Slant-Eyed ดราม่าตาตี่ ที่คนเอเชียต้องโดนเหยียดเชื้อชาติเป็นประจำ

49 12
ช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าจะมีการรณรงค์ Stop Asian Hate ออกมาค่อนข้างบ่อย จนแฮชแท็ก #StopAsianHate กลับมาติดเทรนด์ทวิตเตอร์อยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ทำร้ายคนเอเชียจนได้รับบาดเจ็บ หรือถึงขั้นสียชีวิต หรือล้อเลียน เหยียดเชื้อชาติออกมาผ่านสื่อ

และไม่ได้มีแค่เอเชียที่ต้องประสบกับเหตุการณ์เหยียดเชื้อชาติ บางทีการทำขำๆ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็กลายมาเป็นดราม่าร้ายแรงได้ 4พฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติที่แนะว่า "อย่าหาทำ" แต่การล้อเลียนแบบ Slant-Eyed นี่แหละ ที่ไม่ว่าผ่านมากี่สิบปี คนเอเชียก็ยังโดล้อเลียนเรื่องนี้อยู่ดี

Slant-Eyed คืออะไร

Slant-Eyed หรือ Slant Eyes ก็มาจาก Slant (สะ-แล้น) ที่แปลว่าเอียงๆ คนผิวขาวเขามองว่าคนเอเชียมีตาที่เอียง เฉียงขึ้น หางตาชี้ขึ้น หรือตาตี่นั่นเอง เขาก็เลยเรียกคนเอเชียว่า Slant-Eyed บางทีไม่ได้เรียกอย่างเดียว แต่กลับทำท่าล้อเลียน เอามือดึงหางตาขึ้นด้วย เพื่อให้ตาหยี หรือตาตี่ ถือเป็นการเหยียดเชื้อชาติอย่างแรง!

แน่นอนว่าไม่ใช่ชาวเอเชียทุกคนที่จะมีตาแบบ Slant-Eyed  มีทั้งตาโต ตาตี่ ผสมกันไป แต่เราก็โดนเหมารวมว่าเป็นพวกตาตี่ในสายตาคนเชื้อชาติอื่นอยู่ดี

การล้อเลียน Slant-Eyed

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนบางกลุ่มยังคงเหยียดชนชาติอื่น ที่คิดว่าด้อยกว่าตัวเองแบบไม่จบสิ้น คนเอเชียเองก็โดนเหยียดเชื้อชาติจากทั้งคนผิวขาวและผิวสีอยู่บ่อยครั้ง ถ้ามีดราม่าตีกลับ ก็แค่ออกมาแก้ตัวว่าทำเพราะขำๆ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือทำเพราะชื่นชม (ไม่แน่ใจว่ามีเหตุผลไหนฟังขึ้นบ้างหรือเปล่า?)

และก็ไม่ได้มีแค่คนทั่วไปที่ล้อเลียนด้วยการทำ Slant-Eyed แต่คนมีชื่อเสียงบางคนก็ยังทำพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ จนกลายเป็นดราม่านับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน

คนดังกับการเหยียดเชื้อชาติด้วย Slant-Eyed

1. Miley Cyrus ถ่ายรูปล้อเลียนเพื่อน

เมื่อประมาณ 12 ปีก่อน ไมลีย์เองก็เคยมีประเด็นดราม่าเรื่องนี้มาแล้ว เมื่อเธอถ่ายรู)ร่วมกับเพื่อนชาวเอเชีย และทำท่าล้อเลียนตาตี่โพสใส่กล้อง แฟนๆ ชาวเอเชียรู้สึกผิดหวังกับไมลีย์และเรียกร้องให้ไมลีย์ออกมาขอโทษ แม้ตอนนั้นไมลีย์จะยังค่อนข้างเด็ก แต่แฟนๆ ก็หวังว่าเธอจะเข้าใจมากขึ้นว่า การเหยียดเชื้อชาติแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ยอมรับได้

2. นักร้องชาวยูเครนโพสต์ท่า Slant-Eyed ลงอินสตาแกรม

Regina Todorenko นักร้องดังชาวยูเครนโพสต์รูปลงไอจีส่วนตัว เป็นรูปที่ทำ Slant-Eyed พร้อมแคปชั่นบรรยายความยิ้มยากของชาว Slav เทียบกับประเทศอื่นที่ยิ้มง่ายกว่า พบว่าเขามีความสุขมากกว่า บางทีก็ยิ้มเพื่อบรรเทาสถานการณ์ให้ดูตึงเครียดน้อยลง หลังจากที่เธอทำการโพสต์รูปนี้ไปทัวร์ก็ลงในทันที ว่าเธอเป็นพวก Racist

3. โค้ชวอลเลย์บอลชาวรัสเซีย

Sergio Busato ผู้ช่วยโค้ชวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติรัสเซีย ได้ยิ้มใส่กล้องพร้อมกับท่าตาตี่ หลังจากที่ทีมชาติรัสเซียเอาชนะเกาหลีใต้ไปได้ในการแข่งโอลิมปิคปี 2019 ก็เลยโดน FIVB แบนไปสามเกมทางทีมก็ออกมาขอโทษ แต่พอเจ้าตัวรู้ข่าว กลับบอกว่ารู้สึกเซอร์ไพรส์มากที่ทุกคนสนใจและขอโทษ เขาเพียงแต่เฉลิมฉลองให้กับชัยชนะเท่านั้น

4. นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเซอร์เบีย

เมื่ออาทิตย์ก่อนวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ได้มีแมตช์การแข่งขันกับทีมชาติเซอร์เบียที่อิตาลี และกล้องก็ไปจับภาพ Sanja Djurdevic นักวอลเลย์บอลทีมชาติเซอร์เบียที่ทำท่า Slant-Eyed ไว้ได้ทัน ทำให้ภาพที่เธอทำการเหยียดเชื้อชาติแพร่ออกไปทั่วโลก ต่อมาเธอก็ได้ขอโทษกับทีมไทยทั้งทีม

ปลื้มจิตร์เองก็อัดคลิปยอมรับคำขอโทษ พร้อมแก้ต่างให้เข้าใจว่า Sanja Djurdevic ไม่ได้ตั้งใจจะเหยียด เธอแค่ส่งสัญญาณว่าอยากให้ทีมเซอร์เบียรับลูกป้องกันได้ดีเหมือนไทย ในคลิป Sanja Djurdevic ได้ร้องไห้ และขอโทษ ต่อมาทีมเซอร์เบียก็ได้ออกจดหมายขอโทษอย่างเป็นทางการออกมา
เรื่องนี้ทำให้ #StopAsianHate กลับขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 2 อีกครั้งหลังจากจบการแข่งขัน มีคนไปขุดค้นเจอรูปทีมชาติเซอร์เบียเมื่อปี 2017 ก็ทำท่าตาตี่กันทั้งทีม! กระพือความโกรธมากกว่าเดิมไปอีก ถึงจะออกมาขอโทษแล้ว แต่อย่าลืมว่าหลักฐานสิ่งที่เคยทำไว้ ไม่มีทางหายไป และความรู้สึกคนเอเชียที่เสียไป ก็กู้กลับคืนมาไม่ได้
และล่าสุดวันนี้ (9 มิ.ย. 64) สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ก็ประกาศลงโทษ Sanja Djurdevic โดยทำการแบนไม่ให้เล่นสองเกม และปรับเงินทีมเซอร์เบียเป็นจำนวนเงิน 20,000 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 700,000 บาท)  และเอาเงินค่าปรับนั้นไปบริจาคให้องค์กรที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ และอาจจะสมทบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการเหยียดเชื้อชาติด้วย

จะเห็นได้ว่าต่างชาติเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ การเหยียดเชื้อชาติถือเป็นพฤติกรรมที่ร้ายแรงและยอมรับไม่ได้ 

Slant-Eyed กับเทรนด์แต่งหน้า Fox Eye

เมื่อไม่นานมานี้ใน TikTok จะมีเทรนด์การแต่งหน้าแบบ Fox Eye คือการแต่งหน้าให้อายแชโดว์ลากยาวขึ้นไปจนเกือบถึงหางคิ้ว เพื่อให้ตาดูเฉียงขึ้นแบบคนเอเชีย และคอนทัวร์บริเวณจมูกให้ดูเล็กขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่คือคนขาวที่ออกมาแต่งหน้าลุคนี้ เป็นการแต่งหน้าเลียนแบบทรงตา Slant Eyes ของชาวเอเชีย 
และชาวเอเชียส่วนใหญ่แล้ว ก็ไม่มีใครปลาบปลื้มกับการแต่งหน้า Slant Eyes แบบนี้ แต่กลับรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าแรงๆ เพราะนี้เป็นการเหยียดเชื้อชาติที่คนเอเชียมักโดนดูถูกอยู่บ่อยครั้ง แต่กลับเอาสิ่งนี้มาเป็นความสวยงามในสไตล์คนขาว พอคนตะวันตกทำกลายเป็นความสวยงาม แต่พอเป็นคนเอเชียที่มีรูปตาแบบนี้จริงๆ กลับโดนเหยียด

และโดยเฉพาะหลังจากมีการระบาดของโรค Covid-19 คนจีน (รวมถึงคนเอเชียชาติอืนที่โดนเหมารวม) ในต่างแดนก็มักจะโดนเหยียดและด่าทอมากขึ้น เพราะโดนตราหน้าว่าเป็นตัวการแพร่ไวรัสนี้ คนขาวไม่มีทางเข้าใจความยากลำบากในการใช้ชีวิตที่โดนเหยียดเชื้อชาติ 
เพราะฉะนั้นเทรนด์การแต่งหน้าแบบ Fox Eye ก็เป็น Cultural Appropriation ไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ เช่นกัน ถือป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เราอาจจะชื่นชอบ มองว่ามันก็สวยดีไม่เห็นเป็นไร แต่อย่าลืมว่ายังอีกหลายคนทรมานกับการที่สิ่งเหล่านี้ เพราะมันทำให้ชีวิตเขารู้สึกไม่ปลอดภัย โดนเหยียดหยาม และโดนกดทับ

เรื่อง Cultural Appropriation เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน หนึ่งคนโอเค ไม่ได้เท่ากับทุกคนในชนชาตินั้นโอเค  ทางที่ดีลองถามความคิดเห็น หรือขออนุญาตเจ้าของวัฒนธรรมนั้นก่อน ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี :)


sweetsong13

sweetsong13

A dreamer who loves to write
www.sweetsong13.com
sweetsong13@gmail.com

FULL PROFILE