ทริปเที่ยวที่คิดถึง: แอ่วเหนือฉบับโหด มันส์ ฮา
Minqerrr
51
17
ฮัลโหลชาวจีบันทู้กคน
วันนี้จะมาเล่าความหลังสมัยยังเปรี้ยวซ่าค่ะ
♡
โควิดเข้ามาในชีวิตของพวกเราแทบสองปีแล้วนะคะทุกคน เวลาก็ผ่านไปไวกับการกักตัว WFH วันนี้มิ้งเลยถือโอกาสมาเล่าประสบการณ์ทริปเที่ยวที่ลืมไม่ลง และก็อยากให้เพื่อนๆเที่ยวทิพย์ไปพร้อมกับมิ้งค่าาาาา ถ้าพร้อมแล้วไปกันเล่ยยยยยย
.
.
.
ย้อนกลับไปสมัยปีสามระหว่างนั่งเรียนอยู่ หันไปถามเพื่อนว่าไปเที่ยวเหนือกันดีมั้ยวะ เราแบคแพคกันไป เพียงแค่ประโยคสั้นๆเท่านั้นแหละทริปนี้ก็เกิดขึ้น การรวมตัวแบบไม่ได้คาดคิด การรวมตัวแบบงงๆ ทำให้เกิดทริป
"เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน-ปาย-เชียงใหม่"
เอาวะลองสักครั้งวางเส้นทางแล้วเริ่มเดินทางกันเลย
เริ่มต้นจากกรุงเทพ-เชียงใหม่
พวกเราจะต้องนั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่ เฮ้ยแต่ว่าต้องมีคนไปเอาตั๋วไว้ก่อนนะไม่งั้นเราไม่มีที่นั่งแน่ๆ ได้ยืนนานยืนยาวจนถึงเชียงใหม่เป็นแน่ ทันใดนั้นก็มีเพื่อนในกลุ่มเสียสละไปรับตั๋วที่สถานีหัวลำโพงในเวลา 05.00 นเจ้าช่างมีน้ำจิตน้ำใจ จากนั้นทุกคนก็พร้อมออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ โอโหอยากบอกว่าเปิดโลกมากค่ะ รถไฟฟรี มีแอร์นะคะ แอร์ธรรมชาติ สาวคนไหนผมยาวนั่งสักพักจะได้รับน้ำหอมกลิ่นลิมิเต็ดติดเส้นผม
เป็นกลิ่น สนิมค่ะ 55555555
ระหว่างทางที่พวกเรานั่งไปนั้น บางครั้งก็มีผุดลุก ผุดนั่งสลับกันยามที่มีผู้สูงอายุ ผู้พิการขึ้นมาระหว่างทาง หรือแม้กระทั่งคนเมา (โอโหนั่งครั้งเดียวเจอครบ) ถึงแม้ว่าพวกเราจะได้ตั๋วมาก็จริง แต่ด้วยความที่รถไฟฟรี ใครจะขึ้นตอนไหนก็ได้ บางคนอาจจะขึ้นระยะทางสั้นๆ ก็อาจจะไม่มีที่นั่งค่ะ ระหว่างที่นั่งไปพวกเราจะผลัดให้มีคนนึงตื่นเพื่อเฝ้าเพื่อนและสัมภาระเสมอ และก็จะมีหาของเด็ดของแต่ละชานชาลาแต่ละจังหวัด ที่จำได้แม่นก็คือ ถึงลพบุรีต้องแวะซื้อไอติมกะทิน่ะสิคะ
หลังจากนี้จะเล่าอย่างรวบรัดตัดตอนไปบ้างนะคะ กลัวยาวไปเพื่อนๆจะขอลากลับ
กทม ไม่เที่ยวทิพย์ด้วยกันแล้ว555555 TT
นั่งรถไฟฟรีเท้าเหยียบเชียงใหม่ในเวลาตี 5 เอาล่ะค่ะทริปที่เราจะไปกันนั้นได้แก่
เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ปาย ปางอุ๋ง
กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว
หยุนไหล สะพานซูตองเป้
ทั้งหมดนี้เราจะมีการโบกรถพี่ๆที่ใจดีขอติดรถ ยกนิ้วโป้งโบกทั้งทาง ขึ้นรถโดยสาร และจ้างคุณลุงป้อมที่แม่ฮ่องสอน
เชียงใหม่
พอถึงเชียงใหม่เราก็ทานข้าวเช้า อาบน้ำที่สถานีรถไฟ เตรียมพร้อมออกเดินทางนั่งรถเมล์มุ่งตรงสู่ดอยอินทนนท์ เพื่อที่จะไปเดินเส้นทางธรรมชาติกิ่วแม่ปานขาขึ้นราบรื่นพร้อมเตรียมกำลังกายให้พร้อมเดินขึ้นเขา เส้นทางของกิ่วแม่ปาน โอโหใครไม่ไหวก่อนเดินเข้าไปพกไม้ค้ำไปคนละ 1 นะคะ แต่พอไปถึงจุดชมวิว ดีมากกกหมอกสวยนี่แหละสิ่งที่ตามหา วันแรกผ่านไปแบบที่ไม่น่ามีอะไรจะเกิดขึ้น
เอาล่ะขาลง โบกรถสิคะรออะไร โบกอยู่สักพักก็ได้รถพาเราลงพี่ๆทุกคนที่รับพวกเราใจดีมากๆเลยค่ะ นั่งท้ายกระบะกันไป บ้างก็ได้แลกเปลี่ยนว่ามาจากไหน ทำอะไรกันอยู่ พี่ทำอาชีพอะไร น่ารักตลอดทางค่ะ
แม่ฮ่องสอน
นั่งรถจากเชียงใหม่เดือนทางสู่แม่ฮ่องสอน พวกเรานั่งรถตู้โดยสารโดยที่ทางไปนั้น โอ้โหหหหหหหโค้งเยอะ ใครนั่งริมกระจกเตรียมรับแรกกระแทก หัวเพื่อนของมิ้งมีเสียงลั่นออกมาทุกโค้ง แอบสงสารแต่ก็ขำเพื่อนด้วย เออหัวแข็งนะ555555555
และแน่นอนไฮไลท์ระหว่างทางก็คือ ป้ายข้างทาง "โปรด ระ วัง ข้าง หน้า มี ไส้อั่ว!!!"
โถถถถถถก็เวียนหัวมาหลายโค้ง เอามือกุมพระนึกว่าต้องเจออะไรที่พีคกว่านี้หรอ อะพีคจริงค่ะ แต่ขำลั่นรถแทน55555
พอมาถึงก็ได้จ้างรถนำเที่ยวเพื่อพวกเราค่ะ ก็ได้เวลาเบิกตัวลุงป้อมผู้ใจดีกับพวกเราที่จะพาเราไปจุดหมายปลายทางนั่นก็คือ ปางอุ๋งงงงงงงงง
พูดถึงปางอุ๋งนะคะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติเหมือนกันค่ะ เป็นโครงการหลวงที่คนไทยเทียบว่าเป็นสวิสแลนด์เมืองไทยค่ะ กิมมิคของเค้าคือมีทะเลสาบที่ตอนเช้าจะมีหมอกลอยเหนือน้ำและมีน้องห่านออกมาโชว์ตัว ก่อนไปปางอุ๋งพวกเราได้ไปแวะเที่ยวน้ำตกกันก่อนด้วยค่ะแต่ว่ามิ้งจำชื่อไม่ได้ แต่ไปถึงก็เริ่มเลยค่า ลื่นค่ะ และเพื่อนก็ได้ทำการช่วยเหลือโดยการถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐานค่ะ แค้นจริง หลังจากนั้นพวกเราไปถึงปางอุ๋งโดยเลือกพักกับชาวบ้านค่ะ เป็นโฮมสเตย์ บนนั้นมีร้านหมูกระทะด้วยนะคะอิอิเวลาขึ้นเขา ขึ้นดอยก็ต้องกินหมูทะอะเนอะ แต่จะเป็นไปตามความฝันนั้นไม่มีจริงน่ะสิคะ
พีค 1 ทุกคนไม่มีเงินสดเพียงพอเพราะลืมกดเงินเพิ่มค่ะ และไม่สัญญาณโทรศัพท์ค่ะ เอาล่ะเมื่อเงินมีจำกัด ทุกคนร่วมลงขันทานได้เพียง 1ชุด
เข้าหลักสูตรเอาอยู่เพื่อดำรงชีพค่ะ
ไฮไลท์เด็ดต้องตื่นมาดูทะเลหมอกยามเช้า เดี๋ยวเค้าจะว่ามาไม่ถึง เช้าวันใหม่ไก่ร้องกุ๊กๆ พร้อมกับเสียงกรีดร้องของเพื่อนนางหนึ่งอย่างหวยหวน "เพื่อนนนนนนนนจะเที่ยงแล้ว" เหตุการณ์นี้หมายความว่าไงคะ เข้าสู่ Gat เชื่อมโยง.... พวกเราพลาดวิวทะเลสาบ TT โอเคไม่ได้วิวนั้น แต่ได้เดินเที่ยวรอบๆก่อนกลับลงข้างล่าง
และใช่ค่ะอีกแล้วไอเด็กพวกนี้ไม่จำ ไม่มีเงินติดตัวสักบาท ย้ำว่าทุกคน 0 บาทจริงๆนะคะ รวมกับว่านักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาเมื่อวานก็ทะยอยลงกันไปเกือบหมดแล้ว เดชะบุญของลูกช้างยังมีพี่คันนึงกำลังลงไปพอดี ไม่งั้นพวกเราก็วางแผนจะเดินเท้าลงแล้วล่ะค่ะฮืออออ
ปาย
หลังจากลงมาจากปางอุ๋งพวกเราก็มุ่งหน้าสู่ปาย ซึ่งปายเป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ก็เลยเช่ามอเตอร์ไซด์มา 3 คัน เพื่อเที่ยวรอบเมืองกันค่ะ ในวันนี้เป็นวันที่เราร่างแทบแหลกกันมากๆ ก็เลยเพียงแค่ไปเดินถนนคนเดิน แวะนวดเท้า และตามรอยหนังดังในอดีตอย่าง ปาย in love มีใครจำได้มั้ยคะ ที่นี่คนในพื้นที่มักบอกว่าคนจีนมักประสบอุบัติเหตุจากรถมอไซต์กันบ่อย เนื่องจากทางเป็นทางชันนะคะ เพราะงั้นไม่แนะนำให้คนที่ขับรถไม่แข็งเช่าไปขับสุ่มสี่ สุ่มห้านะคะ
เช้าวันใหม่พวกเราตื่นเช้าตรู่ คราวนี้ไม่พลาดแล้วหึหึหึหึ มุ่งหน้าสู่หยุนไหล เพื่อไปชมทะเลหมอกกันค่ะ แว้นมอไซยามเช้าตู่ฟ้ามืดอยู่เลยค่ะเพราะพวกเราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ หยุนไหล viewpoint ทะเลหมอกยังไม่ทันถึง ระหว่างทางเราก็เจอแม่คะนิ้งก่อนค่ะ ไม่ใช่ที่ไหนไกลนะคะบนขนตา !!!!!! โอโหแกงค์เรามันจะพีคทุกวันไม่ได้นะ แต่พอไปถึงคุ้มค่าค่ะ หมอกหนามากมากจนเรารวมเป็น 1 กับหมอก พร้อมกับซดชาร้อนๆ โอเคฟินแล้ว
กลับสู่เชียงใหม่
พักผ่อนร่างกายเดินเล่นแบบคนรวยในนิมมาน ไหว้พระ เดินเล่นในเชียงใหม่ ทันทีที่เท้าเหยียบเชียงใหม่ สิ่งแรกที่พวกเราทำนั่นก็คือ อาบน้ำ เพราะไม่ได้อาบมา 2 วันค่ะ อาบเยี่ยงเจ้าหญิงกันไปเลย แล้วก็พักร่างอีกวันเพื่อเตรียมเดินทางกลับ โดยวันกลับตอนนั้นรถไฟขบวนใหม่เพิ่งมีเลยค่ะ พวกเราก็ประเดิมนั่งขากลับมา เป็นการจบทริปที่นั่งสบาย นอนสบายตอนมุ่งหน้าสู่กทม ค่า
เป็นไงบ้างคะทริปภาคเหนือ 5 วัน แบบดิบๆ เถื่อนๆ ที่ถ้านับวันที่เขียนนี้ก็ผ่านมา 5 ปีแล้วค่ะ แต่ก็ยังคงประทับใจ สนุก ได้ประสบการณ์ ได้คุยกับคนพื้นที่มากมาย รวมถึงขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยเหลือ ยอมให้พวกเราเดินทางไปด้วยนะคะ ถ้าสถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นก็หวังว่า พวกเราจะได้ไปเที่ยวแล้วแวะเอาความสนุก ตลก วงวาน มาแบ่งปันเพื่อนๆอีกนะคะ
สำหรับเราแล้วทริปนี้ที่เราประทับใจนั่นก็คือ ความทรงจำร่วมกันระหว่างเรา เพื่อน และผู้คนที่เจอค่ะ
เพื่อนๆอ่านแล้วรู้สึกยังไง อย่าลืมมาแบ่งปันความคิดเห็นกันนะคะ มิ้งเขียนจริงจังแบบนี้ครั้งแรกเลยค่ะ