NAMU LIFE MIRACLE WHITE

 เป็นสกินแคร์ไลน์ใหม่จากแบรนด์ NAMU LIFE 
 ที่เด่นด้านการเพิ่มความกระจ่างใส
 .
 ——
 .
 ซึ่งความกระจ่างใสที่เพิ่มขึ้นนี้ ทางNAMU LIFE ได้มีการทำการทดสอบอาสาสมัครหญิง 22 ราย
 โดย Dermscan Asia ระหว่างวันที่ 13-28 ตุลาคม 2563 
 ว่า100% ของอาสาสมัคร พึงพอใจในผลลัพธ์
 .
 - ที่ 3 วัน
 100% รู้สึกผิวชุ่มชื้นและแข็งแรงขึ้น
 96% จุดด่างดำและฝ้าจางลง
 .
 - ที่ 7 วัน
 100% ขนาดจุดด่างดำและฝ้าลดลง ผิวดูสว่างใสขึ้น
 91% จำนวนฝ้าและจุดด่างดำลดลง
 .
 ดังนั้นเราจึงวางใจได้ในระดับหนึ่งว่าผลลัพธ์สามารถวัดได้
 และหวังผลได้ในอาสาสมัครตามข้อมูลของทางNAMU LIFE
 .
 ——
 .
 สำหรับNAMU LIFEสกินแคร์แบรนด์ไทยที่หาซื้อง่ายราคาไม่สูงมาก
 .
 โดยไลน์ MIRACLE WHITE มีส่วนประกอบเด่น
 คือFullereneและอนุพันธ์วิตามินซี
 รูปแบบ 3-O-Ethyl Ascorbic Acid ในทุกผลิตภัณฑ์

 

 
 

ในไลน์MIRACLE WHITEนี้มี Products 3 ชิ้นคือ

  1. NAMU LIFE MIRACLE WHITE ESSENCE WATER (150 ml/ 790 บาท)
  .
  2. NAMU LIFE MIRACLE WHITE AMPOULE (7 g * 2 / 1,390 บาท)
  .
  3. NAMU LIFE MIRACLE WHITE CONCENTRATE CREAM (30 ml / 790 บาท)
  .
  ——
  .
 สำหรับวิธีการเรียงใช้ ก็จะสามารถเรียงโดย
  .
 ใช้ ESSENCE ตบบำรุงลงสู่ผิวเป็นขั้นตอนแรก ต่อด้วยการกด AMPOULE 3-4 ปั๊มต่อครั้ง
 ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
  .
 สำหรับใครที่ผิวแห้งให้ปิดจบด้วย CREAM โดยใช้ Applicator ตักเนื้อครีมออกมา
 วอร์มจนครีมละลายใส แล้วจึงกดลงให้ทั่วใบหน้า เพื่อการเกลี่ยกระจายให้ทั่วถึง
  .
 สำหรับส่วนประกอบชูโรงที่โดนัทเล่าไปว่า
 มีส่วนประกอบของFullereneและ อนุพันธ์วิตามินซี
 รูปแบบ3-O-Ethyl Ascorbic Acidอยู่ในทุกๆผลิตภัณฑ์

 

เรามารู้จักส่วนประกอบทั้ง 2 ตัวกันดีกว่าค่ะ

.
 เริ่มที่FULLERENE
  .
 Fullerene มีต้นกำเนิดจากการค้นพบของนักฟิสิกส์ 3 ท่าน และต่อมาท่านก็ได้รางวัลโนเบล
 ซึ่ง Fullerene นี้คืออัญรูปหนึ่งของคาร์บอน (แปลว่าตัวมันมีแต่โมเลกุลของธาตุคาร์บอนล้วนๆ)
 .
 และ Fullerene ตัวที่ดังที่สุดคือ Buckminsterfullerene 
 (ตั้งตามชื่อและนามสกุลของผู้ค้นพบค่ะ)
 โดยความเท่อยู่ที่รูปทรงโมเลกุล  คือทรงเหมือนลูกบอล  และมีคาร์บอน 60 ตัวในโมเลกุล
 .
 ด้านเกี่ยวกับความงาม
 ซึ่งในวงการเครื่องสำอางเริ่มเอามาใช้ เพราะค้นพบว่าตัว Fullerene มีความสามารถด้านการ
 “แอนตี้ออกซิแดนท์ที่แข็งแกร่งมาก”  (Potent Antioxidant) 
 .
 และความดีความชอบของ Fullerene คือ มี 30 แขน ที่จะจับกับอนุมูลอิสระ คือสรุปเลยว่ามันจับได้เยอะ
 กว่าแอนตี้ออกซิแดนท์ตัวอื่นแบบทิ้งห่างเลยค่ะ
 .
 เปรียบเทียบก็คล้ายเป็นฟองน้ำที่เอาไว้ซับอนุมูลอิสระ แบบซับได้ทีละเยอะๆเลยแบบนั้นค่ะ
 และข้อดีอีกอย่างคือทนต่อแสง และความร้อนมาก  แปลว่าตัวสารอยู่ยงคงกระพันกว่าวิตามินอื่นๆvที่เราใส่ในเครื่องสำอาง
 .
 และจากการศึกษาพบว่า Fullerene มีความสามารถในหลายด้านคือ
 .

• Whitening  (กระจ่างใส)
• Anti- Wrinkle (ต้านริ้วรอย)
• Hair Growth (กระตุ้นการงอกของเส้นผม)
• Anti- Acne (ต้านการเกิดสิว)
• Pore Tightening Effect (กระชับรูขุมขน)

 .
 ซึ่งผลลัพธ์ต่างๆและผลจากการศึกษานั้น ส่วนมากหรือเกือบทั้งหมดมาจากการต้านอนุมูลอิสระ
 ลดการเกิดความอันตรายจากปัจจัยต่างๆภายนอก ที่จะก่อให้เกิดปัญหาผิวทั้งนั้นเลยค่ะ
 .
 ——

และส่วนประกอบอีกชนิดคือ3-O Ethyl Ascorbic Acid
 เป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่ค่อนข้างคงตัว ไม่เสื่อมสลายง่าย และสามารถดูดซึมลงสู่ผิว และทำงานได้ทันที
 .
 โดย 3-O-ethyl ascorbic acid สามารถยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ
 การสังเคราะห์เมลานิน ซึ่งจะส่งผลให้การสร้างเมลานินลดลงซึ่งเป็นการลดจุดด่างดำและความหมองคล้ำ
 .
 โดยโดนัทพอทราบว่ามีตัวที่มีชื่อการค้าว่าCORUM 9515 
 ซึ่งมีข้อมูลด้านความคงตัวของอนุพันธ์วิตามิน C ชนิดนี้ในที่อุณหภูมิสูง และที่เจอแสงอาทิตย์ ซึ่งผลลัพธ์ออกมาพบว่าค่อนข้างเสถียร
 .
 ในด้านผลลัพธ์การเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิวและลดจุดด่างดำที่มีจากวัยก็น่าสนใจเช่นกันค่ะ
 .
 ——

สำหรับตัวที่โดนัทรู้สึกว่าน่าสนใจก็คือAMPOULE 
 ที่แพคเกจจิ้งทำออกมาแบบแยก Vitamin C กับส่วนประกอบอื่นๆ
 .
 โดยก่อนใช้จะให้เรากดเพื่อให้วิตามินซีลงไปผสม กับ Solution และเขย่าให้เข้ากัน
 เพื่อความเฟรชของส่วนประกอบเวลาใช้นั่นเองค่ะ

ส่วนประกอบเต็มของNAMU LIFE MIRACLE WHITE AMPOULE

.
 WATER, 3-O-ETHYL ASCORBIC ACID, NIACINAMIDE,
 PENTYLENE GLYCOL, PROPANEDIOL,
 ALPHA-ARBUTIN, PEG-40 HYDROGENATED
 CASTOR OIL, XANTHAN GUM, BUTYLENE GLYCOL,
 PHENOXYETHANOL, BIS-PEG-12 DIMETHICONE,
 DIPOTASSIUM GLYCYRRHIZATE, CHLORPHENESIN,
 DISODIUM EDTA, TREHALOSE, GLYCERIN,
 SOPHORA JAPONICA FLOWER EXTRACT, PVP,
 FULLERENES

สำหรับ NAMU LIFE MIRACLE WHITE AMPOULE มีส่วนประกอบที่น่าสนใจหลายอย่าง
.
 ที่เด่นที่สุดคือ3-O-ETHYL ASCORBIC ACID
ที่ใส่ลงมา 8% ในสูตร ถือว่าใส่ลงมาเยอะทีเดียวค่ะ โดนัทคิดว่าคาดหวังผลด้านความกระจ่างใสได้
.
—
.
และยังมีNiacinamideใน % สูง อยู่ต้นๆสูตร
คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 5% ซึ่งมีผลดีในด้านความกระจ่างใส โดยการยับยั้งการนำส่งเมลาโนโซมขึ้นสู่ผิว
ทำให้เสริมฤทธิ์ไวท์เทนนิ่งไปได้อีก
นอกจากนั้น Niacinamide 5 % ก็ยังมีผลดี ต่อผิวที่เป็นสิวด้วย
.
—
.
ในสูตรเพิ่มAlpha Arbutinลงมา สำหรับฟังก์ชั่นการทำงานของ Alpha Arbutin คือการไปขัดขวาง
การทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนสส่งผลให้การผลิตเมลานินลดลง ผิวจึงกระจ่างใสขึ้น
.
—
.
ในด้านการเพิ่มความชุ่มชื้น โดยการดึงความชุ่มชื้นจากอากาศเข้าสู่ผิว ในสูตรมีTREHALOSE
 และ GLYCERIN ในปริมาณเล็กน้อย
.
—
.
ในสูตรยังมีDIPOTASSIUM GLYCYRRHIZATE (DPG)
หรือสารสกัดจากชะเอมเทศ (Licorice) ที่เรามักเจอในสกินแคร์กลุ่มลดอาการระคายเคือง
เพราะสารสกัดจากรากชะเอมเทศมีสรรพคุณด้าน Anti-inflammatory ที่ดีมาก จึงทำให้ผิวสบายขึ้น
.
—
.
นอกจากนั้นในสรรพคุณการทำให้ผิวสบาย
 ยังมีSophora Japonica Flower Extract
ที่มีสารออกฤทธิ์คือ sophoricoside ที่มีการศึกษาว่าพบฤทธิ์ลดอาการระคายเคือง ผื่น บวมคัน ได้ดีมากๆ
และใช้ในตำรับยาจีนและญี่ปุ่นมายาวนาน
.
ซึ่งส่วนประกอบตัวนี้ใส่มาในลำดับท้ายๆจึงไม่แน่ใจ % และการหวังผลลัพธ์
.
——
.
และในสูตรมีFULLERENE มาในอันดับสุดท้าย
ซึ่งปกติ FULLERENE ควรอยู่ในปริมาณ 1 %โดนัทคิดว่าถ้าเพิ่ม % ของ FULLERENE ขึ้นมาอีก
จะยิ่งน่าสนใจยิ่งขึ้นค่ะ

Texture ของNAMU LIFE MIRACLE WHITE AMPOULE

.
 ก่อนกดอนุพันธ์วิตามิน C ลงผสมตัว Solution จะเหลว แต่เมื่อกดผสมและเขย่าแล้วจะเห็นว่าตัว Solution มีความหนืดขึ้น จากเนื้อ Liquid เปลี่ยนเป็น Gel เบาๆ
.
ซึ่งทำให้เกลี่ยบนผิวได้ง่าย ลื่นสบาย ซึมไว และไม่เป็นขุย ในทุกสูตรไม่มีน้ำหอม และสีนะคะ ดีมากๆสำหรับใครที่กังวลว่าจะแพ้ 2 สิ่งนี้

Results

NOTE

.
  - MIRACLE WHITE AMPOULE มีอายุ 3 ปีนับจากวันผลิต

  - MIRACLE WHITE AMPOULE เมื่อกดผสมส่วนประกอบแล้ว มีอายุสูงสุดที่ 10 วัน
  .
  - ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  .
  - มีข้อมูลจากทาง NAMU ว่าตัว Vitamin C ใน Ampoule เสถียร แต่เพื่อความมั่นใจแนะนำเก็บให้พ้นแสง และความร้อน

- เครื่องสำอางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสีผิวตามธรรมชาติ ของแต่ละบุคคลได้
- ผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล