[Review] ทำความเข้าใจ ก่อนลองใช้เซรั่มวิตามินซี FACELABS Luminah C เพื่อปรับผิวกระจ่างใส
turtle.yolq
78
28
WITH <strong>Facelabs</strong> / ร่วมงานรีวิวกับแบรนด์ :)
“ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย”
บางทีก็อยากลองเซรั่มวิตามินซี แต่ไม่รู้จะใช้ตัวไหนดี?
เราก็เป็นคนนึงที่เมื่อก่อนเคยเจอปัญหานี้เหมือนกัน ใจอยากลองเซรั่มวิตามินซีมากกก แต่พอลองแล้วไวกับผิว หน้าเห่อ ผื่นขึ้น แดงเป็นแถบ / ตอนนั้นเข้าใจว่า แพ้ แต่จริงๆ คือระคายเคืองค่ะ ฮือออ ดีที่ปัจจุบันดูแลผิวดีมากขึ้นเลยแข็งแรงพอที่จะใช้เซรั่มวิตามินซี ได้หลากหลายมากขึ้น แต่ก็ยังเน้นเลือกตัวที่ตอบโจทย์ผิวบอบบาง+ความต้องการของผิวอยู่ และหนึ่งในตัวที่เราลองและอยากหยิบมาบอกต่อในวันนี้ก็คือ FACELABS Luminah C นั่นเอง
แต่ก่อนที่จะไปดูเจ้าตัว FACELABS Luminah C
มาทำความเข้าใจ ก่อนเลือกใช้เซรั่มวิตามินซีโดยทั่วไปกันก่อนค่ะ
1) เซรั่มวิตามินซี มีประโยชน์หลักๆ ในเรื่องของต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) / ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนรอยสิว / เสริมสร้างการสร้างคอลลาเจน ฯลฯ ใครที่ต้องการเรื่องเหล่านี้ วิตามินซีถือว่า ตอบโจทย์!
2) วิตามินซี มี 2 ประเภท คือ L-ascorbic acid มีวิจัยรองรับเยอะ ประสิทธิภาพสูง แต่ความเสถียรน้อย กับ อนุพันธ์วิตามินซี Vitamin C derivatives ซึ่งอนุพันธ์วิตามินซี ปัจจุบันมีให้เลือกหลายชนิด แต่คุณสมบัติบางอย่างอาจต่างกัน เช่น ความเสถียร ความทน เรื่องที่ตอบโจทย์ผิว เป็นต้น
3) ส่วนใหญ่จะแนะนำความเข้มข้นที่ ไม่เกิน 20% เพราะมากกว่านี้ไม่ได้ช่วยให้ผิวเห็นผลลัพธ์ดีมากขึ้น แต่ยังเพิ่มโอกาสระคายเคือง ซึ่งผิวบอบบาง แพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย ปกติจะแนะนำที่ไม่เกิน 10-15% เพราะมีโอกาสเสี่ยงระคายเคืองได้ง่าย (สัดส่วนที่ควรใช้อาจขึ้นอยู่กับประเภทของวิตามินซีด้วย)
4) ผิวบอบบาง อาจหลีกเลี่ยงตัวที่มีน้ำหอม + แอลกอฮอล์ ปริมาณเยอะ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงระคายเคืองเพิ่มขึ้น
ปล. ระคายเคือง ไม่ใช่การแพ้ ถ้าแพ้วิตามินซี ควรหลีกเลี่ยงน้าาา
FACELABS Luminah C’erum กับ Booster
เซรั่มวิตามินซี สูตรพิเศษ จาก FACELABS เป็นเวชสำอางที่คิดค้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ทำให้มั่นใจได้ว่าใช้ได้กับทุกสภาพผิว ทั้งผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย รวมถึงคนท้องและคนให้นมบุตร แบ่งออกเป็น 2 สูตร ให้ตอบโจทย์กับสภาพผิว คือ ตัว Booster จะเหมาะกับผิวธรรมดา-ผิวแห้ง แต่ C’erum จะเหมาะกับผิวธรรมดา-ผิวมัน
ส่วนตัวเป็นผิวธรรมดา ก็จะเลือกใช้ได้ทั้ง 2 สูตรเลย แต่พอหลังจากลองใช้จริงแล้วเลย คิดว่า FACELABS Luminah C’erum เนื้อเซรั่ม บางเบา จะตอบโจทย์กับการใช้เช้า-เย็นมากกว่า
แพ็กเกจ เป็นหลอดปั๊มสุญญากาศ ขวดทึบ
ลดโอกาสวิตามินซีเสื่อมสภาพไว จากการสัมผัสกับอากาศ และแสง
ส่วนประกอบหลัก :
มีวิตามินซีแบบ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid ให้ผลใกล้เคียงกับ L-Ascorbic Acid แต่เสถียรสูง สามารถปรับผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ด้วยการยับยั้ง Tyrosinase กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์ ส่วนตัวสอบถามแบรนด์ผ่านเพจแล้วเขาแจ้งมาว่า เข้มข้น 3% มีการทดลองแล้วว่า ความเข้มข้นระดับนี้ สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยผิวบอบบางก็สามารถใช้ได้
นอกจากนี้จะมีตัวบำรุงอื่นๆ มาเสริม เช่น มีสารสกัด Pseudoalteromonas จากแอนตาร์กติกา ช่วยคงความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน + Glycosaminoglycans จากปลาทะเลน้ำลึก ช่วยลดเลือนริ้วรอย ลดโอกาสเกิดสิว ฯลฯ
ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน ฯลฯ
เนื้อสัมผัส เป็นเซรั่มใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะผิว สามารถใช้ได้ทั้งเช้า-เย็นเลย
(ปล. วิตามินซีสามารถใช้ตอนเช้าได้นะคะ เพื่อเสริมการปกป้องผิวจากแดดลดโอกาสผิวถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระที่เกิดจากการสัมผัสกับรังสียูวี / แต่ก็ยังต้องใช้กันแดดอยู่เสมอ ห้ามขาดเลย!)
แน่นอนว่า
ความแตกต่างระหว่างสูตร C’erum กับ สูตร Booster
ก็คือ เนื้อสัมผัส แบบเซรั่ม จะเป็นเนื้อเหลวใส บางเบากว่า ปาดแล้วแทบจะซึมเข้าผิวเลย ส่วนบูสเตอร์ก็ไม่เหนอะหนะ แต่จะเป็นสีขาว มีความนุ่มลื่นมากกว่า ส่วนตัวที่ปกติจะลงสกินแคร์หลายตัวเลยชอบแบบเซรั่มมากกว่า + ใช้ตอนเช้าแล้วสบายผิวกว่านิดนึง
นอกจากนี้ เรื่องของส่วนประกอบ พวกสารแอคทีฟหลักเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นจะเท่ากัน แต่บูสเตอร์จะเพิ่มพวกสารก่อเนื้อที่ให้ความชุ่มชื้นมากขึ้นอย่าง Glycerin + BG + Fatty Alcohol และซิลิโคน
ส่วน ค่า pH ที่เราวัดได้ ตัว C’erum จะอยู่ที่ประมาณ 3 ส่วน Booster ประมาณ 4 ตามปกติของเซรั่มวิตามินซี ไม่ต้องกลัวเรื่องผิวเสียสมดุล pH เพราะจะเปลี่ยนแค่แปปเดียว จากนั้นผิวจะปรับสมดุลเองอัตโนมัติ เพียงแค่อาจจะต้องระวังตัวที่ต่ำกว่า 2.5 เพราะมีความเป็นกรดสูง อาจจะเสี่ยงระคายเคืองง่ายขึ้น + ต้องใช้เวลาในการปรับสมดุล pH มากขึ้น
ส่วนตัวที่เราลองใช้มาประมาณ 3 สัปดาห์
เราว่า เป็น หนึ่งในเซรั่มวิตามินซีที่เนื้อสัมผัสดี ซึมไว เบาสบายผิว ไม่เหนอะหนะ ผิวผสมแบบเราชอบน้า ลงก่อนแต่งหน้ารู้สึกเครื่องสำอางติดผิวมากขึ้น
ส่วน ผลลัพธ์เรื่องที่เด่นสุด คือ ฟื้นฟูผิวให้ดูสดใสเปล่งปลั่ง สามารถคาดหวัง เรื่องความกระจ่างใสได้ ให้ความชุ่มชื้นได้ในระดับนึง แต่ยังคงต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์อยู่ ส่วนเรื่องรอยสิว + ผิวเนียนนุ่มเด้ง ใช้เสริมร่วมกับตัวอื่นๆ ได้โอเคเลย เทียบกับราคาหลักร้อย ก็ถือว่าน่าสนใจ ใส่ในรูทีนแล้วรู้สึกผิวดีขึ้น ส่วนตัวไม่รู้สึกว่าผิวไวหรือระคายเคืองใดๆ เด้อ สำหรับใครที่ผิวบอบบาง กำลังหาตัวช่วยเสริมไวท์เทนนิ่ง+ความนุ่มเด้งเบาๆ ซักตัว เราว่า C’erum ค่อนข้างน่าสนใจเลย
สุดท้ายนี้ อย่าลืมเลือกใช้สกินแคร์ให้เหมาะกับความต้องการ + สภาพผิวของตัวเองนะคะ สำหรับใครที่สนใจลองดูข้อมูลเพิ่มเติมตามช่องทาง Official ต่างๆ ของ Facelabs ได้เลยค่ะ (เฉพาะเดือน มิ.ย. ราคาพิเศษเพียง 599.- จากปกติ 799.-) ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3