รีวิว 3 ตัวลดรอยสิว ใช้แล้วเห็นผลดีเวอร์ คุ้มราคา หาซื้อง่าย!

สวัสดีค่าาาาาเพื่อนๆ ชาวจีบันทุกคน ~ วันนี้พลอยขอมาแนะนำตัวลดรอยสิว 3 ตัว ที่แต่ละตัวราคาเป็นมิตร ราคาหลักร้อย แต่เห็นผลเกินราคาไปมาก และหาซื้อง่ายตามวัตสัน บูส และห้างสรรพสินค้าชั้นนำให้ได้อ่านกันค่า

ขอเล่าก่อน พลอยเองเป็นคนผิวผสม และค่อนข้างแพ้ง่าย คือใช้อะไรก็แพ้ ต้องเป็นสกินแคร์ที่ไม่มีสารเคมี หรือน้ำหอม หรือค่อนข้างออร์แกนิค เป็นสารจากธรรมชาติอะไรแบบนี้ ถึงจะถูกกับหน้าหน่อย 555 เราเลยค่อนข้างเลือกสกินแคร์ที่จะใช้นิดนึง เพราะเป็นคนเป็นสิวง่ายมาก ละพอเป็นสิว สิ่งที่จะตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือ!! รอยสิวนั่นเองทุกคน  อันนี้นี่เป็นปัญหาใหญ่เลย เพราะรอยสิวคือใครๆก็ รู้ว่าหายยากมากกก กว่านางจะจางต้องใช้เวลาสักพักเลย T_T ซึ่งมันเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตเรามาก ไม่มั่นใจเลยเวลามีรอยสิว เลยต้องหาตัวช่วยที่ถูกใจซักตัว เพราะถือว่าเป็นไอเท็มกู้ชีพที่ต้องมีเลยก็ว่าได้ วันนี้เราจัดมาเน้นๆ 3 แบรนด์ที่รักมากก จะมีแบรนด์ไหนบ้างไปดูกันเลยค้าบบบบ

สำหรับตัวแรก คือตัวนี้เลย Mizumi B3 Acne Concentrate Serum 

เป็นเซรั่มลดรอยสิว ที่มีวิตามินบี 3 เป็นส่วนประกอบหลักเข้มข้น ซึ่งตัววิตามินบี 3 นี้ก็จะช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิวให้เห็นผลรวดเร็วยิ่งขึ้น และทำให้ผิวดูกระจ่างใสอีกด้วย อย่างแรกที่เราชอบที่สุดของ Mizumi คือเนื้อเซรั่มของเขาจะเป็นเนื้อใสๆ ที่ซึมง่ายปานกลาง แต่ความรู้สึกตอนทาคือดือมาก เพราะมันจะเย็นๆ ผิวอะทุกคน มันทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายผิวมากๆ ตัวนี้เราไม่แพ้นะ เพราะเขาเคลมว่าเป็นสูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำมัน น้ำหอมและพาราเบนอีกด้วย

สำหรับผลลัพธ์ก็โอเคนะ เราใช้กับพวกรอยสิวเล็กๆ รอยแดงแถวแก้ม ก็รู้สึกว่าจางลงภายใน 4-5 วัน  แต่เราว่าถ้าเป็นรอยแกะสิว ที่เป็นแผลเป็นแบบนี้ตัวนี้ยังเอาไม่อยู่ เหมาะกับรอยเบาๆ อะไรแบบนี้มากกว่า สำหรับตัวนี้เราให้คะแนนที่ 8/10 จ้า หักนิดนึงเรื่องผลลัพธ์ เพราะเคยใช้กับรอยสิวใหญ่ๆ ที่เป็นแผลหลุม ไม่ค่อยได้ผลเท่าไรง่ะ T_T

ตัวต่อไปกันเลยยย Puricas Dragon's Blood Scar Gel 

ตัวนี้เป็นเจลดราก้อนบลัดที่เลื่องลือมานาน เห็นชื่อเสียงแล้วเลยไปสอยมาลองบ้าง เป็นเจลสำหรับรอยสิวและรอยแผลเป็นโดยเฉพาะ ใครที่มีรอยสิวหนักๆ รอยแผลเป็นเล็กๆ บนใบหน้า หรือรอยแผลอื่นๆ ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้นะ เอาอยู่มากๆ

ที่เราชอบมากของตัวนี้คือความออร์แกนิคของนาง คือส่วนผสมต่างๆ คือมาจากธรรมชาติมากเว่ออ มีส่วนผสมของใบบัวบก และต้นดราก้อนบลัดที่ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น และสมานแผลได้ดี

สำหรับผลลัพธ์ที่เราใช้มาประมาณ 1 เดือนคือโอเคกับนางมากๆ เราว่าเป็นเจลลดรอยที่เห็นผลเร็วที่สุดที่เคยใช้มาแล้ว ใช้กับรอยสิวเล็กๆ ใหญ่ๆ รอยดำรอยแดงคือผ่านฉลุย อาจจะใช้เวลานิดนึงนะ ประมาณ 3 วันขึ้นไป ขึ้นอยู่กับอาการและขนาดของรอยสิวด้วย แต่จากที่เราลองใช้กับรอยสิวที่เผลอไปแกะเป็นแผลเป็น ก็ถือว่าจางไวเลยนะ แต่ที่ติดนิดนึงคือเรื่องของกลิ่น เราไม่ค่อยชอบ 55555 จริงๆ มันเป็นกลิ่นของสมุนไพรล่ะมั้ง แต่มันออกเปรี้ยวๆ แปลกๆ แต่ก็ไม่ได้แรงมากนะ ส่วนเนื้อเจลก็ซึมง่ายปานกลาง แต่ไม่หนักหน้าดีจ้า ตัวนี้ให้คะแนนที่ 9/10 หักเรื่องกลิ่นหน่อยนึง แต่ผลลัพธ์คือปังปุริเย่มากแม๊

ตัวสุดท้ายจ้าา คือน้องคนนี้ BK Acne Expert Bright Plus 

ตัวนี้หลอดใหญ่และใช้ได้นานมากจริง ตัวนี้ความเข้มข้นจะมากกว่าสองตัวแรกหน่อยเพราะนางเป็นครีม แต่บอกเลยว่าเป็นครีมลดสิวที่เนื้อซึมง่ายไม่หนักหน้าเลย ตัวนี้ใช้ลอดรอยสิว รอยฝ้ากระ ให้จางลง ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน และน้ำหอมต่างๆ คนผิวแพ้ง่ายใช้ได้แน่นอนจ้า 

ตัวนี้เราจะใช้เป็นตัวทาหลังจากที่ใช้พวกลดรอยแบบสองตัวบนอีกที เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบหน้า (ตัวนี้เราใช้ทาทั้งหน้าเลย แต่อาจจะเน้นในส่วนที่มีรอยสิวมากกว่า) จริงๆ ตัวนี้เราก็ไม่ได้เห็นผลแบบว้าวอะไรมาก แต่รู้สึกว่าใช้เสริมกับตัวเจลลดรอยต่างๆ ก็ทำให้ประสิทธิภาพมันดีขึ้น หน้าสว่างขึ้นและรอยจางเร็วขึ้นด้วย ตัวนี้ให้คะแนนที่ 7/10 หักที่ผลลัพธ์อาจจะไม่เด่นชัดมาก แต่ถ้าหาครีมบำรุงสำหรับคนมีรอยสิว ตัวนี้ก็ตอบโจทย์น้าา

เย้ จบลงแล้ววสำหรับสามตัวที่มารีวิวกันวันนี้ ใครเล็งตัวไหนก็ไปตำตามกันได้นะ บอกเลยว่าแต่ละตัวราคาน่ารัก ไม่เกิน 300 บาททุกตัวจ้า และหาซื้อง่ายตามวัตสันทั่วไปเลย หรือช่วงนี้โควิด ใครไม่สะดวกก็สั่งออนไลน์กันได้จ้า วันนี้ไปแล้ว บ๊ายบายย