แน่ใจได้ยังไง กันแดดที่ใช้อยู่ ไม่อันตราย ?
Sunsaek Songkumarn 49 19กันแดดเป็น Skincare ที่ MUST HAVE ต้องทาทุกวัน และที่สำคัญต้องทำความสะอาดดีๆด้วย เพราะกันแดดก็ทำให้อุดตันผิวได้ด้วยเช่นกัน
ประเทศไทยอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร UV index ก็คือแรงมาก ดังนั้น เราต้องทาครีมกันแดด ย้ำว่าต้องทา !
ก่อนอื่นนั้น ดวงอาทิตย์ปล่อยรังสีอะไรมายังโลก แล้วส่งผลกับผิวเราบ้าง?
หลักๆคร่าวๆคือ
1.รังสี UV
แบ่งเป็น UVA UVB
2.รังสีอินฟาเรด
ที่ทำให้ผิวเรารู้สึกร้อนๆวูบๆวาบๆ
แล้ว UVA vs UVB ต่างกันยังไง?
จำง่ายๆคือ
UVA = A คือ Age
ทำให้ผิวแก่ เหี่ยว
UVB = B คือ Burn
ทำให้ผิวดำ คล้ำ ไหม้ และเป็นตัวที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง เกิดฝ้า รอยดำสิวเข้มขึ้น
สรุป
A = Age = แก่
B = Burn = ดำ
รังสีอินฟราเรด เป็นรังสีที่ลงลึกมากกกกกก ตัวนี้ทำลายคอลลาเจนในผิวด้วย
แล้วก่อนซื้อกันแดด ควรดูอะไรบ้างข้างกล่องผลิตภัณฑ์บ้าง ?
1. ควรดู SPF
SPF คืออะไร ?
SPF คือค่าการป้องกันรังสี UVB เท่านั้น !
ย้ำว่าป้องกันผิวดำเท่านั้น แต่ไม่ป้องกันการแก่ของผิว
2. ควรดูค่า PA
PA คือ คือดัชนีชี้วัดการป้องกันค่า UVA ยิ่งมีจำนวน+ มาก ยิ่งมีค่าป้องกัน UVA ได้มากขึ้น เช่น PA++++ จะป้องกันรังสีUVA ได้ดีกว่า PA+++
* ดังนั้นเพื่อความเซฟๆ ก็ซื้อPA++++ 4บวกไปเลย ยังไงก็ป้องกันหน้าแก่ ได้ดีกว่า PA+++ อยู่แล้ว *
สรุป
มี SPF = UVB = BURN = ผิวไม่ดำ
มี PA = UVA = AGE = ผิวไม่แก่
ยิ่ง SPF สูง ยิ่งป้องกันผิวได้ดี ?
ไม่ได้มีนัยยะสำคัญขนาดนั้น ในกันแดดที่SPF มากกว่า 30 เพราะ SPF30 สามารถกันUVBได้96% แต่SPF50 กันUVBได้98% (เพิ่มขึ้น2%เท่านั้น)
แต่การเลือกซื้อSPF ก็เอาที่ความสบายใจเราเลย55555 เพราะเรื่องสกินแคร์นอกจากFACTSแล้ว ความสบายใจก็เป็นส่วนหนึ่งในการใช้เหมือนกัน555555
แล้วควรจะเลือกกันแดดยังไง ?
ตอนนี้กันแดดมีอยู่3แบบหลักๆ คือ
1. Chemical Sunscreen
2. Physical Sunscreen
3. มีทั้งสองแบบรวมกันในหลอดเดียว
1. Chemical Sunscreen
ตามรูปที่พยายามทำมาให้ดูง่าย5555 (รึเปล่า)
Chemical Sunscreen คือ กันแดดที่ซึมผิว ไม่เคลือบผิว และทาแล้วหน้าไม่เทาเหมือนทา Physical Sunscreen โดย Chemical Sunscreen นั้นจะ Absorb หรือดูดซึมความร้อนที่เกิดจากรังสีUVผ่านสารกันแดดเข้ามาในผิว สิ่งที่เข้ามาในผิวจะไม่ใช่รังสีUVแล้ว แต่จะเป็นความร้อนแทน
2. Physical Sunscreen
Physical Sunscreen จะเป็นสารกันแดดที่สะท้อนรังสีUVออกจากผิว โดยกันแดดพวกนี้จะเคลือบอยู่ที่ผิว เลยทำให้บางคนทาแล้วหน้าเทา555555
กันแดดตัวไหนที่ทาแล้วหน้าเทา ไม่ซึม นั่นคือ Physical Sunscreen จ้าาาา
ส่วนผสมหลักของ Physical Sunscreen คือ
1. Zinc Oxide
2. Titanium Dioxide
** ใครที่มีปัญหาผิวบอบบาง Skin Barrier impair หรือ Skin Barrier มีปัญหา หรือมีปัญหา Eczma มีปัญหาเซปเดิร์ม ควรหลีกเลี่ยง Zinc Oxideให้ดี! **
ขออนุญาตพลีชีพ เทียบสองรูป ทา Physical Sunscreen กับ Chemical Sunscreen จะเห็นได้ว่า รูปที่หา Physical คือหน้าเทามากกกก55555 เทาจนเพื่อนบอก เช็ดออกเหอะ ขอร้อง 555555
สรุป
Chemical = ดูดซับ
Physical = สะท้อน
ส่วนผสมเหล่านี้ คือสารกันแดดใน Chemical Sunscreen
PABA
Trolamine salicylate PABA
Oxybenzone
Homosalate
Avobenzone
Octixalate
Enzulizole
Tinosorb S/Tinosorb M
Ethylhexylmethoxycinnamate
Mexoryl XS / Mexoryl XL
แต่
แต่
แต่
แต่
รู้หรือไม่ว่าสารกันแดดใน Chemical Sunscreen บางตัวสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เข้าสู่กระแสเลือด เข้าสู่ยูรีนของเรา และส่งผลต่อฮอร์โมนเราได้ !
จากงานวิจัยหลายฉบับพบว่ามีสารกันแดดบางตัว ที่ส่งตรวจพบในกระแสเลือด และยูรีนหลังจากใช้ไป3วัน นั่นคือซึมเข้าสู่ผิว และกระแสเลือดของเรา อีกทั้งบางตัวยังส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกายเราได้, เกิด Oxygen Radicals ส่งผลให้เกิด Cell damaged และ Cell mutations ได้ใน Long-term use
ส่วนผสมเหล่านี้ได้แก่
Oxybenzone, Octinoxate, Octocrylene และ Homosalate
* โดยเฉพาะ Homosalate มีหลายยี่ห้อดังของไทย ที่มีส่วนผสมตัวนี้เป็นตัวหลักเลย ใน Ingredients list แต่จะไม่บอกว่ายี่ห้ออะไร ไปเปิดดูเอาเอง *
** คุณแม่มีครรภ์ และเด็กน้อย ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง **
ขอบคุณเพื่อนๆหลายๆท่านที่ตามอ่านจนจบ จุดประสงค์ที่ตั้งกระทู้มาเพื่ออยากบอกว่า
การซื้อกันแดดนั้นนอกจากจะดู SPF / PA / น้ำหอม / ซิลิโคน แล้ว ยังมีสารกันแดดบางตัวที่งานวิจัยในต่างประเทศพบว่าซึมเข้าสู่กระแสเลือด และยูรีน อีกทั้งยังส่งผลกับฮอร์โมนได้
แต่ก็ยังไม่มีผลวิจัยออกมาชี้ชัดว่า ซึมเข้ากระแสเลือดแล้วยังไงต่อ? ยกเว้นคุณแม่ตั้งครรภ์ ก็ควรใช้ Physical Sunscreen ไปก่อน เพราะความปลอดภัยของลูกน้อย