สวัสดีค่ะทุกคน

กลับมาเจอกันวันนี้วิมีสิ่งดีๆมาบอกต่อเช่นเคยค่ะ 

เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา วิได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่เรียกได้ว่าโด่งดัง และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย นั่นก็คือ 

“Aesop”

นั่นเองค่ะ ส่วนตัววิได้ยินชื่อและเห็นผ่านตาบ่อยมาก คนรอบข้าง คนสนิท ใช้ดีและบอกกันปากต่อปากเลย

 
พอได้ลองใช้กับตัวเองเลยเข้าใจว่าทำไมถึงดี ชนิดที่ว่าคนส่วนมากใช้แล้วประทับใจ ใช้ซ้ำและกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่บอกต่อไม่ได้  

Aesop

I 

B&C Facialacial Balancing Gel 

Sublime Replenishing Night Masque

ผลิตภัณฑ์ของ Aesop น่าสนใจหลายตัวเลยค่ะ แต่การทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของวิในครั้งนี้ วิใช้สองตัวนี้ควบคู่กัน บอกเลยว่าเปิดประสบการณ์ การใช้เจลบำรุงผิวและมาส์กสำหรับวิมาก เพราะวิ ไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกที่แตกต่างแบบนี้มาก่อนเลย

เป็นความรู้สึกที่บรรยายด้วยคำพูดอย่างเดียวก็กลัวว่าทุกคนจะไม่ได้สัมผัสความรู้สึกที่แท้จริง ดังนั้น… วิขอเล่าไปพร้อมๆกับภาพทีละตัวเลยดีกว่าค่ะ ว่าเป็นยังไง ทำไมใช้แล้วถึงรู้สึกดีขนาดนี้ :)

B&C Facial Balancing Gel

60 ml. 4,050.-

มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยดีกว่าค่ะ สำหรับ B&C Facial Balancing Gel ตัวนี้เป็นมอยเจอไรเซอร์สูตรเจล ที่มีเนื้อสัมผัสแบบน้ำผึ้ง เพื่อรักษาประสิทธิภาพของ Vitamin C และ B5 เป็น Texture ที่แปลกใหม่สำหรับวิมากก เพราะเหมือนน้ำผึ้งของจริง แต่พอเราวอร์มเนื้อเจลด้วยฝ่ามือก่อนใช้ ประมาณ 30 วินาที เจลน้ำผึ้งตัวนี้จะเปลี่ยนเป็นเนื้อ Essence ค่ะทุกคน ทึ่งแล้วก็ทึ่งอีก พอทาลงผิวปุ้บคือซึมแล้วให้ฟีลเหมือนมีอะไรเคลือบผิวเราอยู่ค่ะ

 คุณสมบัติเด่นชัด :  นอกจากจะช่วยให้ผิวแข็งแรงกระจ่างใส รอยสิวดูจางลงด้วย การใช้เจลตัวนี้ยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำอีกด้วยค่ะ ชนิดที่ว่าคนผิวมันก็สามารถใช้ได้ เพราะใช้แล้วจะช่วยปรับสมดุลของผิว เมื่อผิวมีความสมดุล หน้าก็จะมันน้อยลงนั่นเองค่ะ

สำหรับ B&C Facial Balancing Gel ตัวนี้ ก็มาพร้อมส่วนผสมที่ให้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการของผิวแบบตรงจุด ไม่ว่าจะเป็น..

•Vitamin C : สำหรับ Aesop นั้น เลือกใช้ Magnesium Ascorbyl Phosphate นอกจากช่วยให้ผิวแข็งแรงและกระจ่างใสแล้ว ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี

•Vitamin B5 สกัดจากพืช : คือเค้าสามารถดึงดูดความชุ่มชื้นในอากาศและกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนาน ทำงานเสริมประสิทธิภาพร่วมกับ Vitamin C นั่นเองค่ะ

Sublime Replenishing Night Masque 

60 ml. 4,300.-

ตัวนี้สำหรับวิคือมาส์กโกงอายุผิวค่ะบอกเลย55555 ที่สุดของมาส์กที่มอบความชุ่มชื้นและผิวที่ดีแบบสัมผัสได้หลังตื่นนอนทันที! เพราะเค้าได้รวมเอาวิตามินเข้มข้นที่ช่วยฟื้นฟูผิวได้หลากหลายมิติมาใส่ไว้ในมาส์กกระปุกนี้แล้วค่ะ ยิ่งถ้าทุกคนสังเกตเนื้อผลิตภัณฑ์ดีๆ จะเห็นได้ว่า เป็นเนื้อครีมเจล เวลาที่เราทาลงไปบนผิวปุ้บ เสมือนกับการได้เคลือบผิว ด้วยฟิล์มแผ่นบางๆเลยค่ะ ซึ่งนี่คือ..

  คุณสมบัติเด่นชัด :   ที่มาส์กตัวนี้เป็นเนื้อเจลครีม ก็เพราะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้การมาส์กหน้าของเรา ไม่เหนอะหนะหน้าเหนียว แต่กลับเบาสบายผิว พร้อมกับการมอบความชุ่มชื้นกันแบบจุกๆค่ะ ซึ่งเนื้อเจลครีมที่ว่านี้ หลังจากที่ทาลงบนผิวเรียบร้อยแล้วจะเปลี่ยนเป็นฟิล์มบางๆ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิว 

และในมาส์กตัวนี้ ก็ยังคงจัดมากันแบบอัดแน่นเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น..

• Vitamin B3 ช่วยปลอบประโลมผิวและแผลจากสิว

• Vitamin B5 ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ช่วยดูแลเรื่องของริ้วรอยบนผิวที่เกิดจากอนุมูลอิสระ

• Vitamin C ช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 

• Vitamin F ตัวนี้คือกรดไขมันชนิดดีค่ะ จะช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิว

• Vitamin E ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว แถมเค้ายังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วยน้า

• Anti-Oxidant ช่วยปกป้องและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจากอนุมูลอิสระ

  ความรู้สึกต่อ Texture ของผลิตภัณฑ์ :  สำหรับวิคือซึมง่ายทั้งสองตัวค่ะ แต่เน้นช่วยดูแลผิวตามวัตถุประสงค์ที่ต่างกันไป ตัวเจลเนื้อน้ำผึ้งคือมีความหนืดหน่อยๆ แต่พอซึมแล้วเหมือนมีอะไรเคลือบผิวตลอด ชุ่มชื้นดี

ส่วนตัวมาส์ก พอทาลงผิวแล้วชุ่มชื้นสุดๆเลย แถมผิวนุ่มมมม ทันที แบบสัมผัสได้ ยิ่งใช้คู่กันคือผิวไม่เหนอะค่ะ แต่เป็นความรู้สึกดีที่ผิวมากๆ วันไหนนอนดึกมากๆ โบกสองตัวพร้อมกันคืออุ่นใจขึ้นเยอะเลย

เอาหละ วิก็ได้บอกเล่าจุดเด่นของทั้งสองตัวให้ทุกคนได้ทราบกันไปแล้ว ว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองตัวนั้นเค้าใส่ใจในส่วนผสมมากแค่ไหน ยิ่งศึกษา บอกเลยว่าวิก็ยิ่งหลงไหล Aesop เข้าไปใหญ่ .. แต่พอได้ลองใช้เท่านั้นค่ะ จากที่หลงไหล ก็กลายเป็นถอนตัวไม่ขึ้นกันเลย55555

ซึ่งภาพต่อจากนี้ที่ทุกคนจะได้เห็น อย่าตกใจนะคะ T T คือคนเดียวกัน ผิวเดียวกัน แต่เกิดความเปลี่ยนแปลงไปมากหลังจากใช้ Aesop ค่ะ

ใช่ค่ะทุกคน นี่เป็นรางวัลของคนขยันใช้ Aesop ทุกวัน ติดต่อกันเกือบเดือนนั่นเองฮะ ผลลัพธ์คือตรงตาม Active Ingredients ที่เค้าใส่มาเลย ไม่ผิดจุดประสงค์เลยสักนิดค่ะ รอยสิวหาย รอยแดงไม่ต้องพูดถึง 

ในบริเวณที่สิว และผิวมีการอักเสบดีขึ้นมากกก ซึ่งวิก็เก็บภาพผิวในจุดอื่นๆมาด้วย 

แต่ก่อนอื่นวิขออธิบายการใช้ Aesop ทั้งสองตัวนี้อย่างละเอียดกันก่อนดีกว่าค่ะ เผื่อใครนำไปปฏิบัติตาม จะได้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผิวนะคะ

สำหรับวิ ช่วงที่ทดลองใช้ Aesop สองตัวนี้คือ วิทำการเพิ่มทั้งคู่เข้าไปใน Skincare Routine ที่วิใช้อยู่เป็นประจำ แต่ในบางวันก็ใช้แค่สองตัวนี้แล้วจบเลยค่ะ 55555

1.วันที่ใช้แค่ 2 ตัวนี้

คือวันที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เอาง่ายๆก็คือช่วงที่พักผ่อนน้อย ผิวดูโทรม (สัปดาห์ละประมาณ 2 วันค่ะ) วิจะใช้ตัว B&C Facial Balancing Gel ลงผิวก่อนค่ะ แล้วตามด้วย Sublime Replenishing Night Masque เคลือบผิวไปอีกหนึ่งชั้นแล้วเข้านอนเลย

2.ในวันที่ใช้ร่วมกับสกินแคร์ตัวอื่นๆ

หลังล้างหน้าวิจะใช้ Essence เติมความชุ่มชื้นให้ผิวก่อน จากนั้นจะตามด้วย B&C Facial Balancing Gel แล้วปิดท้ายด้วย Moisturiser เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นใหกับผิวทันที

ซึ่งวิใช้แบบนี้เป็นเวลาเกือบเดือน ผิวดีขึ้นมากจริงๆค่ะ ไม่เชื่อเดี๋ยวให้ชมภาพอีกหนึ่งยกค่ะ

จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนมากก ถึงความฉ่ำมงดูสุขภาพดีของผิว เนียนมาก เนียนนน ฟู ไร้รอยแผลเป็นจากสิว รอยดำรอยแดง หายยยยย ไปเลยยย เหมือนไม่เคยเป็นกันมาก่อนนน ฟังดูเว่อร์แต่ภาพมันก็ฟ้องจริงๆค่ะ

ขอสรุปความรู้สึกหลังใช้เลยแล้วกันนะคะ ว่า….

ตั้งแต่มี Aesop มาครอบครองอยู่ในครอบครัว Skincare ของวิ เหมือนถูกหวยยย 55555 แรกๆรู้สึกแปลกใหม่กับสัมผัสของเนื้อผลิตภัณฑ์มาก แต่พอใช้ไปสักพักคอติดใจเลย

ใช้ติดต่อกันแล้วผิวดีแบบไม่คาดคิด ว่าผิวจะฟื้นฟูตัวเองได้ดีขนาดนี้ ประทับใจที่สุด เข้าใจถึงแก่นแท้แล้วว่าทำไมทุกคนถึงได้บอกต่อกันแบบไม่แผ่วเลย คือผิวที่ได้มา คุ้มค่ากับราคาที่จ่าย เรียกว่าเกินคุ้มก็ยังได้ค่ะ อยากให้ทุกคนลองง อยากรู้ว่าจะอินขนาดวิมั้ย แต่วิอินมากก ต้องไปต่อแน่นอนกับ Aesop

ก่อนจากกันวันนี้ แน่นอนว่าวิมาบอกต่อสิ่งดีๆแบบนี้ ก็ต้องไม่ลืมชี้ช่องทางได้น้องเค้ามาครอบครองค่ะ สำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์ของ Aesop สามารถซื้อแบบออนไลน์ได้ที่ Central Online ได้เลยนะคะ สะดวกมาก หรือจะซื้อเองที่เคาเตอร์ของ Aesop ก็ดีเหมือนกันค่ะ พี่ๆ BA แนะนำดีมากๆค้าบ 

สำหรับวันนี้ วิก็ขอตัวลาไปก่อน

หวังว่าวิจะได้ส่งต่อสิ่งดีๆให้กับทุกคนนะคะ 

แต่อย่าลืมว่า.. 

“ผิวที่ดีเราสร้างเองได้ ด้วยการใช้สกินแคร์ที่ดีและเหมาะกับผิว”

แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้า สวัสดีค่า :)