รีวิว: รองพื้นคู่แฝด ของถูกที่ใช้แล้วดูแพง (Zoom ลึกถึงระดับตาข่ายผิว)

52 17

เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย แต่การจะแต่งหน้าให้ออกมาสวยไม่สะดุด สำคัญสุดๆคือ”งานผิว” เห็นด้วยไหมคะ?

  วันนี้เราอยากจะนำเสนอรีวิวรองพื้นแบบแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร เป็นการรีวิวรองพื้นคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ (ต่ำกว่า 700 บาท)   ทาออกมาแล้วให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับรองพื้น Hi-end ราคาแพง (Version2) เปรียบเทียบเนื้อรองพื้น ด้วยกล้องที่มีความละเอียดสูง ซูมดูผิวกันแบบชัดๆถึงระดับตาข่ายผิวกันไปเลย (ยาวนิดนึงนะคะ เพราะตั้งใจทำม้ากกกกค่ะ)

และนี่คือรองพื้นลูกรักทั้ง 8 ตัว ที่เราเลือกนำมารีวิววันนี้ค่า 
(บางตัวอาจจะมีซ้ำกับรีวิวที่เเล้วบ้าง ไม่ว่ากันนะค้าาา เราทดสอบดูเเล้วเนื้อใกล้เคียงกับอีกตัวที่เลือกมาครั้งนี้มาก เลยขอหยิบขึ้นมารีวิวอีกครั้งค่ะ)

1. LANCOME: Teint Idole Ultra Wear Foundation
2. MAYBELLINE : FIT ME Matte +Poreless Foundation
3. ESTEE LAUDER : Double Wear Stay in Place Foundation
4. CUTE PRESS : Airy Matte Foundation
5. BOBBI BROWN : Intensive Skin Serum Foundation
6. LUCIA : Baby Skin Foundation
7. COVERMARK : Essence Foundation UV JQ
8. SRICHAND : Skin Essential Foundation

ทาให้ดูTexture ของเนื้อรองพื้น ในปริมาณ 1 ปั๊ม ของแต่ละแบรนด์ค่ะ 
ป.ล.ยกเว้น3ตัวนี้ ที่ไม่ใช่แบบหัวปั๊ม คือ Estee Lauder(เป็นแบบเท), Lucia (เป็นแบบกด Airless) และ Covermark (เป็นกระปุก ใช้ไม้พายตัก) ก็พยายามตักออกมาให้ปริมาณใกล้เคียงกันที่สุดค่ะ แหะๆ


เนื้อของ Lancome และ Estee Lauder จะมีความเป็น Liquid เนื้อเหลว ย้อยง่ายมาก ส่วนตัวอื่นๆจะค่อนข้างมาทาง Liquid-Cream และ Covermark จะเป็นเนื้อครีมที่ดูจะข้นที่สุดค่ะ
ลองทาทับอายไลเนอร์ที่เขียนเลขไว้ เพื่อเปรียบเทียบเรื่องการปกปิดดูค่ะ
จะเห็นได้ว่ารองพื้นที่เราจับคู่มาให้ดูในภาพ ทาออกมาแล้วให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันมากๆ ทั้งในเรื่องของสี Finishing และระดับการปกปิดที่เท่าเทียมกัน

เราจะรีวิวเทียบไปทีละคู่นะคะ

เริ่มจากคู่แฝดแรกค่ะ
คู่แฝดที่ 1 รองพื้นคุมมัน เนื้อกึ่งแมท
LANCOME: Teint Idole Ultra Wear FD (SPF 38 PA+++, 30 ml, 1950 THB, MADE IN FRANCE)
            รองพื้นตัวดังที่ Blogger หลายคนเชียร์ว่าให้งานผิวดีเริ่ด สวยใส มีออร่า คุมมันตลอดวันเพราะเป็นรองพื้นสูตรปราศจากน้ำมัน และยังมีส่วนประกอบของเพอร์ไลน์และซิลิกาที่ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้า กันน้ำ กันเหงื่อ แต่บางเบา เกลี่ยง่าย ไม่อุดตันรูขุมขน ปกปิดระดับกลาง-สูง
            นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเม็ดสีNAI รักษาความสมดุลของค่า pH บนใบหน้า ช่วยให้สีไม่ดร๊อประหว่างวัน
มีสีให้เลือกเยอะม้าก หลายโทนหลายเฉดสี ตอนซื้อคือเลือกสีกันจนมึนไปหมด แต่ข้อดีคือเนื่องจากเป็นเคาทเตอร์แบรนด์มี BA ช่วยแนะนำและเทสต์สีให้จริงบนหน้า ผลออกมาคือได้รองพื้นสีสวยเข้ากับผิวจริงมากๆ แบรนด์เคลมว่าเนื้อแมท แต่สำหรับเราคิดว่าเป็นแบบกึ่งแมทมากกว่า เพราะผิวดูมีการกระจายแสงประมาณนึง
แพคเกจจิ้งเป็นหัวปั๊ม ใช้งานง่าย ไม่เลอะเทอะดีค่ะ

MAYBELLINE FIT ME Matte +Poreless Foundation (SPF 22, 30 ml, 349 THB, MADE IN CHINA)
            รองพื้นDrug Store รุ่นยอดนิยมที่ขายดีอันดับต้นๆของโลก เหมาะกับสาวผิวมันถึงผิวธรรมดา มีส่วนผสมจากโคลนธรรมชาติ ช่วยคุมมัน ปกปิดระดับกลาง-สูง ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดี
            มีให้เลือกมากถึง 20 เฉดสี ตั้งแต่ขาวยันเข้ม ต้องช่วยเหลือตัวเองในการเลือกสี ถ้าโชคดีได้เจอ BA ก็จะได้รับคำแนะนำในการเลือกสีระดับนึง เนื้อรองพื้นบางเบา เกลี่ยง่าย ให้ลุคกึ่งแมต
แพคเกจจิ้งเป็นหัวปั๊ม ใช้งานง่าย ไม่เลอะเทอะ
การปกปิดระดับ Medium-Full Coverage ให้ลุคกึ่งแมท แบบผิวกำมะหยี่ ลองซูมดูด้วยกล้องละเอียดระดับ Super-Macro ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันมากๆค่ะ Lancome ดูจะกระจายแสงได้ดีกว่าเล็กน้อย
หลังฉีดสเปรย์น้ำลงบนผิว เนื้อรองพื้นกลืนน้ำไประดับนึง เมื่อซับน้ำออกด้วยกระดาษทิชชู่ Lancome กันน้ำได้ดีตามที่เคลม ส่วน Maybelline สีของรองพื้นมีหลุดออกมาพอสมควร ข้อดีคือหลังซับน้ำแล้วรองพื้นที่ผิวไม่ด่าง แต่ความกระจายแสงดร็อปลงอย่างเห็นได้ชัดค่ะ


คู่แฝดที่ 2 ครองตำแหน่งเทพีรองพื้นหน้าเป๊ะ เนื้อแมท ปกปิดสูง
ESTEE LAUDER : Double Wear Stay in Place Foundation (SPF 10 PA+++, 30 ml, 2000 THB, MADE IN BELGIUM)
            รองพื้นเนื้อแมต คุมมันในตำนานที่ทุกคนรู้จักกันดีว่าเค้าปกปิดขั้นสุด และคุมมันขั้นเทพ สมชื่อ Stay in Place ไม่ออกนอกลู่นอกทาง กันน้ำ กันเหงื่อ ติดทนตลอดวัน ขึ้นแท่นรองพื้น Must have! ที่คนวัย 30+ต้องมี
            แต่มีข้อเสียคือ เกลี่ยยากมากกกกก! แห้งไวเกิ๊น คือต้องมีสกิลในการแต่งหน้าระดับนึงถึงจะเกลี่ยออกมาได้สวย เราถนัดใช้แปรงหรือฟองน้ำเปียกมากกว่า เพราะเวลาใช้นิ้วมือเกลี่ย บางครั้งแห้งเป็นรอยนิ้วมือตราอยู่บนหน้าเลย >_< 0
ข้อเสียอีกข้อคือแพคเกจจิ้งเป็นขวดแก้ว มีแค่ฝาเกลียวปิด อากาศเข้าง่าย และไม่มีหัวปั๊มให้ เวลาใช้งานต้องเทแบบกะน้ำหนักมือให้พอดี ไม่งั้นออกมาเยอะเกินไปบ้าง หกเลอะเทอะบ้าง แอบเสียดายค่ะ ยิ่งแพงๆอยู่ แต่มีวิธีแก้ไขคือซื้อหัวปั๊มของ MAC มาใส่แทนได้ค่ะ อันละเจ็ดร้อยกว่าบาท ใครมีทุนทรัพย์เพียงพอ จัดไปค่ะ


CUTE PRESS Airy Matte Foundation (SPF ไม่ระบุ, 30 ml, 399 THB, MADE IN THAILAND)
รองพื้นแบรนด์ไทย ราคาน่ารัก เนื้อครีมเกลี่ยง่าย คุมมันดีเหมาะกับคนผิวมัน-ผิวผสม ปกปิดปานกลาง แต่ทาซ้ำเพื่อบิวท์ผิวให้ปกปิดเพิ่มได้สูงโดยที่ไม่เป็นคราบ กันน้ำ กันเหงื่อ และเบลอรูขุมขนได้ดี แพคเกจจิ้งเป็นหัวปั๊ม ใช้งานง่าย ไม่เลอะเทอะค่ะ
ส่วนข้อเสียคือ มีสีให้เลือกน้อยไปนิด (มี 5 เฉดสี) ขาวก็ขาวไปเลย ขยับมาระดับนึงก็เข้มเกินไป สำหรับเราอยากได้เบอร์ตรงกลางระหว่าง 01 กับ 02 แต่ไม่มี เลยต้องใช้เบอร์01 ที่สว่างกว่าผิวจริงนิดนึง
ป.ล. รองพื้นตัวนี้มีน้ำหอมนะคะ กลิ่นหอมแรงมากก^^; คนที่แพ้ง่าย หรือไม่ชอบน้ำหอมอาจจะไม่ปลื้ม 
ไม่ได้ระบุ SPF ทั้งบนฉลากและตัวหลอด เราส่องหาอยู่นานไม่เจอ สงสัยว่าตัวนี้จะไม่กันแดดเลยค่ะ


เปรียบเทียบงานผิวและการปกปิด
รองพื้นคู่นี้เบลอรูขุมขนได้เนียนมาก ปกปิดสูง ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ให้ลุคแมท แบบที่ไม่ต้องลงแป้งทับเลย ลองซูมดูด้วยกล้องละเอียดระดับ Super-Macro ได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ Estee Lauder ผิวจะดูมีความชุ่มชื้นมากกว่า Cute Press ที่ finishing จะออกมาแม๊ท แมทมากๆ
ในเรื่องของความกันน้ำ รองพื้นคู่นี้คือแชมเปี้ยน ซับน้ำออกไม่มีรองพื้นติดกระดาษทิชชู่ออกมาเลยแม้แต่น้อย งานผิวหลังซับน้ำก็ยังเป๊ะปังค่ะ


คู่แฝดที่ 3 เทพีรองพื้นโชว์ผิวโกลว์สวย เล่นแสง ดูแพง แถมบำรุงผิว
BOBBI BROWN : Intensive Skin Serum Foundation(SPF 40 PA+++, 30 ml, 2650 THB, MADE IN BELGIUM)
            รองพื้นขายดีที่ปรับลุคใหม่ให้ใช้ง่ายขึ้น เนื้อ Liquid บางเบาเกลี่ยง่าย เปี่ยมด้วยสารบำรุงผิวชั้นเลิศจากถั่งเช่า ใบย่านาง และผลไม้หลากชนิด เป็นรองพื้นที่นอกจากจะบำรุงผิวให้สวยจากภายในแล้ว ยังช่วยเนรมิตผิวให้เนียนสวย ดูแพง ฉ่ำ โกลว์ ดูสุขภาพดีและดูหน้าเด็ก มีสีให้เลือกถึง 24 เฉดสี
            แพคเกจจิ้งเป็นหัวปั๊ม ใช้งานง่าย ไม่เลอะเทอะ
ข้อเสีย...นึกไม่ออกแฮะ สำหรับเราแล้วนางดีทุกประการ ถ้าจะให้ติบ้างก็คงเรื่องการปกปิดแค่ระดับ Medium ด้วยความที่เป็นรองพื้นสูตรน้ำ เนื้อบางเบาไปนิด หากอยากจะบิวท์ผิวให้ปกปิดเพิ่ม อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่ เพราะเป็นรองพื้นที่ทายังไงก็ไม่หนา....แต่นี่ก็เป็นข้อดีที่ทำให้ดูไม่โบ๊ะแหละเนอะ 
อ้อๆ อีกข้อนึงคือ เนื้อรองพื้นเค้าจะมีกลิ่นแบบสมุนไพรอ่อนๆค่ะ ไม่แรงมาก แต่ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นก็อาจจะไม่ปลื้มเท่าไหร่


LUCIA : Baby Skin Foundation (SPF 30 PA+++, 30 ml, 690 THB, MADE IN KOREA)
            รองพื้นสูตร Liquid Cream  จากเกาหลี ที่ให้งานผิวเทียบเท่า BOBBI BROWN คือความโกลว์ ใส เล่นแสง
เนื้อรองพื้นกึ่งๆครีมแต่เกลี่ยง่ายแบบสูตรน้ำ เค้ามาเป็นแพคคู่ซื้อรองพื้น แถมฟรี ฟองน้ำรูปไข่ เนื้อฟองน้ำละเอียด ใช้งานได้ Universal มากๆ ช่วยให้เกลี่ยรองพื้นได้เนียนขั้นสุด แม้แต่ตรงมุมจมูก ใต้ตาก็ทาได้ทั่วถึง
          มีส่วนผสมของสารบำรุงจากแพลงตอนและสาหร่ายครอเรลลา ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น สุขภาพดี สวยจากภายในเปล่งประกายสู่ภายนอก ปกปิดระดับ Medium แต่สามารถทาซ้ำบิวท์การปกปิดเพิ่มแบบ Full Coverageได้โดยไม่เป็นคราบ
         แพคเกจจิ้งเป็นหัวปั๊มกดแบบAirless สะอาด อากาศไม่เข้า เราชอบตรงที่หากกดออกมาแล้วใช้ไม่หมด ปิดฝาครอบไว้ มาใช้อีกวันได้สบายๆเลย ไม่เปลืองดีค่ะส่วนข้อเสียคือ มีสีให้เลือกแค่ 4 เฉดสี แต่ถึงยังไงก็ดูจะเป็นสีที่เหมาะกับคนเอเชีย เพราะค่อนข้างจะออกมาทางโทนเหลือง เราใช้เบอร์ 02 รู้สึกว่าเข้ากับสีผิวจริงมาก ทาแล้วไม่หมอง ไม่ดรอปด้วย

เปรียบเทียบงานผิวและการปกปิด
รองพื้นคู่นี้ให้งานผิวที่เป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดี ให้ลุคโกลว์ สวยแบบดูแพง
ปกปิดในระดับ Medium  ช่วยปรับสีผิวให้ดูสว่าง ใส 
ลองซูมดูด้วยกล้องละเอียดระดับ Super-Macro จะเห็นได้ชัดเลยว่าผิวมีความชุ่มชื้น ฉ่ำ ใส เล่นแสงกว่าผิวของรองพื้นคู่อื่นๆที่รีวิวมา เราว่านี่คือจุดเด่นของรองพื้นคู่นี้เลยล่ะ ให้งานผิวสวยม้ากกก!
หลังฉีดสเปรย์น้ำลงบนผิว รองพื้นคู่นี้มีเอกลักษณ์ที่เหมือนกันคือตัวรองพื้นเค้าเหมือนจะเป็นฟิล์มบางๆเคลือบผิวไว้ ทำให้น้ำไม่ซึมลงผิว แต่สะท้อนผิว ไหลเป็นหยดน้ำเหมือนใบบัวค่ะ 
ในเรื่องของความกันน้ำ เมื่อซับน้ำออกด้วยกระดาษทิชชู่ แอบผิดหวังเล็กๆกับ Bobbi Brown ที่ตัวรองพื้นหลุดออกมาค่อนข้างเยอะ กลับกลายเป็นว่ารองพื้นราคาต่ำกว่าพัน แบรนด์ Lucia หลุดลอกน้อยกว่า
หลังจากซับน้ำ ความใสของรองพื้นทั้งคู่ดรอปลงมาเล็กน้อย แต่สีไม่ด่างแต่อย่างใด


คู่แฝดที่ 4 รองพื้นปกปิดแบบเป็นธรรมชาติ เนื้อกึ่งแมท ให้ผิวเนียนสวยแบบซาติน
COVERMARK : Essence Foundation UV JQ (SPF 18 PA++, 25g, 1100 THB, MADE IN JAPAN)
            รองพื้นสัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังในอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นรองพื้นที่กองถ่ายละคร งานประกวดความงามเลือกใช้ 
เนื้อรองพื้นแบบอิมัลชั่น (ข้นกว่า Liquid และเหลวกว่า Cream) เกลี่ยง่าย แตะมาแค่นิดเดียวทาได้ทั้งใบหน้า ปกปิดระดับ Medium-Full Coverage เป็นรองพื้นที่ใช้งานได้ง่าย เหมาะกับชีวิตประจำวัน
          ข้อเสียคือ...สำหรับเราแพคเกจจิ้งดูเชยไปหน่อย เป็นกระปุกแบบตัก ลืมปิดฝาไว้เมื่อไหร่คือจบเลย เนื้อจะแห้งง่ายเพราะอากาศเข้าเต็มๆ และไม่ค่อยกันแดด ซึ่งปกติเราก็ทากันแดดก่อนลงรองพื้นอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ค่ะ


SRICHAND : Skin Essential Foundation (SPF 50 PA++++, 30 ml, 350 THB, MADE IN THAILAND)
            รองพื้นแบรนด์ไทย เนื้อครีม ที่มีส่วนผสมของกันแดดถึง SPF50 PA++++ (หายากมาก สำหรับรองพื้น)
หลอดเดียวจบ ไม่ต้องคบหาครีมกันแดดอีกต่อไป มีส่วนผสมของ Adenosine  ช่วยลดการเกิดริ้วรอย เป็นสูตร Oil Free, Fragrance Free แบรนด์เค้าเคลมว่าเป็นรองพื้นเนื้อแมต แต่เราว่ามันไม่ได้แมตขนาด Estee เพราะยังมีความสะท้อนแสงเล็กๆ ให้ผิวดูเนียนแบบซาติน เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย ดูเป็นธรรมชาติกลืนไปกับผิว
            แพคเกจจิ้งเป็นหัวปั๊ม ใช้งานง่าย ไม่เลอะเทอะ
สีมีให้เลือกแค่ 4 เฉดสี แต่ไม่มีปัญหาสำหรับเรา เพราะค่อนข้างจะออกมาทางโทนเหลือง เราใช้เบอร์ 120 ได้ดีงามแบบเลิฟๆเลย

เปรียบเทียบงานผิวและการปกปิด
รองพื้นคู่นี้ให้งานผิวที่ปกปิดระดับกลาง แต่ยังเป็นธรรมชาติ ให้ลุคกึ่งแมท สะท้อนแสงแบบผิวซาติน
หากซูมดูด้วยกล้องละเอียดระดับ Super-Macro จะเห็นว่ารองพื้นเคลือบตาข่ายผิวได้ใกล้เคียงกันมาก
หลังฉีดสเปรย์น้ำลงบนผิว เนื้อรองพื้นกลืนน้ำไประดับนึงเลย เมื่อซับน้ำออกด้วยกระดาษทิชชู่ รองพื้นทั้งคู่กันน้ำได้ในระดับใกล้เคียงกัน มีหลุดลอกออกมาบ้างเล็กน้อย แต่สีไม่ด่างค่ะ


เทียบให้ดูชัดๆพร้อมกันกับรองพื้นทั้ง 8 แบรนด์ค่ะ
ต่อไปเราจะใช้กล้องไมโครสโคปแบบพกพา มาลองส่อง Zoom ลึกดูตาข่ายผิวและการเรียงตัวของรองพื้นกันนะคะ 
กล้องนี้สามารถต่อ wifi ได้ มีแอพสำหรับ capture ภาพที่ส่องขยายเข้ามือถือ
เป็นกล้องส่องพระของพ่อเราเอง 555 ขอยืมมาใช้หน่อยยย สนุกๆดีค่ะ (เหมือนได้ทำการทดลองวิทยาศาสตร์เล็กๆ)

ดูสภาพผิวหลังทารองพื้นค่ะ
เห็นแล้วทึ่งเลยว่าลักษณะการเคลือบผิวของรองพื้นคู่แฝดของเราทั้ง4คู่ มันดูคล้ายกันมากๆ โดยเฉพาะ Bobbi Brown และ Lucia รองพื้นดูอนุภาคละเอียดกว่าของคู่อื่นๆ เติมเต็มร่องระหว่างเซลล์ได้สวยมาก

ต่อไปเป็นภาพแสดงความเปลี่ยนแปลงของผิว ตั้งแต่ก่อนทา-หลังทา --> ฉีดน้ำ&หลังซับน้ำ --> พรมน้ำมัน & หลังซับน้ำมันลงผิวค่ะ เชิญชมเพื่อความเพลิดเพลินตามอัธยาศัยกันได้เลยยยย

อันนี้เราอยากเห็นว่ารองพื้นแต่ละตัว พอเจอน้ำและน้ำมันแล้วผิวจะเป็นยังไงค่ะ
สรุปจากการทดลองด้วยตัวเองได้ว่า
1. LANCOME Teint Idole Ultra Wear FD : ทนน้ำได้ดี 5/5 ทนความมันได้ดี 5/5
2. MAYBELLINE FIT ME Matte +Poreless FD : ทนน้ำ3/5 ทนความมัน 3/5
3. ESTEE LAUDER Double Wear Stay in Place FD : ทนน้ำ5/5 ทนความมันได้ดี 4/5
4. CUTE PRESS : Airy Matte FD : ทนน้ำ5/5 ทนความมัน 3/5
5. BOBBI BROWN : Intensive Skin Serum FD : ทนน้ำ2/5 ทนความมัน2/5
6. LUCIA : Baby Skin FD : ทนน้ำ4/5 ทนความมันได้ดี 4/5
7. COVERMARK : Essence FD JQ : ทนน้ำ4/5 ทนความมัน4/5
8. SRICHAND : Skin Essential FD : ทนน้ำดี4/5 ทนความมัน3/5


        หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ข้อมูลไว้ประกอบการตัดสินใจถ้าจะสอยรองพื้นขวดใหม่ อ่านกระทู้นี้ทีเดียวจบ สามารถตามหารองพื้น drug store ราคาเบาๆเอื้อมถึงตัวไหน ที่สามารถใช้แทนกันได้กับรองพื้นเคาท์เตอร์แบรนด์ ได้งานผิวสวยไม่ต่างกัน วันนี้ก็ขอขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าค่า


PkoPko

PkoPko

ผู้หญิงธรรมดาคนนึงที่มีใจรักในเครื่องสำอาง เเละการท่องเที่ยว

FULL PROFILE