เปรียบเทียบนางเอกเจ้าแม่แฟชั่นแห่งซีรีส์เกาหลี-ญี่ปุ่น-จีน

50 10
เกาหลี  ญี่ปุ่น  และจีน  สามชาติมหาอำนาจด้านอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเอเชียที่สามารถผลิตผลงานหนัง-ซีรีส์ส่งออกเพื่อกอบโกยความนิยมในต่างประเทศ     และความสำเร็จของซีรีส์นั้นยังสร้างอิทธิพลสำคัญต่อทิศทางเทรนด์จากหลากหลายลุคของนางเอกซีรีส์ที่ถูกคลิกแชร์ต่อไปเรื่อยๆ  

แฟชั่นของนางเอกซีรีส์จากสามชาตินี้จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันเช่นไร  มาติดตามกันเลยค่ะ
 

Modern Career Woman

คุรุมิ (ฮารุนะ  คาวากุชิ) จาก Why I Dress Up For Love


แฟชั่นของฮารุนะ ที่รับบทเป็นคุรุมิ นางเอก Why I Dress Up For Love ได้สร้างเสียงกล่าวขวัญในหมู่แฟนๆญี่ปุ่นว่าช่างดูน่ารักสดใสจนอยากจะหามาแต่งตาม   จากบทบาทของ PR บริษัทตกแต่งที่สร้างชื่อโด่งดังในสังคมออนไลน์จากการเป็น influencer ก็น่าจะการันตีเรื่องสไตล์ที่โดดเด่นของเธอได้ชัดเจน


เมื่อลองกวาดตาชมสไตล์ของฮารุนะจากเรื่องนี้แล้ว    ไม่แปลกใจเลยที่ถูกจริตสาวญี่ปุ่น

บทคุรุมิ สาวที่ยึดมั่นกับ SNS (Social Networking Service หรือที่บ้านเราเรียกsocial media หรือสังคมออนไลน์) ผู้ติดตามหลักแสนของเธอมักชื่นชมเรื่องlifestyle ที่ดูดีของสาวทำงานยุคใหม่ที่ไม่ได้ดูอนุรักษ์นิยมหรือซ้ำซากจำเจ แฟชั่นของเธอจึงแตกต่างจากภาพของ OLแบบเดิมๆที่เคยเห็นผ่านซีรีส์ สไตลิสท์เลือกสีสันสะดุดตาโดยเฉพาะสีเหลือง-เขียวที่หยิบมา mix & match ทั้งเรื่อง



กางเกงขากว้าง

สำหรับเราแล้ว  กางเกงขากว้างน่าจะเรียกว่าเป็น trademark ของคนญี่ปุ่นก็ว่าได้  ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย   นี่อาจจะเป็น item ที่ต้องมีติดตู้  มีความกว้างหลายระดับ   ตั้งแต่กว้างแบบเบาๆไปจนถึงกางเกงที่ใส่แล้วอาจจะทำให้เข้าใจผิดคิดว่าใส่กระโปรง maxi

นางเอกญี่ปุ่นหลายคนที่รูปร่างผอมบาง แต่ความผอมของพวกเธอถูกกลบเกลื่อนไว้ด้วยเสื้อผ้าที่ดู oversized แม้จะไม่ได้ใส่ชุดที่หลวมโพรก แต่เป็นดีไซน์ที่พอง-กว้าง-บาน ใช้เนื้อผ้าเยอะจนอาจดึงดูดความสนใจไปจากรูปร่างภายใต้ร่มผ้า

เอาเป็นว่า  ด้วยความนิยมในกางเกงขากว้างก็ทำให้ไม่คุ้นภาพของนางเอกซีรีส์ใส่leggings แบบเดี่ยวๆหรือskinny jeans เท่าไร


จับคู่สีที่ตัดกันสร้างความโดดเด่นกว่าเดิม
นางเอกเรื่องนี้ได้รับคำชมเรื่องการเลือกใส่เสื้อผ้าสีจัดจ้านได้อย่างลงตัว ดูไม่เยอะเกิน หลายครั้ง สไตลิสท์ใช้เทคนิคการจับสีที่ตัดกัน แล้วเบรคด้วยรองเท้าเฉดสีอ่อนอย่างสีนู้ดและพาสเทล


หลายไอเท็มที่ปรากฏในซีรีส์ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ในประเทศผสมผสานกับแบรนด์เนมตะวันตกที่มีทั้งราคาจับต้องได้กับราคาระดับไฮเอนด์



สไตล์ที่ถึงจะเห็นแต่ไกลก็รู้ว่าเป็นสาวญี่ปุ่น

Maxi Dress
เปิดซีรีส์ญี่ปุ่นเมื่อใดก็มักจะเจอเดรสยาวระดับข้อเท้า    จะเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนเครื่องแบบของสาวญี่ปุ่นที่มองจากไกลๆก็ยังฟันธงได้ว่าญี่ปุ่นแน่ๆ      คุรุมิเลือกใส่เดรสสีมัสตาร์ดแขนเสื้อพองเล็กน้อยและมีชายกระโปรงบานไปทำงาน   ส่วนลุควันสบายๆก็ใส่เดรสเอี๊ยมทับเสื้อและกางเกงอีกชั้นหนึ่ง


คุณอาจจะสังเกตว่า คุรุมิจะไม่ใส่รองเท้าที่สูงจนต้องยืนเขย่ง    แม้จะใส่ maxi dress แต่เธอก็เลือกใส่กับรองเท้าflat  



layer แล้ว layer อีก

อีกหนึ่ง signature ของสาวญี่ปุ่นคือการใช้ลูกเล่นlayer  ไม่ใช่แค่การใส่ชุดซ้อนกันหลายชั้น  แต่จะมีดีไซน์ไล่ระดับที่ทำให้ดูน่าสนใจขึ้น  


เห็นโบกมือไกลๆ กับชุด layer แบบนี้  อาจจะทำให้คุณมั่นใจได้ทันทีว่าเธอเป็นคนญี่ปุ่นแน่ๆ
ก็layerปกตินี่!
ชุดไปเดทของนางเอก  กระโปรงเอี๊ยมใส่ทับเสื้อและกางเกงขากว้าง  สวมเสื้อเชิ้ตทับอีกชั้น  แล้วก็เพิ่มหมวกไปอีกอย่าง

ทรงผมที่มีgimmickเสมอ

ผู้ชมซีรีส์อาจจะเพลิดเพลินกับเนื้อเรื่องและแฟชั่นจนไม่ทันมองว่า นางเอกที่รวบผมเป็นประจำนั้นไม่ได้รวบแบบผ่านๆ แต่ลงรายละเอียดที่ดูน่ารักประสาสาวญี่ปุ่นที่ต้องใส่ใจกับสิ่งเล็กๆน้อยๆไว้ด้วย



โจวฟ่าง (ตี๋ลีเร่อปา) จาก Love Designer


You are my glory ซีรีส์รักหวานแหววที่มาแรงสุดๆนั้นได้สร้างความประทับใจให้กับผู้คนมากมาย   นอกจากจะเนื้อเรื่องที่ทำให้ฟินกันไปถ้วนหน้าแล้ว   ออร่าความสวยหล่อของพระนางที่ถูกยกให้เป็นเจ้าของเบ้าหน้าขั้นเทพนั้นยังตรึงตราแฟนๆ   หากจะให้บรรยายความสวยของตี๋ลี่เร่อปาแล้ว   ก็คงพูดได้เต็มปากว่า  สวยขนาดนี้ ให้ใส่กระสอบข้าวออกมาเดินเฉิดฉายก็ยังดูสวยอยู่ดี!     ส่วนแฟชั่นของเฉียว จิงจิง ก็สมกับดารา A List แห่งแผ่นดินใหญ่   แต่ถ้าพูดถึงบทบาทของเจ้าแม่แฟชั่น  น่าจะเข้ากับบทของโจวฟ่างจากซีรีส์ Love Designer ที่จบไปเมื่อปีที่แล้ว  เพราะเธอรับบทเป็นดีไซน์เนอร์สาวผู้มีพรสวรรค์ที่จะพาแบรนด์จีนไปประสบความสำเร็จในระดับนานาชาตินั่นเอง


แฟชั่นส่วนใหญ่ในฉากจะมาจากแบรนด์ในประเทศ

โจวฟ่างเป็นดีไซน์เนอร์โนเนมฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ เธอถูกคนรักหักหลังอย่างร้ายกาจ ทั้งนอกใจและฉ้อโกงเงินของเธอไปจนแทบหมดตัว ไม่แปลกเลยที่สาวสู้ชีวิตที่รักในแฟชั่นจะใส่เสื้อผ้าhigh-street แต่ก็ทำแฟนบางคนก็แสดงความประหลาดใจนิดหน่อยที่ได้เห็นนางเอกสาวหน้าตุ๊กตาผู้นี้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์จีนที่ราคาจับต้องได้อยู่หลายลุค 

บางคนอาจมองว่า สไตลลิสท์เน้นใช้แบรนด์ในประเทศจากนโยบายปลูกฝังชาตินิยมของรัฐบาลจีน  ซึ่งมีการเปิดเผยว่าเพื่อความสมจริงตามเนื้อเรื่อง นางเอกจึงไม่ได้ใส่แบรนด์เนมราคาแพงจากตะวันตกแบบที่เซเลบใส่กันตามปกติ อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าแบรนด์จีนหลายตัวที่เราได้เห็นตีลี่เร่อปาใส่แสดงซีรีส์เรื่องนี้ก็ราคาเอาเรื่อง ไม่ได้ย่อมเยาว์กว่าแบรนด์ตะวันตกมากนัก 

เป็นนางเอกที่ใส่ชุดซ้ำกันเหมือนคนในโลกแห่งความเป็นจริง  มีทั้งจับมา mix เป็นลุคใหม่ และใส่ซ้ำกันเป๊ะๆทั้งเสื้อ-กางเกง-กระเป๋า

ทาปากแดงตัดดับเสื้อผ้าสีneutral ทั้งเรื่อง
อาจจะไม่ใช่เฉดแดง cherry  แต่เจือสีส้ม แต่ดีไซน์เนอร์สุดสวยคนนี้ก็ปากแดงตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนทำงาน ออกกำลังกาย หรือแม้แต่กระทั่งเข้านอน!
โจวฟ่างใส่ชุดโทนสีร้อนค่อนข้างน้อย   เธอเลือกสี neutralเป็นหลัก  ( ขาว ดำ เทา เบจ น้ำตาล)   จากเดิมที่ปากสีแซบที่ตัดกับผิวขาวราวกับไข่มุกก็เด่นมากอยู่แล้ว

อย่าลืมชุดคู่กับคุณแฟน

เทรนด์ jacket ตัวสั้น

beauty standard ที่ขึ้นชื่อลือชาของนางเอกจีนคือความผอมบาง  จากในอดีตตี๋ลี่เร่อปาจะมีเนื้อหนังมากกว่านี้และยังมีฉายาที่แฟนๆตั้งให้ว่า 'พั้งตี๋'  หรือตี๋อ้วน ( เป็นการเรียกอย่างเอ็นดูที่เธอกินเก่ง  ไม่ได้จิกกัดว่ามีรูปร่างอ้วน)  ในช่วงหลังๆ เธอผอมลงชัดเจน  ยิ่งได้ใส่สูทลายเข้าชุดที่ท่อนบนเป็น jacket ตัวสั้นที่เธอใส่ในเรื่องนี้ก็ยิ่งเน้นองเอวให้เห็นชัดเจนว่าบางจริงๆ

ใครที่คาดหวังจะเห็นแฟชั่นที่จัดจ้าน-แปลกใหม่ อาจไม่สมหวัง

นางเอกดีไซน์เนอร์ของเราไม่ได้ฉีกสไตล์ไปจากผลงานเรื่องที่แล้วมา   ซึ่งข้อนี้ไม่ได้ขัดแย้งกับบทแต่อย่างใด  เพราะดีไซน์เนอร์ในชีวิตจริงหลายคนก็ไม่ได้แต่งตัวโฉบเฉี่ยวหรือซับซ้อนจนต้องตีความ   


สูท oversized  ของสาววัยมหาลัย-วัยทำงานไฟแรงใน K-Drama


เทรนด์นี้อินกันติดต่อมานานน่าดู ทุกวันนี้เหล่าอิทเกิร์ลฝั่ง Hollywood ก็ยังนิยมใส่อยู่  พอหันมาทางเกาหลีใต้  เสื้อสูทอาจจะไม่ดูใหญ่มากหรือเสริมบ่าจนกว้างแบบนักอเมริกันฟุตบอล  แต่เมื่อเปรียบเทียบกับรูปร่างบอบบางของคนใส่แล้วก็ดูใหญ่พอสมควร   เป็นไอเท็มที่คนดังใส่กันพรึ่บทั้งในจอและนอกจอ  

สมัยก่อนนั้น หลายคนอาจจะมองว่าเสื้อสูทเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นทางการ หรือให้ความรู้สึกแบบ masculine     ชุดเก่งของซอ ดัลมีแห่งStart-up  มักจะเป็นสูทตัวใหญ่จับคู่กับกางเกงเดนิมที่ดูลำลอง
สูทตัวใหญ่สีเบจจับคู่กับ Converse สีชมพูแบบอัน จองฮา นางเอก Record of Youth    เธอเป็นช่างแต่งหน้าที่ใส่เสื้อสูททั้งตอนทำงาน ไปเดท  และโหลดคลิปสอน how to ผ่าน SNS


เมื่อก่อนคนที่ใส่ blazer แบบนี้อาจจะถูกเปรียบเทียบว่าแต่งตัวแนว boyish หรือแนวandrogynous (ไม่ระบุเพศ)  แต่สมัยนี้สาวๆหันมาใส่กันโดยไม่ต้องมีคำนิยามเจาะจงใดๆ  

แฟชั่นสุดหรูแบบแชโบลเกาหลี



ยุน  เซรีแห่ง Crash Landing on You


ต้องมี minidress โชว์เปรียวขาจับคู่กับส้นสูงสุดเปรี้ยว


ฉากเปิดตัว
กลับมาทวงตำแหน่งราชินี
เผชิญหน้ากับอริในครอบครัว
ควงแฟนหนุ่มมาช็อป
เมื่อใดก็ตามที่ยุน เซรีที่ต้องการจะแผ่ออร่า Girl Boss  ก็ะเลือกใส่ชุดสั้นและส้นสูงเดินเฉิดฉายด้วยความมั่นใจเกินร้อย  เธอย่อมรู้ดีว่าจะตกเป็นเป้าสายตาที่มองมาอย่างทึ่งปนอิจฉา


ของมันต้องมี: ใส่ blazer/jacket เป็น cape

เคยสังเกตจากซีรีส์เกาหลีกันไหมว่า   นางเอกที่ต้องแสดงบทที่มีออร่นางพญาจะขาดลุคนี้ไปไม่ได้  และจะต้องใส่ไว้ให้เนี้ยบที่สุด โดยไม่ถอดออก  แม้จะนั่งผ่อนคลายที่โซฟาในบ้านหรือกินพาสต้าในร้านหรู ก็จะไม่พาดเสื้อตัวนอกไว้ที่ที่อื่น (จนคุณอาจจะรู้สึกเกร็งแทน)

ชมซีรีส์เกาหลีติดต่อนานหลายปี รู้ตัวอีกที การใส่เสื้อตัวนอกนรูปแบบของ cape ก็ได้เป็นสัญลักษณ์ของความสวยแพง ดูเป็นตัวแม่    กระทั่งว่านั่งดื่มชาสบายๆในบ้านก็ยังต้องสวมพาดเสื้อนอกไว้ที่บ่าและมาพร้อมกับ posture สง่างามแบบคนที่ได้รับการอบรมให้แสดงกิริยาท่าทางสุดเป๊ะแบบชนชั้นสูง



แฟชั่นแบบ more is more  สื่อถึง character ของนางเอกที่ไม่เหมือนใคร


โก มุนยอง  จาก It's ok not to be okay


นางเอกซีรีส์เกาหลีที่ไม่เห็นหัวคนอื่น ไม่ใส่ใจภาพลักษณ์หรือคำวิจารณ์จากคนอื่น

ก็โก มุนยองนั่นไง!
ซีรีส์เรื่องนี้อาจจะสร้างความรู้สึกคล้ายกับแนวแฟนตาซี  ตอนที่นางเอกแต่งตัวเยอะเหมือนกับดาราHollywoodแต่งไปเดินพรมแดง Grammy Awards จึงดูกลมกลืนไปกับเส้นการเล่าเรื่อง  แต่นางเอกผู้วางตัวอยู่ห่างไกลจากความธรรมดาก็ล้ำกว่าใคร  จะบอกว่าเธอแต่งตัวเพื่อดึงดูดสายตาคนรอบข้างก็คงไม่ใช่ เพราะไม่เห็นจะแยแสว่าใครจะคิดเช่นไร  พูดไม่เข้าหูขึ้นมามีฟาดกลับแรงๆ


สไตลิสท์อาจจะพยายามสื่อว่า  นี่คือนางเอกที่ทำอาชีพกับจินตนาการไร้ที่สิ้นสุด   แฟชั่นที่ถ่ายทอดความเป็นตัวเธอออกมาจึงเป็นแบบตามใจฉัน  ไม่ต้องคำนึงว่าจะเข้ากับสถานที่หรือความเหมาะสมตามที่สังคมได้วางกรอบไว้     เธอหลีกหนีแฟชั่นแบบคาดเดาได้ง่าย แล้วเติมความเยอะเข้าไป less is more คืออะไร   สวย รูปร่างดี จะ more มากแค่ไหนก็ได้!


นางเอกที่ใส่ชุดสั้นแบบมั่นใจเกินร้อยน่ะมีให้เห็นกันบ่อยไป  แต่ก็พอได้เห็นความสั้นระดับแฟชั่นของไอดอล K-Pop และยังเป็นชุดใส่ไปทำงานร่วมกับคนอื่นก็อดจะร้องว้าวให้กับโก มุนยองไม่ได้
ถึงจะดูเยอะ และอาจจะนำมาประยุกต์เข้ากับการแต่งกายในชีวิตประจำวันไม่ได้ไปหมดทุกลุค  แต่ก็ดูสวยดึงดูดใจมากจริงๆ

นี่จะใช่เหตุผลที่ทำให้วลี 'สวยแบบเกาหลี'  ส่งอิทธิพลต่อแฟนๆในหลายประเทศรึเปล่านะ?


ถึงนางเอกจะรับบทสาวสู้ชีวิต ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากท้อง  แต่จะใช้แบรนด์เนมบ่อยๆ


ถึงดงแบ็กแห่ง When the camellia blooms จะบ่นบ่อยๆว่าเธอต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองและลูกแต่ก็ยังมีเงินเก็บเพียงนิดเดียว แต่เครื่องแต่งกายของเธอก็ไม่ใช่ของราคาถก ซึ่งเรื่องเหล่านี้ดูจะปกติเป็นอย่างยิ่งในซีรีส์เกาหลี ถ้าไม่อยากให้ดูโจ่งแจ้งนัก ก็ถ่ายทำโดยไม่ให้เห็นป้ายยี่ห้อ  แต่สื่อก็ตามสามเสาะหา ID ลุคของนางเอกมานำเสนอให้กับผู้ชมได้ทึ่งอยูดี


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE