ทดสอบประสิทธิภาพสเปรย์ล็อกเครื่องสำอาง

สวัสดีค่า

หลายคนอาจเคยสงสัยว่าช่างแต่งหน้าหลายคนมักใช้ setting spray , fixing spray มาฉีดลงบนผิวก่อน-หลังแต่งหน้าเพื่ออะไร เฉลยตรงนี้เลยค่ะว่า "เพื่อติดทน" ล็อคให้เครื่องสำอางติดอยู่บนผิวได้อย่างยาวนาน จะได้มั่นใจได้ว่าเมคอัพจะไม่ไหลเยิ้มเหมือนย้ำยายยายไหยย้อย บางทีก็ช่วยไม่ให้เครื่องสำอางติดแมสก์ได้ด้วยค่ะ

 แล้ว spray ที่ว่าในท้องตลาดก็มีมากมาย และในวันนี้ปิ่นจะขอหยิบเอามารีวิวบางยี่ห้อซึ่งเป็นยี่ห้อที่ปิ่นมีมาเปรียบเทียบให้ทุกคนได้เห็นกันค่ะ

มีทั้งถูกและแพงปะปนกันไป ก่อนอื่นขออธิบายการทำหน้าที่โดยคร่าวๆ ของน้องๆ spray ก่อนค่ะ  

เวลาที่เราแต่งหน้าก็จะมีการลงเมคอัพขั้นตอนต่างๆ ทั้งเปียกทั้งแห้ง เช่นลงรองพื้นเสร็จ ก็ลงแป้งฝุ่น แล้วลงอายชาโดหรือปัดแก้มต่อ เฉดดิ้งใดๆ อีกมากมาย ซึ่งการซ้อนทับของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็อาจจะมีการเลื่อนหลุด หรือระหว่างวันมีน้ำมันออกมาจากผิวทำให้เมคอัพละลายไหลเยิ้มและเลื่อนหลุดได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อฉีดน้อง spray ไปแล้วเขาจะทำหน้าที่ไปยึดส่วนที่เป็นฝุ่นกับฝุ่นให้ยึดเกาะติดกันเสมือนล็อคกุญแจไม่ให้เมคอัพเคลื่อนเลื่อนหลุด และอีกหน้าที่ในบางยี่ห้อก็ช่วยคุมมันให้ผิวผลิตน้ำมันน้อยลง

ดังนั้น setting spray จึงไม่ได้เหมาะกับทุกสภาพผิว บางตัวอาจไม่ได้ช่วยคุมมัน แต่มีคุณสมบัติกลางๆ เพื่อให้ใช้ได้ทุกสภาพผิว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเขาอาจจะล็อคเมคอัพได้ไม่ดีพอ ส่วนบางยี่ห้อช่วยล็อคเมคอัพได้หลายชั่วโมงหรืออาจจะทั้งวัน แต่ก็มาพร้อมกับความแห้งซึ่งถ้าคนผิวแห้งอยากใช้ก็ต้องลงสกินแคร์ก่อนเมคอัพให้ดีพอสมควรเลยค่ะ

ผิวผสมแบบปิ่นมีปัญหามันบริเวณ T-zone และหน้าแก้ม ถ้าไม่ฉีด setting spray เมคอัพจะไหลเลยบางที แต่ติดไม่ทนด้วย ครึ่งวันสีดรอปก็มีค่ะ

มาดู setting , fix spray ที่ปิ่นมีไปทีละตัวกันดีกว่า

ขึ้นชื่อมากว่าเป็น Setting spray ที่ล็อกเมคอัพได้ดีระดับแนวหน้าและช่วยคุมมันได้ดีด้วยเช่นกัน แต่หลายคนไม่ชอบกลิ่นของน้องเพราะกลิ่นจะออกแนวยาๆ เคมีๆ หน่อยๆ ขวดนี้ซื้อตามบิวตี้บล็อกเกอร์ต่างชาติค่ะ แล้วก็ไม่คิดจะเปลี่ยนอีกเลย หัวสเปรย์พ่นออกมาเป็นฝอยละเอียดและทรงพลัง! ดังนั้นเวลาฉีดต้องเว้นระยะห่างออกจากใบหน้าสัก 1 ฟุตนะคะ

ก่อนอื่นเลย...ชื่อยาวไปไหน 555 น้องคนนี้ไม่มีขายในไทยค่ะ แต่เห็น BEAUTY BLOGGER ต่างประเทศกรี๊ดกร๊าดกันมากเลยไปแสวงหามาจนได้ค่ะ 

ละอองสเปรย์ละเอียด หัวฉีดไม่ก๊องแก๊ง ฉีดทีดังฟึบ! แล้วทำให้เครื่องสำอางติดทนดีพอๆ กับ UD เลยค่ะ แต่กลิ่นก็คือ...อื้มหื้มไม่ไหว 😂 หรือว่านี่จะเป็นสัดส่วนเดียวกันกับ UD ?

แต่ที่สำคัญ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอยู่ทนนาน 16 ชั่วโมง ปิ่นไม่เคยเทสนานขนาดนั้น แต่ว่าวันทั้งวันในอากาศสุดแสนจะอบอ้าวน้องคนนี้เอาอยู่! ฉีดแล้วหน้าแมทและคุมมันได้ดีทีเดียว

เห็นอยู่บนเชลฟ์เลยสอยมาลองค่ะ ขวดเล็กกระทัดรัดดี ตัวนี้กลิ่นกลางๆ ค่ะ ไม่ได้เหม็นจนทนไม่ไหว แต่ก็ไม่ได้หอมรุนแรง เขาเขียนว่า BLUR & MATTE ซึ่งปิ่นคิดว่าก็ไม่ได้ทำให้หน้าแมทมากเท่าไร คือกลางๆ ไม่ไปทางไหนสักทาง แล้วเดี๋ยวไปรอดูผลการทดสอบกันดีกว่าค่ะ

MAKEUP LOCK SETTING SPRAY

ขวดจิ๋วที่สุด การขายไซส์นี้ในราคา 99 บาททำให้เราตกเป็นทาสการตลาดเพราะถูกมาก ยิ่งแบรนด์ลดราคาก็คือที่สุด ปิ่นได้มาในราคา 49 บาทตอนเขาลดราคาค่ะเลยเหมามาตุน แต่พอได้ลองใช้ประสิทธิภาพไม่ได้จิ๋วไปตามขวดเลย (เอาไว้ไปดูที่ผลการทดลองนะคะ) เรื่องกลิ่นนี่ก็พอใช้ค่ะ หืนน้อยกว่า UD และ revolution แต่หัวสเปรย์ไม่ค่อยละเอียด ควบปริมาณในการฉีดแต่ละครั้งยาก คือเขาออกมาแต่กดเยอะเกินไป ฝอยละอองค่อนข้างใหญ่ จึงต้องถือออกห่างจากใบหน้าเยอะๆ เลยค่ะ ไม่งั้นเปียกแน่นอน

ตัวนี้บีเอเชียร์หนักมาก พอได้ลองเล่นหน้าเคาเตอร์ก็รู้สึกชอบในความละเอียดของละออง และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของลาเวนเดอร์ บวกกับเคยเห็นช่างแต่งหน้าบางคนใช้ก็เลยรับน้องมาดูแลค่ะ ส่วนผลการทดลองไปดูได้ที่ด้านล่างค่ะ

เราจะทำการทดลองโดยใช้อายชาโดแบบแมทและชิมเมอร์สีเดียวกันทั้งหมด ปาดลงบนแขนเพียวๆ เลยค่ะ เสร็จแล้วก็พ่นสเปรย์ทีละตัวค่ะ

เริ่มจาก UD ก่อนเลย

ตามด้วย revolution

IN2IT จัดตามมา

TER จ๋ามาเลย

จบด้วยต้าว M.A.C

พัดให้แห้ง (กรุณาอย่าล้อพัดอิฉัน😂)

เสร็จแล้วก็มาใช้นิ้วเปล่าปาด ๆ ถู ๆ กันค่ะ!

โดยที่การใช้นิ้วถูนั้น ก่อนจะถูที่สีถัดไปปิ่นจะเช็ดทำความสะอาดก่อนทุกครั้งค่ะ

มาดูผลกัน!

ผลการทำให้เครื่องสำอางติดทนไม่เลื่อน ไหล เลอะนั้นก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาแล้วนะคะ 

ที่ช่วยล็อคให้เครื่องสำอางติดทนก็จะมี

ซึ่งทั้ง 3 ตัวนี้หลังฉีดจะทำให้ผิวแมทมาก โดยเฉพาะ TER อันนี้ทำให้ผิวแห้งขั้นสุดและล็อคเครื่องสำอางได้ยาวนานไม่แพ้ตัวดังตัวท็อปอย่าง URBAN DECAY และ REVOLUTION เลยค่ะ ทั้ง 3 ตัวนี้เหมาะกับคนผิวมันและผิวผสมค่ะ ส่วนเรื่องกลิ่นนั้น...ไม่หอมทั้ง 3 แบรนด์ หรือว่านี้อาจจะเป็นคุณสมบัติหนึ่งของสเปรย์ล็อกเครื่องสำอางขั้นเทพ😂

ส่วน M.A.C จากการฉีดรอบเดียวเขาทำให้เครื่องสำอางติดทนในระดับหนึ่งซึ่งถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับ 3 ตัวบน ถ้าจะให้ติดทนต้องฉีดซ้ำหลายรอบค่ะ แต่ในทางกลับกันหลังฉีดเสร็จเขาทำให้ผิวสบาย ไม่ได้รู้สึกแน่นจนอึดอัด รู้สึกสบายผิวและชุ่มชื้นหน่อย แถมกลิ่นก็หอม ปิ่นคิดว่าเหมาะกับผิวธรรมดา-แห้งค่ะ 

ส่วน IN2IT หากเขาไม่เคลมว่า BLUR & MATTE ปิ่นอาจให้คะแนนเขามากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าผลที่ได้กับคำเคลมมันสวนทางกันไปหน่อย หากต้องการเอามาใช้เพื่อเพิ่มความสดชื่นระหว่างวันก็โอเคทีเดียวค่ะ 

เคล็ดลับในการแต่งหน้าให้ติดทนชนิดที่นอนตื่นเช้ามาก็ยังไม่หลุดคือ

ฉีดน้องก่อนลงเมคอัพชั้นแรก ➡️ หลังลงแป้งฝุ่นอีก 1 ➡️ หลังแต่งหน้าเสร็จอีก 1

เท่านี้ก็ติดทั้งวันทั้งคืน ต่อให้ตากแดดตากลม เผลอตากฝน หน้าเราก็ยังเป๊ะปังตลอดทั้งวันค่ะ!

หวังว่าพอเป็นประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน

แล้วพบกันใหม่จ้า