ อาจจะเพราะมันมีกลิ่นของวู้ดดี้เข้ามาด้วย เราว่าเหมาะกับคนที่อยากได้ความหวานนะ สดใส แต่ไม่ได้หวานเลี่ยนจัด ยังคงมีความอบอุ่น แฝงลุคสบายๆ เข้ามาด้วย ถ้าให้นึกภาพจะนึกสไตล์แบบผู้หญิงใส่กางเกงยีนส์ แต่ผมลอนสวยเป๊ะอะไรแบบนี้ คือมีความเป็นผู้หญิงแต่ทะมัดทะแมง
Top Notes : Bitter orange และPear
Base Notes : Gardenia และ Cactus blossom
Middle Notes : Joshua tree และ Ambroxan
Jo Malone English Pear & Freesia
น้ำหอมกลิ่นดังของ Jo Malone เลยยยย เป็นอีกตัวที่หลายคนชอบ แต่สำหรับเราคือเฉยๆ ไม่ได้รักน้องมากมาย อาจจะเพราะท็อปโน๊ตน้องมีความเป็นแพร์ที่มันโทนฟรุ๊ตตี้แบบเปรี้ยวๆ ผลไม้ แต่ส่วนใหญ่เราจะชอบท็อปแบบดอกไม้มากกว่า แต่ก็ถือว่าเป็นน้ำหอมอีกกลิ่นที่ควรมีเอาไว้ เพราะฉีดแล้วน้องก็ให้ลุคสาวสดใส เป็นสาวโจมาโลนที่ดูสนุก มีความก๋ากั่น แต่ยังคงคอนเซปต์ความแพง (หรือเพราะค่าตัวน้องก็แพงจริง555) เราว่าเป็นอีกกลิ่นที่เอาไป Combine กับตัวอื่นได้ดี เพราะน้องมีความกลิ่นเฉพาะตัว
Top Notes : King William Pear
Base Notes : Freesia
Middle Notes : Patchouli
Jo Malone Peony and Blush
มากันที่น้องตัวสุดท้ายแล้วค้าบบบบ เป็นกลิ่น Peony อีกตัวที่เรามี แต่ถ้าเทียบกับ D&G จะรัก Jo malone มากกว่าซะงั้น คือน้องจะเป็นกลิ่นหวานๆ นิ่มๆ ไม่เอะอะ ดูเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยนุ่มนวล สงบ แบบหรูหรา ดูบอบบางน่าทะนุถนอม ติดท็อป 5 กลิ่นที่เราชอบเลย
Top Notes : Red Apple
Base Notes : Peony
Middle Notes : Suede
พอเอา 2 กลิ่น English Pear & Freesia + Peony and Blush มา Combine กันก็ได้อีกกลิ่นที่เราชอบนะ ชอบมากกว่ากลิ่นเดี่ยวๆ ของ English Pear & Freesia ซะอีก คือมันจะให้ทั้งความสดใส แต่ยังนุ่มนวลๆ ละมุน ลงตัวดี เป็นอีกคู่ที่จับมาเจอกันแล้วหอมค่าา แต่ส่วนตัวจะเน้นฉีด Peony and Blush ให้หนักกว่าตัว English Pear นะ
จบแล้ววสำหรับน้ำหอมที่เรามีมาอัปเดตกันในปีนี้ และยังคงตามหาที่ชอบอยู่เรื่อยๆ อิอิ ส่วนพาร์ทแรกจิ้มไปอ่านรีวิวที่นี่ได้เลยค่าาา มีใครชอบกลิ่นไหนเหมือนกันเป็นพิเศษมั้ยน้าาา :)