สวัสดีเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้นะคะ วันนี้จะว่าด้วยเรื่องการสครับผิวกัน

     การสครับผิวคือ

     - การผลัดเซลล์วิธีหนึ่ง เป็นการกำจัดผิวที่แห้งมากหรือเซลล์ที่ตายแล้วในชั้นหนังกำพร้าให้หลุดออกไปด้วยการขัด หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Physical Exfoliation หรือจะเรียกแบบไทยๆว่า การขัดขี้ไคล ก็ได้

     สครับผิวเพื่ออะไร

     - ที่จริงแล้วตามธรรมชาติผิวของคนเราจะมีการผลัดเซลล์ด้วยตัวเองอยู่แล้ว โดยผิวเกิดใหม่จะดันผิวชั้นนอกที่ตายแล้วให้หลุดออกไปเอง แต่เมื่ออายุมากขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่ต้องโดนรังสี UV จากแดด การพักผ่อนน้อยดื่มน้ำไม่เพียงพอล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้การผลัดเซลล์ผิวเป็นไปช้าลง ถ้าเราไม่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวเลย ทุกอย่างก็จะกองอยู่บนผิวเราเหมือนก้อนหินขวางประตูสิ่งสกปรกที่อุดตันก็ไม่สามารถหลุดออกได้ Skincare ที่ใช้ก็ไม่สามารถซึมลงสู่ผิวชั้นในเพื่อไปบำรุงผิวตามวัตถุประสงค์ที่ใช้ได้ ดังนั้น การสครับผิวจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากหากอยากให้ผิวหน้าหรือผิวกายของเราสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา

     การสครับผิวนั้นทำได้หลายวิธี แต่เราเลือกวิธีที่ง่ายที่สุดนั่นคือ การใช้ผลิตภัณฑ์สครับสำเร็จรูป เราใช้มาหลากหลายยี่ห้อราคาหลักสิบถึงหลักพัน แต่สิ่งที่ใช้บ่อยที่สุดนั้นเรียกว่าสูงสุดสู่สามัญก็ว่าได้ เพราะเราติดใจสครับผิวของแบรนด์ St.Ives ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ราคาไม่แพง หาซื้อง่าย มีหลายสูตรให้เลือก เรียกว่าเป็นสครับสามัญประจำบ้านก็ว่าได้

St.Ives Fresh Skin Fresh Skin Apricot Scrub

     เป็นสูตรคลาสสิคที่หลายคนน่าจะเคยใช้ เพราะเป็นสูตรเรือธงของ St.Ives เป็นสูตรที่แบรนด์เคลมว่าช่วยให้ผิวกระจ่างใสเพราะมีสารสกัดจากแอปริคอต และเคลมอีกว่าใช้เม็ดสครับจากธรรมชาติก็คือเปลือกของวอลนัท แต่เราใช้แล้วพบว่า เม็ดสครับมีความเป็นเม็ดกลม ไม่ได้ธรรมชาติขนาดนั้น ซึ่งเป็นเรื่องดี เพราะความกลมมนจะทำให้ไม่บาดผิว เนื้อสครับเป็นเนื้อครีมเข้มข้นแต่เนียนนุ่ม มีความชุ่มชื่นกำลังดี มีกลิ่นหอมชัดเป็นกลิ่นแนวฟรุตตี้สดชื่นดี เราคิดว่าสูตรนี้ใช้ได้ทั้งใบหน้าและผิวกาย โดยรวมแล้วเราใช้แล้วถือว่าชอบเพราะใช้ง่ายไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าเห็นว่าลดราคาก็จะซื้อมาตุนไว้ตลอด 

St.Ives Blackhead Clearing Green Tea Scrub

     สูตรนี้เป็นสูตรที่เราชอบมากที่สุด เพราะเป็นสูตรที่เกิดมาเพื่อมนุษย์จมูกสตรอเบอร์รี่อย่างเรา ทางแบรนด์เคลมว่าช่วยกำจัดสิวเสี้ยนได้ซึ่งเราก็ว่าจริง เม็ดสครับของสูตรนี้จะเล็กกว่าสูตร อื่นๆมาก และเนื้อสครับจะมีความเหลวกว่าสูตรอื่นๆ สัมผัสของการใช้จะรู้สึกว่าอ่อนโอนแต่ในสูตรมี Active Ingredient คือ Salicylic Acid อยู่ 1% ทีเดียว ดังนั้นควรระวังอย่าใช้ใกล้ตา ทุกครั้งที่รู้สึกว่าจมูกเริ่มมีสิวเสี้ยนเยอะก็จะหยิบสูตรนี้มาใช้จมูกก็จะกลับเนียนเรียบอีกครั้ง แต่ก็สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้าไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะจมูกแบบเรา

St.Ives Soft Skin Avocado & Honey Scrub

     ถ้าสูตรนี้มีความเหลวที่สุดใน 4 สูตรที่เรามี และมีความชุ่มชื่นมากเพรามีสารสกัดจากอโวคาโด และน้ำผึ้ง ดังนั้นกลิ่นจะหอมมากกกกกกกด้วย สูตรนี้เกิดมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นเราว่าสามารถพอกหน้าเป็นมาร์คได้ โดยเราจะมาร์คหน้าประมาณ 1-2 นาทีก่อนจะนวดสครับ ความรู้สึกหลังใช้คือหน้าจะนุ่มมากกกกกก

St.Ives Blemish Control Apricot Scrub

     สูตรนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าต่างจากสูตร Fresh Skin ยังไงเพราะส่วนผสมเป็น แอปริคอตเหมือนกัน ถ้าดูเนื้อสครับด้วยตาเปล่าจะพบว่าคล้ายกันมาก แต่ถ้าได้ใช้จะเห็นความแตกต่างคือ สูตรนี้สีจะเข้มกว่าสูตร Fresh Skin เพราะเม็ดสครับจะเข้มข้นกว่า เนื้อมีความแห้งกว่า สูตรนี้เหมาะกับคนผิวมัน และมี Active Ingredient คือ Salicylic Acid ถึง2.0% จึงสามารถรักษาสิวและลดการอุดตันได้ เราจะใช้ตอนที่สิวแห้งแล้ว เพราะแบรนด์เคลมว่าช่วยลดจุดด่างดำได้ หรือใช้เฉพาะตอนที่มีสิวอุตตันไม่มีหัวสิวที่อักเสบ หรือตอนที่หน้ามันมากแต่ยังไม่เป็นสิว เพราะสูตรนี้ใช้แล้วหน้าจะแห้งรู้สึกว่าหน้าสะอาดดี

     สำหรับวิธีใช้ เนื่องจากเราไม่ได้แต่งหน้าเราก็จะล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าจากนั้นก็ทาสครับลงใบหน้าแล้วนวดวนเบาๆและล้างออก ตามด้วย cleanser ที่ใช้ปกติได้เลย จะใช้สูตรเดียวทั้งใบหน้าก็ได้ หรือจะใช้สลับสูตรตามส่วนต่างๆเพื่อความสนุกก็ได้ แต่ส่วนมากเราจะใช้สูตร Green Tea ที่จมูก ตรงไหนต้องการความชุ่มชื่นจะใช้สูตร Avocado & Honey ตรงไหนต้องการลดความมันลดการอุดตันจะใช้สูตร Blemish Control ส่วนเวลาปกติที่ไม่มีปัญหาอะไรก็จะใช้สูตร Fresh Skin เราสครับสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ทุกครั้งที่สครับผลที่ได้คือผิวที่เนียนนุ่มขึ้นสิวเสี้ยนหลุดหายพร้อมบำรุงผิวต่ออย่างมั่นใจว่า Skincare ที่ใช้จะซึมสู่ผิวและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

     นอกจากสูตรที่เราใช้ แบรนด์ St.Ives เขายังมีสครับสูตรอื่นๆอีกนะ เช่น สูตรกาแฟ สูตรโอ๊ตมีล ถ้าเพื่อนๆใช้สูตรไหนดีมาป้ายยาเราได้ เราจะตามไปตำ แบรนด์ St.Ives เป็นแบรนด์ที่เราชอบเพราะนอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เรายังมีความทรงจำดีๆกับแบรนด์นี้เพราะเราเคยได้ไปร่วมงาน Jeban X St.Ives เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Moisturizer และ Cleanser ผ่านมาสองปีแล้วยังจำบรรยากาศงานวันนั้นได้จำได้ว่ารู้สึกตื่นเต้นและสนุกมาก จากงานนั้นทำให้ห้องน้ำและโต๊ะเครื่องแป้งของเราไม่เคยขาดผลิตภัณฑ์ของ St.Ives เลยเรียกว่าเป็นแบรนด์สามัญประจำบ้านเราเลยทีเดียว