สิ่งที่ Asian Parents เผลอมองข้าม จนสร้างความอึดอัดใจให้กับลูก
sweetsong13 43 15
ดูเหมือนว่าจะมีประเด็น Asian Parents กันมาอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดในทวิตเตอร์ก็มาแชร์ความคับข้องใจ หรือเหตุการณ์สุดกระอักกระอ่วนที่ต้องเผชิญกับการถูกที่บ้านเผลอรุกล้ำความเป็นส่วนตัว หรือเรื่องอื่นๆ ที่ผู้ใหญ่มักมองข้ามไปและไม่ได้ให้ความสำคัญนัก นี่พ่อแม่นะทำไมจะทำไม่ได้
**บทความนี้ไม่ได้ต้องการจะตำหนิหรือต่อว่าพ่อแม่ท่านใดนะคะ สนับสนุนให้ทุกบ้านอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจและเปิดใจ**
**บทความนี้ไม่ได้ต้องการจะตำหนิหรือต่อว่าพ่อแม่ท่านใดนะคะ สนับสนุนให้ทุกบ้านอยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจและเปิดใจ**
นิยามของ Asian Parents?
Asian Parents แปลตรงตัวก็คือพ่อแม่หรือผู้ปกครองชาวเอเชียนั่นแหละ แต่คำนี้มักจะสื่อถึงความ Strict หรือ Toxic หน่อยๆ (แต่ไม่เสมอไป) ของการเลี้ยงลูกสไตล์คนเอเชีย ที่ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้เกือบหมด ไม่ได้เป็นแค่คนไทย เช่น
นี่แค่ตัวอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ทุกบ้านจะเป็นแบบนี้น้า แต่ละบ้านก็แตกต่างกัน บางบ้านก็ค่อนข้างให้อิสระ ทำให้บางคนก็อาจจะไม่เก็ตเรื่องแบบนี้
กำหนดทิศทางในชีวิต
เข้มงวดจนขาดอิสระ
รุกล้ำความเป็นส่วนตัว
นี่แค่ตัวอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ทุกบ้านจะเป็นแบบนี้น้า แต่ละบ้านก็แตกต่างกัน บางบ้านก็ค่อนข้างให้อิสระ ทำให้บางคนก็อาจจะไม่เก็ตเรื่องแบบนี้
ปัญหาที่ตามมา
ความรักและเป็นห่วงที่อาจจะมากเกินไป ก็สร้างบาดแผลในใจและส่งผลต่อการใช้ชีวิตได้เหมือนกันนะ BBC เคยลงบทความ My strict Asian parents made me awkward and lonely (พ่อแม่เอเชียนที่เข้มงวดของฉัน ทำให้ฉันเหงาและอึดอัดใจ) บทสรุปของการเลี้ยงลูกสไตล์เอเชียที่พ่อแม่สุดจะเข้มงวด ทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อน เข้าสังคมไม่เก่ง และไม่มั่นใจในตัวเอง จนต้องโพสต์เรื่องราวของตัวเองและมีหลายคนเจอเหตุการณ์คล้ายกันมาช่วยให้คำแนะนำ
เราจะบอกที่บ้านยังไงดี
การพูดคุยอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก เพราะอาจทำให้พ่อแม่น้อยใจได้ง่ายมากๆ โดยเฉพาะเรื่องละเมิดความเป็นส่วนตัว ก็ทำจนชินไปแล้วก็อาจจะเข้าใจยากหน่อย พูดไปก็เสี่ยงทะเลาะกัน แนะนำให้ยกเป็นเคสตัวอย่างเหตุการณ์ก็ได้ค่ะ
เช่น เรื่องยอดฮิตอย่างการเคาะประตูห้อง ก็อาจจะบอกว่าถ้าตอนนั้นหนูกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ล่ะจะทำยังไง หรือกำลังคุยงานหรือเรียนแบบวิดีโอคอลอยู่แล้วเพื่อนๆ ในคลาสจำนวนมากก็จะตกใจและงงไปด้วยนะ, หรือบางทีกำลังทำอะไรที่ต้องใช้ความคิดหรือสมาธิมากๆ ถูกรบกวนนิดหนึ่งก็รวนแล้วลืมที่คิดมาทั้งหมดไป เมื่อได้เห็นภาพตามก็น่าจะเข้าใจกันมากขึ้น พร้อมกระซิบว่า ขอพื้นที่ (ส่วนตัว) สักนิดไม่ได้แปลว่ารักน้อยลงหรอกน้า :) ❤
เช่น เรื่องยอดฮิตอย่างการเคาะประตูห้อง ก็อาจจะบอกว่าถ้าตอนนั้นหนูกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ล่ะจะทำยังไง หรือกำลังคุยงานหรือเรียนแบบวิดีโอคอลอยู่แล้วเพื่อนๆ ในคลาสจำนวนมากก็จะตกใจและงงไปด้วยนะ, หรือบางทีกำลังทำอะไรที่ต้องใช้ความคิดหรือสมาธิมากๆ ถูกรบกวนนิดหนึ่งก็รวนแล้วลืมที่คิดมาทั้งหมดไป เมื่อได้เห็นภาพตามก็น่าจะเข้าใจกันมากขึ้น พร้อมกระซิบว่า ขอพื้นที่ (ส่วนตัว) สักนิดไม่ได้แปลว่ารักน้อยลงหรอกน้า :) ❤
เพื่อนๆ มีวิธีรับมือหรือเคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้ไหม มาแชร์กันค่าา